ในสมัยก่อนนั้นการเล่นเกมมักจะอยู่บนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ PC ครับ จนกระทั่งการเข้ามาของเครื่องเกมคอนโซลอย่าง Nintendo ในชื่อ NES หรือที่ในบ้านเรารู้จักกันดีว่า Famicom นั้น (จริงๆ มีเครื่องที่มาก่อนหน้า Famicom) ก็ทำให้หลายๆ เปลี่ยนไปจากเดิม ด้วยความสามารถที่จะพ่วงต่อเครื่องเกมกับหน้าจอโทรทัศน์และสามารถสนุกไปได้พร้อมกันถึง 2 คนในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่าเด็กๆ สมัยนั้นบางคนถึงกับลงไปดิ้นกลางห้างเพื่อขอให้ผู้ปกครองซื้อเครื่องเกมคอนโซลให้กันเลยทีเดียวครับ
จากนั้นมากระแสของเครื่องเกมคอนโซลก็แรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยผู้พัฒนาเกมก็สนใจที่จะทำเกมลงเครื่องเกมคอนโซลมากกว่าที่จะลงเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วการพัฒนาเกมขึ้นมาสักเกมนั้นต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาด้วยซ้ำไป ในงานแสดงเทคโนโลยีของวงการเกมใหญ่ๆ อย่างเช่นงาน E3 ที่ผ่านมานั้นเราก็ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเกมบนเครื่องคอนโซลที่ผู้ผลิตขนมาโชว์ไม่ว่าจะเป็น Halo 5 บน Xbox หรือ Uncharted 4 บน PlayStation 4 กระทั่ง Wii U ที่สถาณการณ์ย่ำแย่ยังมีเกม Star Fox มาโชว์เลยครับ
ถามว่านี่เป็นสัญญาณว่าการเล่นเกมบน PC คอมพิวเตอร์กำลังจะตายรึเปล่า ตอบได้เลยครับว่าเปล่าเลยครับ เพราะถึงแม้ว่าเราจะมองสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนเครื่องเกมคอนโซลจะสามารถแย่งซีนในการเล่นเกมไปจากคอมพิวเตอร์ PC ได้ไปหมด แต่หากพอมองในมุมกลับกันแล้วมันหาได้เป็นอย่างนั้นเลยครับ อ้างอิงข้อมูลจากสถาบันวิจัย PwC นั้นพบว่าภายในสิ้นปี 2016 ที่จะถึงนี้ยอดขายของเกมบนคอมพิวเตอร์ PC จะสูงถึง $29 billion 9.57 แสนล้านบาท ในขณะที่ยอดขายของเกมคอนโซลจะอยู่ที่ $28 billion หรือประมาณ 9.24 แสนล้านบาทเท่านั้น
นอกเหนือไปจากนั้นช่องว่างดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงระยะเวลา 2 – 3 ปีนับจากจบปี 2016 เป็นต้นไป ซึ่งนั่นหมายถึงว่าการเล่นเกมบน PC คอมพิวเตอร์นั้นจะกลับมาฮิตอีกครั้งครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในประเทศจีน หรือ อินเดีย ที่จะช่วยให้ยอดขายของเกม PC คอมพิวเตอร์เติบโตขึ้นอย่างมากเลยทีเดียวครับ หากนี่เป็นเรื่องจริงวงการอุตสาหกรรมการเล่นเกมจะถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็วครับ
การเปลี่ยนแปลงทางด้านการเล่นเกมของผู้ใช้นั้นเห็นได้ชัดมากครับจากในอดีตที่จะเล่นบนเครื่องที่เฉพาะเจาะจงอย่างเครื่องเกมคอนโซลเครื่องใดเครื่องหนึ่ง มาเป็นเล่นเกมผ่านสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, set-top boxes และ virtual reality systems ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้กำลังจะทำให้วิธีการในการเล่นเกมของผู้เล่นเปลี่ยนไป
