เมื่อไม่นานมานี้ทาง Reuters ได้ทำการตีพิมพ์ครับว่าได้มีแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ AMD ให้ข้อมูลว่าทาง AMD กำลังพิจารณาที่จะแยกธุรกิจของตัวเองออกจากกัน โดยทางแหล่งข้อมูลได้บอกกับทาง Reuters ว่าทาง AMD ได้ทำการจ้างบริษัทที่ให้คำปรึกษาเพื่อทำการทบทวนแนวทางในการแยกธุรกิจซึ่งมีหลายแนวทางด้วยกัน โดยหนึ่งในแนวทางนั้นมีแนวทางหนึ่งที่เป็นแนวทางที่ทำให้ AMD เกิดขึ้นมามีชื่อเสียงในอดีตซึ่งนั่นก็คือการแยกธุรกิจ CPU ออกจากธุรกิจกราฟิก หรือแยกการเป็น AMD กับอดีต ATi ออกจากกันอีกครั้งนั่นเองครับ
AMD เข้ารวมกิจการกับ ATi สำเร็จในปี 2008 ครับ โดย ณ เวลานั้นวิสัยทัศน์ในการรวมกิจการ(หรือเข้าซื้อ ATi) ของทาง AMD ก็คือการหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งเพื่อจะทำการรวมเอากราฟิกระดับสูงเข้ากับหน่วยประมวลผลซึ่งก็ประสบความสำเร็จดังที่เราได้เห็น APU(Accelerated Processing Unit) ตัวแรกออกมาในปี 2011 ครับ
นอกเหนือไปจากจะประสบความสำเร็จกับวงการ PC แล้ว AMD ยังประสบความสำเร็จในการครอบครองการเป็นผู้ผลิต APU ให้กับเครื่องเกมคอนโซลอย่าง PlayStation 4 และ Xbox One นอกไปจากนั้นทางบริษัทยังได้พัฒนาเทคโนโลยี Heterogeneous System Architecture(HSA) ขึ้นมาอีกเมื่อปีที่แล้วเพื่อทำการพัฒนา APU ต่อไป
จะว่าไปแล้ว ณ จุดที่ AMD อยู่ตอนนี้การจะแยกธุรกิจออกเป็นสองส่วนนั้นก็ใช่ที่อยู่ครับ เพราะหากจะว่าไปแล้วทาง AMD ก็ลงทุนมามากจนทั้งสองส่วนรวมกันเป็นจุดเด่นของทาง AMD ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมเส้นทางในอนาคตของ AMD ของการรวม CPU และกราฟิกเข้าด้วยกันนั้นยังถูกวางแผนไว้อีกยาวไกล(จากแผนอนาคตของทาง AMD เองที่เผยออกมาจนถึงปี 2017 ก่อนหน้านี้) ดังนั้นการแยกทั้ง 2 สาขาออกจากกันนั้นจึงยังน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้(หรือก็ไม่แน่เช่นเดียวกันเพราะเราเองก็มิอาจทราบได้ครับ)
ในปัจจุบันนั้นแผนกหลักของทาง AMD ประกอบไปด้วย 2 แผนกครับ แผนกแรกก็คือ GC(Computing and Graphics) และ EESC(Enterprise, Embedded and Semi-custom) ซึ่งแผนกที่สองนั้นจะทำการรับผิดชอบในส่วนของการจัดการกับเรื่องคอนโซลซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นแผนกที่สามารถที่จะทำกำไรให้กับทาง AMD ให้ได้หายใจต่อไปได้อยู่พอสมควรครับ(ดังเหตุผลที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้)
อย่างไรก็ตามแต่คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าข่าวจากแหล่งข้อมูลนี้จะจริงอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ ซึ่งหากจะว่าไปแล้วทาง AMD ก็คงจะไม่แยกส่วนธุรกิจออกเป็น CPU และกราฟิกเหมือนก่อนที่จะรวมกันในปี 2008 แต่การแยกนั้นน่าจะเป็นการแยกในส่วน EESC ออกมามากกว่าด้วยเหตุผลทางด้านการเงินของบริษัท(เพื่อเพิ่มการลงทุนและตัวเลขของกำไรให้ดูดีขึ้น) หากมีอัพเดทอย่างไรทาง NBS จะนำมารายงานให้ทุกท่านได้ทราบกันต่อไปครับ
ที่มา : wccftech