อุตสาหรกรรมเกมเรียกได้ว่าเป็นความหวังใหม่ของตลาดคอมพิวเตอร์และเครื่องเกมคอนโซลในยุคปัจจุบันเลยละครับ เพราะมันเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ช่วยผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ต่างๆให้มีความก้าวหน้าและประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อขับเคลื่อนเกมใหม่ๆกราฟฟิคสวยๆที่ป้อนเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แน่นอนเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์เองก็เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องคอนโซลในปัจจุบัน อย่างน้อยๆก็เครื่องคอนโซลรุ่นล่าสุดอย่าง Xbox One และ PlayStation 4 ที่เรียกได้ว่าดึงเอาชิปประมวลผลอย่าง AMD APU ไปใช้เป็นแกนในการขับเคลื่อน ซึ่งก็ทำให้เพื่อนๆหลายท่านสงสัยกันว่าในท้ายที่สุดแล้ว PC vs Console อันไหนเจ๋งกว่ากัน วันนี้ NBS จึงขออาสาคลายความฉงนกันครับ
ความหลากหลายในการใช้งาน
คอมพิวเตอร์
แน่นอนคอมพิวเตอร์นั้นสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานที่หลากหลายมาก ซึ่งนอกจากจะนำไปใช้เล่นเกมที่มีภาพสวยงามได้แล้ว มันยังสามารถนำไปใช้ในความบันเทิงต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง ท่องเน็ต แชทบนโลกออนไลน์ รวมไปถึงก็ยังใช้งานด้านอื่นๆที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ใช้ได้อีกเยอะทีเดียวไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร งานตัดต่อวิดีโอ งานรูป เป็นต้น ซึ่งเรียกได้ว่าคอมพิวเตอร์นั้นเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์โลกที่ขาดไม่ได้ในยุคปัจจุบันไปแล้วก็ว่าได้
คอนโซล
แตกต่างกับคอมพิวเตอร์อย่างสิ้นเชิง สำหรับเครื่องคอนโซลนั้น ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะเจาะจง ซึ่งแน่นอนในการใช้งานของมันนอกจากเล่นเกมแล้วก็ยังพอสามารถที่จะใช้งานในด้านของความบันเทิงได้บ้างพอสมควร เช่นการท่องอินเตอร์เน็ต , การรับชมวิดีโอ ภาพยนต์ ซีรีย์ หรือกีฬา เป็นต้น ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่แตกต่างอะไรกับคอมพิวเตอร์ในด้านของการตอบสนองความบันเทิง เพียงแต่คอลโซลจะไม่สามารถทำงานวิชาการได้ และไม่สามารถสร้างรายได้ตอบกับมาให้ผู้ใช้ได้เลย(ถ้าไม่เปิดร้านเกม หรือให้เช่าเครื่อง)
จำนวนของเกม-แนวเกม
คอมพิวเตอร์
เรียกได้ว่ามีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องสำหรับเกมที่มีให้เลือกเล่นกันบนคอมพิวเตอร์ ซึ่งในด้านของจำนวนั้นก็เรียกได้ว่าค่อนข้างมากทีเดียว รวมทั้งยังมีเกมที่เป็นเฟรนไชน์ต่างๆมากมายซึ่งสาวกเกมมิ่งพีซีก็ติดกันอย่างงอมแงมไม่ว่าจะเกมแนววางแผนทั้งหลายอย่าง Company of Heroes , Total War Series รวมไปถึงเกม MMORPG ต่างๆ และเกมยอดฮิตอย่าง DOTA 2 เป็นต้นที่ Console ไม่มี รวมถึงในปัจจุบันมีร้านค้าเกมแบบดาวน์โหลดผุดขึ้นมาอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น Steam หรือ Origin ที่เรียกได้ว่าผลักดันให้อุตสาหรรกรรมเกมเดินหน้าต่อไป แต่ถ้าวัดกันปอนด์ต่อปอนยังไงซะฝั่งคอมพิวเตอร์ก็มีจำนวนเกมที่น้อยกว่า
คอนโซล
เกมทางฝั่งคอลโซลเรียกได้ว่ามีจำนวนเกมที่มหาศาลเมื่อนำเกมของคอมพิวเตอร์มาเปรียบเทียบด้วย แน่นอนฝั่งคอนโซลก็มักจะมีเกมเฉพาะเครื่องหรือเกม Exclusive เยอะแยะมากมายที่ผู้ผลิตไม่พอร์ตลง PC ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ รวมไปถึงในฝั่งของคอนโซลก็มี Store ซื้อเกมแบบดาวน์โหลดอยู่เช่นเดียวกันกับฝั่ง PC
ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนเลยละครับว่าถ้าอยากเล่นเกมแบบ Exclusive หรือชอบเล่นเกมที่หลากหลายมากกว่า คอนโซลย่อมตอบโจทย์ได้ดีกว่าในด้านจำนวนของเกม รวมไปถึงตอบโจทย์ได้กับผู้เล่นที่ชอบพักผ่อนอยู่กับบ้านและเล่นผ่านจอทีวีขนาดใหญ่โดยไม่จำเป็นต้องไปยุ่งยากวุ่นวายกับการประกอบคอมฯ โดยแนวเกมที่เห็นในเกม Console ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกมภาษา เกมแนว Action เกมแนวผจญภัย หรือแม้แต่ FPS และแนวอื่นๆก็มีให้เห็นกันละครับ (แต่แนว RTS นั้นดูเหมือนจะเป็นข้อจำกัดของ Console อยู่บ้าง)
ความสวยงามและลื่นไหลภายในเกม
คอมพิวเตอร์
เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากมายในด้านของระดับกราฟฟิกหรือความสวยงามภายในเกมระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์เกมมิ่งและเครื่องเกมคอนโซล ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแบบไม่เอนเอียงเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีภาษีที่ดีกว่าในด้านของกราฟฟิกภายในเกม ถึงแม้ในช่วงแรกเกมที่เล่นบน Xbox One และ PlayStation 4 จะมีภาพที่สวยงามและลื่นไหลกว่า แต่ด้วยความที่คอนโซลใช้สเปคเครื่องแบบตายตัวปรับเปลี่ยนไม่ได้ทำให้ในท้ายที่สุด เมื่อคอมพิวเตอร์ออกฮาร์ดแวร์ที่สนับสนุนเกมนั้นๆมาใหม่ ก็จะสามารถทำกราฟฟิคได้งดงามมากกว่า แต่ก็แลกมาด้วยราคาของเครื่องที่สูงกกว่ามาก และต้องปรับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ให้รองรับกับเกมนั้นอยู่เรื่อยๆ ซึ่งก็ใช้จำนวนเงินมหาศาลไม่อย่างนั้นเกมที่ออกมาใหม่ก็อาจจะเล่นได้ไม่ลื่นเท่าที่ควร(ถ้าเล่นที่ความละเอียดสูง และกราฟฟิคสวยๆ)
คอนโซล
ถึงแม้คอมพิวเตอร์จะได้เปรียบในเรื่องของฮาร์ดแวร์ที่ปรับเปลี่ยนได้ ทำให้ในท้ายที่สุดคอมพิวเตอร์ก็อาจจะมากลบความสวยงามของกราฟฟิคบนเครื่องคอนโซลที่มักจะทำได้ดีในช่วงแรก แต่อย่างไรก็ดีคอลโซลนั้นได้เปรียบในด้านของการเล่นที่ลื่นไหลกว่ามากเพราะตัวคอลโซลมีฮาร์ดแวร์เฉพาะทำให้ผู้ผลิตเกมผลิตเกมได้สะดวกกว่าและไม่ต้องมาปวดหัวกับการกำหนดสเปคเครื่องต่างๆให้วุ่นวาย แน่นอนมันก็เป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมหาศาลในการอัพเกรดฮาร์ดแวร์บนเครื่องคอนโซลอยู่เสมอๆเหมือนดั่ง PC
งบประมาณ-ระยะเวลาของเครื่อง-จบภายในครั้งเดียว
คอมพิวเตอร์
เกมมิ่งคอมพิวเตอร์ที่จะตอบสนองกับการเล่นเกมได้ในทุกรูปแบบบนภาพสวยๆนั้น ต้องใช้งบประมาณในการตัดสิน ยิ่งมีงบประมาณมากก็ยิ่งได้คอมพิวเตอร์เครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งก็ส่งผลให้เกมสวยงามสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเกมทางฝั่ง PC ผุดเกมกินสเปคออกมามากมายทุกๆปี ทำให้เหล่าเกมเมอร์ที่จริงจังสุดๆต้องจัดหาฮาร์ดแวร์อย่างการ์ดจอและซีพียูชุดใหม่อยู่เป็นประจำเพื่อให้ตนเล่นเกมที่กราฟฟิกสูงได้อย่างลื่นไหล
เรียกได้ว่าปีหนึ่งบางคนเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่กันกันแบบยกชุดเลยทีเดียว และยังไม่ได้รวมอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ที่เรียกได้ว่าตอดเงินกันมหาศาล แต่อย่างไรก็ดีก็มีข้อดีอยู่บ้างสำหรับเพื่อนๆที่ค่อยๆขยับเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องไปทีละเล็กละน้อยเช่นทยอยเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ทีละส่วน หรือเป็นเกมเมอร์ที่ไม่แคร์ว่ากราฟฟิคจะปรับ Low หรือ Medium ขอให้เล่นได้ก็พอ ซึ่งก็ประหยัดงบได้พอสมควร
คอนโซล
ลำพังตัวเครื่องพร้อมอุปกรณ์ครบชุดของ Console Next-Gen ในปัจจุบันก็ใช้งบประมาณไม่มากนัก อย่างมากสุดครบชุดเลยก็จะไปจบอยู่ที่ 25-30,000 บาทซึ่งก็ถือว่าไม่แพง แต่อย่างลืมว่าก็ยังมีจอ LED TV ที่ต้องซื้อเอาไว้เล่นคู่กันด้วย อย่างในปัจจุบันระดับ 46 นิ้วก็จะอยู่ที่ราวๆ 20,000 บาท แต่สำหรับเพื่อนๆท่านใดที่มีจอทีวีอยู่แล้วก็จะประหยัดงบด้านนี้ไปได้พอสมควรเลยละครับ แถมอายุการใช้งานของเครื่องเกมคอนโซลโดยเฉลี่ยก็มีอายุอานามอย่างต่ำก็ 3-4 ปีขึ้นไป (ถ้าเครื่่องไม่พังเสียก่อน) ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนกับเครื่องเกมที่คุ้มค่ามากทีเดียวสำหรับเพื่อนที่รักการเล่นเกม
เป็นอย่างไรกันบ้างละครับกับการเปรียบเทียบหมัดต่อหมัด 4 หัวข้อหลักๆของ PC vs Console แน่นอนเจ้าเครื่องเกมทั้งสองรูปแบบนั้นก็ต่างมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกัน ซึ่งสรุปสั้นได้ดังนี้
เกมมิ่งคอมพิวเตอร์
- เล่นเกมภาพสวยๆแถมใช้ทำงานอื่นๆหาเงินได้ด้วย
- เป็นคนแอคทีฟชอบอัพเกรดฮาร์ดแวร์เพื่อปรับปรุงระบบอยู่เสมอสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการภาพสวยสุดๆ
- เกมฟรีหาง่ายโหลดตามบิทได้ด้วย
- เกมมิ่งเกียร์ และอุปกรณ์มีให้เลือกมากมาย
- เกมเก่าๆส่วนใหญ่ในอดีตก็สามารถหาเล่นได้แม้จะมีอายุมากกว่า 10-20 ปี
เกมมิ่งคอนโซล
- เหมาะกับเพื่อนๆที่ชอบลงทุนครั้งเดียวแล้วจบ ไม่ชอบอัพเกรด และความยุ่งยากในการใช้งาน
- เล่นเกมได้ลื่นไหลแม้จะซื้อตัวเครื่องมานานแล้วก็ตาม
- อยากได้เครื่องเกมที่มีเกมรองรับเยอะ
- อยากได้เครื่องเกมที่มีอายุยาวๆระดับ 4-5 ปี?
- สามารถใช้ออกกำลังกายได้ ด้วยอุปกรณ์เสริมอย่าง PlayStation Eye และ Kinect
- มีเวลาเหลือเฟือในการเล่นเกม ซื้อมาแล้วไม่เก็บดองจนพัง
สุดท้ายตัวผู้เขียนเองก็ไม่สามารถฟันธงลงไปได้ตรงๆว่าอะไรนั้นเจ๋งกว่ากัน แต่บอกได้เพียงแค่ว่าเครื่องไหนๆเหมาะกับใครมากกว่า ซึ่งในท้ายที่สุดนี้ผู้ใช้และผู้ซื้อต่างหากละครับที่สามารถจะตัดสินได้ว่าอะไรเหมาะกับตัวผู้ใช้มากกว่า และจะใช้ประโยชน์ รวมไปถึงความบันเทิงบนอุปกรณ์ไหนได้มากกว่ากัน สวัสดีครับ