กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Thailand Mobile Expo 2014 มหกรรมมือถือครั้งยิ่งใหญ่ประเดิมศักราชใหม่ปีม้า 2557 แม้จะผ่านช่วงปีใหม่เพียง 1 เดือน แต่วงการมือถือบ้านเราเรียกว่าร้อนแรงทีเดียว จากการเปิดตัวสมาร์ทโฟน ? แท็บเล็ตหลากหลายรุ่นจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ซึ่งคุณสามารถสัมผัสตัวจริงก่อนตัดสินใจซื้อ พร้อมโปรโมชั่นเสริมระดับตำนาน ลดแลกแจกแถมไม่อั้น นอกจากนี้ ยังมี Gadget Zone นำเสนออุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ๆ จากทั่วทุกมุมโลก รับรองว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ! สำหรับวันนี้เรามาชม 98 มือถือ-แท็บเล็ตที่น่าสนใจภายในงานกันครับ ขอบอกว่าบางรุ่นเปิดตัวและวางจำหน่ายครั้งแรกเลยทีเดียว สามารถนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจซื้อได้เลย : )
Samsung
Galaxy Pocket Neo
สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จาก Samsung ครบเครื่องในราคาไม่ถึง 3,000 บาท กับหน้าจอขนาด 3.0 นิ้ว ขนาดเล็กกะทัดรัด มีหลากสีสันให้เลือก ชิปประมวลผลความเร็ว 1 GHz รองรับการใช้งานโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค แอพพลิเคชั่นหลากหลาย ติดกล้อง 2 ล้านพิคเซล มีวิทยุ FM เครื่องเล่นเพลง เพิ่มเมมโมรี่การ์ดภายนอกได้ นอกจากนี้ยังรองรับ 3G WiFi GPS หากคุณเล็งสมาร์ทโฟนเครื่องแรก รุ่นนี้เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยครับ แม้ว่าจะมีรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกันให้เลือกอีกเพียบ
Galaxy Fame
อัพเกรดระดับสูงขึ้นมาหน่อยจะเป็น Galaxy Fame มีจุดขายหลักตรงรองรับการเชื่อมต่อ NFC สำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น หูฟังไร้สาย, ลำโพง รวมถึงระบบ Rabbit Card ที่เพิ่งโปรโมทไปไม่นานนี้ สเปคภายในมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ชิปประมวลผลความเร็ว 1 GHz ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล รองรับ 3G WiFi GPS ครบในตัว นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมจาก Samsung เช่น Galaxy Gift ไว้แลกของกิน ส่วนลดฟรีจากร้านค้าที่ร่วมรายการ และอื่นๆ ต้องลองเล่นตัวจริงจ้า
Galaxy Ace 3
ภาคต่อของรุ่นสุดคุ้มในตระกูล Galaxy Ace Series โดดเด่นด้วยสเปคระดับ Dual-Core พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 บนหน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Google Play Store ถ่ายภาพผ่านกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอความละเอียด HD ได้ด้วย นอกนั้นก็มีเครื่องเล่นเพลง วิทยุ FM หรือบริการเสริมต่างๆ จาก Samsung ที่คุณไม่ควรพลาด กับราคาค่าตัวประมาณ 6 พันกว่าบาทเท่านั้นเอง !
Galaxy Win Duos
เพิ่มเงินอีกหน่อยคุณจะได้สมาร์ทโฟน Quad-Core รุ่นฮิตจาก Samsung อย่าง Galaxy Win Duos หน้าจอใหญ่ 4.7 นิ้ว ดูอะไรได้ชัดขึ้นเยอะ ลงเกมไว้เล่นบนมือถือ หรือชมซีรี่ส์เรื่องโปรดผ่านวิดีโอสตรีมมิ่งบน Youtube ก็ทำได้บนรุ่นนี้ครับ ติดกล้องความละอียด 8 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่ 2,000 มิลลิแอมป์ เพียงพอกับการใช้งานเต็มวันโดยชาร์จแบตเต็มครั้งเดียว ที่สำคัญ Galaxy Win Duos ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดอีกด้วย เหมาะกับคนชอบโทร ชอบเล่นเน็ต อาจจะแยกโปรโมชั่นละ 1 ซิมไปเลยก็ดีเหมือนกัน
Galaxy Grand 2
หากคุณกำลังหาซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ในงบไม่เกิน 12,000 บาท Galaxy Grand 2 จาก Samsung คือตัวเลือกอันดับแรกๆ เลยทีเดียวครับ ภาคต่อของ Galaxy Grand รุ่นนี้โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ครบเครื่อง หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 5.2 นิ้ว ชิปประมวลผล Snapdragon 400 Quad-core เร็วแรง รองรับคอนเทนท์ Full HD เต็มรูปแบบ ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 ลื่นไหล มีฟีเจอร์เสริมต่างๆ มากมายเช่น My Magazine สำหรับติดตามข่าวสาร, S Translate แปลภาษาพร้อมตัวอย่างประโยคที่จำเป็น ฯลฯ ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล ฝาหลังแบบ Faux-Leather แบบเดียวกับ Galaxy Note 3 และรองรับ 2 ซิมการ์ด แค่นี้ก็คุ้มเหลือเชื่อแล้วล่ะ
Galaxy Note 2
ถึงจะเปิดตัวมาปีกว่าๆ แต่เรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคายังต้องยกให้ Galaxy Note 2 จากราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก แต่ได้สเปคครบเครื่องทั้งหน้าจอ HD 5.5 นิ้ว รองรับการใช้งาน S-Pen พร้อมฟีเจอร์เสริมบนแอพพลิเคชั่น S Note และอื่นๆ ชิปประมวลผล Quad-Core 1.6 GHz ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่อึดกระหน่ำ 3,100 mAh และอัพเกรดเป็น Android 4.3 รวมถึง 4.4 Kitkat ได้ในอนาคต ยืนยันเลยว่าซื้อแล้วจะไม่เสียดายครับ
Galaxy S4
สุดยอดรุ่นอมตะแห่งปี 2013 แม้ว่าจะมีข่าวคราวของทายาทออกมาบ่อยครั้ง แต่ Galaxy S4 ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเหมือนเดิม กับสเปคภายในอันลงตัวทั้งหน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว ขนาดบอดี้ใช้านมือเดียวได้สบายๆ ชิปประมวลผล Exynos 5 Octa-core RAM 2 GB ทำงานลื่นไหลบนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 รองรับคอนเทนท์ Full HD เต็มรูปแบบ จะเล่นเกม ดูหนังตามใจชอบ การเชื่อมต่อครบเครื่อง ใช้งาน WiFi Direct ส่งข้อมูลฉับไว หรือ NFC ไว้เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมง่ายดาย ติดกล้องความละเอียด 13 ล้านพิคเซล ถ่ายวิดีโอ Full HD ตัวเครื่องมีให้เลือกหลากสีสันครับ รวมถึง Crystal Edition ฝาหลังประดับคริสตัล มีจำนวนจำกัด ช้าหมดอดนะคร้าบ
Galaxy Note 3
ที่สุดของสมาร์ทโฟน Samsung รุ่นปัจจุบันสำหรับ Galaxy Note 3 ครบเครื่องทุกฟีเจอร์ รวมของดีทุกอย่างในตัวทั้งแอพพลิเคชั่น บริการเสริม สิทธิพิเศษต่างๆ จาก Samsung โดดเด่นด้วยสเปคหน้าจอ Full HD ขนาด 5.7 นิ้ว สามารถใช้ S-Pen เขียน, จดบันทึก, วาดภาพบนหน้าจอผ่าน S-Note หรือแอพพลิเคชั่นที่รองรับได้เลย พร้อม Air Command ชุดเมนูลัดเมื่อคุณใช้ S-Pen จ่อบนหน้าจอ สะดวกสบายมากขึ้น เร็วแรงขั้นสุดด้วยชิปประมวลผล Exynos 5420 ส่วนระบบปฏิบัติการ ล่าสุดสามารถอัพเกรดเป็น Android 4.4 Kitkat ได้แล้ว ทำงานเร็วขึ้นเยอะเลยทีเดียว กล้องด้านหลัง 13 ล้านพิคเซล ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง รุ่นท็อปแบบนี้ลองติดตามโปรโมชั่นภายในงานครับ รับประกันความแซ่บ !
