Connect with us

Hi, what are you looking for?

Microsoft News

Microsoft ยืนยันว่า Samsung ยังค้างเงินชำระค่าสิทธิบัตรเป็นมูลค่าอยู่ที่ $6.9 ล้านเหรียญ

ถ้าหากจะมีเหตุผลใดๆ ก็ตามที่ทาง Microsoft ไม่ทำการฟ้องร้องบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android แล้วหล่ะก็ เหตุผลนั้นน่าจะเป็นเพราะการที่บริษัท Microsoft ได้มีการจัดการโน้มน้าว

ถ้าหากจะมีเหตุผลใดๆ ก็ตามที่ทาง Microsoft ไม่ทำการฟ้องร้องบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android แล้วหล่ะก็ เหตุผลนั้นน่าจะเป็นเพราะการที่บริษัท Microsoft ได้มีการจัดการโน้มน้าวให้บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android ต้องจ่ายเงินค่าภาคหลวง(ค่าสิทธิซึ่งกฎหมายกำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตให้ทำการหาประโยชน์จากทรัพยากรต้องชำระให้แก่หน่วยงานนั้นๆ คล้ายๆ กับค่าสัมปทาน) ให้กับทาง Microsoft ในสิทธิบัตรที่ทางผู้ผลิตต่างๆ นั้นอาจจะมีการละเมิดครับ

การจ่ายเงินค่าภาคหลวงนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นความลับแต่อย่างใดครับ โดยมีหลายๆ บริษัทที่ทำการจ่ายเงินค่าภาคหลวงนี้ให้กับทาง Microsoft เช่นบริษัท Samsung โดยการจ่ายเงินนั้นจะอยู่ในรูปแบบของเงินรายได้ต่อเครื่องที่ Samsung สามารถจำหน่ายอุปกรณ์ Android ได้ อย่างไรก็ตามหากอ้างอิงจากทาง Microsoft หลังจากการเจรจาหลายเดือนเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 บริษัท ในปี 2011 นั้นทั้งทาง Microsoft และ Samsung ได้ทำข้อตกลงร่วมกันในการใช้งานสิทธิบัตรและข้อตกลงทางธุรกิจที่แยกจากกัน แต่ดูเหมือนกับว่าทาง Samsung จะเห็นว่า Microsoft ได้ละเมิดในข้อตกลงนั้นที่ได้ทำไว้ร่วมกันกับทาง Samsung ครับ

Advertisement

microsoft logo 600

ในขณะที่ดูเหมือนว่าทั้งทาง 2 บริษัทจะหาทางเจรจาตกลงร่วมกันได้ แต่ทว่าดูเหมือนกับว่า Microsoft ก็ยังคงพยายามแสวงหาเงินจากทาง Samsung ครับ อ้างอิงตามเอกสารเปิดผนึกในการฟ้องร้องระหว่าง Microsoft และ Samsung นั้น ทาง Microsoft ได้ยืนยันว่าทาง Samsung ยังติดค้างเงินพวกเขาอยู่ถึง $6.9 ล้าน หรือประมาณ 213.9 ล้านบาทในจำนวนเงินที่ทาง Samsung จะต้องจ่ายให้กับ Microsoft เมื่อปีที่แล้ว Microsoft ยังคงได้ตั้งข้อสังเกตในเอกสารว่าในปีที่แล้ว Samsung ได้จ่ายเงินออกไปมากกว่า $1 พันล้านหรือประมาณ 31 พันล้านบาท ในขณะที่ข้อตกลงระหว่าง Microsoft กับ Samsung ยังมีผลใช้งานอยู่

อ้างอิงจากรองที่ปรึกษาทั่วไปของทาง Microsoft อย่าง?David Howard ว่าเรา(Microsoft) มั่นใจว่ากรณีนี้นั้นเรามีหลักฐานข้อมูลที่แข็งแกร่งและเราน่าจะประสบความสำเร็จในการฟ้องร้องนี้ ในขณะเดียวกัน Microsoft ยังให้ค่าและเคารพในความสัมพันธ์ที่เป็นคู่ค้ากับกับ Samsung ที่มีระยะเวลามาอย่างยาวนาน และยังเชื่อมมั่นว่าความสัมพันธ์ที่ดีนี้จะได้ทำการดำเนินการต่อไป ซึ่งเรื่องนี้นั้นก็ยังไม่มีความชัดเจนออกมาจากทางฝ่าย Samsung ครับว่าจะจ่ายเงินที่ค้างให้กับ Microsoft ไว้หรือไม่อย่างไรครับ

