มีคำกล่าวกันว่าการที่จะขึ้นเป็นที่ 1 นั้นไม่ได้เป็นเรื่องยาก แต่การที่จะครองตำแหน่งที่ 1 นั้นให้ยาวนั้นนั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่าครับ และดูเหมือนกับว่า LG นั้นจะเรียนรู้ที่จะใช้คำกล่าวนี้เป็นอย่างดีดังจากที่เราได้เห็นการพัฒนา G3 จาก G2 ซึ่ง G3 นั้นถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่ทำให้ LG กลายมาเป็นบริษัทที่มีชื่ออยู่ในแนวหน้าของวงการสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายแถมยังสามารถที่จะทำการสู้กับ Samsung ได้อย่างสมน้ำสมเนื้ออีกด้วย(แต่หากจะว่าไปแล้ว Samsung เองก็พลาดกับ Galaxy S5 ด้วยตัวของ Samsung เองอยู่พอสมควรครับ)
บางคนอาจจะคิดว่าด้วยปุ่มที่กดทางด้านหลัง(ที่ไม่เหมือนใคร) และหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วนั้นได้ส่งผลอย่างมากกับการต่อสู้ของ G3 ที่ต้องต่อกรกับ Galaxy Note 4 และ Galaxy S5 แถมการตัดราคาในช่วงเวลาไม่นานที่ผ่านมานั้นก็ทำให้ G3 นั้นสามารถเข้าไปครองใจผู้ใช้หลายๆ คนได้อย่างไม่ยากเย็นมากนัก ทว่าสมาร์ทโฟนนั้นเป็นอุปกรณ์ทางด้านเทคโนโลยีที่มีช่วงอายุไม่เหมือนกับไวน์ครับ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานเท่าไรอุปกรณ์ทางด้านเทคโนโลยีก็จะตกยุคลงไปอย่างรวดเร็ว(ในขณะที่ไวน์ยิ่งบ่มนานยิ่งมีราคาแพง)
ในการที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ทางด้านเทคโนโลยีดีขึ้นไปกว่าเดิมนั้น บางทีก็ไม่มีวิธีการไหนที่จะดีไปกว่าการผ่านการทดลองครับ โดยก่อนหน้านี้ไม่นานเท่าไรนักทางบริษัท LG เองก็ได้ออกมายืนยันกับคำกล่าวนี้และแถมให้อีกว่าเพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมนั้นขั้นตอนในการผลิตนั้นจะต้องยาวนานมากกว่าเดิม สิ่งหนึ่งที่ทาง LG จะนำมาใช้ก็คือกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ในส่วนของการดีไซน์ หรือการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ซึ่งวิธีการนี้ของ LG นั้นก็น่าประทับใจครับ ดังนั้นคงต้องคอยดูกันต่อไปว่า G4 จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร
ลองคิดกันดูเล่นๆ ได้ว่า LG อาจจะมีการเปลี่ยนรูปแบบไปใช้วัสดุที่เป็นโลหะแบบทั้งตัวเหมือนกับทาง HTC ที่เคยใช้กลยุทธ์นี้แล้วได้ดีมาก่อน ฟังดูน่าสนใจเช่นเดียวกันครับ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ามีคนที่ทำแบบนี้อยู่ก่อนหน้านี้พอสมควรแล้ว หรือหากจะเปลี่ยนตำแหน่งปุ่มต่างๆ ให้เปลี่ยนไปจากเดิมแล้วหล่ะก็ บางทีอาจจะต้องคิดมากหน่อยครับเนื่องจากว่าตั้งแต่ที่ LG ได้มีการวางรากฐานตำแหน่งปุ่มทางด้านหลังมาตั้งแต่ในรุ่น G2 จนมาถึง G3 ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต่างก็เริ่มคุ้นเคยกับรูปแบบการใช้งานแบบนี้แล้ว
หรือถ้าหากจะทำให้ G4 มีความบางลงกว่าเดิม ก็ต้องไม่ลืมว่า G3 เองนั้นก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความบางมากอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นความแตกต่างไปจากเดิมสักเท่าไรนัก ไม่แน่ LG อาจจะยืมกลยุทธ์มาจาก G Flex 2 ที่มีการใช้ฝาหลังที่สามารถลบลอยขีดข่วนได้เอง หรือการเป็นหน้าจอแบบโค้ง ไม่ว่าจะทางใดก็ดูเหมือนกับว่ายังไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง G4 ได้อยู่ดี
เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกนั้นคงเป็นเรื่องที่คาดเดากันยากครับ แต่สิ่งที่สามารถจะรู้ได้อย่างแน่ชัดเลยก็คือในเรื่องของกล้องนั้นทาง LG จะต้องเพิ่มสเปคขึ้นมาอย่างแน่นอน แต่จะเป็นกล้องที่มาพร้อมกับความละเอียด 16 MP หรือ 20 MP ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับ ส่วนสเปคอย่างอย่างอื่นนั้นคงหนีไม่พ้นการใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 810 และหน่วยความจำ(Ram) ขนาด 4 GB รองรับกับการใช้งาน G Pen stylus ซึ่งต้องเป็นธรรมดาที่สเปคจะมาในระดับสูงเพราะเรากำลังพูดถึงสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะมาต่อกรกับ Galaxy S6 ครับ
ที่มา : vr-zone