Galaxy Tab 3 7.0
แท็บเล็ตจอ 7 นิ้วราคาสบายกระเป๋าในตระกูล Galaxy Tab ให้คุณสามารถใช้งานทั่วไป เข้าเว็บไซต์ เล่นเกม ดูซี่รี่ส์ ใช้งานแอบพลิเคชั่นบนจอยักษ์ ขนาดพกพาสะดวกใส่กระเป๋าถือได้สบาย สามารถใส่ซิมการ์ดเพื่อใช้งาน 3G และโทรออกได้เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน เรียกว่าซื้อเครื่องเดียวได้ถึง 2 ชนิดอุปกรณ์ในตัว สเปคภายในใช้ชิปประมวลผล Dual-Core 1.2 GHz รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 แม้จะไม่แรงเท่าไหร่แต่ก็ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานครบเครื่องครับ ติดกล้อง 3 ล้านพิคเซล ทั้งหมดนี้สามารถเป็นเจ้าของได้ในงบไม่ถึง 10,000 บาทเท่านั้นเอง
Galaxy Tab 3 8.0
ขยับขึ้นมาจากแท็บเล็ตจอ 7 นิ้วก็จะได้ Galaxy Tab 3 8.0 รุ่นนี้เน้นความบางเฉียบเพียง 7.1 มิลลิเมตร เรียกว่าบางกว่าสมุดโน้ตซะอีก หน้าจอขนาด 8.0 นิ้ว รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล และใช้ชิปประมวลผล Dual-Core 1.5 GHz โดยรวมเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการแท็บเล็ตบางๆ ไว้ใช้งานทั่วไป พกพาง่าย ส่วนราคาอยู่ในระดับหมื่นต้นๆ ครับ
Galaxy Tab 3 10.1
ถ้าคิดว่าแท็บเล็ตจอ 7 นิ้วไม่พอสามารถอัพเกรดเป็นรุ่น 10.1 นิ้ว พร้อมสเปคที่แรงขึ้นได้เลยกับ Galaxy Tab 3 10.1 เป็นโมเดลแรกที่ใช้ชิปประมวลผลจาก Intel ถือว่าแรงเร็วกำลังดี พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ลงอะไรเพิ่มได้มากมาย ที่น่าสนใจคือหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะกับการดูหนัง เล่นเกม เปิดเว็บไซต์ อ่านหนังสือดิจิตอล (E-Book) ฯลฯ ได้เต็มตากว่าบนสมาร์ทโฟน บอดี้บางเฉียบเพียง 8 มิลลิเมตร เทียบได้กับสมุดวาดเขียนขนาดใหญ่ จึงพกพาใส่กระเป๋าไม่ยากนัก ติดกล้องไว้ถ่ายภาพขำๆ 3 ล้านพิคเซล ส่วนกล้องหน้า 1.3 ล้านพิคเซล ใช้สนทนาทางวิดีโอเป็นหลัก รุ่นนี้น่าจะมีโปรโมชั่น-ราคาเร้าใจในงาน ต้องลองติดตามให้ดีๆ
Galaxy Note 10.1 2014 Edition
หากจะพูดถึงแท็บเล็ต Android ที่มีคุณสมบัติระดับสูงในตลาดมีไม่กี่รุ่นเท่านั้นโดย Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) ก็เป็นหนึ่งในนั้น จากสเปคหน้าจอความละเอียด 2560 x 1600 พิคเซล สูงกว่าระดับ Full HD แสดงผลคมชัดสุดยอด ถึงขนาดหน้าจอจะ 10.1 นิ้วก็ตาม รองรับการอินพุทด้วย S-Pen พร้อมฟีเจอร์แบบเดียวกับบน Galaxy Note 3 เหมาะกับใช้จดบันทึก หรือวาดภาพ เทียบกับกระดานขนาดใหญ่ได้เลย ชิปประมวลผล Exynos 5420 รองรับการใช้งานทุกรูปแบบสบายๆ ครับ ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล บอดี้ด้านหลังแบบ Faux-Leather ให้สัมผัสดีกว่าเดิม นอกจากนี้ยังใส่ซิมการ์ดโทรออก (แนะนำให้ใช้หูฟังบลูทูธ) ใช้งาน 3G ได้อีกต่างหาก สนนราคา 20,900 บาท ? คิดว่าคงตัดสินใจไม่ยากนะครับ : )
Nokia
Asha 503
พบกับ Nokia Asha สมาร์ทโฟนโฉมใหม่ Asha 503 ดีไซน์คล้ายมีกรอบคริสตัลล้อมรอบ หน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.0 นิ้ว พร้อมเมนู Asha UI ใช้งานง่ายตามแบบฉบับ Nokia มีแอพพลิเคชั่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คภายในเช่น Twitter, Facebook รวมถึง Line สามารถล็อกอินใช้งานได้ทันที รองรับ 2 ซิมการ์ด ใช้ 3G WiFi เล่นเน็ตทุกที่ทุกเวลา ติดกล้อง 3 ล้านพิคเซล และมีบอดี้หลากสีสันให้เลือกเช่นเคย
Lumia 525
ภาคต่อของวินโดว์โฟนรุ่นประหยัด Lumia 520 อัพเกรดสเปคแรงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Dual-Core 1 GHz รองรับคอนเทนท์ HD ทั้งเกม วิดีโอ ฯลฯ ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Windows Phone Store ปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานมากมาย กล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล ถ่ายวิดีโอ HD ได้ด้วย และมีให้เลือกหลากหลายสีสัน เปลี่ยนฝาหลังตามใจชอบ ด้านราคาต้องรอติดตามครับ คาดว่างบ 5 พันบาทก็สอยได้แล้ว
Lumia 625
วินโดว์โฟนจอใหญ่ 4.7 นิ้วจาก Nokia สำหรับ Lumia 625 มีจุดขายตรงหน้าจอใหญ่ เหมาะกับใช้งานแอพพลิเคชั่น มัลติมีเดียเต็มตายิ่งขึ้น ด้วยราคาเพียง 6,990 บาท กับสเปคชิปประมวลผล Dual-Core รองรับคอนเทนท์ HD ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอ HD 720p แชร์ลง Youtube หรือโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอื่นๆ ได้ แบตเตอรี่อึดสะใจ เพียงพอกับการใช้งานเต็มวัน และเช่นเดียวกับ Nokia Lumia หลายรุ่นคือสามารถเปลี่ยนฝาหลังได้หลากสีสันครับ คิดว่าหลายคนคงชื่นชอบ : )
Lumia 925
อดีตสมาร์ทโฟน Flagship ของ Nokia มาพร้อมกับคุณสมบัติกล้อง PureView ความละเอียด 8.7 ล้านพิคเซล ถ่ายภาพผ่าน Nokia Camera ปรับแต่งฟีเจอร์มากมาย บอดี้โลหะอลูมิเนียม บางไม่ถึง 10 มิลลิเมตร หน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว แสดงผลคมชัดแม้อยู่กลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมจาก Nokia ให้เลือกใช้งานหลายตัวเช่น Here Maps, Here Drive ฯลฯ เป็นต้น ถามว่าคุ้มราคามั้ยตอนนี้ บอกได้เลยว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะราคาปรับลงมาค่อนข้างมาก เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบกล้องแจ่มๆ บนมือถือ แต่มีงบไม่มากนักก็ลองเล่นรุ่นนี้ได้เลย
Lumia 1320
ใครชอบสมาร์ทโฟนจอยักษ์ไม่ควรพลาดกับวินโดว์โฟนจอยักษ์ Lumia 1320 ครั้งแรกของ Nokia ที่นำเสนอ Phablet หน้าจอ HD 6.0 นิ้วในราคาประหยัด ชิปประมวลผล Snapdragon 400 รองรับคอนเทนท์ระดับ Full HD เต็มรูปแบบ ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล ถ่ายภาพผ่าน Nokia Camera แชร์ลงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คสบายๆ ครับ รองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นเสริมจาก Nokia หลากหลายเช่น Cinemagraph ถ่ายภาพเคลื่อนไหวเฉพาะส่วน, ReFocus เลือกจุดโฟกัสบนภาพได้อิสระ, Here Maps ? Here Drive ดูแผนที่นำทาง ฯลฯ ทั้งหมดนี้สนนราคาเพียง 11,500 บาทเท่านั้นเอง !
Lumia 1020
ตำนานแห่งกล้องเทพบนสมาร์ทโฟน คงต้องยกให้ Lumia 1020 อย่างไม่ต้องสงสัย หลายคนถึงกับใช้งานแทนกล้องคอมแพคหรือ DSLR เลยทีเดียว โดดเด่นเทคโนโลยี PureView เซ็นเซอร์ 41 ล้านพิคเซล ภายใต้บอดี้พกพาสะดวก ใช้งานบน Nokia Camera ปรับแต่งได้หลากลาย นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นเสริมเพื่อถ่ายภาพอีกหลายตัวครับ เช่น Glam Me ใช้ถ่ายภาพ Selfie, Camera360 ฯลฯ และมีบริการเสริมจาก Nokia แบบเดียวกับ Lumia หลายรุ่นที่ผ่านมา หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว แสดงผลได้คมชัดแม้ในที่กล้างแจ้ง ราคาอาจจะแพงสักหน่อย เนื่องจากเทคโนโลยีกล้องที่ไม่เหมือนใคร แต่ถ้าคุณชอบถ่ายภาพด้วยมือถือแล้ว รับรองไม่ผิดหวังครับ
Lumia 1520
วินโดว์โฟนรุ่นเรือธงในปัจจุบัน มาพร้อมกับหน้าจอ Full HD ขนาดยักษ์ 6.0 นิ้ว ตอบสนองการใช้งานครบเครื่อง จะดูหนัง วิดีโอ โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค เข้าเว็บไซต์ หรือจะเล่นเกมก็ทำได้ครบ สเปคจัดเต็มใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 800 เช่นเดียวกับ Flagship จากแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ติดกล้องเทคโนโลยี PureView ความละเอียด 20 ล้านพิคเซล ขอบอกว่าแจ่มมาก ! รองรับการเชื่อมต่อครบเครื่อง รวมถึง 4G LTE นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายได้อีก ตอบโจทย์ทุกฟีเจอร์ในเครื่องเดียว กับราคา 22,900 บาท รอติดตามโปรโมชั่นเด็ดภายในได้เลย จัดหนักแน่นอนจ้า
LG
Optimus L1 II
น้องเล็กสุดในตระกูลสมาร์ทโฟนจาก LG กับราคาที่ถือว่าถูกกว่าฟีเจอร์โฟนบางรุ่นซะอีก Optimus L1 II มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.0 นิ้ว ขนาดเล็กพกพาสะดวก รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 สามารถลงแอพพลิเคชั่นจากบน Google Play Store ได้เช่นเดียวกับมือถือแอนดรอยด์ทั่วไป ตืดกล้อง 2 ล้านพิคเซล ถ่ายภาพแชร์ลงโซเชี่ยลตามสะดวก รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบเครื่อง หากต้องการสมาร์ทโฟนเครื่องแรกในงบแบบ 2 พันมีทอน คุณได้รับสิทธินั้นเดี๋ยวนี้ ! เพราะ Optimus L1 II ราคาแค่ 1,990 บาทเท่านั้นเองครับ แถมมีโปรโมชั่นเสริมจาก Operator อีกต่างหาก
Optimus L3 II
อัพเกรดจาก Optimus L1 II ก็จะเป็น Optimus L3 II ดีไซน์หรูหราขึ้นเล็กน้อย หน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ชิปประมวลผลความเร็ว 1 GHz เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป รองรับ 3G WiFi GPS ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้หลากหลาย ติดกล้องความละเอียด 3 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่เพียงพอใช้งานได้ตลอดวัน ด้านราคาสามารถจัดได้ที่ 3,490 บาท มีสีดำกับสีขาวให้เลือกจ้า
Optimus L7 II
ถึงจะวางจำหน่ายมานานพอสมควรแต่ Optimus L7 II ยังคงจุดขายในด้านแบตเตอรี่อึดสะใจ ใช้งานได้ถึง 2 วันต่อการชาร์จครั้งเดียว กับสเปคหน้าจอ 4.3 นิ้ว ชิปประมวลผลระดับ Dual-Core ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมหลากหลายจากบน Google Play Store เหมาะกับซื้อมาใช้งานทั่วไป โทรออกรับสาย ลงโน่นนี่ใช้งานนิดหน่อย แต่ถ้าต้องการสเปคสูงกว่าตอนนี้มีรุ่นอื่นๆ ให้เลือกเพียบครับ
Nexus 5
สมาร์ทโฟน Pure Google ฮิตติดอันดับโลก จากการร่วมมือพัฒนาระหว่าง Google กับ LG สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 Kitkat เวอร์ชั่นล่าสุด และได้อัพเดทก่อนใครหากมีเวอร์ชั่นใหม่เปิดตัว สเปคหน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Snapdragon 800 แรงเร็วสะใจ ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล เลนส์ป้องกันการสั่นไหว ทั้งนี้แบตเตอรี่อาจจะน้อยไปหน่อยแต่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย (Wireless Charging) ไม่ธรรมดาจริงๆ ครับ เป็นอีกรุ่นนึงที่คาดว่าจะมีโปรโมชั่นในงาน Thailand Mobile Expo 2014 รอติดตามได้
LG G2
เชื่อว่าหลายคนน่าจะชื่นชอบ LG G2 สมาร์ทโฟน Flagship ที่ได้รับคำชมจากหลายสำนักทั่วโลก จากความลงตัวทั้งดีไซน์ พร้อมสเปคภายในระดับสูงทั้งหน้าจอ Full HD 5.2 นิ้ว ขอบบางเฉียบ แสดงผลได้เต็มพื้นที่, ชิปประมวลผล Snapdragon 800 ตอบสนองการใช้งานทุกฟีเจอร์ลื่นไหล, กล้อง 13 ล้านพิคเซล โฟกัส 9 จุด เลนส์ป้องกันการสั่นไหว, รองรับการใช้งาน 4G LTE และแบตเตอรี่ 3,000 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวันสบายๆ นอกจากนี้ยังปฏิบัติการดีไซน์โดยมีปุ่มกดด้านหลัง ส่วนราคาขอบอกว่าคุ้มสุดๆ ที่ 17,900 บาท และแน่นอนว่าในงานโปรโมชั่นจัดเต็มสุดๆ ไม่ควรพลาด !
