คอมพิวเตอร์ในรูปแบบของ All-in-One แบบตั้งโต๊ะกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันด้วยขนาดของตัวเครื่องที่เป็นชิ้นเดียว โดยไม่จำเป็นต้องมีเคสอีกต่อไป(เพราะฝังมากให้กับตัวหน้าจอเลย) รวมไปถึงสเปคของ All-in-One PC เองก็พัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นบนราคาค่าตัวที่ถูกลงจนเกือบเทียบเท่าได้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วๆไป
เช่นเดียวกับเจ้า Dell Inspiron One 3048 เครื่อง All-in-One น้องเล็กรุ่นใหม่จาก Dell ที่เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปที่ไม่กินเนื้อที่และไม่อยากที่จะยุ่งยากไปประกอบที่ร้าน รวมไปถึงต้องการบริการหลังการขายอย่าง Onsite Service ที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ของ Dell ในราคาที่คุ้มค่าเริ่มต้นเพียง 16,490 บาท ที่ NotebookSPEC จะมารีวิวให้ชมกันในบทความนี้ครับ
Specification
มาดูในเรื่องของสเปคกันเป็นอันแรกก่อนเลยครับ สำหรับเจ้า Dell Inspiron One 3048 ที่ทาง Dell จะเลือกใช้หน่วยประมวลผลกลางในระดับเดสก์ท็อปอย่าง Intel Pentium G3220T ที่เป็นซีพียูแบบ Dual-Core มีความเร็ว 2.6GHz พร้อมแคช 3MB มาพร้อมด้วยแรม 4GB DDR3 DIMM ที่เก็บข้อมูล HDD 500GB แบบ 7200 rpm และมีการ์ดจอ Onboard อย่าง Intel HD Graphics ที่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน และความบันเทิงครับผม
ในด้านของจอแสดงผลทาง Dell เลือกใช้จอแสดงผล”ไม่สัมผัส”ขนาด 19.5 นิ้ว ความละเอียด HD แบบ Truelife Display ที่ให้สีสันสมจริงและมุมมองค่อนข้างกว้างขวางดีทีเดียว นอกเหนือจากนี้ก็ยังมาพร้อมกล้อง HD Webcam แบบป้องกันแฮกเกอร์ด้วยละครับ เพราะมีสวิตซ์เปิดปิดกล้องแบบ Manual ไม่ต้องกลัวใครมาแฮคเว็บแคมเลยละครับ นอกเหนือจากนี้ Dell Inspiron One 3048 ก็ยังมาพร้อมระบบเสียงแบบ Stereo และพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 2.0 จำนวนถึง 6 พอร์ต , HDMI , Media Card Reader 4:1 , RJ-45 10/100/1000 Gigabit , Audio 3.5 x 2 , ไดร์ฟ DVD-RW นอกเหนือจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย 802.11n และ BT 4.0 อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีชุดเมาส์ Dell MS111 และคีย์บอร์ด Dell KB113 มาให้ด้วยในชุด (ตัวที่ได้มาทดสอบนั่นเป็น Windows 8.1 แท้แต่ตัวที่ขายจริงจะปรับไปใช้เป็น Linux)
สำหรับน้ำหนักตัวของ Dell Inspiron One 3048 จะอยู่ที่ราวๆ 8.1 กิโลกรัม และมีมิติของตัวเครื่องอยู่ที่ 486.92 x 328.84 x 67.17 มิลิเมตร มาพร้อมด้วยการรับประกันสินค้าและอะไหล่ 1ปี แบบ Onsite-Service ซ่อมถึงบ้านใน 1 วันทำการและมีราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 16,490 บาท ไปจนถึง 20,990 บาท
- Dell Inspiron One 3048 16,490 บาท
- Dell Inspiron One 3048 17490 บาทจะปรับไปใช้การ์ดจอ AMD Jet XT 1G DDR3
- Dell Inspiron One 3048 18990 บาทจะปรับไปใช้ซีพียู Intel Core i3-4130T การ์ดจอออนบอร์ด
