ในงาน Mobile World Congress 2015 หรือ MWC 2015 ที่ผ่านมานั้นนอกจากจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นใหม่กันออกมาอย่างมากมายแล้วสิ่งหนึ่งที่ได้รับการเปิดตัวร่วมด้วยในงานและน่าสนใจไม่แพ้กันก็คืออุปกรณืเสริมสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตครับ โดยทาง Sandisk ผู้ผลิตแหล่งเก็บข้อมูลชื่อดังได้ใช้โอกาสในงาน MWC 2015 นี้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถึง 3 รายการเลยทีเดียวครับ
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวออกมานั้นก็หนีไม่พ้นผลิเตภัณฑ์ที่ทาง Sandisk เขาถนัดอย่าง Flash Memory ครับ โดยที่น่าสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น microSD Card ขนาดความจุ 200 GB แบบ Class 10 ที่รับรองได้ว่าผู้ใช้งานจะได้ใช้งานเก็บข้อมูลกันแบบจุใจอย่างแน่นอน แถมยังมี Dual Drive ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android และ iXpand ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS และท้ายสุดกับ High-endurance microSD card ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับ dashcams และ home security systems โดยแต่ละอย่างจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ
200GB microSD card
เริ่มต้นกันที่ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากที่สุดกับ 200GB Ultra microSDXC UHS-I flash memory card ที่สามารถนำไปใช้งานร่วมกันได้ทั้งกับสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, กล้องถ่ายรูป และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีช่องสำหรับใส่ microSD Card โดยเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมานั้นเราได้เห็น microSD Card ที่มีความจุสูงถึง 128 GB ออกมาแล้ว แต่ปีนี้แค่ช่วงต้นปี Sandisk ก็ทำลายกำแพงความจุของ microSD Card ไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
200GB Ultra microSDXC UHS-I flash memory card ยังคงมาพร้อมกับความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่สูงสุดถึง 90 MBps แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีครับว่าด้วยขนาดความจุระดับนี้และอัตราการโอนถ่ายข้อมูลระดับนี้ ราคาของตัวการ์ดย่อมสะเทือนกระเป๋าตังค์ของเราๆ ท่านๆ อย่างแน่นอน โดยการ์ดตัวนี้ทาง Sandisk กำหนดราคาไว้ในช่วง $400 หรือประมาณ 13,200 บาทเลยทีเดียวครับ
Dual Drive and iXpand
มาถึงอุปกรณ์ชิ้นที่ 2 และ 3 อย่าง 32GB Ultra Dual USB Drive ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เพื่อที่จะทำการโอนถ่ายข้อมูลจากตัวอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android ไปยัง PC โดยเฉพาะ ซึ่ง 32GB Ultra Dual USB Drive รุ่นใหม่นี้ได้ถูกออกแบบมาโดยใช้ช่องเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ครับ(และยังคงมีช่องเชื่อมต่อแบบ USB 3.0 แบบธรรมดามาด้วยสำหรับใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าได้อีกครับ)
การใช้งานนั้นก็ง่ายดายครับโดยผู้ใช้สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน Memory Zone เพื่อที่จะทำการโอนถ่ายข้อมูลไปมาระหว่างอุปกรณ์หรือเก็บไว้บน cloud อย่าง Dropbox และ OneDrive ได้อีกด้วยครับ ทั้งนี้ 32GB Ultra Dual USB Drive จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้เป็นต้นไปด้วยราคา $40 หรือประมาณ 1,320 บาทครับ
สำหรับ iXpand Flash Drive นั้นจะทำงานแบบเดียวกันกับ Ultra Dual USB Drive ครับเพียงแต่ว่า iXpand Flash Drive นั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS โดยเฉพาะ โดยจะไม่มีช่องเชื่อมต่อแบบ USB Type-C มาให้แต่จะใช้ช่องเชื่อมต่อแบบ Apple Lightning แทนครับ ที่สำคัญก็คือ iXpand Flash Drive นั้นจะทำได้แค่เพียงการ copy ไฟล์เท่านั้นไม่สามารถที่จะ move ไฟล์จากตัวอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ iOS มาได้โดยตรงครับ
การใช้งาน iXpand Flash Drive นั้นทาง Sandisk ได้มีแอปพลิเคชันรองรับที่มีชื่อว่า iXpand Sync ซึ่งรองรับการใช้งานร่วมกับ TouchID ในการยืนยันตัวตนได้ด้วยครับ ทั้งนี้ iXpand Flash Drive รุ่นใหม่ที่ได้รับการเปิดตัวออกมานั้นจะมีขนาดความจุอยู่ที่ 128 GB (รุ่นเก่าจะมีความจุอยู่ที่ 64 GB) โดยจะเริ่มวางขายตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปสนนราคาอยู่ที่ $150 หรือประมาณ 4,950 บาทครับ
High-endurance microSD card
และก็มาถึงผลิตภัณฑ์ชิ้นสุดท้ายกับ High-endurance microSD card ซึ่งก็มีหน้าตาเหมือนกับ microSD Card ทั่วไปนี่แหละครับแต่จะมาในสีขาวเพื่อเป็นการบ่งบอกถึงตัวรุ่นโดย High-endurance microSD card นั้นถูกออกแบบมาเพื่อที่จะใช้งานร่วมกับdashcams และ home security systems ที่สามารถทำให้ตัว microSD Card ทั่วไปสามารถที่จะพังได้ง่ายโดยเฉพาะ เนื่องจากว่า High-endurance microSD card ได้ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้งานร่วมกับการบันทึกข้อมูล(ในรูปแบบวีดีโอ) ที่มีความต่อเนื่องในการใช้งานมากกว่าจึงพังยากกว่าครับ
ทั้งนี้ High-endurance microSD card จะมีด้วยกันถึง 2 โมเดล คือ 64 GB ที่มีอายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 10,000 ชั่วโมง โดยจะมีราคาอยู่ที่ $150 หรือประมาณ 4,950 บาท และอีกโมเดลหนึ่งคือ 32 GB ที่มีอายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 5,000 ชั่วโมง โดยจะมีราคาอยู่ที่ $85 หรือประมาณ 2,800 บาท ซึ่งทาง Sandisk รองรับว่า High-endurance microSD card ทั้ง 2 โมเดลนั้นสามารถทนได้ทั้งสภาพอากาศที่ร้อนระอุหรือเย็นยะเยือกได้เป็นอย่างดี แต่ว่าจะมีระยะเวลาประกันตัวการ์ดมาที่ 2 ปีเท่านั้น และพร้อมวางขายแล้วในสหรัฐอเมริกา, ยุโรป และเกาหลีใต้ครับ
ที่มา : cnet