ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ASUS ได้เปิดตัว Zenfone 2 ที่ขึ้นเป็นผู้นำในวงการสมาร์ทโฟน ด้วยหน่วยความจำระดับ 4GB เป็นรุ่นแรกของโลก รวมถึงความจุสูงสุด 64GB ในราคาคุ้มค่า ทั้งยังมีดีไซน์ที่หรูหรา สมกับที่เอซุสตั้งใจในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่พรีเมียม เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกคน ในราคาที่จับต้องได้
ในตอนนี้ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวและวางจำหน่าย Zenfone รุ่นใหม่ในไทย ไม่ว่าจะเป็น
- ASUS Zenfone 2 Deluxe ราคา 12,990 บาท
- ASUS Zenfone Selfie ราคา 8,990 บาท
- ASUS Zenfone Lazer ราคา 6,990 บาท
ที่ในส่วนของรายละเอียดไปติดตามกันอีกทีนะครับ หลักๆ ในงานนี้ก็มีสองสาวคนดังอย่าง เบียร์ The Voice และ จิ๋วจิ๋ว (แฟนจอร์จ) มาร่วมงานด้วย
บรรยากาศภายในงานเปิดตัว ASUS Zenfone 2 Deluxe, Zenfone Selfie และ Zenfone Lazer ภายในลานกิจกรรมของห้างดังอย่างเซ็นทรัลเวิร์ล พร้อมมีเครื่องในทุกคนลองเล่นลองจับและกิจกรรมในงานมากมาย
ASUS Zenfone 2 Deluxe ราคา 12,990 บาท
จุดเด่นของ ASUS Zenfone 2 Deluxe ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือฝาหลังที่มีการออกแบบในลักษณะของลายเส้นตัดกันอย่างปราณีตและลงตัว เกิดเป็นความงามแบบคริสตัลดุจอัญมณีล้ำค่า มีรอยหยักที่แสดงถึงความแตกต่างกันของระดับพื้นผิว ก่อให้เกิดเป็นรูปลักษณ์ 3 มิติ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงสัมผัสการใช้งานที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป
อีกหนึ่งสิ่งที่พิเศษก็คือความจุหน่วยความจำที่สูงถึง 128GB ทำให้การเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะภาพถ่ายที่เก็บความประทับใจ วิดีโอที่บันทึกช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านมา หรือจะเก็บไฟล์งานสำคัญต่างๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเนื้อที่เก็บข้อมูลจะไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำ MicroSD ลงไปได้สูงสุดอีก 128GB ทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่เก็บข้อมูลได้สูงสุดกว่า 256GB นอกจากพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องที่สูงแล้ว เอซุสยังมีบริการ ASUS WebStorage ให้ใช้งานได้ฟรีถึง 5GB อีกด้วย
ด้านประสิทธิภาพ Zenfone 2 Deluxe เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel® Atom™Z3580 Quad-Core 64 บิท ร่วมกับแรม 4GB เพื่อประสิทธิภาพที่สูง รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่มีกราฟิก 3 มิติ รับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูง ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งยังสามารถสลับแอพพลิเคชันไปมาได้อย่างรวดเร็วทันใจ เพื่อการใช้งานที่ไหลลื่น ตัดปัญหาแอพพลิเคชันโหลดตัวเองใหม่ทุกครั้งเมื่อเปิดใช้งาน
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญของสมาร์ทโฟน โดย Zenfone 2 Deluxe รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE Cat.4 ที่ความเร็วสูงสุด 150Mbps รวมถึงยังใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน 3G ได้ทุกเครือข่าย ทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานหนักๆ อย่างรับชมวิดีโอออนไลน์ หรือจะเป็นการท่องเว็บไซต์ก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการใช้งานโทรศัพท์ก็ทำได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบโครงสร้างการรับสัญญาณแบบ 3D รอบตัวเครื่อง เพื่อทำให้การเชื่อมต่อไม่ติดขัด ทั้งยังสามารถใช้งานได้ 2 ซิมแบบ Dual SIM Dual Active ทำให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ
Zenfone 2 Deluxe มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh ที่สามารถใช้งานเต็มประสิทธิภาพได้อย่างยาวนาน ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ก็ทำได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี BoostMaster ที่ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 60% ภายในระยะเวลาเพียง 39 นาทีเท่านั้น
ASUS Zenfone Selfie ราคา 8,990 บาท
จุดเด่น Zenfone Selfie ก็คือเรื่องกล้องหน้า ที่มีความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ ได้ในมุมกว้าง 144 องศา ทั้งยังมีโหมด Panorama สามารถเก็บภาพได้ทุกมุม ถึง 270 องศา หน้าจอใช้กระจกกันรอยขีดข่วนใหม่ล่าสุด นั่นคือ Corning® Gorillla® Glass 4 ทำให้หน้าจอมีความทนทานมากกว่า ทั้งยังมีสีสันให้เลือกมากมาย”
Zenfone Selfie มาพร้อมโหมด Beautification ทำให้คุณยิ่งดูดี ไม่ว่าจะการเป็นปรับแสงให้สมดุล ทำให้ภาพนิ่มนวล ลบริ้วรอยต่างๆ ในทันที ได้ภาพสวยสมจริง มาพร้อมกับ 16 โหมดการถ่ายภาพ เทคโนโลยี PixelMaster ช่วยในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย โดยจะเพิ่มความไวแสงขึ้น 4 เท่าโดยทำให้ภาพและวิดีโอมีความสว่าง โดยไม่ต้องใช้ไฟแฟลช ด้วยเทคโนโลยีรวมแสงที่ทำให้ภาพสว่างขึ้น 400% ทำให้ภาพสวยสมจริงทุกๆ การถ่ายภาพ มาพร้อมกับไฟแฟลชแบบ 2 สีที่รวมระหว่าง สีเหลืองนวลและสีขาว เพื่อให้ภาพออกมาเป็นธรรมชาติ
ส่วนกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเช่นกัน และมี Laser Auto-focus ที่ช่วยวัดระยะโฟกัสได้ดุจความเร็วแสง โฟกัสได้ทันทีช่วยให้การจับภาพแม่นยำขึ้น Zenfone Selfie มาพร้อม Super Resolution ให้รายละเอียดภาพมากขึ้นถึง 4 เท่า ด้วยเทคโนโลยีในการสร้างภาพอย่างน่าประหลาดใจ ช่วยเพิ่มความละเอียดภาพเพิ่มมากขึ้นจากกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ให้เห็นรายละเอียดสูงถึง 52 ล้านพิกเซล และด้วยคุณสมบัติของเลนส์แบบพิเศษ ช่วยให้คุณถ่ายภาพระยะใกล้ได้ในระยะเพียง 6 เซนติเมตร หรือ 2.3 นิ้ว เท่านั้น เผยให้เห็นรายละเอียดมากกว่าที่เคย ทุกรอยยิ้ม ท่าทาง ความสนุกสนาน และความประทับใจของคุณ
นอกจากนี้ หน้าจอกระจกกันรอยขีดข่วนใหม่ล่าสุด นั่นคือ Corning® Gorillla® Glass 4 ทำให้หน้าจอมีความทนทานมากกว่ารุ่นที่แล้วถึง 2.5 เท่าและยังลดโอกาสที่จะแตกหักในการใช้งานทั่วไปถึง 85%ให้ความคมชัดสีสันสดใส และหน้าจอ Full-screen lamination พร้อมทั้ง เทคโนโลยี ASUS TruVivid ที่ลดชั้นหน้าจอ ให้เหลือเพียง 2 ชั้นทำให้ Zenfone Selfie มีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม สว่างและตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดีเยี่ยม
ขณะเดียวกันดีไซน์ของ Zenfone Selfie ก็มอบความสวยงามในสไตล์ Zen ที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความพรีเมียม มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีชมพูนม สีฟ้าพาสเทล สีขาว สีแดง สีเงิน และสีทอง ตอบสนองทุกๆ ความต้องการของผู้ใช้งาน
Zenfone Selfie มาพร้อมความละเอียดของหน้าจอแสดงผลที่ Full HD 1920×1080 พาเนลหน้าจอแบบ IPS และหน้าจอมีขนาด5.5 นิ้ว แต่ด้วยการออกแบบพิเศษเพื่อลดขอบของหน้าจอเครื่องเหลือเพียง 3.3 มม เมื่อเทียบกันแล้ว ขนาดตัวเครื่องจึงไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนขนาด 5 นิ้วทั่วไป พร้อมทั้งหน้าจอแสดงผลที่แบบมุมกว้าง 178 องศา ความสว่างหน้าจอ400 nitsและความหนาแน่นของพิกเซลถึง 403 ppi ระบบสีของภาพแบบ NTSC 72% ทำให้ภาพและวิดีโอมีความสว่างและสมจริงมากยิ่งขึ้น
ด้านของประสิทธิภาพเพื่อความบันเทิงและการประหยัดพลังงานก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ Zenfone Selfie ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 615 Octa-Core 64 บิต และแรมแบบความเร็วสูงถึง 3 GB ทำให้ Zenfone Selfie มีความเร็ว ประหยัดพลังงาน และพร้อมสำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ
