อุปกรณ์ที่แฮกเกอร์ร้ายๆ ปล่อยออกมาในปัจจุบันนั้นนับวันจะยิ่งมีความอันตรายต่อความปลอดภัยของการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรามากยิ่งขึ้นครับ แถมยิ่งเวลาผ่านไปอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านั้นก็ถูกทำให้อยู่ในรูปแบบที่แทบจะแยกไม่ออกครับว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการล้วงข้อมูลหรือของใช้จริงที่ไม่มีอันตรายใดๆ กันแน่ วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ KeySweeper อุปกรณ์ขนาดเล็กที่ดูภายนอกยังไงก็เป็นที่ชาร์จสำหรับอุปกรณ์ USB แต่พิษของมันนั้นร้ายเหลือครับ
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกนะครับว่าทาง NBS ไม่สนับสนุนให้คุณๆ ไปสร้างอุปกรณ์แบบนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะใช้ในการสปายเพื่อขโมยข้อมูลของใครเป็นอันเด็ดขาด เพราะนั่นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายเต็มๆ เลยทีเดียวครับ ความตั้งใจของเราในการนำเสนอเรื่องนี้ก็คือต้องการให้ทุกท่านได้รับรู้ว่าในปัจจุบันนั้นวงการแฮกเกอร์ก้าวไปไกลมากถึงขนาดที่จะสามารถสร้างอุปกรณ์จากงบประมาณเพียง $10 หรือประมาณ 330 บาทเพื่อที่จะเอามาขโมยข้อมูลของเราๆ ท่านๆ ได้แล้วครับ
อย่างที่บอกไปในตอนต้นครับว่า KeySweeper นั้นดูยังไงก็เหมือนที่ชาร์จสำหรับ USB มากครับ แต่วงจรภายในนั้นประกอบขึ้นมาจากแผงวงจรหลายๆ ส่วนที่มีความสามารถแตกต่างกันไป ตัวอย่างหนึ่งที่น่ากลัวก็คือเจ้า KeySweeper นั้นสามารถที่จะตรวจจับการพิมพ์บนคีย์บอร์ดของคุณแล้วส่ง SMS ไปหาแฮกเกอร์ให้รู้ได้ครับว่าคุณพิมพ์อะไรไปบ้าง(ในที่นี้เป็นการตรวจจับการพิมพ์จากคีย์บอร์ดไร้สายของ Microsoft)
ลองคิดดูแล้วกันครับว่าถ้าคุณทำธุรกรรมการเงินผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยมั่นใจว่าไม่มีมัลแวร์อยู่บนเครื่องแน่นอน แต่เพียงแค่แฮกเกอร์นำเอาเจ้า KeySweeper นี้ไปเสียบไปแล้วหล่ะก็ ต่อให้คุณมีระบบป้องกันดีแค่ไหนก็เสร็จครับ ข้อมูลที่จะสามารถส่งไปยังแฮกเกอร์ได้นั้นก็ประกอบด้วยหลายอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น URL, Username, Password ฯลฯ คราวนี้หล่ะครับข้อมูลคุณรั่วหมดแน่
อย่างไรก็ตามแต่วิธีการป้องกันนั้นก็อาจจะยากอยู่ครับ ด้วยความที่เราไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าแฮกเกอร์ติดตั้ง KeySweeper ไว้เพราะมันช่างเหมือนกับที่ชาร์จ USB เหลือเกิน แถมแฮกเกอร์ยังสามารถที่จะเพิ่มความสามารถให้กับ KeySweeper ด้วยการเพิ่มวงจรฟีเจอร์ต่างๆ เข้าไปข้างในได้อีกอย่างเช่นแบตเตอรี่ในตัวที่ถึงแม้ว่าคุณจะไปเผลอซื้อ KeySweeper มาแล้วเลิกชาร์จไปแล้วแต่เจ้า KeySweeper ก็สามารถที่จะทำงานส่งข้อความไปยังแฮกเกอร์ได้อยู่ครับ
สิ่งที่จะระวังได้ก็คือต้องระวังตัวแล้วพยายามไม่เข้าเว็บไซต์ที่ต้องใส่ Username และ Password หรือทำธุรกรรมการเงินกับคอมพิวเตอร์ของคุณในที่สาธารณะครับ(ร้านกาแฟนี่ตัวดีเลยครับ ระวังไว้ก่อนก็ดีครับ)
ที่มา : bgr