ในการใช้งานไอโฟน 4 (iPhone 4, 4s) สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยก็คือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ตกน้ำ เครื่องดับ ชาร์จไฟเสียไฟกระชากหรือแม้กระทั่งเครื่องตกกระแทก แต่ก็เลี่ยงไม่ได้สำหรับคนที่ใช้งานบนความเสี่ยงหรือบางครั้งก็เกิดจากอุบัติเหตุไม่ตั้งใจ โดยที่พบกันมากที่สุดคือ เครื่องตกน้ำและหล่นกระแทก เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันหรือบางคนก็มักจะนำมือถือไปใช้ในห้องน้ำหรือบางทีก็ใช้ระหว่างทำงานไปด้วย ก็ไม่น่าแปลกใจที่หลายคนมักทำเครื่องหล่น จากคนชน ตกบันไดหรืออยู่ในรถระหว่างอุบัติเหตุ และเจอปัญหา iPhone 4 หน้าจอแตก
ซึ่งเรื่องเช่นนี้ คงไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น แต่ก็ต้องหาทางแก้ไขกันไป โดยปกติแล้ว การที่ทำ iPhone 4s ตกหล่นธรรมดา อาจไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายขนาดที่จอแตกได้ แต่บางครั้งเมื่อมุมการหล่นและความแรงอาจจะได้ลงตัวพอดี ตรงจุด ก็ทำให้เกิดจอแตกได้ไม่ยาก เพราะหลายครั้งที่เราได้เห็นอาจเป็นแค่หน้าจอเป็นรอยหรือเครื่องเป็นรอยขูดหรือรอบกระแทกเท่านั้น โดยแต่ละรูปแบบก็พอมีทางแก้ไขอยู่บ้าง
iPhone 4s หากเกิดการกระแทกทั่วไป เกิดเพียงรอยที่หน้าจอเป็นแผลหรือรอยขีดยาว ก็ต้องดูว่าเกิดขึ้นจากหน้าจอหรือว่าเกิดจากฟิลม์ที่ติดไว้ ซึ่งหากเกิดจากฟิลม์ ก็ให้ลอกออกแล้วติดกันรอยเข้าไปใหม่เท่านั้น ค่าใช้จ่ายก็แค่เพียง 100 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกใช้ฟิลม์แบบใด แต่ถ้าในกรณีที่ไม่ได้ติดฟิลม์กันรอยเอาไว้ แล้วเกิดรอยขึ้นบนหน้าจอ ซึ่งโดยปกติแล้วหน้าจอจะมีความทนทานสูง ส่วนใหญ่มักจะเป็นรอยไม่มากนัก สามารถใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์และน้ำยาทำความสะอาดหน้าจอ เช็ดเพื่อลดรอยและคราบเหล่านั้นออกได้ทันที
ส่วนถ้าในกรณีที่เกิด iPhone 4s ตกกระแทก ไม่เป็นรอยหรือไม่แตก แต่อาจมีการแสดงผลผิดปกติ เช่น สีหรือภาพเพี้ยน แสดงผลไม่ชัดเจน ภาพหาย แตกลาย ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็อาจจะต้องส่งเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็ค เพราะโอกาสที่จะแก้ไขด้วยตัวเองมีน้อยมาก คงต้องตรวจสอบจากช่างอีกครั้ง ว่าเกิดจากสายสัญญาณหรือหน้าจอ ที่ทำให้เกิดอาการเหล่านั้นขึ้น
iPhone จอแตก ซ่อมอย่างไร
แต่ถ้าเป็นเหตุหนัก เช่น iPhone จอร้าว จอแตก ที่เรามักจะเห็นกันคือ เริ่มแตกที่มุมหน้าจอกันเป็นส่วนใหญ่ หากจอแตกแบบนี้ ก็คงต้องหาทางเลือกในการซ่อม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซ่อมด้วยตัวเอง ส่งร้านซ่อมหรือที่เรียกว่าร้านตู้ และเลือกใช้บริการจากศูนย์ แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่การส่งซ่อมปกติ เพราะไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขรับประกัน แต่เป็นการซ่อมเปลี่ยนอะไหล่และมีค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน แต่จะเลือกซ่อมแบบใดและราคาเป็นอย่างไรบ้าง ก็คงต้องมาติดตามกัน
เลือกซ่อมด้วยตัวเอง
กรณีนี้สามารถทำได้ หากมีพื้นฐานหรือเคยแกะ iPhone 4s มาก่อน อย่าลืมว่าการแกะแบบนี้ เท่ากับขาดประกันไปในทันที ไม่ว่าจะเป็นการแกะในแบบใดก็ตาม เพราะเมื่อถึงมือศูนย์และมีการตรวจเช็คพบการเปลี่ยนแปลง ก็ถือว่าหมดประกันในทันที แต่ถ้าไม่ได้สนใจในจุดนี้แล้วและคิดว่ามีความชำนาญมากพอ ก็สามารถหาซื้อจอมาเปลี่ยนเองได้ โดยเลือกซื้อจากหน้าร้านที่วางใจได้และมีประกันให้เป็นหลัก แต่ก็ต้องมีการตรวจเช็คสภาพ ว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยในรายละเอียดส่วนของข้อสังเกต การเลือกซื้อหรือการรับประกัน ก็คงต้องไปแยกไปเป็นอีกหัวข้อหนึ่งอีกครั้ง ข้อดีของการเปลี่ยนจอ iPhone 4s ด้วยตัวเอง ก็อยู่ที่ไม่ต้องเสียค่าแรงช่างเพิ่ม แม้ว่าการเปลี่ยนตามร้าน อาจจะไม่ได้แพงมาก แต่เมื่อรวมค่าแรง อุปกรณ์ไปแล้ว ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงสำหรับบางคน เพราะราคาค่าใช้จ่ายของจอ iPhone 4s นั้น อยู่ที่ประมาณ 800 – 1000 บาท เท่านั้่น การรับประกันมีตั้งแต่ 30 วันขึ้นไป
