หากความต้องการของคุณคือ โน๊ตบุ๊คที่ Flip หรือหมุนหน้าจอได้ สำหรับการชมภาพยนตร์ แต่ไม่ได้เน้นที่การใช้งานไปในทางโหมดแท็ปเล็ตมากนัก Lenovo Edge 15 จะเป็นคำตอบที่น่าสนใจสำหรับคุณ ด้วยการปรับปรุงที่มากขึ้นกว่าในรุ่น Flex 2 15 พร้อมเพิ่มทางเลือกด้วยรุ่นพรีเมียม เช่นการใช้ Discrete Graphic และซีพียู Core i7 โดยตัวเลือกนี้มีค่าใช้จ่ายประมาณ 549USD กับประสิทธิภาพที่รองรับการทำงานและความบันเทิงได้ดีทีเดียว
การออกแบบ
จะค่อนข้างคล้ายคลึงกับ Flex 12 15 ในช่วงปีที่แล้ว สำหรับ Edge 15 มาบนฝาพับที่เป็นอลูมิเนียมสีดำด้าน ส่วนภายในเป็นพลาสติกที่ดีไซน์ในแบบโลหะสีดำ เป็นลวดลาย บาทนพับที่มีความหนาและแข็งแรง รองรับการหมุนได้ 300 องศา เพื่อให้หน้าจอนั้นหันออกด้านนอกได้ ในแบบ Stand mode ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยในการใช้สำหรับนำเสนองานหรือการชมภาพที่ดีขึ้น เมื่ออยู่ในโหมดนี้ แป้นพิมพ์จะถูกปิดอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการกดอย่างไม่ตั้งใจ เมื่ออยู่บนพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งหลายคนนั้นน่าจะชื่นชอบใน Stand mode นั่นเพราะในขณะที่ดูหนังอยู่บนเตียง แป้นพิมพ์ที่อยู่ด้านหลังจะเป็นตัวดันหรือช่วยพยุงหน้าจอให้ โดยไม่ต้องหาสิ่งใดมาช่วยรองหรือประคอง
Lenovo Edge 15 มีขนาดเดียวกับ Flex 2 15 ด้วยมิติ 15 x 10.8 x 1.06 inches โดยลดน้ำหนักลงไปครึ่งปอนด์ จาก 5.6 ไปเป็น 5.1 ปอนด์ ที่มีขนาดใหญ่กว่าโตชิบา Sattelite P55W แต่ของ Toshiba จะหมุนจอได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึง Edge 15 ยังมีขนาดที่บางและเบากว่า Acer Aspire E15 Touch (15 x 10 x 1.24 inches)
Specification
- CPU : 1.7-GHz Intel Core i5-4210U
- Operating System : Windows 8.1
- RAM : 6GB RAM Upgradable to 8GB
- Hard Drive Size : 1 TB
- Hard Drive Speed : 5,400rpm
- Hard Drive Type : Serial ATA
- Display Size : 15.6 Native Resolution 1920×1080
- Graphics Card : Intel HD 4400 Video Memory Shared
- Wi-Fi : 802.11ac Wi-Fi Model Broadcom
- Bluetooth : Bluetooth 4.0 Mobile Broadband
- Touchpad Size : 4.25 x 2.75-inches Ports
- HDMI Ports, RJ-45 Ports, SD card slot Ports, USB 2.0, SD/MMC memory reader
- Size 15.04 x 10.87 x 1.06-inches
คีย์บอร์ดและทัชแพด
ภายในดูค่อนข้างมีราคาทีเดียว Lenovo จัดชุดคีย์บอร์ดแบบ Full-size มาด้วย โดยมีช่อง Numpad แบบครบ พร้อมทัชแพดขนาด 4.2″ x 2.75″ และคีย์ขนาดใหญ่ ที่มีระยะห่างระหว่างแป้นคีย์ 1.4mm ด้วยน้ำหนักเพียง 50 กรัม พร้อมปุ่มลูกศรที่มีขนาดเต็มคีย์ ช่วยให้การกดแม่นยำกว่า แม้ว่าปุ่ม Shift ทางด้านขวาจะมีขนาดเล็กลงไปบ้างก็ตาม ส่วนบนทัชแพดนั้นเป็นแบบ Buttonless ซึ่งหมายถึงไม่ได้ยกขึ้นมาเป็นปุ่มเสียทีเดียว แต่ถูกฝังลงไปในแผงเลย ทำให้การควบคุมไหลลื่นขึ้น ให้ความสบายในแง่ของการใช้มัลติทัชที่กวาดพื้นที่ได้มากกว่าไม่ว่าจะเป็นการใช้สองนิ้วซูมหรือเลื่อนก็ตาม
หน้าจอแสดงผล
สำหรับ Edge 15 นี้ มาพร้อมหน้าจอมาตรฐานในแบบ Full-HD (1920 x 1080) เมื่อใช้สำหรับดูหนังหรือเปิดวีดีโอที่มีฉากการต่อสู้ เอฟเฟกต์ ให้ความรู้สึกได้เนียนตามากกว่า รวมถึงเรื่องของสีสันก็อยูในเกณฑ์ที่ทำได้ดี ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ Edge 15 ให้หน้าจอที่มีความสว่างระดับ 199 nits ตามมาตรฐาน ใกล้เคียงกับ Flex 2 15 ที่ให้ความสว่างที่ 200 nits ซึ่งหากเทียบกับเมนสตรีมโน๊ตบุ๊คบางรุ่นนั้น ดูจะน้อยกว่านิดหน่อย เพราะเท่าที่ได้เจอจะอยู่ที่ 253 nits ในด้านของค่าสีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 57.7 ในช่วงของ sRGB gamut ส่วนของ Aspire E15 Touch อยู่ที่ 60% ส่วน Sattelite Radius P55W อยู่ที่ 95% แต่อย่างไรก็ดีในเรื่องของการเล่นเกมก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด
ระบบเสียง
ลำโพงสเตอริโออยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของปุ่มยางด้านล่างของโน๊ตบุ๊ค ให้เสียงได้ดีสำหรับห้องขนาดกลางและเล็ก ซึ่งฟังแล้วให้เสียงสำหรับ Digitalism’s ในภาพรวมได้อย่างน่าฟัง รวมถึงไลน์ของเบสอาจจะอยู่ในเกณฑ์ปานกลางนิดหน่อย รวมถึงเสียงสูงที่อาจจะไม่เด่นนัก อย่างไรก็ดี Edge 15 ยังมีพร้อมระบบเสียง Dolby Digital Plus ที่เป็นซอฟต์แวร์ช่วยให้สลับการทำงานของ Equalizer ระหว่างเล่นเกม ดูหัง ฟังเพลงและอื่นๆ ได้ด้วยการตั้งค่าโพรไฟล์ตามใจชอบอีกด้วย
ความร้อน
เช่นเดียวกับใน Flex 2 ก่อนหน้านี้ Edge 15 ยังเริ่มต้นการทำงานด้วยความเย็นสบายๆ ส่วนความร้อนหลังการทดสอบด้วย Video Streaming จาก Hulu ความร้อนที่วัดได้จากด้านล่างมีเพียง 83 องศาฟาเราไฮต์ ส่วนความร้อนตรงกลางระหว่างพื้นที่ปุ่ม G และ H นั้นเย็นสบายๆ เลยทีเดียว
พอร์ตต่อพ่วง
ก็ยังคงสไตล์ของโน๊ตบุ๊ค 15 นิ้ว นั่นคือ มาพร้อมพอร์ต USB 3.0 และ 2.0 จำนวน 3 ช่อง และมี HDMI รวมถึง Ethernet LAN และ 2-in1 SD/ MMC Card Reader มาให้ด้วย
ประสิทธิภาพ
Edge 15 นี้มาพร้อมซีพียู Intel Core 15-4210U และแรม 6GB พร้อมฮาร์ดดิสก์ 1TB กำลังเหมาะกับการใช้งานสำหรับความบันเทิง สตรีมมิ่งวีดีโอและท่องเว็บไซต์ในแต่ละวัน ที่น่าสนใจก็คือ การรองรับสตรีมในระบบ 1080p นั้นให้อารมณ์ความสนุกสำหรับการชมบน Youtube ได้ดีทีเดียว จากการทดสอบด้วย Geekbench 3 สำหรับทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมนั้น Edge 15 นี้ได้คะแนนอยู่ที่ 4722 นั้นถือว่าทำคะแนนได้อย่างน่าทึ่งในราคา 460 USD เท่านั้น
ส่วนการทดสอบด้วยการจับคู่ 20000 รายชื่อกับยที่อยู่บน Open Officve ร่วมกับ Edge 15 ปรากฏว่าใช้เวลาไป 5 นาที 7 วินาที เรียกว่าทำได้เร็วทีเดียว ส่วนการทดสอบร่วมกับฮาร์ดดิสก์ 1TB 5400rpm ด้วยการ Duplicate 4.97GB สามารถทำอัตราการรับ-ส่งข้อมูลได้ที่ 23.1 MB/s
ในการเล่นเกมนั้น มีกราฟฟิก HD440 มีส่วนช่วยในการเล่นในเกมหลายตัวได้ไม่ยาก จะมีเพียงเกมบางอย่างเช่น Diablo III : Reaper ที่ Edge 15 ทำเฟรมเรตได้แตะๆ ที่ 30fps บนความละเอียดระดับ 1920 x 1080 และต้องตั้งค่าในโหมด Medium หรือ Low เช่นเดียวกับการทดสอบ 3DMark Fire Strike อาจจะทำได้ไม่ดีนักกับคะแนนที่อยู่ในเกณฑ์ของระบบกราฟฟิกที่ไล่เลี่ยกัน แตะอยู่ที่ประมาณ 549 คะแนนเท่านั้น
โดยในแง่ของการประหยัดพลังงาน เนื่องจากระบบจะไม่ได้ใช้กราฟฟิกที่ร้อนแรงมากนัก ก็ ทำให้ระยะเวลาในการทำงานอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี ด้วยระยะเวลาการทำงาน 5 ชั่วโมง 13 นาที ในการทดสอบ Battery Test
Conclusion
ในภาพรวมของ Lenovo Edge 15 อาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับคนที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่สามารถกลายร่างเป็นแท็บเล็ตได้แบบสมบูรณ์ แต่ต้องการโน๊ตบุ๊คในราคาที่สมเหุสมผล ได้พลังจาก Intel Core i5 และมีจอภาพที่คมชัดสดใส ความละเอียดระดับ Full-HD เป็นหลัก รวมถึงถ้าต้องการความสามารถในการนำเสนอหรือโหมดที่เปิดใช้ชมภาพยนตร์บ่อยๆ ฝาพับแข็งแรงและมีฟีเจอร์รองรับการพับหน้าจออย่างเป็นเหตุเป็นผลแล้ว เชื่อว่า Edge 15 นี้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัวแน่นอน
ที่มา – laptopmag