- Dell Inspiron One 3048 20900 บาทจะปรับไปใช้ซีพียู Intel Core i3-4130T และการ์ดจอ AMD Radeon R5 A240
- และทุกตัวจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Linux มาให้
Using Experience
เข้าเรื่องการใช้งานกันต่อเลยครับ โดยตัวเครื่องเมื่อเปิดกล่องออกมาก็ประกอบใช้งานได้สะดวกครับผมโดยตัวเครื่องจะแยกส่วนมากับตัวฐานครับผม ซึ่งผู้ใช้ต้องประกอบเอาเองแต่ก็ทำได้ง่ายๆครับ ซึ่งตัวบอดี้ของตัวออลอินวันตัวนี้ค่อนข้างที่จะมีขนาดที่กระทัดรัดไม่กินพื้นทีดีครับผม สำหรับวัสดุที่ทาง Dell Inspiron One 3048 เลือกใช้กับบอดี้นั้นจะเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพดีมีความแข็งแรงไม่ยวบยาบแลดูคงทนแข็งแรง มาพร้อมด้วยสีดำเงาตลอดทั้งตัวเครื่องแลดูสวยงาม แต่อ้วนป้อมไปเล็กน้อยด้วยขนาดหน้าจอ 19.5 นิ้วครับ ตัวบอดี้ด้านหลังของตัวเครื่อง?Dell Inspiron One 3048 ก็จะมีช่องระบายความร้อนอยู่ด้านบนโลโก้ของตัวเครื่อง พร้อมด้วยขาตั้งที่มีความคงทนแข็งและสามารถปรับระดับของหน้าจอได้ราวๆ 20 องศา
ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมด้วยกระจกแแผ่นเต็มชิ้นเดียวครับแลดูดีทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าออกแบบมาเผื่อรุ่นหน้าจอสัมผัส แต่บอกก่อนเลยนะครับว่าเจ้า Dell Inspiron One 3048 ที่ทางเราได้มานั้นไม่ใช่จอสัมผัสแต่อย่างใด ในส่วนของหน้าจอที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของกระจกบานเต็มนั้นก็จะเป็นหน้าจอขนาด 19.5 นิ้ว ที่เดลนิยามว่าเป็นจอแบบ Truelife Display ซึ่งก็ให้ภาพที่ออกมาค่อนข้างสวยงามสมจริงดีทีเดียว แถมยังมีมุมต่างๆ ที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวโดยเฉพาะมุมมองทางด้านซ้ายและขวาส่วนมุมเงยและมุมก้มนั้นสีจะเพี้ยนอยู่พอสมควรครับ ซึ่งก็ใข้งานทั่วๆไปอย่างเช่นดูหนัง เล่นเว็บ รวมไปถึงดูรูปภาพและวิดีโอต่างๆในมุมมองของผู้ใช้ได้ค่อนข้างเที่ยงตรงดีเลยละครับ แต่ถ้ายืนดูหรือนอนดูแล้วละก็อย่างที่กล่าวไปว่าสีจะค่อนข้างเพี้ยนตามสไตล์จอที่ไม่ใช่ IPS นั่นเองละครับ ด้านบนของตัวหน้าจอก็จะมีกล้องเว็บแคมที่เปิดปิดได้แบบเมนวลอยู่ตรงกลางของหน้าจอที่ใช้งานได้ง่ายมากครับ เช่นกันกับการปรับการแสดงผลหรือเปิดปิดเครื่องก็สามารถทำได้สะดวกสะบายผ่านชุดควบคุม OSD ที่อยู่บริเวณด้านขวาของเครื่อง
การฟังเพลง หรือฟัง MV หรือคลิปต่างๆ ก็ทำได้ดีในระดับนึงตามสไตล์ของลำโพง Stereo ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่องที่ก็เปล่งเสียงออกมาได้ชัดเจนฟังเพลง Easy Listening ชิวๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าต้องการเบสหนักๆจากการดูหนังบู๊ล้างผลาญหรือฟังเพลงอิเล็กทรอนิกส์แนะนำให้ซื้อหาลำโพง 2.1 ราคาไม่เกิน 1,000 บาทมาต่อพ่วงผ่านจุดเชื่อมต่อหูฟังและลำโพงที่ Dell มีให้ถึงสองจุดทั้งด้านข้างซ้ายและด้านหลังก็จะทำให้ได้อรรถรสที่มากกว่าครับ โดยจุดที่ลำโพงของเครื่อง Dell Inspiron One 3048 ติดตั้งอยู่นั่นก็จะเป็นตรงตระแกรงด้านล่างจอแสดงผลทั้งมุมซ้ายและมุมขวาครับผม
??
?
