ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาสงครามภาพถ่ายบนสมาร์ทโฟนหรือมือถือนั้นมักจะวัดกันที่ “ใครมีจำนวนพิกเซลมากกว่าคนนั้นชนะ” ยกตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy S5 ที่มีกล้องถึง 16 ล้านพิกเซล , Sony new Xperia Z2 ที่มีกล้อง 20.7 ล้านพิกเซล และ Nokia Lumia 1020 ที่เลือกใช้กล้อง 41 ล้านพิกเซล
?
Google Project Tango?
แต่อย่างไรก็ดีเริ่มมีเค้าลางของการเปลี่ยนแปลงบางอย่างแล้วอย่าง Google Project Tango ที่มาพร้อมกล้องที่เรียกว่า depth camera ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของภาพถ่ายได้ด้วยเลนส์ภายในจำนวน 2 ตัวที่มีความยาวของโฟกัสแตกต่างกัน ที่สามารถลดข้อจำกัดและข้อบกพร้องบางอย่างของกล้องบนสมาร์ทโฟนได้ด้วย
Google Project Tango ติดตั้ง Sensor ในรูปแบบเดียวกับ Kinect ที่สามารถสแกนความตื้น-ลึกในรูปแบบ Infrared และยังติดตั้งหน่วยประมวลผล Myriad 1 vision จาก Movidius ที่สามารถประมวลผลความตื้น-ลึกได้แบบทันท่วงที ซึ่งมีจุดประสงค์ในการออกแบบที่จะพัฒนาสมาร์ทโฟนที่สามารถสร้างแผนที่ภายในอาคาร และจะต่อยอดเพื่อนำไปขายให้กับองค์กรธุรกิจที่สนใจในเทคโนโลยีนี้
Pelican Imaging
นอกจากนี้ก็จะมีบริษัทอย่าง Pelican Imaging ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Qualcomm?มาพร้อมด้วยเลนส์จำนวน 16 ชุดในรูปแบบของตาราง 4×4 ทำหน้าที่แยกจากกันอิสระ โดยในการบันทึกภาพจะบันทุกภาพที่มีสีแดง เขียว และฟ้าแยกจากกัน แต่นำมารวมเป็นภาพเดียวกันที่ความละเอียดภาพ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเจ้าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลด Noise โดยใช้ CMOS แบบปกติ
และยังสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อย และมีระบบป้องกันการถ่ายภาพสั่นไหวแบบ 3 มิติ ที่จะช่วยให้ถ่ายวิดีโอได้นุ่มนวลขึ้น และช่วยลดอาการภาพเบลอในการถ่ายภาพขณะเคลื่อนไหว ซึ่งเจ้าเลนส์จาก Pelican Imaging นั้น คาดว่าจะลงตลาดอย่างไวสุดภายในปี 2015 และจะถูกติดตั้งไว้ในแบรนด์สมาร์ทโฟนรายใหญ่ๆอีกด้วย
Corephotonics
อีกแบรนด์จากประเทศอิสราเอลอย่าง Corephotonics ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Qualcomm เช่นกัน มาพร้อมเลนส์ความละเอียดสูง 2 ชิ้น ที่มีความยาวโฟกัสแตกต่างกัน ซึ่งตัวต้นแบบนั้นจะมาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยชิ้นเลน์ตัวแรกจะเป็นเลนส์มุมกว้าง และอีกตัวจะเป็นเลนส์แบบ 3x เทเล ที่สามารถซูมภาพได้ดียิ่งขึ้นและภาพไม่แตกในขณะที่ซูมภาพหรือวิดีโอ พร้อมยังช่วยลด noise และถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น รวมไปถึงยังเพิ่มมิติความชัดลึกให้กับภาพถ่ายที่ทางแหล่งข่าวบอกว่าดีกว่ากล้องตัวอื่นๆแน่นอน ที่สำคัญยังมาพร้อมขนาดโมดูลกล้องที่เล็กและสามารถติดตั้งไว้บนตัวเครื่องสมาร์ทโฟนได้ และยังกินไฟใกล้เคียงกับโมดูลกล้องที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ซึ่งจากผลิตภัณฑ์ด้านกล้องและการถ่ายภาพแบบใหม่ทั้งสามตัวก็แสดงให้เห็นได้ชัดว่าในอนาคตนั้นจำพวกพิกเซลที่มีมากก็ยังสำคัญอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือชิ้นเลนส์ ภาพที่ออกมา และฟีเจอร์ต่างๆที่มีในโมดูลกล้องนั้นๆ ที่เชื่อได้เลยในอนาคตผู้ใช้น่าจะเริ่มให้ความสำคัญมากกว่าจำนวกพิกเซลเยอะๆอย่างแน่นอน