ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้วสมัยนั้นเป็นยุดที่ PC Desktop กำลังครองตลาดอย่างเต็มที่ทุกหนทุกแห่งครับ ในขณะที่ Notebook นั้นก็ได้รับส่วนแบ่งเล็กๆ น้อยๆ เพราะคนสนใจ PC Desktop มากกว่า ส่วนฝั่ง Tablet ที่สมัยนั้นยังเป็น Palm ก็นิยมใช้กันในหมู่หมอ(ในต่างประเทศ) เท่านั้น ทว่าเมื่อเวลา 10 ปีผ่านไปนั้นอะไรหลายๆ อย่างก็ได้เปลี่ยนไปมากมายครับ มีทั้งสิ่งใหม่เข้ามาอย่าง Netbook แต่ทว่าก็มีอายุอยู่ได้ไม่ถึง 5 ปีด้วยซ้ำ ในขณะที่ Tablet กลายเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ว่าจะใครที่ไหนก็มีใช้กัน
วันนี้ผมจะพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปครับว่าตั้งแต่ในสมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว(2004) นั้นการออกแบบดีไซน์เครื่อง PC Desktop และ Notebook นั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างไม่แน่ 1 ในนี้อาจจะมีอุปกรณ์ที่คุณเคยเป็นเจ้าของอยู่ด้วยก็เป็นได้ครับ ตามไปดูกันเลยครับ
2004: SONY VAIO X505
ถ้าจะบอกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วใครมีแนวคิดที่จะทำ Notebook ให้อยู่ในรูปของ netbook หรือ Utralbook ลงสู่ตลาดเป็นรายแรกแล้วหล่ะก็คงหนีไม่พ้น Sony ครับ ด้วยการส่ง VAIO X505 ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 10.4 นิ้วรองรับความละเอียดที่?1,024 x 768 pixels หน่วยประมวลผล?1.1GHz Pentium M แหล่งเก็บข้อมูลขนาด 20 GB และที่พิเศษสุดๆ คือน้ำหนักตัวเครื่องที่อยู่ที่ 0.78 กิโลกรัมแต่ทว่าตอนนั้น VAIO X505 ไม่สามารถที่จะเจาะตลาดได้ครับ เพราะถือเป็นของแปลกใหม่ที่ผู้คนไม่นิยม หากเอามาปรับสเปคหน่อยแล้วขายในยุคปัจจุบันนี้รับรองว่าต้องขายดีเป็นเทนั้ำเทท่าแน่ๆ ครับ(Sony เองคงไม่คาดคิดว่าสิ่งที่ตอนเคยทำมาแล้วเมื่อ 10 ที่แล้วจะมาเป็นที่ต้องการคนในยุคปัจจุบันเป็นแน่แท้ครับ)
2005: IBM THINKPAD T43
ThinkPad T43 เป็นเครื่อง Notebook รุ่นสุดท้ายของ IBM ก่อนที่จะขายส่วนของ Notebook ให้กับ Lenovo แล้วเปลี่ยนกลายเป็นชื่อใหม่ในนาม Lenovo ครับ ในสมัยก่อนนั้น IBM มีแนวทางในการดีไซน์อุปกรณ์ที่ชัดเกนมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่ดูแข็งแรงทนทาน สเปคก็เรียกได้ว่าไม่มีการกั๊ก?ThinkPad T43 นั้นมาพร้อมกับหน้าจาขนาด 14.1 นิ้วรองรับความละเอียดที่ระดับ?1,024 x 768 pixels หรือ 1,400 x 1,050 pixels หน่วยประมวลผล?1.6GHz ถึง?2.13GHz Pentium M แหล่งเก็บข้อมูลขนาด 30 GB พร้อม DVD Drive น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.72 กิโลกรัม ในสมัยนั้นต้องยอมรับคับว่าคนวัยทำงานจะมองหา IBM ก่อนเป็นเจ้าแรกที่ซื้อเครื่อง Notebook สำหรับทำงานจริงๆ ครับ