ในด้านของการใช้งานต่างๆ เช่นพิมพ์งานเอกสาร ส่งเมล ก็ทำได้ค่อนข้างดีครับด้วยเนื้อที่ของหน้าจอที่ค่อนข้างกว้างถึง 19.5 นิ้ว รวมไปชุดเมาส์ Dell MS111 และคีย์บอร์ด Dell KB113 ที่บันเดิลมาให้นั้นใช้งานได้ดีทีเดียว โดยตัวเมาส์ Dell MS111 จะเป็นเมาส์แบบมาตรฐาน 3 ปุ่มใช้เซ็นเซอร์แบบ Optical จับได้กระชับมือแต่มีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างเบาทำให้ลากไปไหนมาไหนได้ไว แต่รู้สึกโหวงเหวงไปเล็กน้อย ในส่วนของคีย์บอร์ดเองเป็นคีย์บอร์ดพื้นฐานเลยละครับไม่ได้มีปุ่ม Multimedia หรือคีย์ลัดมาให้เลยยกเว้นแต่ปุ่ม Sleep เพียงปุ่มเดียว ที่สามารถตอบรับกับการใช้งานทั่วๆไปได้อย่างไม่เคอะเขิล แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่คีย์บอร์ดและเมาส์เป็นแบบมีสาย USB ทำให้กินพื้นที่การใช้งานของ Slot USB ไปถึง 2 ช่องทางทีเดีแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาเป็น Bluetooh Combo แทนจะสะดวกกว่าครับ
เช่นกันกับการเชื่อมต่อเองที่ก็รองรับอย่างครบครันทั้ง แฟลชไดร์ฟ ฮาร์ดไดร์ฟ ลำโพง หูฟัง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและอื่นๆอีกมากมายด้วยพอร์ตเชื่อมต่อที่กระจายอยู่ตลอดทั้งตัวเครื่องอย่าง USB 2.0 ที่มีมากถึง 6 พอร์ต ที่สำคัญยังเข้าถึงอินเตอร์ทั้งมีสายและไร้สายได้อย่างครบครันด้วย Lan gigabit และ Wireless Lan ได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น Dell Inspiron One 3048 ยังมาพร้อม Drive DVD-RW ที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งในด้านของความบันเทิงและวิชาการได้อย่างครบครัน อย่างไรก็ดีอีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ Dell Inspiron One 3048 นั้นไม่มี USB 3.0 เลยแม้แต่ช่องเดียวครับ ถ้าเพื่อนๆคนไหนค่อนข้างซีเรียสกับการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วจำเป็นต้องใช้ Device ที่รองรับ USB 3.0 อาจจะผิดหวังได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น USB 2.0 ก็สามารถใช้งานกับ USB 3.0 ได้เช่นกันแต่จะช้าหน่อยครับผม
Performance / Software
ในรูปแบบของการทดสอบกับเครื่อง Dell Inspiron One 3048 เราก็ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานเดิมที่เราได้ใช้กันมาตลอดครับผม ซึ่งจะมีประสิทธิภาพแค่ไหนไปดูกันเลยดีกว่า
โปรแกรมอย่าง CPU-Z ที่แสดงฮาร์ดแวร์ต่างๆของDell Inspiron One 3048 จะเห็นได้ว่าตรงตามความเป็นจริงครับผม
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลักก็มีอยู่ในระดับทั่วๆไป
ตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนของ WesternDigital มีความเร็ว 7200 รอบ และมีความจุ 500GB ก็แสดงผลออกมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีครับ สามารถเรียกใช้ข้อมูลต่างๆได้รวดเร็ว