ASUS Zenfone Lazer ราคา 6,990 บาท
ASUS ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อีกหนึ่งรุ่น นั่นคือ ASUS Zenfone 2 Laser ซึ่งได้รับการต่อยอดจาก Zenfone 2 ให้ตอบสนองความต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านการถ่ายภาพ ที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ของการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน
Zenfone 2 Laser มีการเพิ่มเลเซอร์โฟกัสเข้ามา ทำให้การจับโฟกัสขณะถ่ายภาพเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้เรายังมีการพัฒนาในส่วนอื่นๆ เพื่อให้ Zenfone 2 Laser เป็นสมาร์ทโฟนพรีเมียมสำหรับทุกท่าน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เอซุสยึดถือในการออกแบบผลิตภัณฑ์เสมอมา”
จุดที่เด่นสุดก็คือระบบเลเซอร์ออโต้โฟกัส ที่เลือกใช้แสงเลเซอร์ในการช่วยจับโฟกัส ทำให้การจับภาพใช้เวลาเพียง 0.2 วินาที สามารถเก็บภาพประทับใจได้ทันทุกสถานการณ์ แม้ในที่แสงน้อยก็ตาม ส่วนเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพเป็นการต่อยอดมาจาก Zenfone 2 ไม่ว่าจะเป็น PixelMaster 2.0 รวมถึงชุดเลนส์ Largan 5 ชิ้น รูรับแสงขนาด f/2.0 ให้ภาพสว่าง มีมิติชัดลึก ทั้งยังมีแฟลชสองสี Real Tone Flash ส่วนกล้องหน้าก็สามารถเก็บภาพได้มุมกว้างถึง 85 องศา ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องง่าย ได้ภาพออกมาสวยงาม
โหมดการถ่ายภาพของกล้องก็มีให้เลือกใช้งานได้ถึง 16 โหมด เช่น Low Light Mode สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย ให้ภาพมีความสว่างขึ้นกว่าปกติถึง 400% ทำ หรือโหมด Super HDR ที่ช่วยให้สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้ครบถ้วน แม้จะถ่ายย้อนแสง นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพสำหรับมืออาชีพอย่างโหมด Manual ที่ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าก่อนถ่ายภาพได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นค่าความไวแสง (ISO) ค่าความเร็วชัตเตอร์ ค่าสมดุลแสงขาว รวมถึงสามารถปรับระยะโฟกัสได้ ทำให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายในสไตล์ของตนเองได้อย่างไม่สิ้นสุด
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่องของ ASUS Zenfone 2 Laser ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Zen ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นขนาดจอแสดงผลที่กว้างกว่า 70% ของหน้าจอ ทำให้มองเห็นภาพชัดเจนในขณะที่ตัวเครื่องไม่ใหญ่จนเกินไป ประกอบกับการเลือกใช้กระจกหน้าจอเป็นกระจก Gorilla® Glass 4 ที่แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า จึงมั่นใจได้ในเรื่องของความทนทาน และออกแบบให้ปุ่มกดอยู่ด้านหลัง เพื่อทำให้ตัวเครื่องบาง โดยส่วนที่บางสุดเพียงแค่ 3.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ได้รับการการันตีด้วยรางวัลด้านการออกแบบระดับสากลอย่าง iF Design Award 2015
ทางด้านประสิทธิภาพ Zenfone 2 Laser มาพร้อมกับความลงตัวระหว่างประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 410 ร่วมกับแรมขนาด 2 GB และ Android L 64 บิท ทำให้การทำงานไหลลื่น ตอบสนองได้ทุกรูปแบบการใช้งาน
ASUS Zenfone 2 Deluxe : 12,990 บาท และ ASUS Zenfone Selfie : 8,990 บาท พร้อมวางจำหน่ายในทันทีตามหน้าร้านตัวแทนจำหน่าย แต่ในส่วนของ ASUS Zenfone Lazer : 6,990 บาท จะตามมาวางจำหน่ายภายหลังครับ โดยในส่วนของงาน Thailand Mobile Expo 2015 (TME 2015) ช่วงต้นเดือนหน้านี้ เจอกับ ASUS Zenfone ทั้งสามรุ่นแน่นอนครับ