LG G Flex
งานนี้อาจมีลุ้นสัมผัสนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจาก LG G Flex ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ใช้หน้าจอโค้ง (Flexible) ขนาด 6.0 นิ้ว ตัวเครื่องสามารถงอได้ บอดี้ทนทานต่อรอยขีดข่วนด้วยคุณสมบัติ Self-Heal ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 800 ติดกล้อง 13 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่อึดขึ้นกว่าเดิม (3,500 mAh) และมีฟีเจอร์อื่นๆ คล้ายคลึงกับ LG G2 ครับ อย่างไรก็ดี รุ่นนี้อาจมีราคาแพงพอตัวเพราะใช้หน้าจอเทคโนโลยีใหม่ หากชอบใช้มือถือดีไซน์แปลกตาไม่เหมือนใคร เล็ง LG G Flex ไว้ก็แจ๋วนะคร้าบ
Lenovo
A269i
แอนดรอยด์รุ่นเล็กราคาประหยัดจาก Lenovo ดีไซน์เรียบง่ายพร้อมสเปคระดับ Dual-Core หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ติดกล้อง 2 ล้านพิคเซล และแบตเตอรี่ใช้งานได้เต็มวัน อย่างไรก็ดี ระบบปฏิบัติการ Android 2.3.6 อาจจะเก่าไปหน่อยสำหรับตอนนี้ และไม่รองรับแอพพลิเคชั่นบางตัว ก็ถือว่าเป็นข้อจำกัดนึง แต่ราคาน่าสนใจครับหากคุณไม่ซีเรียส เพียง 2,190 บาท ลองเล่นของจริงก่อนตัดสินใจซื้อนะจ๊ะ
A369i
ในงบ 2,990 บาท ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์หลายรุ่นที่วางจำหน่ายราคานี้ หนึ่งในนั้นก็คือ Lenovo A369i ภาคต่อของ A390 รุ่นฮิต โดดเด่นด้วยสเปคระดับ Dual-Core หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว ติดกล้อง 2 ล้านพิคเซล รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS พร้อมรองรับ 2 ซิมการ์ด สแตนด์บายคู่ ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Google Play Store มีเครื่องเล่นเพลง วิดีโอ วิทยุครบ ราคาเท่านี้เรียกว่าได้ทุกอย่างจริงๆ
A516
อัพสเปคขึ้นมาอีกหน่อยจะได้ Lenovo A516 หน้าจออัพใหญ่ขึ้นเป็น 4.5 นิ้ว ส่วนชิปประมวลผลยังคง Dual-Core เช่นเดิม ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล ถ่ายวิดีโออัพลงโซเชี่ยล หรือเก็บไว้ชมภายในเครื่อง รองรับการเชื่อมต่อครบเครื่อง พร้อมรองรับ 2 ซิมการ์ด แบตเตอรี่ 2,000 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวัน รุ่นนี้ไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก นอกจากราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ประมาณ 4,000 กว่าบาทเท่านั้นเอง
S650
รุ่นนี้ค่อนข้างน่าสนใจครับ สำหรับคนที่ชื่นชอบจอใหญ่คมชัด สเปคแรงระดับ Quad-Core สำหรับ Lenovo S650 คมชัดเต็มตากับหน้าจอ qHD 4.7 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core รันบนแอนดรอยด์ 4.2.2 พร้อมอินเตอร์เฟสใหม่ ปรับแต่งธีมได้ตามต้องการ เมมโมรี่ภายใน 8 GB เพิ่ม MicroSD ภายนอกสูงสุด 32 GB ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอ HD และรองรับ 2 ซิมการ์ด ดีไซน์ภายนอกสวยงามทีเดียว เน้นสีเงินตัดโครเมี่ยมเป็นหลัก ด้านราคาค่าตัวไม่ถึง 7 พันบาท ลองตัดสินใจดูได้ครับ หากมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางไว้ใช้งาน
A850
ขยับขึ้นมาอีกนิดคุณจะได้สมาร์ทโฟนจอยักษ์ 5.5 นิ้ว ในราคาไม่ถึง 8,000 บาทกับ Lenovo A850 ชิปประมวลผล Quad-Core แบตเตอรี่ 2,250 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวันสบายๆ รองรับ 2 ซิมการ์ด เชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบตามสูตร อย่างไรก็ดี รุ่นนี้ลดกล้องเหลือ 5 ล้านพิคเซล และเมมโมรี่ภายในเหลือ 4 GB เมื่อเทียบกับ Lenovo S650 ทั้งนี้ถ้าอยากได้มือถือจอเบิ้มแต่งบไม่เยอะ Lenovo A850 ยังคงน่าใช้อยู่ครับ
P780
รุ่นนี้ส่วนตัวแนะนำอย่างยิ่งครับ หากต้องการสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรี่อึดสุดยอด ชนิดว่าใช้งาน 2-3 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับ Lenovo P780 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูง 4,000 mAh ภายใต้บอดี้บางเพียง 10 มิลลิเมตรเท่านั้น หน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2 GHz ตอบสนองการใช้งานทุกฟีเจอร์สบายๆ ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล และรองรับ 2 ซิมการ์ด ฝาหลังเป็นอลูมิเนียมทนทาน น้ำหนักไม่มากนัก ภาพรวมแล้วรุ่นนี้มีดีที่ความจุแบตเตอรี่ แบบว่าไม่ต้องพึ่งแบตเตอรี่สำรองเลยทีเดียว !
S930
Lenovo S930 เพิ่งวางจำหน่ายไม่นานนี้กับสเปคระดับ Quad-Core แจ่มกว่าใครด้วยหน้าจอ HD ขนาด 6.0 นิ้ว ใหญ่เต็มตาสุดๆ เหมาะกับโยนซีรี่ส์ไว้ดูระหว่างเดินทาง ดู Youtube เล่นเกมแข่งรถ หรือใช้งานเป็น Navigator ติดหน้ารถก็ดีไม่น้อย ลำโพงสเตอริโอคู่เสียงดังสะใจ มีฟีเจอร์พื้นฐานครบทั้งเครื่องเล่นเพลง วิทยุ รองรับ 2 ซิมการ์ด ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล และแบตเตอรี่อึด 3,000 mAh เห็นแบบนี้เป็นเจ้าของได้ไม่ยาก กำแบงค์พันสิบใบเหลือทอนกลับบ้านจ้า
S960 Vibe X
ล้ำสไตล์สุดหรูกับสมาร์ทโฟนบางเฉียบเพียง 6.9 มิลลิเมตร ? Lenovo Vibe X โดดเด่นด้วยการออกแบบโค้งเว้า บางเบา แต่สเปคภายในไม่ธรรมดา ทั้งหน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Quad-Core รันบน Android 4.2.2 อินเตอร์เฟสใหม่ล่าสุด มีเมนู Gesture & Motion อำนวยความสะดวกระหว่างใช้งาน ติดกล้องความละเอียด 13 ล้านพิคเซล จัดเต็มถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้เพิ่มเมมโมรี่ภายนอกไม่ได้ ต้องบริหารพื้นที่ภายในกันหน่อยล่ะครับ
K900
ส่วนตัวคิดว่าเป็นรุ่นดีที่สุดเท่าที่ Lenovo เคยทำมาเลยทีเดียวกับ Lenovo K900 บอดี้บางเฉียบ 6.9 มิลลิเมตร วัสดุบอดี้อลูมิเนียมสุดทนทาน ดีไซน์เหลี่ยมเรียบหรู หน้าจอ Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว แสดงผลคมชัดมุมมองกว้าง ชิปประมวลผล Intel ความเร็ว 2 GHz RAM 2 GB จิ้มปุ๊ปติดปั๊บ กล้อง 13 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอ Full HD รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และมีให้คุณเลือก 2 ความจุคือ 16 และ 32 GB เห็นว่ามีรุ่นพิเศษบอดี้สีส้มกับเทาด้วย มีโปรโมชั่นพิเศษแน่นอนครับ ลองติดตามภายในได้เลย !
