การใช้งานคอมพิวเตอร์ของแต่ละคน สิ่งหนึ่งที่จะอยู่คู่กันกับผู้ใช้อยู่เสมอก็คือ เรื่องของการล็อคอินหรือการใส่รหัส เพื่อความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ล็อคอินเข้าสู่ระบบ การเข้าอีเมล์ เข้าเว็บบอร์ดหรือแม้กระทั่งการทำธุรกรรมออนไลน์ ก็ล้วนแต่ต้องมาการล็อคอินด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งที่ต้องใช้ก็คือ การตั้งค่า Username และ Password ที่หลายคนมักจะมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไป เนื่องจากไม่อยากจะยุ่งยากเมื่อต้องการใช้งาน จึงทำให้บางทีก็เลือกที่จะตั้งล็อคอินแบบง่ายๆ เพื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น แม้รู้ว่าจะต้องพบกับความเสี่ยงก็ตาม
แต่บางคนค่อนข้างเคร่งครัดกับการตั้งพาสส์เวิร์ด ก็เลือกตั้งให้ยากเข้าไว้ ซึ่งก็เป็นเรื่องดี ยิ่งคนที่มีข้อมูลสำคัญอยู่ในเครื่องมากมายหรือต้องทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตอยู่บ่อยครั้ง การเตรียมความพร้อมในด้านความปลอดภัยก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้น แต่การจะตั้งพาสส์เวิร์ดได้อย่างมีคุณภาพนั้นทำได้อย่างไร
How Secure is my password? ลองเช็คว่ารหัสผ่านเรานั้นแน่แค่ไหน!
แต่ถ้ายังไม่ไม่แน่ใจว่า Password ที่ใช้นั้นปลอดภัยจริงรึเปล่า แนะนำว่าลองใช้เว็บไซต์ที่ชื่อว่า How Secure is my password.com วิธีใช้เว็บไซต์นี้แบบง่ายๆ เลยก็คือ เราสามารถพิมพ์พาสเวิร์ดที่เราคิดเอาไว้ลงไปได้เลยโดยตัวเว็บไซต์จะคำนวนให้เราว่าพาสเวิร์ดนี้ถูกแฮกยากเท่าไหร่ โดยจะแสดงค่าเป็นระยะเวลาที่ต้องใช้เพื่อแฮกผ่านพาสเวิร์ดเพื่อเข้ามาสู่เครื่องของเรานั่นเอง กรอกพาสเวิร์ดที่ใช้ล็อคอินลงไปในช่องแล้ว หน้าเว็บไซต์จะคำนวนค่าให้เราโดยอัตโนมัติว่าถ้าต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อแฮกเข้าสู่เครื่องของเราจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ซึ่งหากตั้งแบบง่ายๆ ก็อาจจะใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงในการเจาะเข้าระบบ แต่ถ้าตั้งไว้รัดกุมแล้วล่ะก็บางทีแสดงผลมาเป็นแบบร้อยปี ก็ยังเจาไม่ได้เช่นกัน ซึ่งหากใครสนใจหรือต้องการที่จะทดสอบแล้วล่ะก็ลองนำมาใช้ได้ แต่ก็แนะนำว่า ถ้ายากเกินไปปัญหาก็จะตกอยู่ที่เรา เพราะอาจจะจำรหัสผ่านไม่ได้นั่นเอง
สิ่งเหล่านี้ผู้ที่ต้องการความปลอดภัยในการใช้งานและเป็นกฏง่ายๆ ในการตั้งพาสส์เวิร์ดให้ระบบที่ใช้มีความปลอดภัยมากที่สุด แต่อย่างไรก็ดีการที่คาดหวังในความปลอดภัยเช่นนี้ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้เช่นกัน อย่างเช่น การลืมพาสส์เวิร์ดหรือลืมรหัสผ่าน เนื่องจากตั้งค่ายากเกินไป ซึ่งจะกลายมาเป็นปัญหาในภายหลัง ดังนั้นก็ควรต้องให้ความสนใจในการตั้งค่าที่ต้องสอดคล้องต่อการใช้งานด้วย ให้กระชับ ปลอดภัย แต่ไม่สั้นหรือง่ายจนเกินไป จนอาจทำให้คาดเดาได้ แต่ถ้าในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน ก็อาจจะต้องใช้ระบบการกู้รหัสผ่าน อย่างเช่น ในฟรีอีเมล์หลายๆ ตัว ก็มักจะให้กรอกอีเมล์สำรอง เพื่อการกู้คืนหรือการจัดส่ง Password ตัวใหม่ไปให้ เมื่อเกิดลืมรหัสผ่านอีกด้วย
การปลดล็อครหัสผ่าน Windows
การลืมรหัสผ่าน เป็นเรื่องพื้นฐานที่หลายๆ คนน่าจะเคยได้พบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าวินโดวส์ไม่ได้ เพราะเกิดจากการตั้งรหัสที่ยากเกินไป แล้วกลายเป็นว่าลืมรหัสผ่านในการปลดล็อครหัสเข้าหน้า Windows ที่ตั้งไว้ ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ทีเดียว เพราะเข้าวินโดวส์ยังไม่ได้ แล้วจะทำอย่างอื่นได้อย่างไร แต่ความจริงแล้วก็ยังพอมีทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ โดยการใช้โปรแกรมสารพัดประโยชน์อย่าง Hiren’s มา และเรียกใช้งานในส่วนของ Active Password Changer ซึ่งใช้ในการปลดรหัสได้ทั้ง Windows XP และ Windows 7
จำพาสส์เวิร์ดเข้าใช้ BitLocker Drive Encryption ไม่ได้
สำหรับคนที่ใช้ฟีเจอร์ BitLocker Drive Encryption ที่ใช้สำหรับการเข้ารหัสเพื่อล็อคแฟลชไดรฟ์ป้องกันการลักลอบใช้งานนั้น สิ่งสำคัญเลยก็คือ ต้องไม่ลืมพาสส์เวิร์ดสำหรับเข้าใช้งานเป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจจะไม่สามารถใช้งานแฟลชไดรฟ์ได้อีก ยิ่งถ้าไม่ได้เตรียมตัวไว้ตั้งแต่ต้นในเรื่องของรหัสแก้หรือไฟล์ที่ใช้สำหรับการแก้ไขด้วยแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจไม่น้อยทีเดียว ดังนั้นแล้วมาดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่ต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ มีอะไรบ้าง เพื่อความปลอดภัยในระยะยาม ต้องเข้าไปดูในไฟล์ที่จัดเก็บรหัสการแก้ไขเอาไว้เบื้องต้น ในกรณีที่ลืมรหัสผ่านในการเข้าไดรฟ์ไม่ได้ เพราะติดระบบ BitLocker อยู่นั้น ให้เลือกไปที่ไฟล์สำหรับใส่ Key Recovery เอาไว้แล้วให้ใส่คีย์ ในช่อง Enter Recovery Key เท่านี้ก็กลับมาเปิดใช้งานข้อมูลที่อยู่ใน BitLocker Drive Encryption ได้แล้ว