Connect with us

Hi, what are you looking for?

Microsoft News

Microsoft ย้ำความมุ่งมั่นในเรื่องของความเป็นส่วนตัว แต่ Windows จะยังคงทำการเก็บข้อมูลอยู่ดี

ตั้งแต่ Microsoft ปล่อย Windows 10 ออกมาอย่างเป็นทางการนั้นเรื่องของผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานของมันนั้นได้ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางทั่วโลกครับ

ตั้งแต่ Microsoft ปล่อย Windows 10 ออกมาอย่างเป็นทางการนั้นเรื่องของผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานของมันนั้นได้ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวางทั่วโลกครับ ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นไปในทิศทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก จนล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ทาง Microsoft ก็ได้ออกมาเผยแพร่ข้อความตอบสนองต่อเรื่องของเสียงตอบรับนี้ โดยทาง Terry Myerson ผู้นำกลุ่ม Windows and Devices Group ได้โพสผ่าน blog ของทาง Microsoft อธบายเกี่ยวกับเรื่องการแบ่งข้อมูลออกเป็น 3 ส่วนและแนวคิดที่ Microsoft มีต่อข้อมูลในแต่ละส่วนครับ

Advertisement

windows-10 600

ระดับแรกคือข้อมูลที่ต้องส่งผ่านทางไกลซึ่งมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้(telemetry data) หรือข้อมูลที่เกี่ยวกับระบบและแอปพลิเคชันที่เกิดความผิดพลาดขึ้น โดยทาง Myerson บอกว่าข้อมูลในส่วนนี้นั้นจะต้องเป็นข้อมูลที่ไม่มีการระบุตัวตน ส่วนใหญ่ของข้อมูลจะไม่มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานแต่อย่างใด มากที่สุดเท่าที่ข้อมูลส่วนบุคคคลจะมีการรวมไว้ได้จะต้องไม่สื่อถึงบุคคลใดๆ โดยตรงทั้งสิ้น ตัวอย่างของข้อมูลชนิดนี้ได้แก่ ชื่อไฟล์และไดเร็กทอรี่หรือชิ้นส่วนของหน่วยความจำรวมไปถึงรายงานความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะต้องผ่านการขัดเกลาจากทาง Microsoft ก่อนว่าได้รับแล้วก่อนที่จะมีการส่งต่อไปยังที่อื่นๆ ครับ

หมายเหตุ – ในโพสไม่ได้มีการอธิบายมากนักว่าข้อมูลในระดับแรกนี้จะถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร แต่มีการยกตัวอย่างเช่นถ้ามีการพบว่า third party graphics driver เป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบล่มขึ้นมา เจ้าข้อมูลแบบ telemetry data จะทำให้ Microsoft ได้รับรู้เกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นว่าเป็นที่ส่วนใดของ driver เพื่อที่จะทำการแก้ไขแล้วทำการส่งอัพเดทไฟล์ driver ที่แก้ไขแล้วให้กับผู้ใช้ Insider ใน 24 ชั่วโมง หลังจากที่ผู้ใช้ Insider ทดสอบแล้ว 24 ชั่วโมงแล้วไม่พบข้อผิดพลาดอีกก็จะส่งต่ออัพเดทไปให้ยังผู้ใช้ปกติต่อไปครับ

windows10_tech-preview_start-menu-100464961-orig

ข้อเรียกร้องที่มีอย่างกว้างขวางเลยข้อหนึ่งสำหรับข้อมูลแบบ telemetry data นั้นก็คือบนระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นผู้ใช้ไม่มีตัวเลือกที่สามารถจะทำการปิดการส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้กับทาง Microsoft ได้(ในขณะที่บนระบบปฎิบัติการก่อนหน้านี้ของ Microsoft มีตัวเลือกได้ว่าจะให้ส่งหรือไม่ส่ง) จะมีก็เพียงแต่ Windows 10 เวอร์ชัน Enterprise(เวอร์ชันระดับองค์กร) เท่านั้นที่มีตัวเลือกให้ปิดการใช้งานการส่งข้อมูล telemetry data ได้(แต่ทาง Myerson ก็เขียนอธิบายไว้ว่าไม่อยากจะให้ผู้ใช้ทำการปิดฟีเจอร์การส่งข้อมูลดังกล่าวอยู่ดี