K910L Vibe Z
รุ่นท็อปตัวล่าสุดจาก Lenovo พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo 2014 กับคุณสมบัติขั้นเทพ ทั้งหน้าจอ Full HD 5.5 นิ้ว ชิปประมวลผล Snapdragon 800 รองรับ 4G LTE เต็มรูปแบบ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 พร้อมเมนู Gesture & Motion หลากหลายรูปแบบ ติดกล้อง 13 ล้านพิคเซล ขอบอกว่าถ่ายดีมากๆ ! ผ่าน Lenovo Camera มีลูกเล่นมหาศาลทั้งเอฟเฟค / ฉาก / เลนส์ หรือโหมดขั้นสูง ฯลฯ แบตเตอรี่ 3,000 mAh เพียงพอกับการใช้งานเต็มวัน สามารถจัดการการใช้พลังงานได้ผ่านแอพฯ Power Management ทั้งนี้เรื่องราคารอติดตามใกล้ๆ วันงาน แซ่บแบบซื้ดดดดแน่นอน
A3000
เพิ่งเปิดตัวเมื่อก่อนสิ้นปี 2013 ต้องยอมรับเลยว่าไอเดียออกแบบเค้าดีจริงๆ กับ Lenovo Yoga Tablet 8 รูปทรงแปลกตา แต่มีจุดขายตรงขาตั้งพับได้ด้านท้าย สำหรับตั้งแท็บเล็ตแนวนอน และสามารถจับถือได้สะดวกยิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทั้งการดูหนัง พิมพ์งาน เข้าเว็บไซต์ หรือจะถืออ่านหนังสือ เอกสารไปด้วยก็ทำได้ ค่อนข้างอเนกประสงค์สุดๆ หน้าจอขนาด 8.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล พร้อมใส่ซิมการ์ดเล่น 3G, รองรับ WiFi GPS และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ค่าตัวไม่ถึงหมื่นบาทครับ ลองไปสัมผัสในงานแล้วจะตัดสินใจได้ไม่ยาก
Yoga Tablet 10
นอกจากมีไซส์ 8 นิ้วให้เลือกใช้แล้ว Lenovo ยังมี Yoga Tablet 10 สำหรับคนชอบจอใหญ่อีกด้วย สเปคภาพรวมเท่ากันครับทั้งชิปประมวลผล Quad-Core, Android 4.2, กล้อง 5 ล้านพิคเซล ใส่ซิมการ์ดได้ จะต่างกันก็ตรงหน้าจอ, แบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น ฯลฯ และมีคีย์บอร์ดไร้สายให้คุณใช้พิมพ์เอกสารนอกสถานที่ พร้อมช่องสอดเพื่อจัดเก็บโดยง่าย มีแถมในชุดขายฟรี ! ส่วนลักษณะรูปแบบการใช้งานเหมือนโมเดล 8 นิ้วทุกอย่าง อันนี้ต้องลองไปเล่นตัวจริงแล้วจะตรัสรู้ได้ทันทีครับ
OPPO
Find Muse
เริ่มจากโมเดลล่างสุดของแบรนด์อย่าง Find Muse เห็นราคาเบาๆ แบบนี้สเปคภายในไม่ธรรมดา ทั้งรองรับ 2 ซิมการ์ด ใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว แสดงผลคมชัดกำลังดี ติดกล้องความละเอียด 3 ล้านพิคเซล มีโหมด Lomo ให้ใช้งานด้วย ชิปประมวลผล Dual-Core 1.2 GHz เพียงพอกับการใช้งานฟีเจอร์เสริม แอพพลิเคชั่นทั่วไปสบายๆ นอกจากนี้ยังมีระบบเสียง Dirac HD ฟังเพลงได้แจ่มขึ้นอีกต่างหาก ราคา 3,990 บาท เชื่อว่าต้องมองไว้เป็นตัวเลือกแน่นอน
R831 Neo
รุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO เพิ่งวางจำหน่ายสดๆ ร้อนๆ เอาใจคนชอบสมาร์ทโฟนขนาดพอดีมือ หน้าจอ 4.5 นิ้ว ชิปประมวลผล Dual-Core รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ครอบด้วย Color OS จุดขายหลักอยู่ที่ตรงนี้ครับ เพราะใช้งาน Gesture สั่งงานได้เยอะทีเดียว ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล สามารถดูหนัง ฟังเพลง ลงแอพพลิเคชั่นเสริม ฯลฯ ส่วนตัวชอบสีขาวครับ หรือจะเลือกสีดำก็ได้เหมือนกัน กับราคา 5,990 บาท มีโปรโมชั่นพิเศษในงานให้ติดตามด้วยนะ
Find Clover
จะว่าไปแล้วรุ่นนี้ยังคุ้มค่าอยู่ดี แม้จะวางจำหน่ายมาหลายเดือนแล้วสำหรับ OPPO Find Clover ด้วยสเปคระดับ Quad-Core 1.2 GHz รองรับคอนเทนท์ HD เต็มรูปแบบ หน้าจอ IPS LCD ขนาด 4.3 นิ้ว สีสันคมชัดเป็นธรรมชาติ ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอ HD, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดและ 3G ทุกเครือข่าย รุ่นนี้อาจจะมีของเล่นไม่เยอะ แต่ราคาค่อนข้างน่าสนใจครับเพียง 6,990 บาท แน่นอนว่ามีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม ต้องลองมาท้าพิสูจน์ด้วยตัวเองจ้า
Find 5 Mini
เทรนด์มินิ หรือการนำสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปมาย่อส่วน ลดสเปคแล้วใส่ Mini ต่อท้ายกำลังมาแรง เช่นเดียวกับ OPPO Find 5 ก็ถูกนำมาปรับปรุงใหม่เป็น Find 5 Mini สเปคหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด qHD สามารถใส่ถุงมือสัมผัสหน้าจอได้, ชิปประมวลผล Quad-Core รองรับคอนเทนท์ HD ลงเกมบน Google Play Store เล่นได้ลื่นไหลทีเดียว ลำโพงสเตอริโอด้านล่างเสียงดังฟังชัด ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล จากที่ได้ทดสอบพบว่าถ่ายภาพกลางคืน ? สภาพแสงปกติได้แจ่มเหลือเชื่อครับ แถมมีโหมด Beauty ด้วย รองรับ 2 ซิมการ์ด และเปิดตัวในราคา 8,990 บาท
Find Way S
หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว แบตอึดสุด 3,000 mAh และกล้องหน้าระดับเทวดา คือคุณสมบัติเด่นของ Find Way S ที่คุณต้องไม่พลาดครับ รุ่นนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล Quad-Core แรงพอใช้งานแอพพลิเคชั่นหลายตัวพร้อมกัน จะเล่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ฟังเพลง เล่นเกมกราฟฟิคสูงก็ทำได้ดี ใช้งาน 2 ซิมการ์ด กล้องหลัก 8 ล้านพิคเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิคเซล มีโหมด Beauty 3.0 ไม่ต้องพึ่งแอพฯ อื่นก็สวย/หล่อได้ทันใจภายใน 10 วินาที สามารถลองเครื่องจริงก่อนตัดสินใจซื้อได้ในงานนะครับ
Find 5
ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบ 1 ปี ถามว่า OPPO Find 5 ยังน่าใช้มั้ย ? คำตอบคือก็ยังน่าสนใจอยู่ ด้วยสเปคจอ Full HD 5.0 นิ้ว ดีไซน์คลาสสิคทนทาน กล้องเทพ 13 ล้านพิคเซล ถ่ายที่แสงน้อยได้ดี ระบบเสียง Dirac HD รองรับ 3G ทุกเครือข่าย ชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro ถึงจะไม่แรงสุด ณ ตอนนี้ แต่เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไปแน่นอน อย่างไรก็ดี เมมโมรี่ภายในของ OPPO Find 5 มีให้เลือก 2 ความจุคือ 16 และ 32 GB ซึ่งราคาจะต่างกันพอสมควร แน่นอนว่าถ้าอยากประหยัดเงิน ได้ของแถมกลับบ้าน ต้องรอติดตามโปรเด็ดๆ ภายใน Thailand Mobile Expo 2014 เท่านั้น
N1
เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีก่อนกับสมาร์ทโฟน Android รุ่นแรกของโลกที่ติดตั้งเลนส์กล้องแบบหมุนได้ 206 องศาบน OPPO N1 คุณสามารถสร้างภาพถ่ายมุมมองแปลกๆ จากบนรุ่นนี้ได้ไม่ยาก ความละเอียด 13 ล้านพิคเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพหลากหลาย นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยหน้าจอ Full HD ขนาดใหญ่ 5.9 นิ้ว ใหญ่มหึมาเลยทีเดียว บอดี้ทนทาน ขอบโลหะ รองรับการเชื่อมต่อ 3G ทุกเครือข่าย พร้อมรันบน Android 4.2.2 ครอบด้วย Color OS มีลูกเล่นเยอะจนเล่นไม่หมด ทั้งนี้ราคาอาจจะสูงสักหน่อยที่ 19,900 บาท แต่ต้องยอมรับเลยว่ากล้องเค้าแปลก แหวกแนวไม่เหมือนใครจริงๆ
R1
สมาร์ทโฟนรุ่นกลางจาก OPPO ภายใต้ชื่อ R1 ก็เตรียมเปิดตัวในงาน Thailand Mobile Expo 2014 ซึ่งราคา ณ เวลาที่กำลังเขียนอยู่นี้ยังไม่ถูกเปิดเผย แต่คาดว่าน่าจะหมื่นต้นๆ ทางทีมงานได้มีโอกาสได้สัมผัสแล้ว บอกได้คำเดียวว่างานประกอบเนี๊ยบมาก วัสดุด้านหน้า ด้านหลังทำจากกระจกดูหรูหราสวยงาม สเป็คเครื่องคร่าวๆ ใช้ CPU Quad-core ความเร็ว 1.3 GHz หน้าจอ 5 นิ้ว หน่วยความจำภายใน 16 GB กล้อง 8 ล้านพิกเซล ถ้าอยากได้ของขวัญในระดับกลางๆ แต่ดีไซน์สวยหรูแบบนี้ต้องรุ่นนี้รุ่นเดียว
HTC
Desire 500
สมาร์ทโฟนรุ่นกลางในงบไม่ถึง 10,000 บาทจาก HTC ดีไซน์โค้งเว้า ขนาดพอดีมือ หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ครอบด้วย Sense UI ทำงานได้รวดเร็ว ฟีเจอร์ BlinkFeed ช่วยให้คุณติดตามข่าวสาร อัพเดทโซเชี่ยลได้อย่างรวดเร็ว กล้อง 8 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอความละเอียด HD 720p ที่สำคัญยังมีระบบเสียง Beat Audio อีกด้วย ฟังเพลงแจ่มเลยล่ะครับ