2006: DELL XPS 700
ในปี 2006 ถ้าคุณต้องการ PC สำหรับเล่นเกมแล้วหล่ะก็คงหนีไม่พ้น Dell ครับ(ในขณะที่ปัจจุบันนั้นมีตัวเลือกมากมายพร้อมทั้งดีไซฯ์ที่แตกต่างออกไปในแต่ละยี่ห้อ) ด้วย Dell XPS 700 ที่มีสเปคเป็นหน่วยประมวลผล?Core 2 Duo หรือ Core 2 Extreme กราฟิกการ์ดแบบแยกของ Nvidia รุ่น Geforce 7900 GTX แบบ dual(2 ตัวเชื่อมต่อกันแบบ SLI) แหล่งเก็บข้อมูลแบบ Dual 320 GB และ dual DVD drive ถือได้ว่าเป็นเครื่องทีชาวเกมเมอร์ไม่ว่าใครก็ต้องใฝ่ฝันที่จะได้มาประดับการเล่นเกมของตนเลยหล่ะครับ แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งของ XPS 700 นั้นก็คือตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งสมัยนั้นอาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเป็นสมัยนี้แล้วคงไม่มีใครอยากได้ครึ่งขนาดมหึมามาตั้งไว้เล่นเกมออนไลน์หรอกจริงไหมครับ
2007: ASUS EEE PC 701
ในสมัยปี 2007 นั้นไม่ว่าใครๆ ก็อยากได้ Asus Eee PC 701 มาไว้ในครอบครองครับ ถึงแม้ว่าสเปคจะไม่แรงมากนักด้วยหน้าจอขนาด 7 นิ้วรองรับความละเอียด 800 x 480 pixels หน่วยประมวลผล?800MHz หรือ?900MHz Celeron M แหล่งเก็บข้อมูลแบบ solid-state ขนาด 2 – 8 GB น้ำหนักตัวเครื่องเพียง 0.9 กิโลกรัม นั่นก็เพียงพอสำหรับการพกพาไปไหนมาไหน แถมแบตเตอรรี่ก็อยู่ได้นานมากในสมัยนั้น เกิดเป็นกระแส Netbook ที่สำให้อีกหลายยี่ห้อผลิตตามมา แต่ใครจะไปคาดคิดครับว่าด้วยการมาของ iPad ในปี 2010 นั้นทำให้กระแสของ Netbook ดับลงอย่างรวดเร็วและท้ายที่สุดก็หายไปจากตลาดด้วยระยะเวลาไม่ถึง 4 ปีเลยครับ
2008: APPLE MACBOOK AIR
ถึงกระแสของอุปกรณ์ฝั่ง PC และ Notebook นั้นจะมาเร็วไปเร็ว แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เปก็นเช่นนั้นและต้องยกให้เขาจริงๆ ครับกับ MacBook Air ที่ถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของ Ultrabook อย่างแท้จริงก็ว่าได้ด้วยสเปคหน้าจอขนาด 13.3 นิ้วรองรับความระเอียดที่ระดับ?1,280 x 800 pixels หน่วยประมวลผล?1.6GHz หรือ?1.8GHz Core 2 Duo แหล่งเก็บข้อมูล 80 GB hard disk หรือ 64 GB solid-state นำหนักตัวเครื่อง 1.36 กิโลกรัม ถือได้ว่าตอนนั้น MacBook Air ออกมาปิดช่องว่าของ Notebook กับ ultraportables ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ และในปัจุบันนี้ก็ยังมีการพัฒนามาอยู่เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นสินค้าขายดีอีกอย่างหนึ่งของ Apple ไปเรียบร้อยจนทำให้เกิดกระแส Ultrabook ตามมาให้เห็นกันมากมายในทุกวันนี้ครับ
2009: HP FIREBIRD
HP Firebird ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของเครื่อง Steam Machines เลยก็ว่าได้ครับ เพราะในสมัยก่อนนั้นไม่ว่าใครต่อใครต่างก็มีความรู้สึกว่า PC สำหรับ เกมเมอร์นั้นจะต้องมีเครื่องที่ใหญ่โต แต่?Firebird ก็สามารถที่จะมาลบล้างความเชื่อนี้ได้ ด้วยสเปคหน่วยประมวลผล?2.66GHz หรือ 2.83GHz Core 2 Quad processors แหล่งเก็บข้อมูลแบบ dual 250GB หรือ 320GB hard drives DVD or Blu-ray drives และกราฟิกการ์ดแบบ dual GeForce 9800S สามารถตั้งไว้ ณ ที่ใดก็ได้ HP เองก็คงไม่คาดคิดว่าอีก 5 ปีให้หลังตามมานี้ Steam Machines จะออกแบบให้มีเครื่องเล็กๆ คล้าย?Firebird ครับ(จริงๆ เครื่อง PC สำหรับเกมเมอร์ในปัจจุบันก็เล็กลงมากครับของหลายๆ ยี่ห้อก็มีขนาดเล็กลงเยอะไม่ใช่เฉพาะ Steam Machines เท่านั้น)
2010: LENOVO IDEACENTRE A300
ถึงแม้ว่าในยุคนั้นใครหลายๆ คนจะคิดว่า iMac เป็นผู้นำทางด้าน All-in-one แต่ Lenovo ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วครับว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ด้วยการส่ง?IdeaCentre A300 ถือได้ว่าทำให้วงการ All-in-one สั่นสะเทือนได้เลยทีเดียวครับด้วยดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย และได้เป็นที่ยอมรับกันว่าเหมาะสมกับการใช้งานในทุกที่ มาพร้อมกับสเปคอย่างหน้าจอขนาด 21.5 นิ้วรองรับความละเอียด 1,920 x 1,080 pixels หน่วยประมวลผล?2.2GHz Core 2 Duo แหล่งเก็บข้อมูลขนาด 500 GB ทำให้ตอนนั้นวงการ All-in-one เริ่มมีกระแสกลับมาได้อีกครั้งหนึ่งเลยทีเดียวครับ
?2011: SAMSUNG CHROMEBOOK SERIES 5
จริงๆ แล้ว Samsung Chromebook Series 5 นั้นไม่ได้มีวิวัฒนาการทางด้านดีไซน์หรือสเปคแต่อย่างใดครับหากเทียบกับทุกๆ อุปกรณ์ที่อยู่ในบทความนี้ทั้งหมด แต่สิ่งที่ทำให้?Chromebook Series 5 ติดเข้ามาอยู่ในบทความนี้ด้วยนั้นก็คือวิวัฒนาการทางด้านซอฟต์แวร์ของมันครับ ด้วยการใช้งานระบบปฏิบัติการ Chrome OS ที่ถึงแม้ว่า?Chromebook Series 5 จะมากับสเปคที่ไม่ได้สูงอะไรมากมายคือหน้าจอขนาด 12.1 นิ้ว รองรับความละเอียดที่ระดับ?1,280 x 800 pixels หน่วยประมวลผล?1.66GHz Atom แหล่งเก็บข้อมูล 16 GB solid-state นำหนักเครื่อง 1.49 กิโลกรัม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันทำงานช้าแต่อย่างใดครับ กลับทำงานได้เร็วด้วยซ้ำ แถมราคาของมันก็ไม่ถึง 10,000 บาท ทำให้ใครหลายๆ คนที่อยากใช้ Notebook ทางเลือกก็มีตัวเลือกมากขึ้นครับ(น่าเสียดายที่ Chromebook ยังไม่มีเข้ามาขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครับ)
2012: APPLE MACBOOK PRO WITH RETINA DISPLAY
