คงไม่ปฏิเสธ ว่ารูปแบบการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ IT ต่างๆผ่านสายนั้น ที่นิยมที่สุดก็เห็นจะเป็น USB ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ยอดการจำหน่ายแต่ละปี ก็มีมากถึงกว่าปีละ 3 พันล้านพอร์ต
แต่ก็มีบริษัทบางเจ้า ที่พยายามพัฒนาพอร์ตการเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่มาให้ดีกว่าเพื่อทดแทน ตัวอย่างเช่น Thunderbolt ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Apple และ Intel และแน่นอนว่าตอนนี้ USB ก็มีอะไรที่จะเอามาใช้ต่อกรด้วยแล้ว นั่นก็คือ USB Type-C นั่นเอง
ขนาดของหัวเสียบของ USB Type-C นั้น พอๆกันกับหัวแบบ Micro-B แต่ความสามารถที่โดดเด่นอย่างนึงคือตัวสายสามารถกลับด้านได้แบบอัตโนมัติ หัวทั้งสองด้านจะเหมือนกัน และสามารถที่จะเสียบด้านไหนกับตัวเครื่องก็ได้ ไม่ต้องกลัวกว่าจะเสียบผิดทางแต่อย่างใด เพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยมาพะวงอีกต่อไป และนอกจากที่จะกลับฝั่งได้แล้ว เรื่องการพลิกหัวเสียบขึ้นลงก็ไม่ต้องกังวลด้วยเช่นเดียวกัน ลักษณะจะคล้ายกันกับหัว Lightning ของ Apple ที่ใช้ในเครื่อง iPhone และ iPad เลย
นอกจากนั้น USB Type-C นี้ ยังรองรับมาตรฐาน USB 3.1 ใหม่ที่จะมาอีกด้วย รองรับความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดที่ 10Gbps และมีรองรับการส่งกำลังไฟได้สูงถึง 20V (100W) และ 5A ซึงเครื่องโน๊ตบุ๊คขนาด 15 นิ้วส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ก็ใช้พลังงานอยู่เพียงแค่ที่ราวๆ 60W ดังนั้นรูปแบบการเชื่อมต่อสายแบบนี้ ก็รองรับได้ทุกเครื่องอย่างแน่นอน อาจจะยกเว้นเพียงแค่พวกเครื่องกลุ่มที่ใช้พลังงานมากเป็นพิเศษอย่าง Mobile Workstation หรือพวกกลุ่ม Gaming เท่านั้น
และถ้าหากว่าเป็นอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อ ที่ต้องใช้ไฟเลี้ยงอย่างฮาร์ดดิสก์ External เมื่อเปลี่ยนมาใช้พอร์ตแบบใหม่นี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องต่อแหล่งจ่ายไฟเพิ่มอีกเลย เพราะเพียงแค่พอร์ตหัวเดียวที่เชื่อมต่อเข้าไป ก็มีไฟเลี้ยงมากพอที่จะใช้งานได้แล้ว และการจ่ายไฟที่ว่านี้ ก็ยังสามารถที่จะจ่ายไฟจากทางไหนก็ได้ คือจะเอามาชาร์จจากเครื่องโน๊ตบุ๊คเข้าแบตเตอรี่สำรอง หรือจากแบตเตอรี่สำรองเข้าโน๊ตบุ๊คก็ได้
ที่มา: CNET