Brian Blau นักวิเคราะห์ของ Gartner ได้บอกเ อาไว้ว่า เมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้เราอาจจะสามารถพูดได้โดยตรงเลยครับว่าการเล่นเกมนั้นจะมีแพลตฟอร์มหลักๆ อยู่ 3 แพลตฟอร์มเท่านั้นก็คือ เครื่องเกมคอนโซล, คอมพิวเตอร์ PC และ Web แต่เมื่อมาเป็นในปัจจุบันนั้นเรามีทั้ง TV streamers, อุปกรณ์เคลื่อนที่ ฯลฯ อีกมากมายหลายชนิดที่เราสามารถที่จะใช้ในการเล่นเกมได้ครับ
ทว่ามีแพลตฟอร์มหนึ่งที่ได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาลในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อยู่แพลตฟอร์มนั้นก็คือ PC คอมพิวเตอร์นี่เองครับ เชื่อไหมครับว่าการเล่นเกมผ่าน PC คอมพิวเตอร์นั้นกลายเป็นวิธีเดียวที่คุณจะสามารถเล่นเกมได้ดูดีที่สุด(หมายถึงทางด้านภาพและเสียง) และที่สำคัญเกมดังๆ ใหญ่ๆ หลายๆ เกมก็ต่างทยอยลงให้กับแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ด้วยอีกต่างหาก
PC คอมพิวเตอร์ยังมีข้อดีอีกหลายอย่างที่แพลตฟอร์มอื่นไม่มีตัวอย่างเช่นความสามารถในการเล่นเกมออนไลน์ที่ดีที่สุด หรือแม้แต่ความสามารถทั่วไปของ PC คอมพิวเตอร์ในการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ได้ก็ยังช่วยให้คุณสามารถที่จะสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อยู่ตลอดเวลา แถมในช่วงสิ้นปีนี้ความสามารถใหม่อย่างการเล่นเกมแบบ high-quality virtual reality ก็จะมาให้คุณได้ทดลองสัมผัสกันด้วย เห็นไหมครับว่าการเล่นเกมบน PC คอมพิวเตอร์นั้นมีข้อดีมากมายแค่ไหน
จาก PC สู่เครื่องเกมคอนโซล และการกลับมาสู่จุดกำเนิดอีกครั้ง
ในยุค 80s ถึง 90s ช่วงต้นนั้นแพลตฟอร์ม PC ได้เกิดขึ้นโดยถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ทำการบุกเบิกวงการเกมขึ้นมาครับ(ดังที่กล่าวไปในตอนต้น) เชื่อไหมครับว่าในสมัยนั้นแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ก็มีเกมออนไลน์ให้ได้เล่นกันแล้ว แถมยังเกิดชุมชนของผู้เล่นเกมบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์กันอย่างกว้างขวาง(ในต่างประเทศ) ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้เกิดการผลักดันการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพที่สวยงามมากขึ้นและการสร้างประสบการณ์การเล่นที่สมจริงครับ
ในสมัยนั้นหากพูดแบบไม่ลำเอียงแล้วหล่ะก็เกมที่มาพร้อมกับกราฟิกที่น่าประทับใจแถมยังเป็นเกมที่มีอิทธิพลกับวงการอุตสาหกรรมเกมอย่างมากก็อยู่ในแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์นี่แหละครับ ตัวอย่างเช่นเกม Doom(ที่อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนเล่นแล้วเกิดอาการเวียนหัวจนอ๊วกมาแล้ว) หรือเกมวางแผนสุดดังอย่าง StarCraft แต่ปัญหาของแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ในยุคสมัยนั้นที่ทำให้ไม่สามารถจะสู้แพลตฟอร์มเกมคอนโซลได้ก็คือระบบอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่แพร่หลายรวมไปถึงอุปกรณ์ของเครื่อง PC คอมพิวเตอร์ก็มีราคาสูงมากครับ
จากเหตุผลข้างต้นการแก้ปัญหาก็คือการหาเครื่องเล่นเกมสักเครื่องหนึ่งที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรทัศน์เพื่อใช้ในการเล่นเกม(เพราะทุกๆ บ้านในต่างประเทศสมัยนั้นมักจะมีโทรทัศน์อยู่แล้ว) รวมไปถึงเครื่องนั้นจะต้องไม่มีความแตกต่างทางด้านฮาร์ดแวร์เพื่อให้ผู้ใช้ต้องมาปวดหัวในการอัพเกรดแพงๆ(เหมือนกับการอัพเกรดอุปกรณ์ของ PC คอมพิวเตอร์ในสมัยนั้น) ทำให้เมื่อย้อนกลับไป 40 กว่าปีที่แล้วเครื่องเกมที่ตอบโจทย์นี้อย่าง Commodore 64, Atari 2600 และ Nintendo Entertainment System จึงถือกำเนิดขึ้นมาครับ
และหลังจากนั้นตลอดมาวงการเกมก็จะเติบโตไปในทิศทางของเครื่องเกมคอนโซลเสียมากกว่า ถึงแม้ว่าวงการเกมบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์จะยังไม่ได้หายไปไหน แต่ก็เรียกได้ว่าในช่วงเวลานั้นถ้าจะเล่นเกมก็ต้องยกให้เครื่องเกมคอนโซลเขาไปละครับ เอาง่ายๆ เลยครับวงการเกมคอนโซลนั้นเติบโตมากจนกระทั่งทำให้เจ้าพ่อซฮฟต์แวร์ในวงการคอมพิวเตอร์ PC ยังส่งเครื่องเกมคอนโซลของตัวเองอย่าง Xbox ลงสู่ตลาดพร้อมด้วยการสร้างเกมเฉพาะของเครื่องตัวเองที่โด่งดังมากอย่าง Halo ออกมาให้ผู้ใช้แพลตฟอร์ PC คอมพิวเตอร์มองตาปริบๆ อีก
สาเหตุที่หลายๆ บริษัทรักแพลตฟอร์มเครื่องเกมคอนโซลก็เนื่องมาจากเรื่องของยอดขายครับเพราะเพียงแค่สร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาสัก 1 อัน(หมายถึงเครื่องคอนโซล 1 เครื่อง) ก็สามารถที่จะวางขายในตลาดได้เป็นเวลายาวนานมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริโภคเองก็ชื่นชอบในแพลตฟอร์มคอนโซลด้วยเช่นเดียวกันเพราะว่าเมื่อซื้อเครื่องคอนโซลมา 1 เครื่องพวกเขาก็สามารถที่จะใช้มันเล่นเกมได้อย่างยาวนานไม่ต้องคอยอัพเกรดฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ ในเครื่องทุก 2 ปี เหมือนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ครับ
PlayStation เครื่องเกมคอนโซลรุ่นแรกของ Sony ที่มีอายุในตลาดยาวนานถึง 10 ปี
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเครื่องเล่นเกมคอนโซลก็คือการที่ผู้ใช้สามารถที่จะเล่นเกมได้อย่างรวดเร็วครับ เพราะเพียงแค่ใส่แผ่นรอโหลดก็สามารถที่จะเล่นเกมได้แล้วครับ ในขณะที่แพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์นั้นคุณจะต้องทำการติดตั้งเกมก่อนถึงจะสามารถทำการเล่นเกมได้ซึ่งบางเกมก็อาจจะมีหลายแผ่นทำให้เกิดความยุ่งยากในการที่ต้องสลับแผ่นไปมาในการติดตั้งครับ
หลังจากที่มีการเปิดตัว Sony PlayStation ในปี 1994 และ Nintendo N64 ในปี 1996 นั้นเรียกได้ว่าเป็นปีที่ย่ำแย่ของการเล่นเกมของแพลตฟอร์ม PC เลยก็ว่าได้ครับ เพราะว่าเกมดีๆ ดังๆ นั้นจะไปอยู่บนเครื่องเกมคอนโซลทั้งหมด(หรือถ้าตามมาในแพลตฟอร์ม PC จริงก็จะช้ามากจนเลิกดังไปแล้ว) แถมเกมดังๆ ที่เคยอยู่บนแพลตฟอร์ม PC ก็ทยอยตามไปลงให้กับเครื่องเกมคอนโซลหมดอย่างเช่น FIFA เป็นต้นครับ
หลังจากช่วงนั้นมาจนถึงปัจจุบันเกมส่วนใหญ่ในตลาดก็จะลงทั้งแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์และเครื่องเกมคอนโซลครับ ไม่ว่าจะเป็น Assassin’s Creed: Unity หรือ The Witcher 3 บางเกมก็ใช้เวลานานมากกว่าจะมาลงแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์อย่างเช่น Grand Theft Auto 5 ที่ใช้เวลากว่า 19 เดือนผู้เล่นบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ถึงจะได้สัมผัสกันครับ
สิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาหาใช่ใครอื่นนอกจาก Steam ครับ 3 ใน 4 ของเกมที่ขายบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนั้นจะเป็นการขายผ่าน Steam แทบทั้งสิ้นครับ ด้วยความที่ Steam นั้นกึ่งหนึ่งก็เสมือนกับเป็น Social Network อีกกึ่งหนึ่งก็เป็นร้านค้าออนไลน์ที่บริการต่างๆ บน Steam นั้นจัดทำขึ้นโดยผู้ผลิตเกมอย่าง Valve ทำให้กระแสการเล่นเกมบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์เปลี่ยนไปมากครับ จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับที่ Apple ทำกับ App Store ของตัวเองนั่นแหละครับ
Steam นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยความง่ายและบริการมากมายของตัวมันเองตัวอย่างเช่นคุณสามารถที่จะทำการลงเกมผ่านเครื่อง PC คอมพิวเตอร์เครื่องไหนของคุณก็ได้ขอเพียงแค่ใช้ชื่อบัญชีของคุณเท่านั้น แถมสิ่งที่เหนือสุดๆ ของ Steam ก็คือการลดราคาเกมจนบางทีถูกกว่าซื้อแผ่นก๊อปมาเล่นเสียอีกทำให้ผู้ใช้ชื่นชอบมากครับ
นอกเหนือไปจากนั้น Steam ยังได้อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถที่จะนำเอาเกมที่ตัวเองพัฒนามาลงจำหน่ายได้โดยตรง และถึงแม้ว่าตัวเกมนั้นจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์คุณก็สามารถที่จะปล่อยเกมให้ผู้ใช้ลองเล่นเกมก่อนได้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่นักพัฒนาชื่นชอบมากครับเพราะนอกจากจะได้ทดสอบตลาดก่อนการพัฒนาแบบทุ่มทุนแล้ว(สำหรับผู้พัฒนาอินดี้) นักพัฒนายังสามารถที่จะหาทุนจากการขายเกมในเวอร์ชันทดสอบก่อนได้ด้วยอีกต่างหากครับ
Steam Machine เครื่องเล่นเกมแพลตฟอร์ม PC สไตล์เครื่องเกมคอนโซลที่ทาง Valve หวังว่าจะเปลี่ยนแปลงวงการเกม
หากเทียบกันแล้วในขณะที่เครื่องเกมคอนโซลยังคงขายเกมในรูปแบบแผ่นดิสก์ตามร้านอยู่เช่นเดิม(ถึงแม้ว่าจะมีการพยายามเปลี่ยนมาขายในรูปแบบดิจิทัลในตอนหลัง) แต่ว่า Steam ก็ได้ทำให้วงการเกมบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ก้าวนำไปไกลมากครับ
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้วงการเกมบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้งก็คือ e-sports หรือการแข่งขันเสมือนกีฬาที่ใช้เกมเป็นจุดร่วมครับ โดยในช่วงที่ผ่านมานี้วงการ e-sports ได้ก้าวไปไกลมากจนถึงมีการจัดการแข่งขันในระดับโลก แถมยังมีผู้ให้ความสนใจกว่า 10 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งเกมที่ทำให้วงการ e-sports ดังนั้นก็คือเกม League of Legends และ Dota 2