Desire 601 Dual SIM
รุ่นใหม่ล่าสุดของ HTC เพิ่งวางจำหน่ายเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นภาคต่อของ Desire 600 ปรับดีไซน์คล้าย HTC One มีลำโพงคู่สเตอริโอด้านหน้า หน้าจอ qHD ขนาด 4.5 นิ้ว แสดงผลได้ดีทีเดียว รุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดครับ ชิปประมวลผล Quad-Core 1.2 GHz รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ครอบ Sense UI เช่นเดียวกับ Desire 500 ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอ Full HD 1080p กับราคาเปิดตัวหมื่นนิดๆ
One Mini
น้องเล็กสุดในตระกูล HTC One ถูกนำเสนอในรูปแบบมินิ โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์เดียวกับ HTC One ทุกประการ รวมถึงการใช้วัสดุบอดี้โลหะ ให้สัมผัสทนทานแม้ตัวเครื่องจะเล็กก็ตาม หน้าจอ HD ขนาด 4.3 นิ้ว คมชัด สว่าง สัมผัสแม่นยำ ชิปประมวลผล Snapdragon 400 ตอบโจทย์ทุกฟีเจอร์การใช้งาน รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 ครอบ Sense UI ใหม่ รอบนี้สามารถปิด BlinkFeed ได้หากไม่ต้องการ กล้อง UltraPixel ถ่ายแสงน้อยได้ดีมาก ออฟชั่นแบบเดียวกับรุ่นใหญ่เป๊ะ นอกจากนี้ยังรองรับ 4G LTE อีกด้วย ! ทั้งหมดนี้ 14,990 บาท และมีโปรโมชั่นร่วมกับ Operator ด้วยครับ
HTC One
รุ่นในตำนานของ HTC ถึงจะเปิดตัวมาเกือบ 1 ปีแต่ยังคงความแข็งแกร่งด้วยวัสดุโลหะ Uniboby ทั้งตัว ลำโพงสเตอริโอ Boomsound พร้อมกล้อง UltraPixel รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Full HD ขนาด 4.7 นิ้ว รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.3 และสามารถอัพเกรดเป็น Android 4.4 Kitkat ได้เร็วๆ นี้ ชิปประมวลผล Snapdragon 600 เพียงพอกับการใช้งานปกติ ฟีเจอร์ภายในจัดเต็ม รองรับการเชื่อมต่อครบเครื่อง รวมถึง NFC แต่ไม่รองรับ 4G LTE ที่น่าสนใจคือโปรโมชั่นในงาน คาดว่าดีลเลอร์มีจัดหนักอย่างแน่นอน ใครชอบมือถือบอดี้แกร่งๆ ต้องสอย !
One Max
พี่ใหญ่สุดของ HTC One และเป็นรุ่น Flagship ในปัจจุบัน แม้ว่าสเปคจะไม่แรงเท่ารุ่น-แบรนด์อื่นๆ แต่จุดขายสำคัญเหมือน HTC One ครับ ทั้งลำโพงสเตอริโอด้านหน้า กล้อง UltraPixel ออฟชั่นเสริมทั้งรีโมทคอนโทรล, BlinkFeed ฯลฯ และที่เพิ่มขึ้นมาคือหน้าจอ Full HD ขนาดมหึมา 5.9 นิ้ว แบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh และการรองรับ 4G LTE ในตัว ขณะที่บอดี้ยังคงเป็นโลหะส่วนใหญ่ แถมถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนซิมการ์ด ? ใส่ MicroSD ได้แล้ว ถือว่าครบเครื่องสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ทั้งนี้ราคาจัดว่าเปิดตัวสูงใช้ได้ แต่ก็มีโปรโมชั่นจาก Operator หรือดีลเลอร์ต่างๆ มาชดเชย อันนี้ต้องติดตามต่อในงานครับ
Asus
FonePad 7
เชื่อเถอะว่านี่คือแท็บเล็ต Android 7 นิ้วที่มีประสิทธิภาพ เทียบกับราคาแล้วคุ้มที่สุดแล้วกับ Asus FonePad 7 ด้วยสเปคหน้าจอ HD ขนาด 7.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Intel Z2560 1.6 GHz รัน Android 4.3 พร้อมใส่ซิมการ์ดใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย และโทรออกได้แบบ Galaxy Tab ! ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล และแบตเตอรี่ใช้ยาวทั้งวันได้สบายๆ ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอื่นต่อ ราคาเริ่มต้นที่ 6,900 บาท (8 GB) และมีรุ่น 16 GB สำหรับคนชอบเมมโมรี่ภายในเยอะขึ้น ทั้งคู่เพิ่ม MicroSD ได้จ้า
MemoPad 8
รุ่นนี้อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เมื่อเทียบกับ FondPad ที่มีผู้ใช้สนใจมากกว่า สำหรับ MemoPad 8 โดดเด่นด้วยขนาดหน้าจอ 8.0 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิคเซล เหมาะกับใช้ดูหนัง เล่นเกม ใช้งานทั่วไปได้ดี ชิปประมวลผล Quad-Core 1.6 GHz รันบน Android 4.2.2 ระบบเสียง SonicMaster และกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล มีบอดี้ให้เลือกหลากสีสันครับ สำหรับราคาเปิดตัวที่ 6,900 บาท แต่มีเฉพาะรุ่น WiFi-only
FonePad Note 6
เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจหากคุณหาสมาร์ทโฟนจอใหญ่ เขียนหน้าจอได้แบบ Galaxy Note แต่ราคาไม่แพง ต้องดู Asus FonePad Note 6 ครับ เร็วแรงด้วยชิปประมวลผล Intel Z2580 (2 GHz) รันบน Android 4.3 พร้อมฟีเจอร์การเขียนหน้าจอด้วย Stylus เทคโนโลยีจาก Wacom บนหน้าจอขนาดใหญ่ 6.0 นิ้ว ลำโพงสเตอริโอคู่ และกล้อง 8 ล้านพิคเซล ใส่ซิมการ์ดใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย แบตเตอรี่ 3,200 mAh ใช้งานเต็มวันสบายๆ ความสามารถเยอะแบบนี้ ราคาแค่ 13,500 บาทเท่านั้นเองครับ
Transformer Book T100
นานๆ ทีจะเห็นแท็บเล็ต Windows สุดคุ้ม ราคาโดนแบบไม่ต้องคิดมาก สำหรับ Asus Transformer Book T100 โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว บอดี้บางเฉียบ ใช้ชิปประมวลผล Intel Z3740 (Bay Trail) รันวินโดว์ 8.1 ตัวเต็ม ลงโปรแกรมเสริมได้เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ทุกประการ พร้อม Office ตัวเต็มใช้งานฟรี แบตเตอรี่อยู่ได้นานสุด 11 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ในชุดขายแถม Keyboard Dock ให้ฟรีครับ สนนราคาเพียง 12,900 บาท หากคุณซื้อมาทำงานซะอย่าง แทบไม่ต้องลังเลเลย
Nexus 7 (2nd Gen)
หาแท็บเล็ตหน้าจอคมชัด Full HD ในขนาด 7 นิ้ว คงมีรุ่นนี้ที่แจ่มสุดแล้ว Nexus 7 (2nd Gen) โดดเด่นด้วยความเป็น Nexus รันระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 เวอร์ชั่นล่าสุด และอัพเกรดเวอร์ชั่นใหม่ๆ ก่อนใครในอนาคต ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซลด้านหลัง ขนาดบอดี้พกพาง่าย น้ำหนักไม่ถึง 300 กรัม ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 600 พร้อมรองรับ NFC, ชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย (Wireless Charging) นอกจากนี้ยังใส่ซิมการ์ดใช้งาน 4G LTE ได้อีกด้วย ส่วนราคารอดูในงานดีกว่า ผมว่ามีลดแลกแจกแถมเยอะ
Acer
Liquid Z3s
เปิดศักราชใหม่ด้วยสมาร์ทโฟนราคาประหยัด Liquid Z3s จาก Acer ต่อยอดความฮิตสุดขั้วด้วยราคาเพียง 2,590 บาท แต่ได้สเปคจัดหนักทั้งหน้าจอ 3.5 นิ้ว, ชิปประมวลผล Dual-Core 1 GHz ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Google Play Store นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Quick Mode ปรับหน้า Home screen ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน เช่น เด็ก, ผู้สูงอายุ ที่อาจจะไม่ชินกับอินเตอร์เฟส Android ตัวเต็ม รองรับ 3G WiFi GPS และอัพเกรดกล้องเป็น 5 ล้านพิคเซล ภายในชุดขายมีเคสฝาพับแถมให้ด้วยนะ : )
Liquid Z5
เพิ่งเปิดตัวพร้อมกับ Liquid Z3s เน้นจอใหญ่สะใจกว่า 5.0 นิ้ว พร้อมดีไซน์ดูดี ลำโพงสเคอริโอคู่ มีปุ่มลัดด้านหลังสำหรับเข้าแอพพลิเคชั่นต่างๆ ชิปประมวลผล Dual-Core 1.3 GHz เล่นโซเชี่ยล ดู Youtube ไม่สะดุด ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล และรองรับ 2 ซิมการ์ด ทั้งหมดนี้เป็นเจ้าของได้ในราคา 4,790 บาท มีโปรโมชั่นเสริมจาก Operator ด้วยนะครับ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้