ต่อด้วยลองแปลงไฟล์ DVD ที่เป็นไฟล์ ISO ดูในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกันบ้างผ่านโปรแกรม Format Factory โดยแปลงไฟล์ ISO ไปเป็น MPEG4 720P ใช้เวลาค่อนข้างโอเคเลยเทียบเคียบกับหน่วยประมวลผลกลางของโน๊ตบุ๊คก็จะอยู่ในระดับ Core i5 ครับผม
บีบอัดไฟล์เกม Dota 2 ที่มีขนาดราวๆ 8GB ไฟล์กันบ้างกับโปรแกรมพื้นฐานที่ทุกเครื่องต้องมีอย่าง Winrar ที่ทำการบีบอัดได้ในเวลาราวๆ 14 นาทีค่อนข้างโอเคเลย
ตามมาด้วยการทดสอบกับโปรแกรม Lightroom 4 โปรแกรมที่ตากล้องหรือเพื่อนๆหลายๆท่านใช้โพรเซสภาพกัน ที่ได้ปรับรูปไฟล์ Raw จำนวน 50 รูปเป็น Aged Photo และทำการ Export โดยใช้ความละเอียด 900?600 พิกเซล ก็ทำเวลาไป 5.12 นาทีค่อนข้างรวดเร็วทีเดียว
ด้วยการ์ดจอออนบอร์ดที่พอจะเล่นเกมได้บ้าง เราจึงนำเกมอย่าง Street Fighter 4 มาทดสอบกันซึ่งบปรับภาพความละเอียดที่ 1366?768 พิกเซล ปรับกราฟฟิกภายในเกมที่ All-High ก็ให้ผลคะแนนเฉลี่ยในระดับ Rank D และมีเฟรมเรทเฉลี่ยที่ 35.60FPS อยู่ในระดับที่พอเล่นได้ครับ
โปรแกรม Benchmark ประสิทธิภาพโดยรวมยอดฮิตอย่างชุดทดสอบของ FuterMark เวอร์ชั่นต่างๆ ก็ชี้วัดผลคะแนนออกมาได้ในระดับที่น่าพอใจครับ เหมาะกับการใช้งานจำพวกงานเอกสารและความบันเทิงครับ หรือถ้าจะเอาไปแปลงไฟล์ต่างๆ ก็ทำได้ค่อนข้างรวดเร็วดีครับ แต่ถึงกระนั้นแล้วในการเล่นเกมด้วยการ์ดจอออนบอร์ดเองก็ทำให้มันเกิดข้อจำกัดขึ้นมาบ้าง ทางทีดีถ้าชอบเล่นเกมด้วยและอยากได้?Dell Inspiron One 3048 ด้วยแนะนำให้อัพเกรดเป็นรุ่นที่มีการ์ดจอแยกจะดีกว่าครับ
Conclusion / Award
Dell Inspiron One 3048 ถือได้ว่าเป็น All-in-One PC ที่ค่อนข้างตอบโจทย์คนอยากได้คอมพิวเตอร์สำเร็จรูปราคาคุ้มค่าสักเครื่องได้เป็นอย่างดีเลยละครับ ด้วยความสามารถของมันที่รอบด้านและครบครันไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล 19.5 นิ้วแบบ Truelife Display ให้ภาพค่อนข้างที่สวยงามและสมจริง , ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ค่อนข้างสมราคา ช่วยให้การดูหนัง ฟังเพลง และทำงานต่างๆ ได้อย่างลื่นไหลครับ ยิ่งไปกว่านั้น Dell Inspiron One 3048 ก็ยังถูกออกแบบมาได้อย่างสวยงามถึงแม้จะดูป้อมๆ ไปหน่อยก็ตาม ที่ก็เหมาะอย่างยิ่งกับเพื่อนๆ ที่ชอบความเงางามและมีเนื้อที่ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ค่อนข้างจำกัด เข้ากันได้อย่างดีเลยละครับกับห้องนอน ห้องชุด หอพักหรือแม้แต่คอนโด
การเชื่อมต่อต่างๆ Dell Inspiron One 3048 ก็มีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 2.0 , WiFi , Gigabit Lan , Bluetooth และ DVD-RW Drive ที่รองรับกับการเชื่อมต่อต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ขาดไปอย่างเดียวก็คือ USB 3.0 ซึ่งก็สามารถใช้งาน USB 2.0 แทนได้แต่จะค่อนข้างช้ากว่าครับ อย่างไรก็ตามด้วยราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 16,490 บาท ก็นับได้ว่า Dell Inspiron One 3048 เป็นอีกหนึ่ง All-in-One PC ที่มีความคุ้มค่าตัวนึงในตลาดตอนนี้เลยละครับ ซึ่งก็นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีทีเดียวสำหรับในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ หรือพนักงานออกฟิศที่ต้องการคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปที่มาพร้อมบริการหลังการขายที่ไว้ใจได้และไม่ต้องยุ่งยากในการบำรุงรักษาเอาไว้ใช้งานจริงๆสักเครื่องหนึ่งครับ