ที่มา :?ubergizmo

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

SOFTWARE

ถ้าจะทำคอนเทนต์วิดีโอให้ดี เล่าเนื้อหาได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุดและใส่เอฟเฟคดึงดูดความสนใจใดๆ ก็ต้องพึ่งโปรแกรมตัดต่ออย่างแน่นอน ซึ่งในอดีตหลายคนอาจรู้สึกว่าใช้ยาก ต้องทำความเข้าใจฟังก์ชั่นต่างๆ เยอะ ทำให้ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ปรับแต่งให้โปรแกรมเหล่านี้ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชั่นมากขึ้น เน้นการลากคลิปเข้ามาวางใน Timeline ช่วงที่ต้องการ ตัดส่วนเกินออกแล้วเพิ่ม Text หรือเอฟเฟคต่างๆ เข้าไปได้จนจบคลิป ช่วยให้ครีเอเตอร์รุ่นใหม่สร้างผลงานแปลกใหม่อัปโหลดขึ้นแพลตฟอร์มต่างๆ ได้มากมาย แม้หลายคนคิดว่าเป็นโปรแกรมฟรีแต่ฟีเจอร์กลับให้มามากพอจะสร้างสรรค์ผลงานได้แล้ว มีเอฟเฟคกับฟังก์ชั่นใช้งานเยอะ แต่บางฟังก์ชั่นจะล็อคไว้ให้คนจ่ายเงินซื้อเวอร์ชั่น Premium, Pro เป็นรายเดือนไป แต่ก็ช่วยให้ทำงานได้คุณภาพสูงขึ้นเช่นกันAdvertisement โปรแกรมตัดต่อฟรี...

รีวิว Lenovo

Lenovo LOQ 15APH8 รุ่นคุ้มราคาประหยัด แต่ใส่สเปคมาจัดจ้านในราคาคุ้มเกินตัว!! Lenovo LOQ 15APH8 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเล็กราคาประหยัดซึ่งแฟนคลับ Lenovo ก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นมาโดยตลอด เพราะรวมองค์ประกอบน่าใช้เอาไว้มากมายทั้งบอดี้สวยเรียบร้อยคล้ายกับพี่ใหญ่อย่าง Legion Series อยู่พอควร แถมยังให้สเปคต่อราคามาคุ้มค่าทั้งซีพียู AMD Ryzen กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 30 series...

Mac Corner

ถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ไม่ว่าจะ Windows หรือ MacBook ทุกคนย่อมกดคีย์ลัดสั่งการให้คอมของตัวเองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอน ถ้าใช้คอมมานานแล้ว คีย์ลัด Mac ก็ยังใช้วิธีกดปุ่มคำสั่ง 2-3 ปุ่มรวมกัน แค่เปลี่ยนชื่อกับภาพไอคอนปุ่มคำสั่ง (Modifier) บางปุ่มให้เป็นตามแบบฉบับของ Apple เอง คนที่ย้ายจาก Windows มาใช้ macOS ก็ใช้เวลาปรับตัวเรียนรู้คีย์ลัดสักระยะก็ใช้งานได้ถนัดอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มใช้งานคีย์ลัด Mac...

Buyer's Guide

โน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15000 บาทในอดีตอาจได้สเปคแค่พอใช้ทำงานได้นิดหน่อย ผิดกับโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2024 ซึ่งสเปคดีขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะได้ซีพียู AMD Ryzen หรือ Intel Core Series ติดตั้งมาให้ทำงานได้รวดเร็วแล้ว แทบทุกเครื่องก็ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 มาพร้อมใช้หรืออาจจะได้ Microsoft Office ไว้ใช้ทำงานด้วยซ้ำ ผิดกับภาพจำในอดีตว่าโน๊ตบุ๊คราคาเท่านี้แค่พอเปิดไฟล์เอกสารหรือเข้าเว็บไซต์ได้นิดหน่อย...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก