ในช่วงไม่นานที่ผ่านมานี้ทางสถาบันวิเคราะห์และวิจัยการตลาดของสหรัฐอเมริกาอย่าง IDC ได้ทำการรายงานข้อมูลผลการประเมินตลาดของสมาร์ทโฟนในช่วงปี 2014 – 2018 ครับไฮไลท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรายงานฉบับนี้นั้นน่าจะเป็นผลการคาดเดาส่วนแบ่งทางตลาดของ Windows Phone ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 5.6% ในปี 2018 จากแต่เดิมที่ Windows Phone นั้นไม่สามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดได้มากกว่า 3% เลยแม้แต่ครั้งเดียว(ตั้งแต่ที่มี Android และ iPhone ออกมา) ซึ่งการได้ส่วนแบ่งทางดลาดถึง 5.6% นี้เติบโตขึ้นจากเดิมในช่วงปีปัจจุบันถึง 31.4% เลยทีเดียว
ในส่วนของ Android นั้นจะมียอดส่วนแบ่งในตลาดลดลงเหลือ 80% จากที่เคยอยู่ที่ 82.3%(ในปีนี้) สำหรับอัตราการเติบโตนั้น Android จะอยู่ที่ -9.0%?ส่วน iOS หรือ iPhone นั้นก็จะเป็นไปในทิศทางตรงข้ามกับ Android ครับคือจะสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดไปได้ถึง 13.8% เพิ่มขึ้นจาก 12.8%(ในปีนี้) แต่ก็เป็นการเพิ่มขึ้นแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น?โดยอัตราการเติบโตนั้น iOS จะอยู่ที่ 7.8% สำหรับในส่วนของรายได้รวมของสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android นั้นจะอยู่ที่ 60.9% ลดลงจากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 60.9% สำหรับ iOS นั้นถึงแม้ว่าส่วนแบ่งของจำนวนเครื่องในตลาดจะสูงขึ้นเพียงแค่เล็กน้อยแต่ทว่ารายได้นั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 33.8% จากเดิมในปัจจุบันนี้อยู่ที่ 30.4% ครับ
เราได้เห็นการเติบโตอย่างมากในตลาดสมาร์ทโฟนในช่วง 1 – 2 ไตรมาสที่ผ่านมานี้ครับ แต่หลังจากนี้ไป ทาง IDC ได้ประเมินไว้ว่าตลาดสมาร์ทโฟนนั้นจะอยู่ในช่วงขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 2014 – 2018 ตลาดสมาร์ทโฟนจะมีการเติบโตขึ้นรวมแล้วเพียงแค่ 9.8% เท่านั้นซึ่งถือได้ว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับในช่วงแต่ละปีที่ผ่านมา(โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเทียบกับในปีนี้) ทั้งนี้จำนวนสมาร์ทโฟนที่จะถูกส่งเข้าสู่ตลาดทั้งหมดในปี 2018 นั้น IDC ได้ประเมินไว้ที่ 1.9 พันล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากในปีนี้ที่มียอดการส่งสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 1.3 พันล้านเครื่องครับ
ที่หนักที่สุดก็คือทาง IDC ได้ประเมินไว้ว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android นั้นจะต้องผจญกับความยากขนานใหญ่ในการที่จะสร้างกำไรจากสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android ครับ เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากการที่ในปี 2018 นั้นผู้ผลิตใหญ่ๆ จากจีนจะก้าวเข้ามาสู่ตลาดโลกกันมากขึ้น และก็เป็นที่ทราบกันดีว่าสามาร์ทโฟนของผู้ผลิตจากจีนนั้นมีสเปคสูงแต่ราคาต่ำ(หรือกลางในระดับที่ยั่วใจใครหลายๆ คนได้) แน่นอนว่าทางผู้ผลิตรายใหญ่ๆ ในส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้มาจากประเทศจีนจะต้องเข้ามาเล่นสงครามราคากับผู้ผลิตจากประเทศจีนด้วยครับ มิเช่นนั้นแล้วก็อาจจะโดนผู้ผลิตจากจีนแย่งส่วนแบ่งในตลาดไปได้หมดนั่นเองครับ(โดยเราๆ ท่านๆ น่าจะได้เห็นผลของการสู้กันทางด้านสเปคและราคาเครื่องในช่วง 2 – 3 ปีที่จะถึงนี้ครับ)
ที่มา : vr-zone