เกมแนว RPG ที่มีชื่อเต็มๆว่า Role Playing Game หรือที่เรียกกันติดปากว่าเกมภาษาถือว่าเป็นแนวเกมที่เก่าแก่มากและอยู่คู่กับคอมพิวเตอร์และเครื่องเล่นเกมทุกยุคทุกสมัยด้วยจุดเด่นของเกมแนวนี้ที่ให้ความรู้สึกร่วมอย่างผู้เล่นต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครเอกภายในเกมและต้องผจญภัยไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บเลเวลและปราบบอสใหญ่ให้ได้ซึ่งในปัจจุบันเกมแนวนี้ก็ได้รับความนิยมมากดังจะเห็นได้ว่ามีเกมดังๆอย่างเช่น DarkSouls , Skyrim หรือ The Witcher 3 ที่ครบเครื่องและเต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้นระทึกใจแต่ถึงอย่างนั้นเกม RPG ที่นอกเหนือจาก 3 เกมที่ว่ามาก็ใช่ว่าจะไม่สนุกเลยในวันนี้ PC Gamer เลยได้รวบรวมเกมแนว RPG ที่ทุกๆคนมองข้ามแต่แฝงความสนุกอยู่เต็มเปี่ยมเป็นจำนวน 14 เกมด้วยกันไปดูกันเลยครับ
Alpha Protocol
เป็นเกม RPG ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในยุคอัศวินแต่ก็มอบความมันส์ได้โดยที่ตัวเกมได้ให้ผู้เล่นสืบค้นหาข้อมูลได้จากบุคคลหรืออินเตอร์เน็ตซึ่งผู้เล่นสามารถทำภารกิจเพื่อรับไอเทมหรือเงินรางวัลได้ ทั้งระบบการสนทนาใน Alpha Protocol ที่หลากหลายโดยที่ผู้เล่นสามารถเลือกคำตอบจากบทสนทนาได้มากกว่าหนึ่งและนำไปสู่บทสรุปที่แตกต่างกัน ตัวเกมก็ยังมีระบบอัพเกรดความสามารถของตัวละครตามแบบฉบับเกม RPG ที่จะมีตั้งแต่ปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายไปจนถึงความสามารถพิเศษของตัวละครเช่นการลอบสังหารด้วยการล่องหนเป็นต้นและเพลงประกอบในเกมนี้ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแบบสายลับได้ดี
King’s Bounty: The Legend
เกมสวมบทบาทกึ่งวางแผนกลยุทธ์จากรัสเซียเกมนี้ได้นำจุดเด่นเกมแนววางแผนเทิร์นเบสแบบ 6 เหลี่ยมมาใช้บวกกับความเป็น RPG ที่ผู้เล่นสามารถผจญภัยท่องโลกกว้างและปราบศัตรูและด้วยความเป็นเกมกึ่งวางแผนผู้เล่นจะไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพังสามารถว่าจ้างกองทหารจากเผ่าต่างๆมาเป็นกำลังรบได้และระบบสกิลความสามารถของตัวละครหลักที่ต้องเลือกอัพให้ดีเพราะมันจะส่งผลแพ้ชนะในการต่อสู้เลยทีเดียว นอกจากนี้ภายในเกมก็อุดมไปด้วยสภาพภูมิประเทศที่สวยงามหลากหลายตั้งแต่ทุ่งหญ้าเขียวขจีไปจนถึงถ้ำอันดำมืดและเปลี่ยวร้างผู้คน
Risen
เกม RPG จากค่าย Piranha Bytes นี้ที่เล่าถึงตัวเอกนิรนามที่กำลังโดยสารทางเรือแต่เกิดคลื่นลูกยักษ์พัดเรือจนอัปปางจนเขาก็ลอยมายังเกาะๆหนึ่งและการเอาผจญภัยเพื่อชีวิตรอดก็เริ่มขึ้นซึ่งในเกม Risen นี้ทางผู้พัฒนาค่อนข้างซื่อสัตย์กับรูปแบบของเกมที่คงความเป็น RPG ขนานแท้ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครที่ถอดแบบมาจากยุคคนเถื่อนหรือสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและไอเทมต่างๆในเกมที่มีความสำคัญแตกต่างกัน ในส่วนของการเก็บเลเวลเก็บค่าประสบการณ์ผู้เล่นจะต้องออกไปกำจัดมอนสเตอร์หรือสัตว์เมื่อเลเวลอัพก็จะสามารถอัพเกรดความสามารถได้โดยความสามารถในเกม Risen นั้นมีเยอะมากเช่นสกิลการหาเลี้ยงชีพเช่นการถลกหนังสัตว์เพื่อเอาขาย , ความสามารถทางช่างที่หลอมเครื่องประดับได้หรือจะเป็นสกิลการใช้อาวุธที่มีตั้งแต่ดาบ , ธนู , ขวาน , กระบองซึ่งก็ตามแต่ความถนัดของผู้เล่น นอกจากนี้ตัวเกมไม่มีระบบแจ้งเตือนศัตรูแก่ผู้เล่นเพื่อเพิ่มความสมจริงในการเล่นอีกด้วยครับ
Arx Fatalis
Arx Fatalis จะพาผู้เล่นไปยังโลกใต้ดินและต้องผจญภัยฝ่ากองทัพอสูรกายออกไปให้ได้ซึ่งจุดเด่นของเกมนี้จะอยู่ที่มุมกล้องที่เป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่งและบรรยากาศที่เน้นความมืดมีแสงไฟสลัวๆและพื้นที่อันคับแคบ ส่วนรูปแบบการเล่นก็จะเน้นการสำรวจพื้นที่คุยกับ NPC และจัดการกับมอนสเตอร์ที่แอบจ๊ะเอ๋ผู้เล่นตามมุมอับและเชื่อว่าหลายๆคนคงจะต้องรู้สึกถึงความอึดอัดปนสยองขวัญเวลาเล่นเกมนี้แน่นอนครับ
Barkley, Shut Up and Jam: Gaiden
ในเกมนี้จะเล่าถึงเหตุการณ์หลังโลกล่มสลายผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตและต้องนำกลุ่มเพื่อเอาชีวิตรอดไปให้ได้โดยมีตัวละครในเกมที่หลายๆคนรู้จักชื่อกันดีคือ Michael Jordan ที่ผู้เล่นจะสามารถพูดคุยกับตัวละครตัวนี้ได้ด้วยและในส่วนการควบคุมและกราฟิกของเกมนี้ชวนนึกถึง Final Fantasy ในยุคแรกๆไม่ว่าจะเป็นช่องบทสนทนาหรือแถบพลังเวลาเข้าฉากต่อสู้ที่เหมือนกันมากแต่มีสิ่งที่แตกต่างกันคือธีมฉากหลังของเกมและบทพูดที่ใน Barkley, Shut Up and Jam: Gaiden จะมีบทพูดที่รุนแรงและหยายคายพอสมควร
Vampire: The Masquerade – Bloodlines
ถือว่าเกมนี้เป็นเกม RPG ที่เป็นต้นแบบของ Fallout 3 เลยก็ว่าได้ครับเพราะมีมุมกล้องแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สามเนื้อเรื่องและสถานที่ที่กึ่งทันสมัย มีการเก็บค่าประสบการณ์เพื่อนำไปพัฒนาความสามารถของตัวละครแถมเกมนี้ได้เปิดกว้างและให้อิสระแก่ผู้เล่นมากที่จะทำอะไรก็ได้แต่ถ้าผู้เล่นไปทำผิดกฏหมายแล้วก็จะถูกลงโทษโดยตำรวจรวมถึงความอิสระในการเลือกรับภารกิจที่ไม่จำเป็นต้องทำตามลำดับโดยสามารถเลือกภารกิจอันไหนก่อนก็ได้แต่ของรางวัลจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของภารกิจและที่สำคัญตอนเริ่มเกมผู้เล่นสามารถเลือกวงศ์ตระกูลได้ด้วยอย่างกับซีรี่ส์เกม Total War เลยทีเดียว
Mount & Blade: Warband
อีกหนึ่งเกม RPG sandbox ที่ผู้เล่นสามารถควบคุมชะตากรรมหรือเลือกทางเดินของตนเองได้ไม่ว่าจะเป็นผู้กล้าในสนามประลองหรือเป็นพ่อค้าที่มั่งคั่งนอกจากนี้ระบบเควสก็มีให้เลือกมากมาย การบังคับตัวละครก็เป็นอีกหนึ่งในข้อดีของเกมนี้ที่เลือกได้ว่าจะโจมตีศัตรูในทิศทางไหนรวมทั้งการให้อิสระในการป้องกันการโจมตีและการเล่นแบบ Multiplayer ที่รองรับได้ถึง 64 คนก็ทำให้เกม Mount & Blade: Warband ให้ความรู้สึกเหมือนกับได้อยู่ในสงครามจริงๆเลยครับ
Jagged Alliance 2
เป็นแนวเกมที่คล้ายคลึงกับซีรี่ส์เกม X-Com แต่จะต่างกันตรงที่ Jagged Alliance 2 ใส่ความเป็นเกมวางแผนแบบเทิร์นเบสเอาไว้ด้วยซึ่งผู้เล่นจะต้องปราบกองทัพศัตรูด้วยอาวุธและกองกำลังทหารรับจ้างที่แต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันแต่ตัวเกมก็ไม่ทิ้งความเป็น RPG โดยได้ใส่ระบบการอัพเกรดอาวุธความสามารถของทหารแต่ละตัวเข้าไปด้วยจึงทำให้เกมนี้ผู้เล่นที่ชื่นชอบการวางแผนการรบต้องไม่ผิดหวังแน่นอน
Path of Exile
ในเกม Path of Exile มาพร้อมกับหน้าจออินเตอร์เฟซแบบ Diablo รวมถึงรูปแบบการเล่นที่เป็นแบบ Hack & Slash หรือเดินหน้าฟันไม่เลี้ยงแต่สิ่งที่ Path of Exile ต่างจากเกมเดินหน้าฟันเกมอื่นๆคือระบบการอัพสกิลที่มีทั้ง Passive กับ Active โดยสามารถเลือกสายการเล่นได้อิสระหรือจะเล่นสายผสมเช่นเล่นนักรบที่มีพลังเวทย์มนต์หรือจะเล่นจอมเวยท์สายบู๊ก็ยังได้
Arcanum: Of Steamworks and Magick Obscura
แค่ชื่อเกมก็บอกได้เลยว่าตัวเกมเก็บรายละเอียดได้ดีมากรวมทั้งรูปแบบการเล่นที่คล้ายคลึงกับ Fallout มากแต่จะต่างกันที่ฉากหลังของเกมที่เป็นโลกที่ใช้เทคโลโลยีจักรกลไอน้ำเป็นหลักและเตือนว่าผู้เล่นจะต้องแน่นภาษาอังกฤษพอตัวเพราะมีบทสนทนาที่เยอะและไม่ใช่แค่กด Next ไปเรื่อยๆแล้วจะผ่านไปได้ตัวเกมมีทางเลือกการตอบโต้บทสนทนาได้มากกว่าหนึ่งช่องทางจึงทำให้การเล่นเกมนี้ในแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน
Neo Scavenger
สำหรับ Neo Scavenger ถือว่าเป็นเกม RPG กึ่งเอาชีวิตรอดที่ทำได้สมจริงทีเดียวด้วยสภาพแวดล้อมที่อึดอัดชวนวังเวงแถมยังเป็นเกมที่ต้องใช้สัญชาติญาณการเอาตัวรอดอย่างมากเพราะถ้าผู้เล่นไม่สังหารศัตรูแล้วล่ะก็มันก็จะมาจัดการผู้เล่นแทน อีกทั้งตัวเกมนี้ก็มี Skill ความสามารถของตัวละครที่เยอะมากและนำมันไปจัดการศัตรูเพื่อเอาของรางวัลได้ด้วย
Recettear: An Item Shop’s Tale
เปลี่ยนบรรยากาศเกมมาเป็นแนวสดใสสุดโมเอะกันบ้างที่ผู้เล่นจะรับบทเป็นพ่อค้าแม่ขายจำเป็นที่ต้องขายของเพื่อใช้หนี้ก้อนโตแต่ถึงแม้จะเป็นเกมญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าเล่นไม่รู้เรื่องเพราะตัวเกมมีผู้ช่วยคอยเป็นไกด์แนะนำวิธีเล่นตลอดทางและเกมนี้ก็จะทำให้ผู้เล่นสวมบทเป็นคนค้าขายจริงๆเพราะมีทั้งระบบการซื้อขาย , การตั้ง/กำหนดราคาหรือรับซื้อของแถมบางครั้งผู้เล่นจะต้องนำหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นและหลักการบริหารเงินมาใช้ในเกมอีกด้วยซึ่งบอกได้เลยว่าเล่นเกมนี้จบสามารถนำไปประยุกต์การใช้จ่ายเงินในชีวิตประจำวันได้เลย นอกจากค้าขายแล้วผู้เล่นก็สามารถเดินทางตะลุยดันเจี้ยนปราบมอนสเตอร์เก็บของไปขายเพื่อซื้ออาวุธที่แข็งแกร่งกว่าได้แต่อย่าลืมว่าการใช้หนี้เป็นภารกิจหลักของเกมนะ
Shadowrun: Dragonfall
ใน Shadowrun: Dragonfall ผู้เล่นก็จะพบกับตัวละคร , อาวุธ , ศัตรูชนิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในภาคที่แล้ว ในภาคนี้ก็จะยังคงรูปแบบการเล่นที่เป็นเทิร์นเบสกึ่ง RPG มุมมองจากด้านบนที่มีฉากหลังเทคโนโลยีแบบ SteamPunk โดยผู้เล่นจะสามารถพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับ NPC ได้รวมถึงเนื้อเรื่องที่เข้มข้นซับซ้อนตามสไตล์เกม RPG และสิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึงในภาคนี้คือสามารถเซฟที่ไหนก็ได้แล้วครับ
Anachronox
ปิดท้ายด้วยเกมไซไฟอวกาศที่ยังคงเป็นแนววางแผนเทิร์นเบสแต่ก็มีจุดเด่นในเรื่องการสำรวจสถานที่การแก้ไขปริศนาหรือฉากต่อสู้ในเกมนี้ที่จะต่างจากเกมอื่นคือมีมุมกล้องเท่ๆในตอนใช้สกิลหรือออกท่าทางการโจมตีที่ชวนให้รู้สึกอินไปกับตัวละครหลักและการสนทนากับ NPC แต่ละตัวนั้นก็ไม่น่าเบื่อเลยมีบทสนทนาที่น่าสนใจแต่จะมีข้อเสียตรงที่กราฟิกภาพค่อนข้างย่ำแย่แต่ถ้าทดแทนด้วยระบบเกมที่ว่ามาแล้ว Anachronox เป็นเกม RPG ที่ยอดเยี่ยมเกมหนึ่งเลยทีเดียว
ที่มา : PCGAMER