เรื่องของการเลี้ยงลูกด้วยการให้ลูกอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากจนเกินไปนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นปัญหาแค่ที่เมืองไทยเราประเทศเดียวเท่านั้นครับ แต่ในปัจจุบัน พ่อแม่สมัยใหม่เริ่มมีเวลาน้อยลงและให้ลูกอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ลูกกลายเป็นเด็กติดเกมหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปโดยปริยาย ลองสังเกตได้ง่ายๆ เวลาที่คุณเดินทางด้วยขนส่งมวลชนสาธารณะดูครับว่ารอบๆ ข้างของคุณนั้นมีแต่คนที่ก้มหน้าอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กหรอนิกส์หรือไม่ ผมมั่นใจอย่าง 100% ครับ ว่าคุณต้องเจออย่างแน่นอน
ปัญหาดังกล่าวนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นปัญหาระดับประเทศที่หลายๆ ประเทศต่างก็ให้ความสนใจในปัญหานี้กันครับ ล่าสุดทางสื่ออย่าง Central News Agency ของไต้หวันก็ได้รายงานออกมาครับว่า ทางไต้หวันได้มีการทบทวนตัวบทพระราชบัญญัติการคุ้มครองสวัสดิการสิทธิเด็กและเยาวชนใหม่อีกครึ่งจากที่ในเนื้อหาของตัวกฏหมายนี้ได้ห้ามเด็อายุต่ำกว่า 18 ปี จากการสูบบุหรี่, ดื่มเหล้า และใช้ยาเสพติด ให้ขยายครอบคลุมถึงการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยครับ
ตามข้อมูลนั้นเผยว่าข้อกฏหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นได้กำหนดให้เด็กไม่ควรจะต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่องยาวนานอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งถ้าหากผู้ปกครองไม่ใส่ใจในการระวังไม่ให้ลูกหลานใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากจนเกินไปแล้วมีสิทธิ์ที่จะโดนปรับได้สูงถึง?NT$50,000 หรือประมาณ 71,000 บาท โดยทั้งนี้การปรับจะเกิดขึ้นเมื่อมีการปล่อยให้เด็กใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จนส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจครับ
ทั้งในในตัวกฎหมายใหม่นั้นก็ไม่ได้ระบุไว้อย่างเป็นทางการครับว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นควรจะอยู่ในช่วงเท่าใด แต่ทางผู้ที่นำเสนอให้มีการแก้ไขกฏหมายฉบับนี้ใหม่อย่าง?Lu Shiow-yen ก็ได้ออกมาบอกกับสื่อ CNA ครับว่าการแก้ไขนี้เกิดขึ้นก็เพื่อที่จะเป็นการปกป้องเยาวชนไม่ให้ใช้เวลาที่มีค่าไปกับการอยู่แต่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และยังจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ปกครองหันมาเอาใจใส่ลูกหลานมากขึ้นอีกด้วยครับ
ที่มา :?straitstimes