ข้อมูลส่วนตัวระดับที่สองก็คือข้อมูลที่ Windows และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ช่วยดิจิทัลอย่าง Cortana รู้ว่าคุณทำการพิมพ์(หรือเขียนผ่านสไตลัสในอุปกรณ์ที่รองรับ) รวมไปถึงเสียงของคุณว่าเป็นอย่างไรหรือแม้แต่ข้อมูลของทีมกีฬาที่คุณติดตามอยู่ว่าเป็นทีมอะไรเป็นต้น(เรียกง่ายๆ เลยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือ personalization data ครับ) โดยถึงแม้ว่าข้อมูลในส่วนนี้คุณจะสามารถทำการปิดการติดตามได้ด้วยตัวเอง(ผ่านทาง Settings>Privacy) ทว่าเมื่อคุณทำแค่การเปิด Start Menu ขึ้นมาทาง Arstechnica กลับพบว่ายังคงมีบางส่วนของข้อมูลถูกส่งไปยัง Microsoft อยู่ดีครับ(ตามรูปทางด้านล่างนี้)

หมายเหตุ – แถมทาง Microsoft โดยคุณ Myerson ก็ไม่ได้บอกโดยละเอียดด้วยว่าข้อมูลในส่วนนี้จะถูกนำไปทำอะไรบ้าง นอกจากก่อนหน้านี้ที่เคยมีข่าวออกมาบอกว่าข้อมูลในส่วนนี้นั้น Microsoft จะนำเอาไปพัฒนา Cortana และฟีเจอร์ที่ตอบรับความสะดวกสบายของผู้ใช้ให้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น

get-threshold-appcache 600

ข้อมูลความเป็นส่วนตัวในระดับที่สามนั้น Myerson อธิบายไว้ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการโฆษณา(Advertising Data) ซึ่งข้อมูลชนิดนี้นั้นทาง Microsoft จะไม่มีการเก็บไว้กับตัวหรือเอาไปให้บริษัทโฆษณาแต่อย่างใดครับ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าอีเมลจากการติดต่อสื่อสารต่างๆ ที่คุณได้รับหรือไฟล์ต่างๆ ที่ถูกเก็บไว้บนเครื่องหรือบนระบบ cloud ของคุณจะไม่ถูกยุ่งแต่อย่างใด วิธีการที่ Microsoft จะใช้ข้อมูลในการนำเอาโฆษณามาถึงคุณนี้จะไม่เหมือนกับระบบการเก็บข้อมูลสำหรับแสดงโฆษณาของ Google ที่ทาง Google ทิ้งไปแล้วอย่าง Scroogled campaign ครับ

จะว่าไปแล้วสิ่งที่ Terry Myerson นำออกมาบอกในครั้งนี้นั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใดครับ เพราะอย่างข้อมูลในระดับที่หนึ่งและสองนั้นก็ถือว่าเป็นข้อมูลที่พอยอมรับได้ในการใช้งาน ส่วนข้อมูลในระดับที่สามนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลซึ่งหากมองกันตามตรงแล้วด้วยบริการที่ทาง Microsoft ให้เราเข้าถึงได้ฟรีนั้น การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ก็ถือว่าแฟร์มากพอที่จะแลกกัน แต่ทว่าบางคนก็อาจจะมองว่าการเข้าถึงข้อมูลในระดับที่สามนั้นดูจะมากไปหน่อยอย่างเช่น Cortana ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลการนัดหมายในแอปพลิเคชัน calendar เพื่อที่จะเอามาประมวลผล

อย่างไรแล้วสถานการณ์เรื่องการเก็บข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บน Windows 10 นั้นก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างครับ(แถมยังลามไปถึงผู้ใช้ Windows 7 และ 8 ด้วยอีกต่างหาก) เพราะจะว่าไปแล้วการเก็บข้อมูลต่างๆ เหล่านี้นั้นก็มีมาตั้งแต่ใน Windows Vista แล้วบนฟีเจอร์ parental control ที่ผู้ปกครองสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลรายงานการเข้าถึงเว็บไซต์ของเด็กๆ พวกเขาได้

หมายเหตุ – ในตอนท้ายสุดของการประกาศของ Myerson ยังได้บอกเอาไว้ว่าถ้าคุณพบเห็นโปรแกรมกระทำการใดๆ ก็ตามกับข้อมูลของคุณไม่เหมือนกับที่คุณได้ตั้งค่าไว้ใน privacy settings คุณสามารถที่จะทำการแจ้งข้อมูลดังกล่าวได้ทางหน้าเว็บเพจ Supports ครับ

