ทางผมแอดมิน BiG และทีมงาน NotebookSPEC ได้รับเกียรติจากทาง ASUS ประเทศไทยได้ไปร่วมงาน “See What Others Can’t See” ณ โรงแรม Pullman Jakarta Central Park ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หรือว่าง่ายๆ ก็คืองานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นที่หลายๆ ท่านรอคอยอย่าง ASUS Zenfone 2 นั่นเอง และในบทความนี้ทางผมก็จะมารีวิวเจ้าสมาร์ทโฟนดังกล่าวให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน และเพื่อเป็นการเสียเวลาเรามาชม Review Zenfone 2 กันเลย
ASUS Zenfone 2 Ram 4GB Review
สำหรับ ASUS Zenfone 2 อย่างที่ทราบกันดีว่าได้รับการพัฒนามาจากรุ่นพี่อย่าง Zenfone รุ่นก่อนหน้า ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างเป็นกระแสต่อโลกของสมาร์ทโฟนทั้งไทยและเทศเป็นอย่างมาก ด้วยขณะนั้นยังไม่มีสมาร์ทโฟนเครื่องไหนที่มีสเปคสูง แต่ราคาค่อนข้างคุ้มเท่ากับ Zenfone มาก่อนด้วยราคาเริ่มต้นเพียงไม่กี่พันบาทก็ได้สมาร์ทโฟนขนาด 4 นิ้วไปใช้กันแล้ว หรือถ้าจะเพิ่มเงินอีกนิดราวๆ 5-6 พันก็ได้สมาร์ทโฟนที่มีแรม 2GB มาใช้เช่นกัน ซึ่งบอกเลยว่าในขณะนั้นบนท้องตลาดไม่มีสมาร์ทโฟนตัวไหนที่มีแรม 2GB ในราคาขนาดนี้ออกมาก่อน จะเรียกวาเป็นปรากฏการณ์ก็ไม่ผิดนัก
ย้อนกลับมาดูที่ ASUS Zenfone 2 ดูเหมือนจะยังคงเมนหลักด้านความคุ้มค่าเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม และมาพร้อมคีย์หลักในการออกแบบที่ว่า Simply and Powerfull หรือ เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพนั่นเอง โดยคำจำกัดความนี้มีแรงบรรดาลใจมากจากยานอวกาศ ที่ออกแบบได้เรียบง่ายแต่มีพลังมากพอที่ทำให้ตัวเองบินออกไปได้ในอวกาศนั่นเองละครับ
Spec : ZenFone 2 Ram 4GB
ในด้านของสเปค ASUS ZenFone 2 มาพร้อมรุ่นหลักๆ ด้วยกันถึงสามรุ่นทั้งขนาด 5.5 นิ้ว และ 5 นิ้วครับ โดยในบทความนี้ทางทีมงานจะพูดถึงเจ้า 5.5 นิ้วตัวท็อปเป็นหลักครับ ซึ่งมันก็มาพร้อมด้วย
- หน้าจอแสดงผล 5.5 นิ้ว IPS Ful lHD กระจก Gorilla Glass 3 พร้อมเคลือบสารลดรอยนิ้วมือ และตอบสนองการสัมผัสได้เร็วระดับ 60ms
- พร้อมรองรับการสัมผัสผบบ ZenMotion หรือ Guester Control แบบลัดที่ควบคุมสมาร์ทโฟนได้ง่ายกว่าเช่น เคาะ 2 ที่หน้าจอเพื่อ Sleep/Wake , วาดจอ เป็นอักษร V เพื่อถ่ายวิดีโอเป็นต้น
- หน่วยประมวลผล Intel 64Bit แบบ Quadcore Z3580 2.3GHz พร้อม GPU PowerVR Series 6 G6430 รองรับ OpenGL 3.2
- แรม 4GB แบบ Dual Channel 64Bit
- ที่เก็บข้อมูล Rom ขนาด 16GB/32GB/64GB พร้อม 5GB ASUS Cloud Storage
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล Auto Focus, f/2.0, Zero Shutter Lag พร้อมการถ่ายรูปในที่แสดงน้อยได้ดีกว่า พร้อมชิ้นเลนส์ BSI จาก Sharp
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมองศาที่กว่างกว่าถึง 85 องศา, f/2.0 พร้อมรองรับการถ่าย Selfie Panorama แบบ 140 องศา
