Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

Other News

Google ตอบกลับ!!! ระบบ Android Auto ไม่ได้เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้มากจนเกินไป อย่างที่เค้าว่ากัน

จากก่อนหน้านี้ที่มีข่าวออกมาว่าผู้ผลิตรถยนต์หรูอย่าง Porsche เลือกใช้ระบบ Apple CarPlay บนรถยนต์รุ่นใหม่ของตัวเองมากกว่าที่จะใช้ระบบ Google Android Auto เนื่องจากว่าระบบ Android Auto

จากก่อนหน้านี้ที่มีข่าวออกมาว่าผู้ผลิตรถยนต์หรูอย่าง Porsche เลือกใช้ระบบ Apple CarPlay บนรถยนต์รุ่นใหม่ของตัวเองมากกว่าที่จะใช้ระบบ Google Android Auto เนื่องจากว่าระบบ Android Auto ของ Google นั้นต้องการการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานมากจนเกินไปนั้น(รายงานผ่านทาง Motor Trend) ล่าสุดหลังจากที่มีข่าวนี้ออกมาทาง Google ก็ได้ออกมาพูดปกป้องระบบ Android Auto ของตัวเองแล้วครับว่าในรายงานของทาง Motor Trend นั้นมีรายละเอียดสำคัญของ Android Auto ที่ผิดไปมากเลยทีเดียว

หมายเหตุ – ติดตามข่าวเก่าได้จาก Porsche เลือกใช้ Apple CarPlay เพราะ Android Auto ของ Google มีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้มากจนเกินไป

Advertisement

google Android Auto 600

ก่อนอื่นเลยนั้นทาง Google ได้บอกครับว่าพวกเขาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นอย่างมากและในความเป็นจริงแล้ว Android Auto นั้นก็ไม่ได้มีการเก็บข้อมูลใดๆ ก็ตามที่ปรากฎในรายงานของทาง Motor Trend ด้วยไม่ว่าจะเป็นข้อมูลอย่าง throttle position, oil temp และ coolant temp เป็นต้น Google ได้บอกกับทาง TheVerge ว่าผู้ใช้งานระบบ Android Auto นั้นมีตัวเลือกในการที่จะแชร์ข้อมูลของพวกเขากับตัวระบบ Android Auto เอง ทั้งนี้ข้อมูลที่จะทำการแชร์ระหว่างกันนั้นก็เป็นการทำเพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้เท่านั้น

ตัวอย่างที่ Google ยกมาก็อย่างเช่นการแชร์ข้อมูลเพื่อที่จะทำให้ระบบ Android Auto เข้าสู่โหมดการใช้งานแบบ hands-free เมื่อมีการขับรถอยู่ และใช้ข้อมูลเพื่อที่จะทำให้ระบบนำทาง GPS บนตัวรถยนต์นั้นสามารถนำทางได้ถูกต้องมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเองครับ ทาง Google ได้ยืนยันสิ่งหนึ่งที่เหมือนกับรายงานของ Motor Trend ว่าทาง Porsche เลือกใช้ระบบ Apple CarPlay บนรถยนต์รุ่น 911 Carrera และ 911 Carrerra S จริง แต่บริษัทลูกของ Porsche เองอย่าง Volkswagen นั้นก็เลิกใช้ระบบ Google Android Auto บนรถยนต์บางรุ่นเช่นกัน

นอกเหนือไปจากนั้นแล้วทาง Google ยังได้บอกเอาไว้อีกว่าระบบ Android Auto นั้นมีการขอการอนุญาต(permissions) ในการแชร์ข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้งานก่อนทุกครั้งเหมือนในระบบปฎิบัติการ Android สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะสามารถทำการควบคุมข้อมูลของตนเองให้เกิดความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน ซึ่งการที่ Google ปล่อยให้ผู้ใช้สามารถเลือกอนุญาตข้อมูลที่จะแชร์กับ Android Auto ได้ตามต้องการนั้นก็เป็นการสร้างความสบายใจให้กับผู้ใช้งานเองครับ

คำตอบของ Google ทำให้กลายเป็นข้อสงสัยขึ้นมาครับว่าทำไมแล้ว Porsche ถึงให้ข่าวในแนวนั้นกับทาง Motor Trend โดยทาง TheVerge ได้มีการติดต่อไปยัง Porsche และ Motor Trend เพื่อขอข้อมูลเพิ่มแล้วแต่ทั้งสองก็ยังไม่ได้ตอบกลับแต่ประการใด งานนี้คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

ที่มา : theverge

Click to comment

บทความน่าสนใจ

IT NEWS

Project Zero คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ Project Zero คือทีมวิจัยด้านความปลอดภัยของ Google ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก หน้าที่หลักคือค้นหาช่องโหว่ความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นในผลิตภัณฑ์ของ Google เอง หรือซอฟต์แวร์จากบริษัทอื่น เช่น Microsoft, Apple และโครงการโอเพนซอร์สต่าง ๆ แนวทางการทำงานของ Project Zero ค่อนข้างชัดเจน คือเมื่อพบช่องโหว่...

IT NEWS

Google เดินหน้าพัฒนา Google Translate อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศเพิ่มฟีเจอร์ แปลเสียงพูดแบบเรียลไทม์ผ่านหูฟังทุกชนิด โดยใช้พลังของ Gemini AI รุ่นใหม่ ทำให้การสื่อสารข้ามภาษาเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังเฉพาะทางอีกต่อไป ขอแค่มีสมาร์ตโฟน Android กับหูฟังทั่วไป ก็สามารถใช้งานได้ทันที ฟีเจอร์ใหม่นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานในรูปแบบเบต้าแล้วในบางประเทศ และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการยกระดับการแปลภาษา จากเดิมที่เน้นข้อความและเสียงแบบพื้นฐาน ไปสู่การแปลเสียงที่ “ฟังเป็นธรรมชาติ”...

IT NEWS

ก้าวใหม่ของยุค AI กับการเปิดตัว Gemini 3 Google ประกาศเปิดตัว Gemini 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งบริษัทระบุว่าเป็นโมเดล AI ที่ “ฉลาดที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา” โดยเปิดให้ใช้งานในรูปแบบพรีวิวแล้ววันนี้บนแอป Gemini และในบางประเทศสามารถทดลองฟีเจอร์ขั้นสูงได้ในโหมด Advanced AI และบริการ Google AI Pro Gemini...

IT NEWS

Google ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยแบบฉุกเฉินให้กับเบราว์เซอร์ Chrome หลังตรวจพบว่าช่องโหว่ใหม่ล่าสุดถูกใช้โจมตีจริงบนอินเทอร์เน็ต โดยช่องโหว่นี้มีรหัส CVE-2025-13223 และถือเป็น Zero-day ตัวที่ 7 ของปี 2025 แล้วที่บริษัทต้องเร่งแพตช์ให้ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย ช่องโหว่นี้เกิดจากอะไร? Google ระบุว่า ช่องโหว่ CVE-2025-13223 เป็นปัญหา Type Confusion ใน V8 JavaScript...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก