ในงาน E3 ที่กำลังจัดอยู่ในเวลานี้ เมื่อวันจัทร์ที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมาในการนำเสนอของ Sony บนเวทีนั้นเต็มไปด้วยการเปิดตัวยุทธศาสตร์ใหม่ๆ สำหรับการที่จะก้าวเข้าไปเป็นอนาคตของความบันเทิงอย่างเต็มตัวครับ โดยยุทธศาสตร์นั้นก็เป็นการน้ำเสนอการเล่นเกมสตรีมมิ่งข้ามอุปกรณ์และ virtual reality เต็มรูปแบบนั่นเองครับ
ตั้งแต่ PlayStation 4 ได้เปิดตัวออกมานั้น ทาง Sony ก็ได้นำเสนอมาตลอดว่า PS4 ทำงานเปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางของอุปกรณ์ด้านความบันเทิงทั้งหมด โดยการเพิ่มขี้ดความสามารถของ PS4 ด้วย Project Morpheus สำหรับการเล่นเกมแบบ?virtual reality (VR), PlayStation Now สำหรับการเล่นเกมผ่านระบบ cloud และ PS Vita Remote Play ที่ทำให้คุณสามารถเล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลาครับ
Sony ยังมียุทธศาสตร์ในการก้าวเข้าสู่การผลักดันคอนเทนท์ดิจิทัลในฐานะที่ Sony เองก็มีธุรกิจทางด้านภาพยนตร์และดนตรีอยู่แล้ว โดยในงาน E3 นี้ Sony ได้ทำการเปิดตัวทีวีโชว์ที่ผูกขาดไว้ให้กับ?PlayStation Network ในชื่อว่า “Power” ครับ (Sony อาจจะไม่ใช่รายแรกที่ผลักดันคอนเทนท์ดิจิทัลเพราะในสหรัฐอเมริกานั้นมี Netflix และ Amazon เข้าสู่ตลาอคอนเทนท์ดิจิทัลมาก่อนหน้านานแล้ว)
โดยทั่วไปแล้วผู้บริโภคโดยทั่วไปจะมีทีวีเป็นศูนย์กลางของความบันเทิงทั้งหมดซึ่งทาง Sony เองก็ได้เล็งเห็นถึงข้อเท็จจริงตรงนี้ครับโดยทาง Sony เองจะได้นำระบบ PlayStation Now สำหรับเล่นเกมแบบสตรีมมิงลงสู่ทีวีซีรีส์ Bravia ของ Sony เองโดย Bravia ที่รองรับระบบ PlayStation Now จะวางขายในตลาดภายในช่วงปีนี้ครับ แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ต้องการที่จะซื้อทีวีใหม่ Sony เองก็มี PlayStation TV ที่เป็น micro-console และ set-top box ด้วยในตัวให้คุณเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งเช่นกันซึ่งจะวางขายในโซนตะวันตกในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ครับ
ในส่วนของอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่าง smartphone และ tablet นั้นทาง Sony เองก็มีแผนการที่จะนำระบบ PlayStation Now ลงไปสู่อุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วยเช่นเดียวกันครับ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ Sony เลยทีเดียวครับเพราะหากเทียบกับคู่แข่งอย่าง Microsoft หรือ Samsung แล้ว Sony มีทั้งเกมและคอนเทนท์ดิจิทัลที่มีปริมาณมากกว่าคู่แข่งมากครับ ทั้งนี้ Google และ Apple ก็มีแผนการที่จะทำ set-top box สำหรับต่อกับทีวีเพื่อเล่นเกมเช่นเดียวกันดังนั้นเราอาจได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นในตลาดนี้ครับ
ในช่วงที่ผ่านมานั้น Sony ก้าวเข้าสู่ธุรกิจในหลายๆ ด้าน ซึ่งบางด้านก็เป็นธุรกิจที่ Sony ไม่เคยทำมาก่อนเช่นด้านเคมี, ยา และการเงินครับ แต่ทว่าเมื่อ Kazuo Hirai ก้าวเข้ามาเป็น CEO ของ Sony ในปี 2012 ที่ผ่านมานั้นเราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Sony ครับ โดย Sony ได้ละทิ้งธุรกิจหลายๆ อย่างที่ Sony ไม่มีพื้นฐานและไม่ทำกำไรให้กับ Sony ครับตัวอย่างเช่นการขายธุรกิจทางด้าน Notebook ทิ้งไปในช่วงที่ผ่านมา และทาง Sony เองนั้นหันมาเน้นในสิ่งที่ตัวเองถนัดอย่างเช่นธุรกิจทางด้านเกมและความบันเทิงเป็นต้นครับ คงต้องรอดูกันต่อไปสักพักครับว่า Sony จะผลิกวิกฤต(ที่มีปัญหาทางด้านตัวเลขทางการเงินมาหลายปี) ให้กลายมาเป็นโอกาสจากการเน้นธุรกิจที่ตัวเองมีความเข้มแข็งอยู่แล้วได้หรือไม่
ที่มา : thenextweb