- นอกเหนือจากนี้ตัวกล้องยังรองรับการถ่ายรูปในแบบ DSLR Mode ที่ให้คุณได้ประสบการณ์ถ่าย และปรับแต่งก่อนถ่ายรูปได้แบบเดียวกับกล้อง DSLR เลย
- รองรับ MicroUSB OTG และช่องเชื่อมต่อ Audio Jack 3.5
- รองรับ MicroSD สูงสุด 64GB
การเชื่อมต่อ
- รองรับระบบนำทางดาวเทียมได้ถึง 5 แบบไม่ว่าจะเป็น GPS/GNSS/QZSS/SBAS/Beidou(BDS)
- รองรับ 2 MicroSIM แบบ Dual Active
- รองรับเครือข่าย GSM/WCDM Quad band 850/900/1900/2100MHz พร้อมเสาสัญญาณแยกต่างหากถึงเสาด้วยเทคดรโลยี LDS
- รองรับ 4G LTE CAT4 รองรับการดาวน์โหลดสูงสุด 150Mbps
- รองรับ Dual Band WiFi AC
- รองรับ WiFi Direct
- รองรับ Bluetooth 4.0 พร้อม A2DP
- รองรับ NFC
- รองรับ Super WiFi Hotspot
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop 64Bit
- มาพร้อมแบตเตอรี่ 3,000 mAh Li-Polymer พร้อมเทคโนโลยี Quick Charge อย่าง BoostMaster ที่ชาร์จจาก 0-60% ได้ในเวลา 39 นาที (ในรุ่นแรม 4GB)
- ขนาด 152.5 x 77.2 x 3.9 – 10.9 มิลลิเมตร
- หนัก 170 กรัม
ASUS Zenfone 2 Ram 4GB :
ซึ่งจะเห็นได้ว่า Zenfone 2 มีสเปคที่น่าสนใจในหลายๆ ด้านทีเดียว รวมไปถึงฟีเจอร์ต่างๆ เองก็ค่อนข้างเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการถ่ายภาพที่มาพร้อมด้วยโหมดการถ่ายภาพที่ตอบสนองได้กับผู้ใช้ทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเรียน วัยทำงาน หรือแม้แต่มืออาชีพด้วยแฟลชทูโทน และชิ้นเลนส์ที่ให้การถ่ายภาพในที่แสงปกติ และแสงน้อยได้เป็นอย่างดี
รวมไปถึงในเรื่องของโหมดการใช้งานต่างๆ ที่มากมาย เช่นกันกับประสบการณ์การใช้งานที่ทาง Zenfone 2 มอบให้ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี แน่นอนไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทัชสกรีนที่ลื่นไหลด้วยความเร็วระดับ 60ms, เปิดใช้แอพต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้อาการหน่วงด้วยแรมแบบ Dual Channel ถึง 4GB ไม่ว่าจะรันแอปใน Background มากขนาดไหนเจ้านี่ก็พร้อมสู้ครับ รวมไปถึงในเรื่องของการรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายค่อนข้างสมบูรณ์ นับได้ว่าเจ้านี่เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมากที่สุดอันดับต้นในชั่วโมงนี้เลยก็ว่าได้
ASUS Zenfone 2 Ram 4GB มาพร้อมสีสันมากมาย
การออกแบบเอง ASUS ZenFone 2 มาพร้อมการออกแบบที่ค่อนข้างเรียบง่าย แต่มาพร้อมด้วยความโดดเด่นทางด้านความบางเบา และสีสันที่พร้อมให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบจากฝาหลังคล้ายอลูมิเนียมขัดเงาที่โค้งเว้าเข้ากับอุ้งมือ พร้อมให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม หรือถ้าผู้ใช้อยากได้สัมผัสที่ดีกว่าทาง ZenFone 2 ก็มีฝาหลังที่เป็น Texture ผิวต่างๆ ให้ผู้ใช้ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบเช่นกัน
ส่วนปุ่มกดต่างๆ อย่างปุ่มกดด้านหลังที่สามารถเพิ่มลดเสียงและใช้เป็นปุ่ม Shutter ถ่ายภาพก็ใช้งานได้ง่าย แต่ปุ่มกด Sleep/Wake ที่อยู่ด้านบนของตัวเครื่องก็ทำได้กลางๆ ตามมาตรฐานครับ โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าน่าจะนำปุ่มนี้มาไว้บริเวณด้านข้างจะดีกว่า
ASUS Zenfone 2 Ram 4GB มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลาย
ประสบการณ์ใช้งานจากที่ผู้เขียนได้ลองสัมผัสบน ASUS ZenFone 2 พบว่าการจับถือค่อนข้างที่จะถนัดมือมากทีเดียว ถึงแม้จะมาพร้อมขนาดที่ใหญ่ถึง 5.5 นิ้ว แต่ด้วยทาง ASUS ออกแบบให้ตัวสมาร์ทโฟนมีเนื้อที่หน้าจอแสดงผลมากถึง 72% พร้อมลดเนื้อที่ตัวเครื่องที่ไม่เกิดประโยชน์ออกไป รวมถึงออกแบบตัวเครื่องให้โค้งเข้ากับอุ้งมือถือว่าเจ๋งดีทีเดียว
ส่วนการใช้งานในเรื่องของการเข้าใช้แอพต่างๆ รวมถึงหน้า Home และการสไลด์เปลี่ยนหน้าบอกได้เลยว่าทำออกมาได้ประทับใจและค่อนข้างลื่นไหลทีเดียว ส่วนถ้าจะ Sleep/Wake ก็เพียงแค่เคาะหน้าจอแสดงผล 2 ทีเท่านั้นสะดวกมากๆ เลย เช่นเดียวกันกับการเรียกใช้ Shortcut ต่างๆ ผ่านทาง Gesture Control ที่ทาง Asus ก็ทำได้ค่อนข้างเด่นเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Sleep เจ้า ASUS Zenfone 2 อยู่เพียงแค่ผู้ใช้วาดตัวหนังสือ V ที่หน้าทางสมาร์ทโฟนก็จะเข้าโหมดถ่ายภาพและวิดีโอให้ในทันที
ASUS Zenfone 2 Ram 4GB ยังมีความน่าสนใจอื่นๆ อีก
ส่วนในเรื่องของการถ่ายภาพเอง ASUS Zenfone 2 เท่าที่ทางผู้เขียนได้ลองใช้ดูก็พบว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ค่อนไปทางดี โดยการถ่ายภาพแบบรวดเร็วก็ทำได้ดี และมีการตอบสนองได้ค่อนข้างไวด้วยฟีเจอร์ Zero Shutter Lag เช่นกันกับความสว่างและมุมมองของภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังด้วย f/2.0 และชิ้นเลนส์ BSI จาก Sharp ครับ นอกเหนือจากนี้ในด้านของความง่ายในการใช้งานก็ค่อนข้างทำได้ดีนะครับ ถ้าเพื่อนเคยๆ ใช้ Android หรือแม้แต่ iOS เครื่องอื่นมาก่อน และได้ลองทำการใช้งาน ZenUI บน ASUS Zenfone 2 ครั้งแรกก็สมารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะทาง ZenUI ออกแบบได้ง่าย และเข้าถึงการตั้งค่า และแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างไม่ซับซ้อน
อย่างไรก็ตามยังมีในอีกหลายๆ แง่มุมที่ทางทีมงาน NotebookSPEC ยังไม่ได้ทดสอบครับยกตัวอย่างเช่นการเชื่อมต่อเครือข่าย , Quick Charger หรือแม้แต่การเชื่อมต่อ MicroSD, การใส่ซิมเป็น, ระยะเวลาการใช้งานในต่างๆ รวมถึงความอึดของแบตเตอรี่ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของตัวงานครับ ซึ่งอย่างไรก็ตามในแง่มุมต่างๆ เหล่านี้ทางทีมงาน NotebookSPEC จะทดสอบให้เพื่อนๆ ได้ชมกันอีกทีหลังจากที่ได้รับ ASUS ZenFone 2 มารีวิวฉบับเต็มครับผม อ่อเกือบลืมไปสำหรับราคาขายของเจ้านี่จะเปิดราคาที่ 6,990 บาทในตัวหน้าจอ 5 นิ้วแรม 2GB ส่วนตัว 5.5 นิ้วแรม 2GB น่าจะอยู่ที่ราวๆ 8,990 บาท ส่วนตัวหน้าจอ 5.5 นิ้วแรม 4GB จะมีราคาขายอยู่ที่ 11,990 บาท และพร้อมขายในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2015 ที่จะถึงนี้ครับ