ข้อดี
-สบายใจ ทำเองกับมือ
-ไม่เสียค่าแรงที่บวกเพิ่มเข้าไป
-เลือกหาจอที่ถูกใจได้ ตามร้านที่มั่นใจ ถูก เทียม แท้
ข้อเสีย
-ทำเอง รับความเสี่ยงเอง
-ต้องหาเครื่องมือ เพื่อนำมาใช้งาน
-มีโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย
-ต้องมีความรู้และสังเกตความต่าง ความผิดปกติของจอเวลาเลือกซื้อเอง
เลือกส่งร้านซ่อม
การส่งร้านซ่อม iPhone 4 จอแตก นับเป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อย เพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงนักสนนราคาทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2500 บาท ไปจนถึง 4000 บาทโดยประมาณ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการส่งศูนย์ อีกทั้งร้านที่รับซ่อมก็มีอยู่มากมาย เดินเลือกเปรียบเทียบราคาตามร้านทั่วไปได้ ตามห้างหรือศูนย์การค้าทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการรับประกันจากทางร้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับร้านที่นำไปซ่อมว่ามีความน่าไว้วางใจมากเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพการซ่อม ฝีมือ ความละเอียดไม่ทำให้เครื่องช้ำหรือเป็นรอย การเลือกใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพ รวมถึงการรับประกันหลังการซ่อม สิ่งเหล่านี้เป็นที่ผู้ใช้จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วย
ข้อดี
-มีร้านเปิดให้ซ่อมอยู่ทั่วทุกแห่ง ขึ้นอยู่กับการเลือก
-ราคาการซ่อมไม่สูงเกินไปนัก
-มีการรับประกันจากร้าน
ข้อเสีย
-การเลือกร้านที่ให้ความมั่นใจในการซ่อม ต้องใช้เวลานาน บางร้านต้องทิ้งเครื่องเอาไว้
-ราคาถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับคุณภาพของจอและการค่าแรงของแต่ละร้าน
-เมื่อเปลี่ยนแล้ว ต้องตรวจสอบการทำงานให้ดี ไม่ว่าจะเป็นสี ภาพและระบบทัชสกรีน
เลือกส่งศูนย์ Apple เพื่อซ่อม
ที่เรียกว่าส่งซ่อม เพราะการที่จอแตกจากการตกกระแทกแบบนี้ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของการประกัน ซึ่งผู้ใช้จะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้ แต่สามารถเข้าซ่อมจากศูนย์บริการที่ซื้อมาได้ ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับผู้จำหน่าย ที่มีทั้ง Operator ที่ให้บริการ อย่างในบ้านเรา ก็เช่น DTAC, AIS หรือ TRUE เมื่อเกิดปัญหา ก็สามารถเข้าไปติดต่อจากศูนย์เหล่านี้ แต่ถ้าซื้อผ่าน Apple Store ก็สามารถติดต่อได้ที่ Mac Center ส่วนถ้าซื้อจากร้านที่เป็นตัวแทนต่างๆ ส่วนใหญ่จะสามารถติดต่อเข้าซ่อมได้ตาม Operator รายต่างๆ ตามเงื่อนไข อย่างไรก็ดี การส่งศูนย์ซ่อม ย่อมให้ความอุ่นใจ เพราะมีการตรวจสอบ ซ่อมเป็นระบบ แจ้งเป็นเอกสารชัดเจน รวมถึงความปลอดภัยของ iPhone ที่นำมาซ่อม ไม่ต้องเดินหาร้านแล้ววัดใจ แต่ค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูง โดยการซ่อมนั้น หากเป็นเครื่องในระยะประกันจะเป็นการเคลมเพื่อเปลี่ยนเป็นเครื่อง Refurbished ที่เป็นเครื่องส่งคืน ผิดสเปคที่ได้การตรวจสอบแล้ว เฉกเช่นเดียวกับเครื่องใหม่ พร้อมเพิ่มการรับประกันเพิ่มเติม แต่ถ้าหมดประกันไปแล้ว จะไม่มีการรับประกันเพิ่ม หากเป็น iPhone 4s ค่าใช้จ่ายจะเริ่มที่ประมาณ 5 พันบาทไปจนถึงประมาณ 8 พันบาทสำหรับ iPhone 5s แล้วแต่ผู้ให้บริการแต่ละราย
ข้อดี
-ส่งศูนย์ติดต่อง่าย มีให้เลือกหลายสาขา
-มั่นใจได้ในคุณภาพงานและการรับประกัน
ข้อเสีย
-มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
เงื่อนไขการ ไม่รับเคลม จากศูนย์ “ความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ การใช้งานผิดวัตถุประสงค์ การใช้งานผิดวิธี การสัมผัสกับของเหลว ไฟไหม้ แผ่นดินไหว หรือสาเหตุภายนอกอื่นๆ” โดยสามารถตรวจเช็คเงื่อนไขการรับประกันของทาง Apple : http://www.apple.com/legal/warranty/products/iphone-thai.html