ปีใหม่พึ่งจะผ่านไปได้ไม่นานนัก แต่ทาง Apple กลับต้องพบกับปัญหาปวดหัวในเรื่องของการฟ้องร้องอีกแล้วครับ โดยในช่วงก่อนที่จะสิ้นปี 2014 ได้เพียงไม่กี่วันนั้นได้มีรายงานหลุดออกมาว่า ผู้ใช้ได้รวมกันยื่นคำร้องต่อศาลเมือง Bay Area ในเคาน์ตีซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ฟ้อง Apple ในข้อหาที่ว่า iOS 8 นั้นใช้พื้นที่ในการติดตั้งมากจนเกินไปซึ่งเป็นผลทำให้แหล่งเก็บข้อมูลของผู้ใช้นั้นหรือไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ โดยหากเป็น iPhone 5s นั้นก็จะกินพื้นที่ไปถึง 18.1% จากพื้นที่ทั้งหมด ถ้าเป็น iPod ก็จะกินพื้นที่ถึง 23.1% ของพื้นที่ทั้งหมดครับ
ปัญหานี้มีผลต่อเนื่องให้ผู้ใช้เสมือนกับว่าโดนบังคับให้ซื้อพื้นที่จาก iCloud เพิ่มกลายๆ ครับ เนื่องจากว่าอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ iOS นั้นไม่สามารถที่จะทำการเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกแบบเดียวกันกับอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android หรือ Windows Phone ได้(จริงๆ แล้ว อุปกรณ์ระบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ iOS ก็มีปัญหาเรื่องพื้นที่หายเพราะต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการก่อน จนทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงไม่ตรงกับที่โฆษณาเช่นเดียวกัน)
โจทก์ที่ได้ทำการกล่าวหา Apple นั้นพูดในเรื่องที่น่าคิดขึ้นมาครับว่า ด้วยการใช้เทคนิคอันสุดแสนจะฉลาดล้ำนี้ ผู้ใช้ iOS ที่อัพเดทเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 8 แล้ว เมื่อต้องการพื้นที่เพิ่มในการที่จะถ่ายรูปหรืออัดคลิปวีดีโอต่างๆ พวกเขาเหล่านั้นก็จำเป็นที่จะต้องทำการซื้อพื้นที่บน iCloud เพิ่มเพื่อที่จะเก็บข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นได้ครับ แน่นอนครับว่าเรื่องแบบนี้คงจะไม่ค่อนดีมากเท่าไรนักแต่ทว่าการโฆษณาโดยใช้เนื้อที่แบบไม่ตรงความจริงนั้นก็เป็นวิธีการของผู้ผลิตมาโดยตลอด โดยผู้ใช้ก็มีการรวมตัวฟ้องผู้ผลิตมาด้วยเช่นเดียวกันอย่างในปี 2012 นั้นชาวแคนาดาก็ได้รวมกันฟ้อง Apple มาแล้ว สำหรับผู้ผลิตรายอื่นอย่าง Samsung และ Microsoft ก็โดนฟ้องไปเรียบร้อยในข้อหาเดียวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกันครับ
ที่มา :?siliconbeat