ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้นได้มีการแฮกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งก็คือการที่ Sony Pictures บริษัทในเครือ Sony ถูกแฮกข้อมูลไปโดยกลุ่ม #GOP ครับ และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการปล่อยข้อมูลของหมายเลขประกันสังคมของพนักงาน(ซึ่งรวมไปถึงดารา) ใน Sony Pictures ออกมากว่า 47,000 บัญชี และยังมีข่าวอีกครับว่าข้อมูลที่แฮกเกอร์ได้ไปนั้นเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ในอนาคตของทาง Sony Pictures อีกหลายเรื่องเลยทีเดียว แน่นอนครับว่าด้วยความเสียหายขนาดนี้นั้นทางสหรัฐอเมริกาย่อมไม่อยู่เฉยๆ แน่นอนครับ
ทาง Sony ได้ตั้งทีมสอบสวนเรื่องราวนี้ขึ้นมาแต่ดูเหมือนว่าเรื่องจะไปได้ไม่ค่อยดีนักเท่าไรทางการของสหรัฐจึงเข้ามาช่วยในการสืบสวน(ข่าวอย่างไม่เป็นทางการ) โดยสามารถที่จะหาแหล่งของผู้แฮกว่าต้นทางนั้นมาจากประเทศเกาหลีเหนือ และเป็นไปได้ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับแฮกเกอร์ที่อยู่ในจีน แต่ก็ไม่แน่ชัดครับว่าการที่มีแฮกเกอร์ชาวจีนมาเกี่ยวข้องนั้นเป็นแค่เพียงการใช้เครื่อง Server จากในประเทศจีนเพื่อที่จะทำการพรางตัวแค่อย่างเดียวหรือไม่
หลังจากนั้นสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกาหรือที่รู้จักกันในชื่อว่า FBI ก็ได้ออกมาแถลงข้อมูลของการแฮกระบบหลังจากที่ทาง Sony Pictures ได้ร้องขอให้ทาง FBI เข้าไปช่วยในการสืบสวนครับว่ารัฐบาลของเกาหลีเหนือนั้นอยู่เบื้องหลังของการแฮกในครั้งนี้อย่างแน่นอน โดยหลักฐานที่นำมาประกอบนั้นมีอยู่ 3 ประเด็นด้วยกันคือ
- มัลแวร์ที่แฮกเข้าสู่ระบบของ Sony Pictures นั้นมีลักษณะเหมือนกับมัลแวร์ที่ทางเกาหลีเหนือเคยพัฒนาซึ่งความเหมือนนั้นอยู่ในส่วนของโค้ดดิ้งและขั้นตอนวิธี(Algorithm) แบบเดียวกันในบางส่วนของตัวมัลแวร์(เพิ่มเติมจากผู้เขียน : แต่ก็เป็นไปได้ว่าแฮกเกอร์อาจจะนำเอามัลแวร์ต้นฉบับของเกาหลีเหนือมาพัฒนาต่อเพื่อทำการใส่ร้ายเกาหลีเหนือก็เป็นได้ครับ)
- FBI ค้นพบว่าหมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ต้นขั้วที่ปล่อยมัลแวร์เข้าสู่ระบบของ Sony Pictures นั้นเป็น IP ที่ทางเกาหลีเหนือเคยใช้งาน(เพิ่มเติมจากผู้เขียน : เป็นที่รู้กันในวงแฮกเกอร์ครับว่าหมายเลข IP นั้นสามารถที่จะปลอมแปลงได้ ถึงจะต้องใช้ฝีมือมากหน่อยแต่ผู้ที่แฮก Sony Picture นั้นดูแล้วน่าจะมีฝีมือสูงอย่างแน่นอนครับ)
- หลักฐานชิ้นสุดท้ายที่บ่งบอกว่าเป็นเกาหลีเหนือนั้นก็คือชุดซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการโจมตี Sony Pictures นั้นมีความคล้ายคลุงกับชุดซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการโจมตีธนาคารและบริษัทสื่อของเกาหลีใต้เมื่อเดือนมีนาคม 2013 ที่ผ่านมาซึ่งในครั้งนั้นพิสูจน์ออกมาแล้วครับว่าเป็นฝีมือของเกาหลีเหนือ
นอกจากนั้นแล้วความเป็นไปได้ที่จะเป็นเกาหลีเหนือนั้นยังมีอีกหนึ่งอย่างครับ ซึ่งนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง The Interview ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการรอบสังหารผู้นำเกาหลีเหนืออย่าง Kim Jong-un ที่แน่นอนอย่างยิ่งครับว่าทางเกาหลีเหนือนั้นคงไม่ค่อยจะมีความสุขมากนักเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ จนหลายคนคิดว่านี่คือสาเหตุที่ทาง Sony Pictures ถูกแฮก จนทาง Sony Pictures ตัดสินใจที่จะไม่จัดฉายภาพยนตร์ช่วงนี้อยู่ระยะหนึ่งแต่ในที่สุดก็เปลี่ยนใจกลับมาฉายภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งในช่วงครสต์มาสนี้ครับ ถึงกระนั้นทางเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหาครับว่าการแฮก Sony Pictures ในครั้งนี้ทางเกาหลีเหนือไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่ประการใดครับ
The Interview ภาพยนตร์ที่ถูกคาดการณ์ว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด
อย่างไรก็ดีครับเรื่องนี้เป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก จนผู้นำของสหรัฐอเมริกาอย่างโอบามาได้ออกมาบอกว่าเป็นเรื่องที่ผิดมากที่ทาง Sony Pictures จะทำการหยุดการฉายภาพยนตร์เรื่องบ The Interview ครับ แถมยังบอกอีกด้วยครับว่าการแฮก Sony ในครั้งนี้นั้นไม่ได้เป็นการประกาศหรือเป็นต้นเหตุที่จะทำให้เกิดสงครามแต่อย่างใด (ซึ่งในตอนแรกนั้นได้มีกระแสข่าวในสหรัฐอเมริกาว่านี่เป็นการประกาศสงครามไซเบอร์จากทางเกาหลีเหนือ) นอกไปจากนั้นทางโอบามายังได้ต่อสายตรงไปยังประเทศจีนเพื่อขอความร่วมมือในการสืบสวนในเรื่องนี้ต่อไปครับ
ดูเหมือนกับว่าการแฮกในครั้งนี้นั้นจะกลายเป็นหนังเรื่องยาวที่น่าติดตามและสามารถนำไปทำเป็นภาพยนตร์ได้อีกครับ หากมีอัพเดทเพิ่มเติมอย่างไรทางทีมงานจะนำมารายงานให้ทุกท่านได้ทราบกันต่อไปครับ
ที่มา : theverge