ในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงที่นักวิเคราะห์ในหลายๆ สำนักต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าตลาด PC Desktop กำลังเข้าสู่ยุคมืดเพราะการมาถึงของ Smartphone และ Tablet แต่จากในงาน?Intel?s Solutions Summit ที่สิงคโปรในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ได้มีการเผยว่ายอดของ PC Desktop นั้นกำลังกลับมาเติบโตอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เงียบเหงาไปถึง 2 ปีครับ
โดยทาง Intel ได้เผยในงาน?Intel?s Solutions Summit ครับว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2013 ที่ผ่านมานั้นยอดของ Desktop processor นั้นเพิ่มขึ้นมาถึง 7% ด้วยกันหากเทียบกับของไตรมาสเดียวกันของปี 2012ส่วนสาเหตุที่ยอดสามารถที่จะเพิ่มขึ้นได้นั้น Intel ได้ยกเครดิตให้กับ Microsoft ที่ประกาศหยุดให้การสนับสนุนอัพเดทความปลอดภัยให้กับ Windows XP ?จนทำให้หลายคนสนใจที่จะอัพเกรดคอมทั้ง Desktop และ notebook กันมากขึ้น อีกครั้งความต้องการในคอมพิวเตอร์ที่มี?form factors?แบบใหม่อย่าง?all-in-ones (AIOs) และ ultra-small next unit computing (NUC) มีสูงเพิ่มขึ้นตามลำดับนั่นเองครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงแม้ว่า Intel จะออกมาให้รายงานว่ายอด Desktop processor จะเพิ่มขึ้นมากก็ตาม แต่นักวิเคราะห์ก็กลับมองเห็นว่าความต้องการนี้อาจจะเป็นเพียงความต้องการแค่ระยะสั้นๆ เท่านั้นเนื่องจากว่าในช่วงทุกๆ 3-5 ปี ก็จะเป็นช่วงที่ผู้ใช้ทำการอัพเกรด PC Desktop หรือ Notebook กันอยู่แล้ว แถมนักวิเคราะห์ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่าการที่ Intel มียอด Desktop processor เพิ่มขึ้น 7% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2013 นั้นก็ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับตลาดรวมทั่วโลกได้เนื่องจาก Intel เป็นเบอร์ 1 ในตลาด Desktop processor อยู่แล้ว และแน่นอนว่าหากผ่านช่วงนี้ไปแล้วนั้นตลาดก็จะกลับมาเงียบดังเดิม งานนี้คงต้องรอดูต่อไปครับว่า Intel จะออกมาแก้เกมอย่างไร ส่วนตัวผมเองก็อัพเกรดคอมทุกๆ 2 ปี โดยเฉพาะช่วงหลังจะยิ่งทิ้งระยะเวลานานขึ้นกับการอัพเกรด (เพราะไม่ค่อยได้เล่นเกมแล้วนั่นเองครับ) แล้วคุณหล่ะครับใช้ระยะเวลาเท่าไรถึงจะอัพเกรดคอมกันสักครั้ง ลองแชร์กันหน่อยครับ
ที่มา : vr-zone