Liquid E2
รุ่นนี้อาจจะไม่ถูกพูดถึงมากเท่าไหร่ แต่ด้วยราคา 5,990 บาทกับสเปต Quad-Core หน้าจอ qHD 4.5 นิ้ว ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล และแบตเตอรี่ 2,000 mAh ของ Acer Liquid E2 ทำให้ค่อนข้างน่าสนใจ หากคุณกำลังหามือถือระดับกลางๆ ใช้งานสักตัว รองรับ 3G WiFi GPS รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 มีฟีเจอร์การใช้งานเหมือนกับสมาร์ทโฟน Android ทั่วไป ต้องไปสัมผัสด้วยตัวคุณเองจ้า
Liquid S1
คนชอบจอใหญ่ไม่ควรพลาดกับ Acer Liquid S1 หน้าจอใหญ่สะใจ 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD พร้อมชิปประมวลผล Quad-Core ตอบสนองการใช้งานครอบคลุมทุกฟีเจอร์ ระบบเสียง DTS ใช้ฟังเพลง ดูหนังผ่านหูฟังได้ดี ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอ Full HD เต็มรูปแบบ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 เป็นอีกรุ่นที่ฟังก์ชั่นครบ จอใหญ่ และเหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบจอใหญ่ ราคาไม่แพงครับ
Iconia B1-721
แท็บเล็ต Android ราคาประหยัดจาก Acer ขนาดหน้าจอ 7.0 นิ้ว ภาพรวมสเปคระดับ Dual-Core 1.3 GHz รันบน Android 4.2 และติดกล้อง VGA ลงแอพพลิเคชั่นเสริมภายนอกได้มหาศาล เล่นเกมทั่วไป ดู Youtube หรือโหลดวิดีโอมาชมบนแท็บเล็ตก็ได้เช่นกัน รุ่นนี้คาดว่าจะได้เจอกันในงานครับ กับราคาเปิดตัวที่ไม่ต้องตัดสินใจให้นานเลยล่ะ
Iconia W3
นอกจากแท็บเล็ต Android ยังมีแท็บเล็ต Windows 8 ให้คุณเลือกใช้งานด้วย สำหรับ Acer Iconia W3 ถึงจะเปิดตัวมาหลายเดือนแล้ว แต่เรื่องฟีเจอร์การใช้งานจัดว่าเหมาะกับผู้ใช้ที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ ทั้งโปรแกรมออฟฟิศตัวเต็ม ขนาดพกพาสะดวก พร้อม Keyboard Dock แม้ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ติดกล้อง 2 ล้านพิคเซล และเชื่อมต่อ WiFi + Bluetooth ครบเครื่อง ล่าสุดเห็นว่าราคาไม่ถึง 10,000 บาท !! น่าติดตามว่าในงานโปรจะแรงกว่านี้มั้ย ?
Iconia W4
เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ กับ Iconia W4 แท็บเล็ตวินโดว์ 8.1 โมเดลล่าสุดจาก Acer หน้าจอ IPS LCD ขนาด 8 นิ้ว แสดงผลคมชัดกำลังดี ชิปประมวลผล Intel Quad-Core (Bay Trail) แรงกว่า ประหยัดแบตเตอรี่กว่าเดิม ใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล ดีไซน์พรีเมี่ยม โดยเฉพาะด้านหลังมาแบบเมทัลลิคเลย สำหรับเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายบ้านเรามีแบบเดียวคือ 3G+WiFi, 64 GB ราคา 16,990 บาท
Sony
Xperia E
สัมผัสสมาร์ทโฟน Sony ราคาเบาๆ มีรุ่นเดียวในตอนนี้ Xperia E มาพร้อมกับหน้าจอ 3.5 นิ้ว ออกแบบทรงเหลี่ยม สีดำล้วน ชิปประมวลผลความเร็ว 1 GHz รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.1.2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมจากบน Google Play Store ไม่จำกัด ติดกล้อง 3 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่ใช้งานได้เต็มวัน นอกจากนี้ยังรองรับ 3G WiFi GPS ด้วย และมีโปรโมชั่นเสริมจาก Operator ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย !
Xperia M
อัพสเปคขึ้นมาอีกหน่อยจะได้ Xperia M สมาร์ทโฟนตัวเล็กแต่สเปคแรงพอตัว หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว รองรับมัลติทัช ชิปประมวลผล Dual-Core รันบน Android 4.1.2 ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล ดีไซน์คลาสสิค ด้านหลังโค้งเล็กน้อย มีให้เลือกหลายสีสันครับ นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่น 2 ซิมการ์ดด้วย ราคาแพงกว่าเล็กน้อย นอกจากรุ่นนี้ยังมี Xperia L อีกรุ่นที่วางจำหน่ายในราคาช่วงเดียวกัน แล้วแต่จะเลือกครับ
Xperia C
เป็นโมเดลแรกของ Sony ที่ใช้ชิปประมวลผล Quad-Core จาก Mediatek ถือว่าแรงดีในระดับนึง Xperia C มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ดูหนังเล่นเกม เล่นแอพพลิเคชั่นเต็มตากว่าที่เคย รองรับ 2 ซิมการ์ด ใช้งาน 3G WiFi GPS ครบเครื่อง เครื่องเล่นเพลง Walkman รองรับคอนเทนท์ Full HD ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล และแบตเตอรี่อึดพอใช้งานทั้งวันสบายๆ รุ่นนี้สนนราคา 8,990 บาท และน่าจะมีโปรโมชั่นลดราคาเด็ดๆ ภายในงานแน่นอน
Xperia Z
สุดยอดสมาร์ทโฟน Android อีกรุ่นที่ยังได้รับความนิยม จากดีไซน์แนว Omni-Balance ของ Sony และสเปคภายในยังคงแจ่มอยู่ Xperia Z มาพร้อมกับหน้าจอ Full HD 5.0 นิ้ว บอดี้กระจกด้านหลังสุดหรู ติดกล้องความละเอียด 13 ล้านพิคเซล รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย ทั้ง 3G WiFi รวมถึง NFC เพิ่มเมมโมรี่การ์ดภายนอกได้ เครื่องเล่น Walkman ระบบเสียง Clear Audio เชื่อว่าหลายคนไม่ผิดหวัง นอกจากนี้ยังรองรับการอัพเดทเป็น Android 4.4 เร็วๆ นี้อีกต่างหาก
Xperia Z1
ภาคต่อของสมาร์ทโฟนรุ่นเดอะ Xperia Z1 อัพเกรดสเปคจากเดิม ปรับปรุงวัสดุดีไซน์เล็กน้อย รุ่นนี้บอดี้ขอบโลหะทนทานกว่าเดิม สามารถกันน้ำ กันฝุ่นตามมาตรฐาน IP57 หน้าจอ Triluminos 5.0 นิ้ว แสดงผลดีกว่าเดิมมาก ติดกล้อง 20.7 ล้านพิคเซล พร้อมโหมดใช้งานกล้องใหม่ๆ หลากหลาย ชิปประมวลผล Snapdragon 800 แรงสะใจ รันบน Android 4.3 สามารถอัพเกรดเป็น Android 4.4 ได้เร็วๆ นี้ รองรับการเชื่อมต่อครบเครื่อง ทั้งนี้ Xperia Z1 เครื่องศูนย์ไม่รองรับ 4G LTE นะครับ หากต้องการใช้งานคงต้องดูเป็นเครื่องนอกแทน
Xperia Z Ultra
ครั้งแรกของ Sony ที่นำเสนอสมาร์ทโฟนหน้าจอยักษ์ขนาด 6.44 นิ้ว ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน Xperia Z Ultra บางเฉียบเพียง 6.5 มิลลิเมตร บอดี้ขอบโลหะ กันน้ำกันฝุ่น ด้านหลังเป็นผิวกระจกเช่นเดียวกับ Xperia Z1 เช่นเดียวกับสเปคภายในแทบจะเหมือนกัน ทั้งชิปประมวลผล Snapdragon 800, ฟีเจอร์เสริมภายใน ฯลฯ ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล พอใช้งานทั่วไปสบายๆ สำหรับเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในไทยไม่รองรับ 4G LTE เช่นเคย แต่เพิ่งปรับราคาลงมาเหลือ 19,900 บาท และน่าจะมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมในงานแน่นอนครับ
Xperia Tablet Z
แท็บเล็ตดีไซน์หรู บางเฉียบเพียง 6.9 มิลลิเมตร หน้าจอขนาดใหญ่ 10.1 นิ้วจาก Sony ยังรอให้คุณมาจับจองเป็นเจ้าของได้อยู่ครับ เร็วแรงด้วยชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro รองรับคอนเทนท์ Full HD เต็มรูปแบบ ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซลไว้ถ่ายขำๆ บอดี้ผิวหลังเป็นกระจกทั้งหมด สวยงามแต่ต้องดูแลรักษามากหน่อย ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ผ่าน Google Play Store และใส่ซิมการ์ดใช้งาน 4G LTE, 3G ออนไลน์นอกสถานที่ตามสะดวก ล่าสุดราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท แต่ในงานจะมีโปรโมชั่นหนักหน่วงขนาดไหนต้องรอลุ้นจ้า
Sony SmartWatch 2
อุปกรณ์เสริม SmartWatch 2 จาก Sony ให้คุณใช้งานสมาร์ทโฟนได้สะดวกยิ่งขึ้น สามารถรับสาย ดูอีเมลข้อความแจ้งเตือน แม้กระทั่งใช้เป็น Viewfinder ในโหมดกล้อง (ผ่านแอพพลิเคชั่นเสริม) ก็ทำได้ มีปลั๊กอินให้เลือกโหลดบน Google Play Store หลายตัว ที่น่าสนใจคือดีไซน์เรียบง่าย ทนทาน มาพร้อมกับสายโลหะ หรือเปลี่ยนสายเป็นรูปแบบอื่นๆ ตามใจชอบ สำหรับ Sony SmartWatch 2 รองรับบนสมาร์ทโฟน Android 4.0+ ขึ้นไปทุกรุ่น ถึงจะไม่ได้ใช้ Sony ก็สามารถซื้อไปใช้งานได้นะครับ สนนราคาเพียง 4,990 บาทเท่านั้นเอง
i-mobile
i-STYLE 2.4
สมาร์ทโฟนราคาประหยัดจาก i-mobile เอาใจคนงบน้อย 2,990 บาท แต่ได้หน้าจอขนาดใหญ่ 4.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Dual-Core ดูหนังฟังเพลงเล่นเกม ลงแอพพลิเคชั่นเสริมทั่วไปจากบน Google Play Store ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล รองรับ 3G WiFi GPS และใช้งาน 2 ซิมการ์ด ที่น่าสนใจคือมีให้เลือกหลากหลายสีสัน งานนี้เลือกได้ตามใจชอบเลยจ้า
i-STYLE 7.5
เพิ่มงบอีกหน่อยจะได้ i-STYLE 7.5 หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 4.5 นิ้ว และน่าจะเป็นสมาร์ทโฟน Android สเปค Quad-Core ที่ค่าตัวถูกที่สุดอีกด้วย รันบน Android 4.2.2 ฟีเจอร์พื้นฐานครบเครื่อง ลงแอพพลิเคชั่นเซเชี่ยล ยูทิลิตี้ต่างๆ ใช้งาน 2 ซิมการ์ด รองรับ 3G และแบตเตอรี่ 1,800 mAh ภาพรวมลูกเล่นอาจจะไม่เยอะ แต่สเปคจัดหนักจริงๆ เมื่อเทียบกับราคาแล้วไม่ต้องคิดมากเลยครับ เพียง 3,990 บาท มีให้เลือกทั้ง 3G คลื่น 850 และ 900 MHz ตามเครือข่ายที่คุณใช้งานอยู่
IQ 6.3
ส่วนตัวคิดว่า i-mobile IQ 6.3 จะกลายเป็นรุ่นขวัญใจมหาชนในเร็วๆ นี้ จากคุณสมบัติภายในที่คุณมิอาจปฏิเสธได้ ทั้งหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Snapdragon 400 Quad รองรับคอนเทนท์ Full HD เต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี, กล้อง 8 ล้านพิคเซล บลูทูธ 4.0 รันบน Android 4.3 และพีคสุดด้วยความจุแบตเตอรี่ 3,000 mAh !! เยอะสะใจ ไม่ง้อ Power Bank เลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ราคาเพียง 6,990 บาทจ้า
IQ 9.1
สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ตระกูล IQ 9 สเปคสูงพอตัว สำหรับ IQ 9.1 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด HD, ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz ติดกล้องความละเอียด 18 ล้านพิคเซล พร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิคเซล บอดี้โลหะด้านหลัง ให้ความรู้สึกทนทานกำลังดี เมมโมรี่ภายใน 16 GB แต่ไม่สามารถเพิ่ม MicroSD ภายนอกได้ครับ ทั้งนี้ถ้าอยากได้จอใหญ่กว่า IQ 9.1 ลองดู IQ 9.2 รุ่นต่อไปได้เลย
IQ 9.2
รุ่นนี้เหมาะกับคนชอบจอใหญ่ครับ จัดให้เต็มๆ ถึง 6.0 นิ้ว ความละเอียด HD เหมาะกับใช้งานทุกประเภท ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz รองรับแอพพลิเคชั่นเสริมทั่วไป เล่นเกมกราฟฟิคสูงได้สบาย ติดกล้องความละเอียด 18 ล้านพิคเซล แบตเตอรี่ 2,600 mAh รองรับ 2 ซิมการ์ด และเพิ่ม MicroSD สูงสุด 32 GB ภาพรวมสเปคอาจจะคล้าย IQ 9.1 แต่รุ่นนี้เพิ่มเมมการ์ดได้ แจ๋วตรงนี้แหละครับ
IQ X2
หากคุณไม่ชอบสมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ แต่อยากได้สเปคดีในราคาไม่แพงนัก i-mobile IQ X2 ตอบโจทย์คุณได้ ด้วยหน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz บอดี้บางเฉียบไม่ถึง 9 มิลลิเมตร พร้อมกล้อง 18 ล้านพิคเซล สามารถเพิ่ม MicroSD ภายนอกได้ เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอสวย สเปตระดับกลาง พกพาง่าย และถูก ราคาไม่ถึง 9,000 บาทครับ รอดูโปรโมชั่นในงานแล้วจะตัดสินใจได้ไม่ยาก
IQ X Bliz
ไอโมบายนำเสนอความพรีเมี่ยมที่คุณสัมผัสได้บน i-mobile IQ X Bliz โดดเด่นด้วยบอดี้โลหะบางเพียง 7.1 มิลลิเมตร หน้าจอ Full HD ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว แสดงผลคมชัด เหมาะกับใช้ดูหนัง HD เล่นเกม ดูรูปภาพ แบบว่าแจ่มมาก ติดกล้อง 18 ล้านพิคเซล กล้องหน้า 8 ล้าน พร้อมเมมโมรี่ภายใน 32 GB ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz + RAM 2 GB สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที 11,500 บาท จะชอบหรือไม่ต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง !
IQ X Octo
เป็นไปได้ไม่น้อยที่ i-mobile จะนำสมาร์ทโฟนชิปประมวลผล 8 แกนจาก Mediatek รุ่นแรกมาโชว์ในงานครั้งแรกกับ IQ X Octo ด้วยคุณสมบัติหน้าจอ Full HD 5.0 นิ้ว, RAM 2 GB เปิดแอพพลิเคชั่นได้มากขึ้นแบบไม่มีสะดุด ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ติดกล้อง 18 ล้านพิคเซล รองรับ 2 ซิมการ์ด และเมมโมรี่ภายใน 32 GB เหลือเฟือหากคุณไม่ได้ใช้งานอะไรมากมาย
Huawei
Ascend Y320
สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาประหยัดจาก Huawei ตัวนี้ก็น่าสนใจครับ หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Dual-Core ดีไซน์เรียบง่าย ติดกล้อง 2 ล้านพิคเซล พร้อมรัน Android 4.2.2 ครอบด้วย Emotion UI รองรับ 3G เชื่อมต่อ WiFi GPS และราคาเปิดตัวเพียง 2,790 บาท ตัดสินใจไม่ยากแต่ก็มีตัวเลือกอื่นๆ ในระดับราคานี้อีกเพียบ ต้องลองเล่นก่อนตัดสินใจซื้อครับ
Ascend Y511
อัพงบขึ้นมาอีกหน่อยจะได้ Ascend Y511 หน้าจอไซส์ใหญ่ 4.5 นิ้ว ชิปประมวลผล Dual-Core กล้องอัพเป็น 3 ล้านพิคเซล ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 และรองรับ 3G 900/2100 MHz แบตเตอรี่ 1,730 mAh เพียงพอใช้งานได้เต็มวัน พร้อมยูทีลิตี้จาก Huawei เช่น แอพพลิเคชั่น Backup ฯลฯ กับราคาค่าตัวเพียง 3,490 บาทเท่านั้นเอง
Ascend G610
สัมผัสสมาร์ทโฟน Quad-Core จาก Huawei ราคาสบายกระเป๋ากับ Ascend G610 หน้าจอขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว ดีไซน์โค้งมน พกพาไม่ยากนัก ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล บันทึกวิดีโอ HD รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และแบตเตอรี่อึดใช้งานได้ตลอดวัน กับราคา 5,990 บาท เป็นตัวเลือกที่ดีอีกรุ่นเลยทีเดียว
Ascend G700
รุ่นระดับกลางจาก Huawei มาพร้อมกับดีไซน์คลาสสิค น่าสนใจตรงที่หน้าจอ HD 5.0 นิ้ว แสดงผลคมชัด ชิปประมวลผล Quad-Core และใส่RAMมาให้ 2 GB เปิดแอพพลิเคชั่นได้ลื่นไหลมากขึ้น ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล สามารถถ่ายวิดีโอ Full HD ได้ และรัน Android 4.2.2 ครอบ Emotion UI มีลูกเล่นมากพอสมควร ด้านราคาสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียงไม่ถึง 8,000 บาท
Ascend Mate
คงไม่มีใครปฏิเสธครับว่า Huawei Ascend Mate คือสมาร์ทโฟนสเปคแรง จอ HD ขนาดใหญ่ 6.1 นิ้วที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุดแบบไร้คู่แข่งกับราคา 7,990 บาท มาพร้อมกับชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz รองรับ 3G ทุกเครือข่าย บอดี้แข็งแกร่งทนทาน และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ 4,050 mAh คือพีคสุด แทบไม่ต้องง้อแบตเตอรี่สำรองเลยล่ะ ส่วนตัวแนะนำ Ascend Mate หากคุณมองหามือถือจอใหญ่ สเปคดี แบตอึด และไม่แคร์ว่าต้องเป็นรุ่นใหม่ครับ
Ascend P6
ณ ปัจจุบัน Ascend P6 จาก Huawei ยังติดอันดับต้นๆ ของสมาร์ทโฟนบางเฉียบ ด้วยความบางเพียง 6.2 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาหวิว 120 กรัม สเปคหน้าจอ HD 4.7 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz RAM 2 GB เปิดแอพพลิเคชั่นลื่นไหลไม่สะดุด รองรับคอนเทนท์ Full HD ติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล ถ่ายที่แสงน้อยค่อนข้างดีทีเดียว แบตเตอรี่ 2,000 mAh ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าจะอัดอยู่ภายใต้บอดี้บางๆ แบบนี้ได้ โดยราคาสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ 11,900 บาท
Alcatel
Alcatel OneTouch Magic
