ในปัจจุบันราคาของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนั้น มีหลากหลายช่วงราคามากๆ เรียกได้ว่ามีตั้งแต่ไม่กี่พันบาทจนไปถึงระดับสองหมื่นบาทเลยทีเดียว แน่นอนว่าเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ ที่จะเลือกซื้อเลือกใช้งานได้ตามงบประมาณที่ต้องการ เพราะจากการที่บรรดาผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ ต่างแข่งขันทำตลาดกันอย่างสูง ส่งผลให้ในตอนนี้ มือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต Android มีราคาถูกลงกว่าเดิมมาก แถมยังมีให้เลือกซื้อเยอะแยะมากมายหลายรุ่น โดยในส่วนของประเทศไทยเราก็ได้เห็นกันหลายแบรนด์ชั้นนำไม่ว่าจะเป็น Acer, ASUS, HP, HTC, Huawei, Lenovo, LG, i-mobile, Oppo, Sony และ Samsung นอกเหนือจากนี้ยังมีแบรนด์จีนอื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งจะว่าไปมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่มีราคาถูกจน ใช้ว่าจะน่าซื้อจะน่าซื้อมาใช้งานเสมอไป เพราะหลายๆ อย่างก็มีข้อจำกัดของตัวมันเอง ส่งผลให้ในบทความนี้ทีมงาน NotebookSPEC ก็จะมาว่ากันด้วยเรื่อง?5 เหตุลผลที่ไม่ซื้อมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ราคาถูก (จนเกินไป) ว่ามีเหตุผลอะไรบ้าง
1. ประสิทธิภาพแค่พอใช้งาน
เป็นข้อจำกัดแรกๆ ที่ต้องยอมรับกันให้ได้เลยทีเดียว จากที่เป็นมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ราคาถูก ทำให้บรรดาผู้ผลิตต่างๆ ย่อมจำเป็นต้องลดสเปคภายในของตัวเครื่องลง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิปประมวลผล กราฟิกการ์ด แรม รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่อาจจะมีความจุน้อยจนเกินไป ทำให้ในการใช้งานนั้นอาจจะใช้งานได้ไม่เต็มที่เท่ากับมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ราคาสูงได้ ?แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้งานไม่ได้เลยนะ คือต้องบอกว่าก็ยังใช้งานแอพพลิเคชั่น เล่นเกม ฟังเพลงได้ แต่อาจจะโดนลดประสิทธิภาพในการแสดงผลลงไป ด้วยความที่ว่าทรัพยากรของเครื่องไม่เพียงพอที่จะใช้งาน แน่นอนว่ายิ่งนานวันก็จะมีโอกาสค้างหรือหน่วงมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ?
2. หน้าจอแสดงผลทัชสกรีนค่อนข้างแย่
แม้ว่าในส่วนของหน้าจอแสดงผลทัชสกรีนของมือถือจะได้รับพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องสีสันในการแสดงผล หรือระบบทัชสกรีนที่รองรับหลายๆ จุดพร้อมๆ กัน รวมไปถึงสนับสนุนการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างปากกาสไตลัส แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดนั้นจะอยู่บนมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ราคาสูงเท่านั้น แน่นอนว่าสำหรับ?มือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตตัวล่างๆ ที่เน้นราคาถูกแล้ว บรรดาผู้ผลิตก็จงใจที่จะลดต้นทุน จึงต้องลดสเปคของหน้าจอแสดงผลทัชสกรีนลงไปด้วย เรียกได้ว่าถ้าใครเคยเล่นหรือใช้งานมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ราคาถูกๆ จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน หากเทียบกับรุ่นระดับกลางหรือระดับสูง
3. วัสดุและดีไซน์ของตัวเครื่องพื้นๆ
จัดได้ว่าเป็นเรื่องปกติของมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ราคาถูก เพราะร้อยทั้งร้อยทุกๆ รุ่นนั้นทำมาจากพลาสติกเกรดธรรมดา ฉะนั้นในเรื่องของความแข็งแรงหรือความสวยงามหรูหราคงจะตอบสนองไม่ได้มากเมื่อเทียบกับมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ราคาแพง ส่งผลให้ไม่ค่อยจะทนไม้ทนมือกับการใช้งานทั่วไปซักเท่าไหร่นัก รวมเป็นถึงเกิดรอยขีดขวนได้ง่ายมาก ต้องใส่เคสเอาไว้ตลอดเวลา ฉะนั้นถ้าใครซีเรียสตรงนี้คงต้องบอกว่ามือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ราคาถูก ไม่น่าจะตอบโจทย์เท่าไหร่ อีกทั้งดีไซน์การออกแบบก็พื้นๆ เรียบง่าย ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าควักขึ้นมาใช้ ก็ไม่มีใครรู้ว่าใช้รุ่นอะไร
4. ไม่ได้ไปต่อใน Android เวอร์ชั่นใหม่ๆ
ต้องเข้าใจว่าผู้ผลิตมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตนั้นมีรุ่นย่อยมากมาย ซึ่งในการที่จะได้ไปต่อในมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตรุ่นราคาถูกนั้นคงเป็นไปได้ยาก (แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลย) เพราะบรรดาผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะสนับสนุนมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android รุ่นล่างๆ ที่ราคาถูกๆ แต่อย่างใด ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการ Android ที่ติดมากับเครื่องจะไม่ได้รับการอัพเดทอย่างที่รุ่นสูงๆ แพงๆ ได้รับแต่อย่างใด หรือเรียกได้ว่าซื้อมาเป็น Android เวอร์ชั่นไหน ก็จะเป็น Android เวอร์ชั่นชั่วกัลปสานทีเดียว ยกเว้นแต่รุ่นไหนที่ผู้ผลิตประกาศว่าได้รัยการอัพเดทแน่ๆ อันนี้ก็รอดไป รวมไปถึงกรณีที่ต้องหาพวก Custom Roms ลงด้วยตัวเอง
5. ประสบการณ์ใช้งานต่ำ ไม่น่าประทับใจ
จาก 4 เหตุผลด้านบนทำให้เกิด 1 เหตุผลที่ไม่ควรซื้อมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ราคาถูก (จนเกินไป) มาใช้งาน เพราะจะทำให้ประสบการณ์ใช้งาน Android อย่างที่ควรจะเป็นลดน้อยถอยลงไป เพราะไม่ว่าจะเป็นการทำงานโดยรวมของตัวเครื่องที่อาจจะมีช้าหรือหน่วงบ้างกรณีที่เปิดหลายๆ แอพพลิเคชั่นพร้อมๆ กัน หรืออาจจะมีกรณีที่ค้างและดับไปเลย ซึ่งถึงแม้ว่าจะเปิดเกมหรือแอพนั้นๆ ได้แต่ก็จะโดนลดกราฟิกหรือคุณสมบัติลงไป นอกเหนือจากนั้นก็จะมีเรื่องของกล้องไม่คมชัด หรือแบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่ยาวนาน ทำให้ทั้งหมดนั้นส่งผลให้การใช้งานมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ราคาถูกไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร
สรุปคือถ้ามีงบประมาณในการเลือกซื้อมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ที่ค่อนข้างสูงหน่อย ก็อาจจะเลือกเป็นมือถือสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต Android ระดับกลางหรือบนไปเลย (ต้องดูเป็นรุ่นๆ อีกที เพราะไม่แน่ว่ารุ่นราคา 5,000 + อาจจะทำได้ดีก็ได้) แต่สำหรับใครที่มีความตั้งใจจะซื้อรุ่นที่ราคาไม่แพงอยู่แล้ว ก็อาจจะต้องทำใจในเรื่องของการใช้งาน เพราะการเล่นแอพได้ กับเล่นแอพได้ดี นั้นมีความแตกต่างกันนะครับ
แต่นาทีนี้ ASUS Zenfone 4, Acer Liquid Z3s และ?Lenovo A316i?เค้าก็มาแรงจริงๆ ราคาไม่ถึง 3,000 บาทด้วย