ข้อดี
- เป็น All-in-One PC ที่พร้อมใช้งานได้ทันที ด้วยชุดเมาส์และคีย์บอร์ด
- ตัวเครื่อง 19.5 นิ้วไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป
- ดีไซน์เงางาม กระทัดรัดเหมาะกับคนที่มีพื้นที่น้อย
- พอร์ตเชื่อมต่อค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะกับ USB 2.0
- ประสิทธิภาพในการประมวลผลค่อนข้างดี ใช้งานเอกสารและความบันเทิงได้ไม่เป็นรองใคร
ข้อสังเกต
- ไม่มีพอร์ต USB 3.0
Specification
มาดูในเรื่องของสเปคกันเป็นอันแรกก่อนเลยครับ สำหรับเจ้า Dell Inspiron One 3048 ที่ทาง Dell จะเลือกใช้หน่วยประมวลผลกลางในระดับเดสก์ท็อปอย่าง Intel Pentium G3220T ที่เป็นซีพียูแบบ Dual-Core มีความเร็ว 2.6GHz พร้อมแคช 3MB มาพร้อมด้วยแรม 4GB DDR3 DIMM ที่เก็บข้อมูล HDD 500GB แบบ 7200 rpm และมีการ์ดจอ Onboard อย่าง Intel HD Graphics ที่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน และความบันเทิงครับผม
ในด้านของจอแสดงผลทาง Dell เลือกใช้จอแสดงผล”ไม่สัมผัส”ขนาด 19.5 นิ้ว ความละเอียด HD แบบ Truelife Display ที่ให้สีสันสมจริงและมุมมองค่อนข้างกว้างขวางดีทีเดียว นอกเหนือจากนี้ก็ยังมาพร้อมกล้อง HD Webcam แบบป้องกันแฮกเกอร์ด้วยละครับ เพราะมีสวิตซ์เปิดปิดกล้องแบบ Manual ไม่ต้องกลัวใครมาแฮคเว็บแคมเลยละครับ นอกเหนือจากนี้ Dell Inspiron One 3048 ก็ยังมาพร้อมระบบเสียงแบบ Stereo และพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 2.0 จำนวนถึง 6 พอร์ต , HDMI , Media Card Reader 4:1 , RJ-45 10/100/1000 Gigabit , Audio 3.5 x 2 , ไดร์ฟ DVD-RW นอกเหนือจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย 802.11n และ BT 4.0 อีกด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีชุดเมาส์ Dell MS111 และคีย์บอร์ด Dell KB113 มาให้ด้วยในชุด (ตัวที่ได้มาทดสอบนั่นเป็น Windows 8.1 แท้แต่ตัวที่ขายจริงจะปรับไปใช้เป็น Linux)
สำหรับน้ำหนักตัวของ Dell Inspiron One 3048 จะอยู่ที่ราวๆ 8.1 กิโลกรัม และมีมิติของตัวเครื่องอยู่ที่ 486.92 x 328.84 x 67.17 มิลิเมตร มาพร้อมด้วยการรับประกันสินค้าและอะไหล่ 1ปี แบบ Onsite-Service ซ่อมถึงบ้านใน 1 วันทำการและมีราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 16,490 บาท ไปจนถึง 20,990 บาท
- Dell Inspiron One 3048 16,490 บาท
- Dell Inspiron One 3048 17490 บาทจะปรับไปใช้การ์ดจอ AMD Jet XT 1G DDR3
- Dell Inspiron One 3048 18990 บาทจะปรับไปใช้ซีพียู Intel Core i3-4130T การ์ดจอออนบอร์ด
- Dell Inspiron One 3048 20900 บาทจะปรับไปใช้ซีพียู Intel Core i3-4130T และการ์ดจอ AMD Radeon R5 A240
- และทุกตัวจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Linux มาให้
Using Experience
เข้าเรื่องการใช้งานกันต่อเลยครับ โดยตัวเครื่องเมื่อเปิดกล่องออกมาก็ประกอบใช้งานได้สะดวกครับผมโดยตัวเครื่องจะแยกส่วนมากับตัวฐานครับผม ซึ่งผู้ใช้ต้องประกอบเอาเองแต่ก็ทำได้ง่ายๆครับ ซึ่งตัวบอดี้ของตัวออลอินวันตัวนี้ค่อนข้างที่จะมีขนาดที่กระทัดรัดไม่กินพื้นทีดีครับผม สำหรับวัสดุที่ทาง Dell Inspiron One 3048 เลือกใช้กับบอดี้นั้นจะเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพดีมีความแข็งแรงไม่ยวบยาบแลดูคงทนแข็งแรง มาพร้อมด้วยสีดำเงาตลอดทั้งตัวเครื่องแลดูสวยงาม แต่อ้วนป้อมไปเล็กน้อยด้วยขนาดหน้าจอ 19.5 นิ้วครับ ตัวบอดี้ด้านหลังของตัวเครื่อง?Dell Inspiron One 3048 ก็จะมีช่องระบายความร้อนอยู่ด้านบนโลโก้ของตัวเครื่อง พร้อมด้วยขาตั้งที่มีความคงทนแข็งและสามารถปรับระดับของหน้าจอได้ราวๆ 20 องศา
ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมด้วยกระจกแแผ่นเต็มชิ้นเดียวครับแลดูดีทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าออกแบบมาเผื่อรุ่นหน้าจอสัมผัส แต่บอกก่อนเลยนะครับว่าเจ้า Dell Inspiron One 3048 ที่ทางเราได้มานั้นไม่ใช่จอสัมผัสแต่อย่างใด ในส่วนของหน้าจอที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันของกระจกบานเต็มนั้นก็จะเป็นหน้าจอขนาด 19.5 นิ้ว ที่เดลนิยามว่าเป็นจอแบบ Truelife Display ซึ่งก็ให้ภาพที่ออกมาค่อนข้างสวยงามสมจริงดีทีเดียว แถมยังมีมุมต่างๆ ที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวโดยเฉพาะมุมมองทางด้านซ้ายและขวาส่วนมุมเงยและมุมก้มนั้นสีจะเพี้ยนอยู่พอสมควรครับ ซึ่งก็ใข้งานทั่วๆไปอย่างเช่นดูหนัง เล่นเว็บ รวมไปถึงดูรูปภาพและวิดีโอต่างๆในมุมมองของผู้ใช้ได้ค่อนข้างเที่ยงตรงดีเลยละครับ แต่ถ้ายืนดูหรือนอนดูแล้วละก็อย่างที่กล่าวไปว่าสีจะค่อนข้างเพี้ยนตามสไตล์จอที่ไม่ใช่ IPS นั่นเองละครับ ด้านบนของตัวหน้าจอก็จะมีกล้องเว็บแคมที่เปิดปิดได้แบบเมนวลอยู่ตรงกลางของหน้าจอที่ใช้งานได้ง่ายมากครับ เช่นกันกับการปรับการแสดงผลหรือเปิดปิดเครื่องก็สามารถทำได้สะดวกสะบายผ่านชุดควบคุม OSD ที่อยู่บริเวณด้านขวาของเครื่อง
การฟังเพลง หรือฟัง MV หรือคลิปต่างๆ ก็ทำได้ดีในระดับนึงตามสไตล์ของลำโพง Stereo ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่องที่ก็เปล่งเสียงออกมาได้ชัดเจนฟังเพลง Easy Listening ชิวๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าต้องการเบสหนักๆจากการดูหนังบู๊ล้างผลาญหรือฟังเพลงอิเล็กทรอนิกส์แนะนำให้ซื้อหาลำโพง 2.1 ราคาไม่เกิน 1,000 บาทมาต่อพ่วงผ่านจุดเชื่อมต่อหูฟังและลำโพงที่ Dell มีให้ถึงสองจุดทั้งด้านข้างซ้ายและด้านหลังก็จะทำให้ได้อรรถรสที่มากกว่าครับ โดยจุดที่ลำโพงของเครื่อง Dell Inspiron One 3048 ติดตั้งอยู่นั่นก็จะเป็นตรงตระแกรงด้านล่างจอแสดงผลทั้งมุมซ้ายและมุมขวาครับผม
??
?