สมาร์ทโฟนระดับล่างจาก Alcatel สเปคมาตรฐานตามระดับราคา 2,990 บาท หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Dual-Core 1.3 GHz รันบน Android 4.2.2 ครอบด้วยหน้า Home แบบเฉพาะของ Alcatel ซึ่งใช้งานง่าย ติดกล้อง 3.2 ล้านพิคเซล และรองรับ 2 ซิมการ์ด ดีไซน์เรียบง่าย สำหรับโมเดลที่วางจำหน่ายรองรับเฉพาะ 3G คลื่น 850/2100 MHz เท่านั้นจ้า
Alcatel Idol Mini
บางเฉียบเพียง 7.9 มิลลิเมตร ดีไซน์คลาสสิคเรียบง่ายสำหรับ Alcatel Idol Mini มาพร้อมกับชิปรปะมวลผล Dual-Core 1.3 GHz หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ขนาดเล็กพกพาสะดวก น้ำหนักเบาเพียง 96 กรัม !! ติดกล้อง 5 ล้านพิคเซล รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และแบตเตอรี่ 1,700 mAh น่าจะเพียงพอกับการใช้งานเต็มวันครับ ส่วนราคาอยู่ที่ประมาณ 5 พันบาท
Alcatel Idol X
รุ่นท็อปตัวล่าสุด Alcatel Idol X มีจุดขายด้านความบางเฉียบเพียง 6.9 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาหวิว แต่สเปคภายในจัดว่าค่อนข้างดีทีเดียว กับหน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz RAM 2 GB, กล้อง 13 ล้านพิคเซล ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 และเมมโมรี่ภายใน 16 GB รองรับ 2 ซิมการ์ด แต่ราคาเปิดตัวอาจจะสูงนิดนึงที่ 12,990 บาท ต้องรอดูโปรโมชั่นเสริมภายในงาน Thailand Mobile Expo 2014 ต้องมีลดราคาแน่นอน
Alcatel OneTouch Hero
ถูกนำเสนอเป็นโมเดลล่าสุดของปีนี้จาก Alcatel วางจำหน่ายครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo 2014 ครับ รุ่นนี้มีจุดขายที่หน้าจอขนาดมหึมา 6.0 นิ้ว ความละเอียด Full HD ส่วนตัวชอบคุณภาพการแสดงผลอยู่ในระดับดีมาก พร้อมสามารถอินพุทด้วย Stylus สำหรับวาดภาพ หรือจดบันทึกบนแอพพลิเคชั่นเสริมพิเศษ อย่างไรก็ดี Alcatel One Touch Hero ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีจาก Wacom เรื่องความแม่นยำอาจจะไม่ดีเท่ากลุ่ม Galaxy Note ใช้ชิปประมวลผล Quad-Core 1.5 GHz, รันบน Android 4.2.2 ติดกล้อง 13 ล้านพิคเซล และแบตเตอรี่ 3,400 mAh เยอะสะใจไปเลย หากคุณซื้อในงานก็จะมีบลูทูธโฟน ? เคสฝาพับไฟ LED แถมให้ด้วยนะจ๊ะ
Cherry Mobile
Sonic 2.0
สมาร์ทโฟน Android รุ่นเล็กล่าสุดจาก Cherry Mobile ราคาเพียง 3 พันนิดๆ ได้สเปคระดับ Dual-Core พร้อมหน้าจอ 4.0 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบเครื่อง และกล้อง 5 ล้านพิคเซล ส่วนแบตเตอรี่อาจจะน้อยไปหน่อยที่ 1,400 mAh ต้องลองไปสัมผัสตัวจริงในงานก่อนตัดสินใจจ้า
Flare S
รุ่นนี้หลายคนน่าจะชอบตรงการออกแบบโค้งเว้าด้านหลัง ทำให้การจับถือทำได้ง่ายขึ้น กับหน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว ชิปประมวลผล Quad-Core 1.3 GHz ถือว่าเป็นรุ่นราคาประหยัดที่ให้สเปคแรงดีทีเดียว รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ดูหนังฟังเพลงเล่นเกมได้สบายๆ พร้อมกล้องความละเอียด 5 ล้านพิคเซล และรองรับ 2 ซิมการ์ด ราคาขอบอกว่าใช้ได้เลยครับ ประมาณ 4 พันกว่าบาทเท่านั้นเอง
Hero
รุ่นนี้ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว เพราะสเปคอัพเกรดจาก Sonic 2.0 พอสมควรทั้งหน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ความละเอียด qHD, ชิปประมวลผล Quad-Core รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ได้หลากหลาย บอดี้สีสันแสบตา และติดกล้อง 8 ล้านพิคเซล สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาประมาณ 4 พันบาทครับ
Cosmos X
อัพงบขึ้นมาอีกหน่อยจะได้สมาร์ทโฟนตัวแรงจาก Cherry Mobile อย่าง Cosmos X มาพร้อมกับหน้าจอ Super-AMOLED HD 4.7 นิ้ว แสดงผลคมชัด สีสันจัดจ้าน จัดเต็มกล้อง 18 ล้านพิคเซล พร้อมกล้องหน้า 8 ล้านพิคเซล รองรับการใช้งาน 3G และใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด ชิปประมวลผล Quad-Core รองรับคอนเทนท์ HD เต็มรูปแบบ สำหรับดีไซน์เรียบง่าย ควบคุมผ่านปุ่ม On-Screen มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ในงานแน่นอนครับ รอติดตามได้เลย
dtac Lion 5.0 HD
สมาร์ทโฟนราคาประหยัดจาก dtac โดดเด่นด้วยสเปคหน้าจอ HD ขนาด 5.0 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ 3G WiFi GPS ครบเครื่อง รันบน Android 4.2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Google Play Store เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน Android ทั่วไป ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิคเซล และแบตเตอรี่ 2,500 mAh พอใช้งานได้ตลอดวัน เรื่องโปรโมชั่นคงไม่พ้นซื้อพ่วงแพคเกจ ลดราคาเยอะทีเดียวครับ
Apple
Apple iPad Air
แท็บเล็ตจอใหญ่ 9.7 นิ้ว เล็กลง บางลง พึ่งวางจำหน่ายในบ้านเราเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง ใช้ซีพียูแบบใหม่ที่ประมวลผลภาพกราฟฟิคได้เร็วขึ้นด้วยชิพ Apple A7 หน้าจอคมชัดด้วยจอภาพแบบ Retina Display เหมือนกับรุ่นก่อน กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้าสำหรับถ่ายรูปแบบ Facetime มีให้เลือกทั้งแบบ Wi-Fi และ Wi-Fi + Cellular เช่นเคย มีให้เลือกทั้งสีขาว และสีเทาดำ
iPad Mini with Retina Display
แท็บเล็ตรุ่นฮิต iPad Mini หน้าจอ Retina Display พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้ภายในงาน Thailand Mobile Expo 2014 มีโปรโมชั่นเสริมจาก Operator ค่ายต่างๆ เรื่องคุณสมบัติภายในเร็วแรงเหมือน iPhone 5s ใช้ชิปประมวลผล Apple A7 รันบนระบบปฏิบัติการ iOS 7 ลงแอพพลิเคชั่นได้มหาศาลจาก App Store รวมถึงคอนเทนท์มัลติมีเดียจาก iTunes ทั้งนี้โมเดลที่วางจำหน่ายมีเฉพาะ Cellular ทุกความจุ ทุกสี เลือกได้ตามต้องการ
iPhone 5s
มีคำถามเกี่ยวกับไอโฟนในงาน Thailand Mobile Expo 2014 ว่าจะมีจำหน่ายหรือไม่ ? คำตอบคือมีครับ ทุกไซส์ ทุกสี พร้อมโปรโมชั่นเสริมจาก Operator ที่ร่วมรายการ ด้านสเปคภายในคงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก หน้าจอ HD ขนาด 4.0 นิ้ว, ชิปประมวลผล Apple A7 เร็วแรงสมฐานะ รองรับการใช้งาน 4G LTE พร้อมกล้อง 8 ล้านพิคเซล แฟลชทูโทนไว้ถ่ายที่แสงน้อย ฯลฯ งวดนี้ใครจะสอยไอโฟนลองมาที่งานได้ครับ มีให้เลือกซื้อแน่นอน
iPhone 5c
สัมผัสไอโฟนรูปแบบใหม่ หลากหลายสีสันกับ iPhone 5c กับสเปคเทียบเท่า iPhone 5 เดิมทั้งชิปประมวลผล Apple A6, หน้าจอ HD 4.0 นิ้ว, กล้อง 8 ล้านพิคเซล (แต่ไม่มีแฟลชทูโทนแบบ 5s นะจ๊ะ) รันบนระบบ iOS7 และคาดว่าจะสามารถเวอร์ชั่นใหม่ได้เรื่อยๆ สำหรับเรื่องโปรโมชั่นต้องรอลุ้นในงานครับ รุ่นนี้ยังไงต้องจัดหนักแน่นอน ทั้งแพคเกจเสริม สิทธิพิเศษต่างๆ ติดตามได้เลย
ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าจุใจแบบสุดๆ กับสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตภายในงาน Thailand Mobile Expo 2014 จากหลากแบรนด์ชั้นนำ และยังมีอีกมากมายครับที่ไม่ได้หยิบมาแนะนำ เอาเป็นว่าแค่นี้ก็เลือกกันไม่ถูกแล้ว :p นอกจากนี้ยังมีโซน Wearable Gadget ให้คุณได้สัมผัสเทคโนโลยีล่าสุดบนอุปกรณ์สวมใส่ พร้อมกิจกรรมร่วมสนุกอื่นๆ?สำหรับมหกรรม Thailand Mobile Expo 2014 จัดตั้งแต่วันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2557 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์?ได้ข่าวว่าตรงกับวันวาเลนไทน์ด้วย จะควงคู่มาซื้อมือถือใหม่ติดมือกลับบ้านก็แจ๋วดีนะเออ : )
ที่มา :?thailandmobileexpo