ในปี 2012 นั้น Apple ไม่ได้เพียงแต่อัพเกรดสเปคให้กับ MacBook เท่านั้น ทว่ากลับปรับปรุงรูปโฉมของ MacBook ใหม่ในทางที่ควรจะเป็น ซึ่งทำให้หลายๆ ยี่ห้อต่างยึกเอาแบบของ MacBook Pro ตัวนี้ไปต่อยอดในการดีไซน์ของ Notebook กันครับ MacBook Pro มาพร้อมกับสเปคคือหน้าจอขนาด 15.4 นิ้วที่รองรับความละเอียด?2,880 x 1,800 pixels หรือที่ Apple บอกว่า Retina Display หน่วยประมวลผล?2.3GHz หรือ 2.6GHz Core i7 แหล่งเก็บข้อมูลแบบ solid-state ขนาด 256GB ถึง 768GB นำหนักตัวเครื่อง 2.04 กิโลกรัม ตัดเอา optical discs และ hard drives ทิ้งไป เพื่อทำให้น้ำหนักเบาแล้วหันมาใช้ flash storage เพื่อความเร็ว ถือได้ว่าเป็นเครื่องระดับ Hi-end เครื่องแรกที่ทำแบบนี้เลยก็ว่าได้ครับ
2013: ACER ASPIRE R7
ในยุคที่อุปกรณ์แบบ hybrid ที่สามารถทำงานได้ทั้งเป็น desktop, Notebook และ tablet ในตัวกำลังมาแรงแบบนี้เราคงปฎิเสธไม่ได้เลยครับว่่าไม่ว่ายี่ห้อไหนๆ ต่างก็เกาะกระแสปล่อยเครื่อง hybrid ออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Windows 8 มาพร้อมกับความสามารถในการรองรับการสัมผัสอย่างเต็มรูปแบบยิ่งทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบ tablet เข้าไปใหญ่ ในปี 2013นี้คงต้องยกให้?Aspire R7 จาก Acer ครับที่ทั้งรูปแบบดีไซน์และสเปคนั้นออกมาได้ดีจริงๆ โดยสเปคนั้นอยู่ที่หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ัวรองรับความละเอียดที่ระดับ?1,920 x 1,080 pixels หน้าจอสามารถที่จะปรับมุมไปมาตามลักษณธของการทำงานได้ หน่วยประมวลผล?1.8GHz Core i5 แหล่งเก็บข้อมูล?500GB hybrid hard drive เราคงต้องคอยดูกันครับว่ากระแสของ hybrid นั้นจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน แต่คาดว่าน่าจะนานกว่า Netbook เป็นแน่แท้ครับ
2014: MICROSOFT SURFACE PRO 3
ถ้าคุณอยากจะเห็น PC desktop หรือ Notebook ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในระยะ 10 ปีที่ผ่านมาแล้วหล่ะก็ คงไม่มีอะไรที่จะตอบโจทย์ได้มากกว่า Microsoft Surface แล้วหล่ะครับ โดยเฉพาะกับรุ่นล่าสุดอย่าง Surface Pro 3 ที่มาพร้อมกับสเปคหน้าจอขนาด 12 นิ้วรองรับความละเอียดที่ระดับ?2,160 x 1,440 pixels หน่วยประมวลผล?Core i3, i5 or i7 แหล่งเก็บข่อมูลแบบ solid-state ขนาด?64GB ถึง?512GB สิ่งที่เราจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือดีไซน์ที่ไปทาง tablet มากกว่า แต่ก็สามารถใช้งานได้ทั้งรูปแบบของ Notebook และ Tablet โดยคีย์บอร์ดที่ถูกออกแบบมาให้อยู่ในรูปของยาง cover
และนี่ก็คือวิวัฒนาการของ PC Desktop และ Notebook ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาครับ เราจะเห็นได้ว่าบางอย่างก็ยังคงอยู่ แต่บ่างอย่างก็หายไปจากท้องตลาดแล้ว แน่นอนว่า ของที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้อาจจะหายไปจากตลอดในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้
ที่มา : engadget