นักวิเคราะห์กล่าวเอาไว้ครับว่าการที่เครื่องเกมคอนโซลจะสร้างความสนใจกลับมาเหมือนกับแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์นั้นจะยากขึ้นเรื่อยๆ จากยอดจำหน่ายของเครื่อง Xbox One, PlayStation 4 และ Wii U ที่รวมกันแล้วไม่ถึง 100 ล้านเครื่องเมื่อเทียบกับยอมของ PC คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่กว่า 308 ล้านเครื่อง ณ เวลานี้ถือว่าต่างกัน 1 ใน 3 เลยทีเดียวครับ(แถมยอด 308 ล้านเครื่องของ PC คอมพิวเตอร์นี้ก็เป็นยอดจำหน่ายในปี 2014 เพียงปีเดียวเท่านั้นอ้างอิงจากทาง IDC ครับ)
Joost van Dreunen ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO of game analytics ของ SuperData Research ได้บอกเอาไว้ครับว่ามันเป็นการยากมากที่เครื่องเกมคอนโซลจะสามารถทำยอดแข่งขันทั่วโลกกับแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ได้
สิ่งที่เพิ่มเติมมากไปกว่านั้นก็คือยอดของผู้ลงทะเบียนในการเล่นเกมออนไลน์หรือเกมแนว extended storylines(อย่าง Walking Dead) ก็มาจากแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์เสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของวงการเกมบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ครับ(ในส่วนของ add-on ต่างๆ ที่เป็นฟีเจอร์เสริม หรือ DLC ก็มีการพบว่ามียอดซื้อจากผู้เล่นบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์มากกว่าครับ)
อ้างอิงจากทาง PwC แล้วเมื่อสิ้นสุดปี 2015 ตลาดเกมบนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์นั้นจะมียอดขายสูงถึง $21.8 billion 7.194 แสนล้านบาท โดยจะน้อยกว่ายอดขายของตลาดเครื่องเกมคอนโซลอยู่ที่ประมาณ $2.4 billion 7.92 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นความต่างที่ทางแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์เริ่มจะตามติดเข้ามาเรื่องๆ แล้วครับ
อุปกรณ์ลูกผสม อนาคตของคอนโซล
ใช่ว่าทางฝั่งผู้ผลิตเครื่องเกมคอนโซลจะอยู่เฉยๆ ครับ เพราะในช่วงที่ผ่านมานั้นทางฝั่งผู้ผลิตคอนโซลเริ่มพัฒนาเกมและบริการที่ผู้เล่นจะต้องจ่ายเงินในการเล่นตลอดเวลาเข้ามาแล้ว(ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ Xbox live Gold) บริษัทเกมใหญ่ๆ อย่าง Electronic Arts และ Activision (เจ้าของเกม Destiny) ได้ทำให้เกมของตัวเองมีบริการเสริมต่างๆ ในการเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ ซึ่งบริการเสริมต่างๆ นั้นก็เป็นการบังคับว่าผู้ใช้จะต้องทำการซื้อถึงจะสามารถทำการเล่นต่อกับผู้อื่นที่ซื้อได้(Destiny มี 2 add-ons คิดเงินไปแล้วประมาณ $20 หรือประมาณ 660 บาทครับ)
ถ้าถามกลยุทธ์นี้ได้ผลไหมคำตอบคือได้ผลครับ เพราะในปีที่ผ่านมานั้น EA มียอดขายกว่า $4.3 billion หรือประมาณ 1.419 แสนล้านบาทซึ่งจากข้อมูลนั้นะว่าในยอดขายจำนวนนี้มาจากยอดขายผ่านทางอินเทอร์เน็ตทั้งเกมแบบตัวเต็มและ add-ons กว่า $2.2 billion หรือประมาณ 7.26 หมื่นล้านบาท ทางด้าน Activision นั้นยอดขายกว่า 76% (คิดเป็นเงิน $538 million หรือประมาณ 1.78 หมื่นล้านบาท) มาจากช่องทางการขายผ่านอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกัน
จากแนวทางดังกล่าวนั้นใช่ว่าค่ายผู้ผลิตเกมดังๆ จะหนีไปใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ตในการวางจำหน่ายเกมทั้งหมดครับ เพราะทาง EA และ Activision นั้นก็ยังคงยืนยันที่จะออกเกมให้กับเครื่องเกมคอนโซลในรูปแบบดิสก์ที่มีราคาสูงถึง $60 หรือประมาณ 1,980 บาทต่อไป แต่ทว่าผลลัพธ์นี้จะเกิดขึ้นเฉพาะกับเกมชื่อดังหรือเกมภาคต่อที่สามารถขายได้อย่างแน่นอนเท่านั้น
คลื่นลูกต่อไปที่เราจะได้เห็นกันก็คือการเติบโตของ virtual reality ครับ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ Oculus เปิดตัว Oculus Rift นั้นทำให้เราได้เห็นการตื่นตัวในตลาดทางด้าน virtual reality เป็นอย่างมาก ที่สำคัญซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ virtual reality ที่จะมาช่วยให้ตัวอุปกรณ์ไปได้ไกลคงหนีไม่พ้นเกมนี่แหละครับ ดังนั้นแล้วทั้งในส่วนของผู้ออกอุปกรณ์เองและวงการอุตสาหกรรมเกมต่างก็ต้องพึ่งพากันในจุดนี้เป็นอย่างมาก
อุปกรณ์ virtual reality ของ PlayStation 4 นั้นจะออกมาในช่วงปีหน้านี้ซึ่งตรงจุดนี้ก็อาจจะทำให้ยอดขายของ PlayStation 4 เพิ่มมากขึ้น ทว่าด้วยการประกาศเป็นพันธมิตรกันของ Oculus และ Microsoft นั้นดูเหมือนจะเรียกเสียงฮือฮาได้มากกว่าจากการที่คุณสามารถใช้จอยคอนโทรเลอร์ของ Xbox One ในการบังคับเกมผ่าน Oculus Rift ได้ ทำให้ Xbox One ก็จะได้ประโยชน์ในส่วนนี้ และที่เหนือไปกว่านั้นผู้ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 10 ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ก็จะได้รับผลนี้ด้วยเช่นกันครับ
จากคำบอกของ Brendan Iribe ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Oculus ได้บอกเอาไว้ครับว่าผู้ใช้ Oculus Rift จะได้รับประสบการณ์การเล่นเกมแบบ virtual reality ที่ดีที่สุดผ่านทางแพลตฟอร์ม PC คอมพิวเตอร์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกตัวเดียวที่ดีที่สุดครับ
การรุกคืบของวงการ PC คอมพิวเตอร์
อีกหนึ่งความพยายามของตลาด PC คอมพิวเตอร์ในการรุกคืบวงการเกมคอนโซลนั้นก็คือการที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายแบบออกมาอย่างต่อเนื่องครับ อย่างในปัจจุบันนั้นเราจะเห็นได้ชัดเจนจากการที่โน๊ตบุ๊คที่ใช้สำหรับการเล่นเกมนั้นมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ไหนจะ Mini PC หรือ คอมพิวเตอร์มาตรฐาน Mini-ITX ที่ตั้งไว้กับโทรทัศน์ได้อย่างสบายๆ แถมยังเล่นเกมได้อีก จะเห็นได้เลยครับว่าผู้ผลิตในวงการ PC คอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้หยุดนิ่งเพื่อรอให้วงการเกมคอนโซลแย่งส่วนแบ่งในตลาดไปเรื่อยๆ เลย
ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เคยเป็นข้อเสียในอดีตของ PC คอมพิวเตอร์อย่างฮาร์ดแวร์สำหรับการเล่นเกมที่มีราคาแพงนั้น ในปัจจุบันก็มีราคาถูกมากขึ้นครับ คุณสามารถที่จะประกอบเครื่อง PC คอมพิวเตอร์ขึ้นมาสักเครื่องสำหรับการเล่นเกมได้ในราคาไม่ถึง 20,000 บาท ถ้าจะเอาให้ดีหน่อย 35,000 บาทก็อยู่แล้วครับ แถมอายุการใช้งานนั้นยังยาวนานกว่าเครื่องเกมคอนโซลที่ในปัจจุบันนั้นมีระยะเวลาในตลาดลดลงอีกด้วยครับ
ที่มา : cnet