ในด้านของการใช้งานต่างๆ เช่นพิมพ์งานเอกสาร ส่งเมล ก็ทำได้ค่อนข้างดีครับด้วยเนื้อที่ของหน้าจอที่ค่อนข้างกว้างถึง 19.5 นิ้ว รวมไปชุดเมาส์ Dell MS111 และคีย์บอร์ด Dell KB113 ที่บันเดิลมาให้นั้นใช้งานได้ดีทีเดียว โดยตัวเมาส์ Dell MS111 จะเป็นเมาส์แบบมาตรฐาน 3 ปุ่มใช้เซ็นเซอร์แบบ Optical จับได้กระชับมือแต่มีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างเบาทำให้ลากไปไหนมาไหนได้ไว แต่รู้สึกโหวงเหวงไปเล็กน้อย ในส่วนของคีย์บอร์ดเองเป็นคีย์บอร์ดพื้นฐานเลยละครับไม่ได้มีปุ่ม Multimedia หรือคีย์ลัดมาให้เลยยกเว้นแต่ปุ่ม Sleep เพียงปุ่มเดียว ที่สามารถตอบรับกับการใช้งานทั่วๆไปได้อย่างไม่เคอะเขิล แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่คีย์บอร์ดและเมาส์เป็นแบบมีสาย USB ทำให้กินพื้นที่การใช้งานของ Slot USB ไปถึง 2 ช่องทางทีเดีแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาเป็น Bluetooh Combo แทนจะสะดวกกว่าครับ
เช่นกันกับการเชื่อมต่อเองที่ก็รองรับอย่างครบครันทั้ง แฟลชไดร์ฟ ฮาร์ดไดร์ฟ ลำโพง หูฟัง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและอื่นๆอีกมากมายด้วยพอร์ตเชื่อมต่อที่กระจายอยู่ตลอดทั้งตัวเครื่องอย่าง USB 2.0 ที่มีมากถึง 6 พอร์ต ที่สำคัญยังเข้าถึงอินเตอร์ทั้งมีสายและไร้สายได้อย่างครบครันด้วย Lan gigabit และ Wireless Lan ได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น Dell Inspiron One 3048 ยังมาพร้อม Drive DVD-RW ที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งในด้านของความบันเทิงและวิชาการได้อย่างครบครัน อย่างไรก็ดีอีกจุดนึงที่น่าสนใจคือ Dell Inspiron One 3048 นั้นไม่มี USB 3.0 เลยแม้แต่ช่องเดียวครับ ถ้าเพื่อนๆคนไหนค่อนข้างซีเรียสกับการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วจำเป็นต้องใช้ Device ที่รองรับ USB 3.0 อาจจะผิดหวังได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น USB 2.0 ก็สามารถใช้งานกับ USB 3.0 ได้เช่นกันแต่จะช้าหน่อยครับผม
Performance / Software
ในรูปแบบของการทดสอบกับเครื่อง Dell Inspiron One 3048 เราก็ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานเดิมที่เราได้ใช้กันมาตลอดครับผม ซึ่งจะมีประสิทธิภาพแค่ไหนไปดูกันเลยดีกว่า
โปรแกรมอย่าง CPU-Z ที่แสดงฮาร์ดแวร์ต่างๆของDell Inspiron One 3048 จะเห็นได้ว่าตรงตามความเป็นจริงครับผม
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลักก็มีอยู่ในระดับทั่วๆไป
ตัวเก็บข้อมูลของระบบที่เลือกใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนของ WesternDigital มีความเร็ว 7200 รอบ และมีความจุ 500GB ก็แสดงผลออกมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีครับ สามารถเรียกใช้ข้อมูลต่างๆได้รวดเร็ว
ต่อด้วยลองแปลงไฟล์ DVD ที่เป็นไฟล์ ISO ดูในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตกันบ้างผ่านโปรแกรม Format Factory โดยแปลงไฟล์ ISO ไปเป็น MPEG4 720P ใช้เวลาค่อนข้างโอเคเลยเทียบเคียบกับหน่วยประมวลผลกลางของโน๊ตบุ๊คก็จะอยู่ในระดับ Core i5 ครับผม
บีบอัดไฟล์เกม Dota 2 ที่มีขนาดราวๆ 8GB ไฟล์กันบ้างกับโปรแกรมพื้นฐานที่ทุกเครื่องต้องมีอย่าง Winrar ที่ทำการบีบอัดได้ในเวลาราวๆ 14 นาทีค่อนข้างโอเคเลย
ตามมาด้วยการทดสอบกับโปรแกรม Lightroom 4 โปรแกรมที่ตากล้องหรือเพื่อนๆหลายๆท่านใช้โพรเซสภาพกัน ที่ได้ปรับรูปไฟล์ Raw จำนวน 50 รูปเป็น Aged Photo และทำการ Export โดยใช้ความละเอียด 900?600 พิกเซล ก็ทำเวลาไป 5.12 นาทีค่อนข้างรวดเร็วทีเดียว
ด้วยการ์ดจอออนบอร์ดที่พอจะเล่นเกมได้บ้าง เราจึงนำเกมอย่าง Street Fighter 4 มาทดสอบกันซึ่งบปรับภาพความละเอียดที่ 1366?768 พิกเซล ปรับกราฟฟิกภายในเกมที่ All-High ก็ให้ผลคะแนนเฉลี่ยในระดับ Rank D และมีเฟรมเรทเฉลี่ยที่ 35.60FPS อยู่ในระดับที่พอเล่นได้ครับ
โปรแกรม Benchmark ประสิทธิภาพโดยรวมยอดฮิตอย่างชุดทดสอบของ FuterMark เวอร์ชั่นต่างๆ ก็ชี้วัดผลคะแนนออกมาได้ในระดับที่น่าพอใจครับ เหมาะกับการใช้งานจำพวกงานเอกสารและความบันเทิงครับ หรือถ้าจะเอาไปแปลงไฟล์ต่างๆ ก็ทำได้ค่อนข้างรวดเร็วดีครับ แต่ถึงกระนั้นแล้วในการเล่นเกมด้วยการ์ดจอออนบอร์ดเองก็ทำให้มันเกิดข้อจำกัดขึ้นมาบ้าง ทางทีดีถ้าชอบเล่นเกมด้วยและอยากได้?Dell Inspiron One 3048 ด้วยแนะนำให้อัพเกรดเป็นรุ่นที่มีการ์ดจอแยกจะดีกว่าครับ
Conclusion / Award
Dell Inspiron One 3048 ถือได้ว่าเป็น All-in-One PC ที่ค่อนข้างตอบโจทย์คนอยากได้คอมพิวเตอร์สำเร็จรูปราคาคุ้มค่าสักเครื่องได้เป็นอย่างดีเลยละครับ ด้วยความสามารถของมันที่รอบด้านและครบครันไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล 19.5 นิ้วแบบ Truelife Display ให้ภาพค่อนข้างที่สวยงามและสมจริง , ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ค่อนข้างสมราคา ช่วยให้การดูหนัง ฟังเพลง และทำงานต่างๆ ได้อย่างลื่นไหลครับ ยิ่งไปกว่านั้น Dell Inspiron One 3048 ก็ยังถูกออกแบบมาได้อย่างสวยงามถึงแม้จะดูป้อมๆ ไปหน่อยก็ตาม ที่ก็เหมาะอย่างยิ่งกับเพื่อนๆ ที่ชอบความเงางามและมีเนื้อที่ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ค่อนข้างจำกัด เข้ากันได้อย่างดีเลยละครับกับห้องนอน ห้องชุด หอพักหรือแม้แต่คอนโด
การเชื่อมต่อต่างๆ Dell Inspiron One 3048 ก็มีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 2.0 , WiFi , Gigabit Lan , Bluetooth และ DVD-RW Drive ที่รองรับกับการเชื่อมต่อต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ขาดไปอย่างเดียวก็คือ USB 3.0 ซึ่งก็สามารถใช้งาน USB 2.0 แทนได้แต่จะค่อนข้างช้ากว่าครับ อย่างไรก็ตามด้วยราคาค่าตัวเริ่มต้นที่ 16,490 บาท ก็นับได้ว่า Dell Inspiron One 3048 เป็นอีกหนึ่ง All-in-One PC ที่มีความคุ้มค่าตัวนึงในตลาดตอนนี้เลยละครับ ซึ่งก็นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีทีเดียวสำหรับในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ครูอาจารย์ หรือพนักงานออกฟิศที่ต้องการคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปที่มาพร้อมบริการหลังการขายที่ไว้ใจได้และไม่ต้องยุ่งยากในการบำรุงรักษาเอาไว้ใช้งานจริงๆสักเครื่องหนึ่งครับ
ข้อดี
- เป็น All-in-One PC ที่พร้อมใช้งานได้ทันที ด้วยชุดเมาส์และคีย์บอร์ด
- ตัวเครื่อง 19.5 นิ้วไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป
- ดีไซน์เงางาม กระทัดรัดเหมาะกับคนที่มีพื้นที่น้อย
- พอร์ตเชื่อมต่อค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะกับ USB 2.0
- ประสิทธิภาพในการประมวลผลค่อนข้างดี ใช้งานเอกสารและความบันเทิงได้ไม่เป็นรองใคร
ข้อสังเกต
- ไม่มีพอร์ต USB 3.0