ที่มา : arstechnicablogs.windows.com

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

SOFTWARE

ถ้าจะทำคอนเทนต์วิดีโอให้ดี เล่าเนื้อหาได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุดและใส่เอฟเฟคดึงดูดความสนใจใดๆ ก็ต้องพึ่งโปรแกรมตัดต่ออย่างแน่นอน ซึ่งในอดีตหลายคนอาจรู้สึกว่าใช้ยาก ต้องทำความเข้าใจฟังก์ชั่นต่างๆ เยอะ ทำให้ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ปรับแต่งให้โปรแกรมเหล่านี้ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชั่นมากขึ้น เน้นการลากคลิปเข้ามาวางใน Timeline ช่วงที่ต้องการ ตัดส่วนเกินออกแล้วเพิ่ม Text หรือเอฟเฟคต่างๆ เข้าไปได้จนจบคลิป ช่วยให้ครีเอเตอร์รุ่นใหม่สร้างผลงานแปลกใหม่อัปโหลดขึ้นแพลตฟอร์มต่างๆ ได้มากมาย แม้หลายคนคิดว่าเป็นโปรแกรมฟรีแต่ฟีเจอร์กลับให้มามากพอจะสร้างสรรค์ผลงานได้แล้ว มีเอฟเฟคกับฟังก์ชั่นใช้งานเยอะ แต่บางฟังก์ชั่นจะล็อคไว้ให้คนจ่ายเงินซื้อเวอร์ชั่น Premium, Pro เป็นรายเดือนไป แต่ก็ช่วยให้ทำงานได้คุณภาพสูงขึ้นเช่นกันAdvertisement โปรแกรมตัดต่อฟรี...

Mac Corner

ถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ไม่ว่าจะ Windows หรือ MacBook ทุกคนย่อมกดคีย์ลัดสั่งการให้คอมของตัวเองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอน ถ้าใช้คอมมานานแล้ว คีย์ลัด Mac ก็ยังใช้วิธีกดปุ่มคำสั่ง 2-3 ปุ่มรวมกัน แค่เปลี่ยนชื่อกับภาพไอคอนปุ่มคำสั่ง (Modifier) บางปุ่มให้เป็นตามแบบฉบับของ Apple เอง คนที่ย้ายจาก Windows มาใช้ macOS ก็ใช้เวลาปรับตัวเรียนรู้คีย์ลัดสักระยะก็ใช้งานได้ถนัดอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มใช้งานคีย์ลัด Mac...

How to

โลกในตอนนี้ไม่สามารถตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตได้เลยไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความบันเทิงก็ต้องใช้มันทั้งนั้น แต่อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นต่างต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ตบ้างให้อุปกรณ์ได้โหลดการตั้งค่ากลับมาใหม่อีกครั้งเป็นระยะๆ เพื่อให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการรีเซ็ตสัญญาณจะคล้ายกับวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาเน็ตบ้านหรือเน็ตออฟฟิศใช้งานไม่ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นก่อนติดต่อช่างให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในภายหลัง เมื่อไหร่ต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ต? ทำแล้วดีอย่างไร? การรีเซ็ตสัญญาณอินเทอร์เน็ตนอกจากการปิดเปิดเราเตอร์ ก็รวมถึงการรีเซ็ตในระบบปฏิบัติการด้วย ถ้าไดรเวอร์มีปัญหาสามารถกด Roll Back driver หรือโหลดมาติดตั้งใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ ถ้ารีเซ็ตสัญญาณแล้วใช้งานไม่ได้ อาจเกิดปัญหาจาก Node กระจายสัญญาณของผู้ให้บริการก็ได้ เมื่อติดตั้งเน็ตบ้านเอาไว้แล้ว แนะนำให้ขอบัญชีและรหัสผ่านเอาไว้เข้าไปตั้งค่าเราเตอร์เผื่อไว้ด้วย 6 วิธีรีเซ็ตสัญญาณเน็ตด้วยตัวเอง...

Buyer's Guide

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15000 บาทในอดีตอาจได้สเปคแค่พอใช้ทำงานได้นิดหน่อย ผิดกับโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2024 ซึ่งสเปคดีขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะได้ซีพียู AMD Ryzen หรือ Intel Core Series ติดตั้งมาให้ทำงานได้รวดเร็วแล้ว แทบทุกเครื่องก็ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 มาพร้อมใช้หรืออาจจะได้ Microsoft Office ไว้ใช้ทำงานด้วยซ้ำ ผิดกับภาพจำในอดีตว่าโน๊ตบุ๊คราคาเท่านี้แค่พอเปิดไฟล์เอกสารหรือเข้าเว็บไซต์ได้นิดหน่อย...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก