Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

Microsoft News

Microsoft พัฒนาระบบการคัดแยกสิ่งของผ่านรูปภาพ ที่ดีที่สุดในโลก

การเกทับกันไปมาในวงการเทคโนโลยีเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ดีกว่าผู้อื่นได้ถือเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่เราสามารถพบเจอได้ทั่วไปครับ

การเกทับกันไปมาในวงการเทคโนโลยีเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ดีกว่าผู้อื่นได้ถือเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่เราสามารถพบเจอได้ทั่วไปครับ เหตุผลนั้นก็อาจจะเพราะว่าส่วนหนึ่งแต่ละบริษัทเองก็ต้องการที่จะโฆษณาเทคโนโลยีที่ตัวเองกำลังพัฒนาอยู่ รวมไปถึงพยายามชักจูงให้ผู้ใช้(ซึ่งในที่นี้อาจจะหมายถึงลูกค้าที่จะซื้อเทคโนโลยีนั้นไปใช้งาน) ทำการซื้อเทคโนโลยีของบริษัทตัวเองไปใช้งานมากกว่า ล่าสุดในช่วงไม่นานผ่านมานี้ทาง Microsoft ได้เผยผลงานทางด้านวิชาการทางด้านการวิจัยการประเมินแยกมนุษย์ออกจากโปรแกรมด้วยการใช้ภาพออกมาครับ

microsoft logo 600

Advertisement

จากผลงานการวิจัยที่ทาง Microsoft ตีพิมพ์ออกมานั้นก็เรียกได้ว่าเป็นการเกทับ Baidu ที่ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในลักษณธเดียวกันออกมาก่อนหน้านี้ไม่นานมากนักครับ โดยหากอ้างอิงจากเอกสารงานวิจัยของทาง Microsoft พบว่าเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดในการประเมินแยกมนุษย์ออกจากโปรแกรมจากก่อนหน้านี้ที่เคยใช้ข้อมูล ImageNet dataset มีเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดอยู่ที่ 5.1% แต่การวิจัยรูปแบบใหม่นั้นพบว่าการประเมินแยกมนุษย์ออกจากโปรแกรมมีเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดลดลงเหลือแค่ 4.94% ในขณะที่งานวิจัยของทาง Baidu นั้นมีเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดอยู่ที่ 5.98% ครับ

msrdl1 600

แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ก็มีงานวิจัยในรูปแบบของ Google ตีพิมพ์ออกมาในปี 2014 ครับ โดยงานวิจัยของทาง Google นั้นมีเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดอยู่ที่ 6.66% ดังนั้นทาง Microsoft จึงเคลมได้อย่างเป็นทางการครับว่าขั้นตอนวิธีที่ Microsoft ใช้ในการประเมินแยกมนุษย์ออกจากโปรแกรมด้วย ImageNet dataset นั้นมีความถูกต้องมากที่สุดในโลก(ในเวลานี้) อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่างานวิจัยของทาง Microsoft นั้นจะไม่มีข้อผิดพลาดครับ เพราะทาง Microsoft ได้บอกเอาไว้ว่าการประเมินแยกมนุษย์ออกจากโปรแกรม ขึ้นอยู่กับระดับความรู้และพื้นฐานของความเข้าในในชุดรูปภาพของมนุษย์คนนั้นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งสิ่งนี้เป็นปัจจัยที่ทาง Microsoft ต้องหาทางแก้ไขต่อไปครับ

msrdl2 600

ตัวอย่างของความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นได้นั้นก็เป็นไปดังรูปทางด้านบนครับ อย่างเช่นรูปที่อยู่ตรงกลางที่เป็นนักร้องยืนร้องเพลงและดีดกีตาร์ไปด้วยซึ่งมนุษย์ที่มีความเข้าใจแตกต่างกันไปนั้นอาจจะมีคำตอบที่แตกต่างกันไปซึ่งหากดูที่คำตอบ 1 – 5 แล้วเรียกได้ว่าทุกคำตอบนั้นก็ถูกหมดสำหรับรูปนั้น แต่ในกรณีของ Microsoft นั้นจะมีการใช้รูปภาพเป็นชุดที่มีความแตกต่างกันแต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันอยู่ซึ่งนั่นจะทำให้มนุษย์สามารถที่จะเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้มากที่สุดครับ(แน่นอนว่าหากเป็นโปรแกรมแล้วก็จะไม่สามารถที่จะทำการแยกได้ครับว่าภาพชุดนั้นมีสิ่งใดที่เหมือนกัน แต่ด้วยผลลัพธ์ที่ยังคงมีเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดอยู่ทำให้เห็นได้ว่ายังมีบางชุดภาพที่ไม่เหมาะสมในการนำมาใช้เป็นข้อมูลครับ)

อีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดในการประเมินแยกมนุษย์ออกจากโปรแกรมนั้นก็คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นสามารถที่จะทำการเรียนรู้ข้อผิดพลาดเพื่อที่จะทำการอัพเดทข้อมูลให้กับตัวเองได้ด้วยครับ(หรือที่เรารู้จักกันในระบบปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า AI ซึ่งลึกลงไปกว่านั้นจะเรียกว่า Machine Learning) ซึ่งนั่นทำให้โปรแกรมสามารถทำการเลือกข้อมูลใหม่ได้หากเจอกับเซ็ทของภาพข้อมูลเก่าๆ ซึ่งก็เป็นปัญหาที่ทาง Microsoft จะต้องทำการแก้ไขต่อไปเช่นเดียวกันครับ

ที่มา : gigaom

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

IT NEWS

Microsoft ยังคงเดินหน้าปรับโครงสร้างภายในของ Windows 11 อย่างต่อเนื่อง และการเปลี่ยนแปลงล่าสุดอาจไม่ถูกใจผู้ใช้บางกลุ่มนัก โดยเฉพาะคนที่ใช้เครื่องสเปกไม่แรงมากนัก หลังจากมีการยืนยันว่า Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 และ 24H2 จะเปิดใช้บริการระบบหนึ่งเป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีประวัติเรื่องการกินทรัพยากรเครื่องอย่าง CPU, RAM และดิสก์ อยู่พอสมควร การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวถูกพบในอัปเดตสะสมประจำเดือนธันวาคม 2025 ซึ่งปล่อยออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผลกับทั้ง...

IT NEWS

กระแสเกม Xbox ถูกพอร์ตลง PlayStation กลายเป็นประเด็นใหญ่ในปีที่ผ่านมา และล่าสุดข้อมูลใหม่ชี้ว่า ผู้ที่เริ่มต้นการขยับครั้งสำคัญนี้กลับไม่ใช่ Microsoft อย่างที่หลายคนคิด แต่เป็นฝั่ง Sony เองที่ติดต่อไปยัง Microsoft เพื่อสอบถามความเป็นไปได้ในการนำเกม Flight Simulator ไปลง PlayStation ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของยุคเกมข้ามแพลตฟอร์มในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จุดเริ่มต้น: ไอเดียนำ Flight Simulator ลง...

IT NEWS

ในเวลาที่ RAM กลายเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ราคาขยับสูงขึ้นแทบทุกเดือน ผู้ใช้ Windows 11 กลับต้องเจอกับอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่ควรเกิดขึ้น นั่นคือ แอปยอดนิยมหลายตัวใช้ RAM มากผิดปกติ แม้จะเปิดทิ้งไว้เฉย ๆ ก็ตาม สาเหตุสำคัญมาจากการที่นักพัฒนาจำนวนมากหันไปใช้เทคโนโลยีเว็บ เช่น Electron และ WebView2 ในการสร้างแอปเดสก์ท็อป แทนการสร้างแอป native ที่ทั้งเบาและมีประสิทธิภาพมากกว่า แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยให้บริษัทต่าง...

IT NEWS

Microsoft เดินหน้าปรับปรุงระบบความปลอดภัยของ Windows 11 อย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือ Smart App Control ซึ่งแต่เดิมจำเป็นต้องติดตั้ง Windows แบบ Clean Install เท่านั้นถึงจะเปิดใช้งานได้ แต่หลังอัปเดต Insider Build ล่าสุด ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดฟีเจอร์นี้ได้ทันทีจาก Windows Security โดยไม่ต้องล้างเครื่องใหม่อีกต่อไป ความเปลี่ยนแปลงนี้เริ่มปรากฏใน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก