หนึ่งในแบรนด์ชั้นนำในตลาดคอมพิวเตอร์ Lenovo ที่ก็ได้ว่าพัฒนาสินค้าของตัวเองให้ก้าวล้ำนำสมัยอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้าของ Lenovo ในตระกูลโน๊ตบุ๊ค และ All-in-One ซึ่งก็เป็นสินค้าที่มักจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ และการใช้งานในแบบที่ไม่เหมือนใครให้ผู้ใช้ได้ลองอยู่เสมอๆ อย่างเช่น Lenovo Horizon ที่เป็น Multimode All-in-One ขนาดหน้าจอ 27 นิ้ว สุดเทพ ที่สามารถกลายร่างเป็นแท็บเล็ตขนาดยักษ์ได้ ซึ่งก็มาพร้อมได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย และพูดถึงในวงกว้าง
และหลังจากนั้น Lenovo ก็ได้ทุ่มเทสรรพกำลัง เพื่อพัฒนาสินค้าในตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง และได้ย่อส่วนเจ้า Lenovo Horizon จนกลายร่างๆ มาเป็น Lenovo Flex 20 เครื่อง Multimode All-in-One ขนาด 19.5 นิ้ว ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ตขนาดยักษ์ได้เหมือน Horizon ผู้พี่ และยังคงไว้ซึ่งฟีเจอร์ในด้านมัลติมีเดียทุกๆ ด้านไว้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นติดตามต่อได้ในรีวิวเลยครับ
Specification
ส่วนแรกเรามาดูสเปคเครื่องของ Lenovo Flex 20 กัน สำหรับเจ้า Lenovo Flex 20 ตัวที่เรานำมาทดสอบนั้น จะเป็นตัวที่มีขายจริงๆ ในประเทศไทย ซึ่งใช้หน่วยประมวลผลกลางของ Intel ในเจนเนอเรชั่นที่ 4 “Haswell” รุ่น i3-4010U ที่เป็นหน่วยประมวลผล 2 คอร์ 4 เธรด มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ 1.7 GHz แคช 3 MB , ใช้หน่วยความจำหรือแรมอยู่ที่ 4 GB ในรูปแบบ DDR3 ความเร็ว 1600 MHz พร้อมรองรับตัวเก็บข้อมูล หรือฮาร์ดดิสก์ขนาด 500GB ซึ่งเพียงพอแน่นอนกับการใช้งานในทุกๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานเอกสาร
ในส่วนของการแสดงผลก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ Lenovo Flex 20 เลยละครับ ด้วยจอแสดงผลแบบสัมผัส 10 จุด ขนาด 19.5 นิ้ว ที่มาพร้อมพาเนลจอแบบ IPS ความละเอียด 1600×900 พิกเซล ให้สีสันของภาพสดใสสมจริง และสวยงามเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ก็ยังให้คุณเพลิดเพลินยิ่งขึ้นไปอีกกับพลังเสียงอันทรงพลังด้วยลำโพง Stereo ในระบบ Dolby Home Theater ที่ขับเสียงออกมาได้อย่างแหลมใส มีชีวิตชีวาเต็มอารมณ์ รวมถึงก็ยังรองรับการ Video Call อันแสนเพลิดเพลินได้ด้วยกล้อง HD Webcam ภายในตัว
พร้อมกันนั้น Lenovo Flex 20?ก็ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบลิขสิทธิ์มาให้ด้วย และยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ต่อพ่วงได้หลายรูปแบบ ผ่านทาง USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ,ช่องต่อหูฟัง-ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่ออะแดปเตอร์ชาร์จไฟ รวมถึงยังรองรับระบบการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง WiFi 802.11 b/g/n และ Bluetooth 4.0 อีกด้วยเรียกว่ารองรับการเชื่อมต่อได้ครบครันทีเดียว
โดยเจ้า Lenovo Flex 20 นั้นก็มีมิติของตัวเครื่องที่ค่อนข้างกระทัดรัดหน้าพอใจทีเดียว มีขนาดอยู่ที่ 52 เซนติเมตร x 2 เซนติเมตร x 30.9 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 3.5 กิโลกรัมเท่านั้นเอง ซึ่งก็นับได้ว่าเป็น All-in-One ตัวหนึ่งที่เมื่อดูจาก Data Sheet จะเป็นเครื่อง All-in-One ที่เอวบางร่างน้อยน่าใช้ทีเดียว แต่อย่างไรก็ดีอย่างเพิ่งด่วนตัดสินใจ แต่เราไปดูของจริงกันเลย
Video
Hardware / Design
สำหรับ Lenovo Flex 20 นั้น มีการออกแบบได้ค่อนข้างแปลกใหม่ และโดดเด่นกว่า All-in-One ทั่วๆ ไปที่วางขายในตลาดมาก ด้วยการ”จงใจ”ออกแบบให้ตัวเครื่องมีความคล้ายคลึงกับแท็บเล็ตราคาแพงๆ ที่ใช้การออกแบบตัวเครื่องเป็น Aluminium Unibody ซึ่งใช้อลูมิเนียมเป็นฝาหลังแบบชิ้นเดียวนำมาขึ้นรูป เจาะ และตัดแต่งให้เป็นรูปทรงของตัวเครื่อง ซึ่งก็ให้การสัมผัส และอารมณ์ในการใช้งานที่ค่อนข้างมืออาชีพ และหรูหราเทียบเคียงอารมณ์ในการใช้งานได้ในระดับแท็บเล็ต หรือ Ultrabook แบบ Hi-End กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ตัวเครื่องก็ยังมีความบางอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน่าประทับใจมากเลยละครับ
ในส่วนของหน้าจอ Lenovo Flex 20 ก็เลือกใช้หน้าจอแสดงผลขนาด 19.5 นิ้ว ที่เป็นจอกระจกหรือ Glossy ให้ภาพคมชัดทีเดียว แต่ก็แลกมาด้วยระดับแสงสะท้อนที่มากพอดู เมื่อนำไปใช้งานในที่มีแสงมาก หรือกลางแจ้งก็ต้องอาศัยการปรับหน้าจอให้มีความสว่างเยอะขึ้นเป็นอันใช้ได้ โดยในการออกแบบบริเวณหน้าจอนั้นจะมีระยะห่างระหว่างตัวจอแสดงผลกับขอบจอทั้ง บน ล่าง ซ้าย ขวา ที่ไม่หนามากเกินไป พร้อมมีกล้อง HD Web Cam ติดตั้งมาให้แบบฝังบริเวณขอบจอด้านบนอีกด้วย รวมไปถึงก็มีปุ่มโฮมติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกันบริเวณขอบจอด้านล่าง ที่ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างละเอียด และเก็บงานในส่วนของการผลิตได้ค่อนข้างดีมาก
สำหรับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ของ Lenovo Flex 20 ก็จะอยู่บริเวณขอบด้านบนบริเวณมุมขวาของตัวเครื่อง ที่ไม่ใช่มีเพียงแค่ปุ่มเปิด-ปิดอย่างเดียว แต่ในบริเวณนี้ยังมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มล็อคการหมุนหน้าจอติดตั้งมาให้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี และยังให้อารมณ์การใช้งานเหมือนแท็บเล็ตอีกด้วย?นอกจากนี้ตัวเครื่องก็ทำการฝังแบตเตอรี่มาให้ในตัวด้วย ซึ่ง Lenovo การันตีว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องแบบไม่ชาร์จไฟสูงสุด 2 ชม.(ซึ่งจะมีผลทดสอบในหัวข้อ Performance) และในบริเวณขอบด้านบนมุมซ้ายก็จะมีช่องระบายความร้อนอยู่ด้วยนะครับ
พอร์ตเชื่อมต่างๆ เองก็จะอยู่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่อง ทั้งพอร์ต USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ?,ช่องต่อหูฟัง-ไมโครโฟน และช่องเสียบอะแดปเตอร์ชาร์จไฟที่ ซึ่งเรียนตามตรงว่าพอร์ต USB นั้นมีจำนวนแค่ 2 พอร์ต ที่น้อยเกินไป ยิ่งเมื่อเสียบใช้งานตัวคีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สายด้วยแล้ว ก็จะเหลือ USB เพียงแค่พอร์ตเดียวซึ่งน้อยเกินไป แต่ถ้าท่านใดไม่ซีเรียสก็สามารถหา USB-Hub มาต่อพ่วงเพิ่มเติมได้ครับ
ขาตั้งนั้นบอกกันตามตรงเลยว่าในตอนแรกเห็น ตัวผู้เขียนเองมองในแง่ลบเลยละครับ ว่าขาตั้งอันแค่เนี้ยมันจะแข็งแรงเหรอ แต่เมื่อได้จับของจริงแล้ว ความคิดกลับกันเลยละครับเพราะเจ้าขาตั้งนั้นมีความแข็งแรง และมีความฝืดที่ค่อนข้างมาก ซึ่งก็นับได้ว่าเป็นข้อดีข้อหนึ่งเพราะขณะใช้งานปกตินั้นตัวเครื่องก็มีความมั่นคง และเวลาใช้งานแบบสัมผัส ตัวเครื่องก็จะไม่พับไปตามแรงกดครับ โดยตัวขาตั้งนั้นสามารถพับเก็บได้ และมีตัวล็อคของขาตั้งมาให้ด้วย ซึ่งในการพับเก็บก็ต้องออกแรงกันพอสมควรเลยละครับ
Premium Bundle
ในส่วนของบันเดิลที่ติดมากับตัวเครื่องนั้น เรียกได้ว่าผู้เขียนประทับใจมาก ด้วยการที่เจ้า Lenovo Flex 20 เลือกที่จะบันเดิล คีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สาย ในแบบ AccuType ที่เป็นชุดอุปกรณ์ที่ดูดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวคีย์บอร์ดไร้สายที่เป็นบอดี้แบบอลูมิเนียมทั้งชิ้น และเลือกใช้ปุ่มกดแบบ AccuType ที่ใช้งานได้สะดวกมาก?ให้อารมณ์แบบมืออาชีพในการใช้งานจริงๆ เรียกได้ว่าพิมพ์ได้อย่างลื่นไหล ปุ่มไม่ยวบยาบ และไม่แข็งกระด้างจนเดินไป ซึ่งในส่วนของตัวเมาส์เองก็ดีไม่แพ้กันที่มีความเร็ว และความแม่นยำในขนาดที่กำลังดี
นอกจากนี้ Lenovo Flex 20?ก็ยังบันเดิลอุปกรณ์สำหรับเล่นเกมแบบสัมผัสต่างๆ มาให้ด้วยอย่าง Joystick & Striker และ E-dice ที่จะเป็นอุปกรณ์เล่นเกมสำหรับ Lenovo Flex 20 โดยเฉพาะที่ทาง Lenovo ก็ออกแอพพลิเคชั่นมารองรับมากมายอย่างเช่น Lenovo Air Hockey , Lenovo Tycoon เป็นต้น ที่ก็สามารถใช้เจ้า Joystick & Striker และ E-dice ประกอบการเล่นได้อีกด้วย (ถ้านักพัฒนาแอพฯ พัฒนาแอพฯไฮโลมาด้วยจะดีมากเลย)
Multimedia / Auro interface
และอีกหนึ่งจุดขายสำคัญซึ่งนั่นก็คือการใช้เจ้า Lenovo Flex 20?เล่นเกมกับเพื่อนๆ หรือลูก ซึ่งก็บอกได้เลยว่า Lenovo Flex 20 ทำออกมาได้น่าประทับใจทีเดียว โดยสามารถใช้งาน?Joystick & Striker กับแอพพลิเคชั่นต่างของ Lenovo ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ดีในบางแอพฯ จะเหมาะกับการเล่นในแบบ 2 คนนะครับ เพราะตัวเครื่องมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 20 นิ้ว ถ้าเล่นกัน 3-4 คน อาจจะทำให้มีพื้นที่การแสดงผลไม่พอได้
รวมถึงในส่วนของ Auro interface ที่ Lenovo บรรจงพัฒนา และติดตั้งมาให้ใน Lenovo Flex 20 และ Horizom ซึ่งก็จะเป็น UI ที่อำนวยความสะดวกผู้ใช้ที่มีจำนวนมากกว่าสองคน ในการเข้าถึงรูปภาพ และแอพต่างๆ ได้พร้อมๆ กัน ซึ่งก็ทำออกมาได้ค่อนข้างโอเค โดยรูปแบบการใช้งานนั้นสามารถชมได้จากวิดีโอด้านล่างเลยครับ (ซึ่งจะเป็นของเจ้า Horizon แต่จะมีรูปแบบการใช้งานที่เหมือนกัน)
Dual-Mode PC
มาดูในส่วนของการใช้งานในโหมดต่างๆ กันบ้าง แน่นอนว่า Lenovo Flex 20 นั้นเป็นเครื่อง All-in-One แบบ Multimode ซึ่งก็สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานของตัวเครื่องได้หลักๆ สองโหมดด้วยกัน อย่าง Stand Mode และ Tablet Mode
ซึ่ง Stand Mode เรียกได้ว่าเป็นโหมดพื้นฐานที่จะให้คุณใช้งานเจ้า Lenovo Flex 20 ในรูปแบบของ All-in-one ทั่วๆ ไป เช่นใช้ ดูหนัง ฟังเพลง เล่น เกม พิมพ์งาน แต่งรูป หรือใช้งานด้านอื่นๆ ในรูปแบบของเครื่องเดสท็อป แต่สำหรับ Lenovo Flex 20 นั้นจะให้ความพิเศษที่มากกว่า ด้วยการที่สามารถปรับองศาของหน้าจอได้ โดยจะให้คุณได้ใช้งานในมุมมองที่แตกต่างออกไปจากปกติ เช่น การพับขาตั้งแค่ครึ่งเดียวให้ตัวเครื่องอยู่ในระดับ 45 องศา ซึ่งก็จะให้คุณใช้งานคีย์บอร์ดได้สะดวก และก็ใช้งานสัมผัสไปพร้อมๆ กันได้ด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณเจ้าขาตั้งของ Lenovo Flex 20 ที่ทำออกมาได้มั่นคงและแข็งแรงมากๆ รวมถึงต้องขอบคุณยางรองกันลื่นสองมุมที่ติดตั้งมาบริเวณขอบจอด้านล่าง รวมไปถึงใน Stand Mode ก็สามารถที่จะตอบสนองความบันเทิงได้เป็นเยี่ยมอีกด้วย เพราะตัวลำโพงของเครื่องนั้นจะอยู่บริเวณขอบขอด้านล่าง เมื่อเปิดเพลงฟังเสียงที่ตัวลำโพงยิงออกมาก็จะกระทบกับพื้นผิว และสะท้อนออกมาให้ผู้ใช้ได้ยินอย่างชัดเจนครับ
และในอีกหนึ่งโหมดอย่าง Tablet Mode ก็เป็นอีกโหมดที่ทำออกได้ค่อนข้างน่าพอใจทีเดียว โดยในโหมดนี้ก็จะให้คุณใช้งานหน้าจอแบบทัชสกรีน หรือการสัมผัสได้อย่างเต็มรูปแบบซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับการสัมผัสแบบ Capacitive Touck 10 จุด ที่ก็ทำได้ลื่นไหล และแม่นยำมาก รวมถึงปุ่มโฮมที่ก็ติดตั้งมาบริเวณขอบจอด้านล่างก็ช่วยให้เข้าถึงแอพฯ ได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่า Lenovo Flex 20 นั้นจะมีข้อจำกัดอยู่เล็กน้อยในการยกมาใช้งานแบบแท็บเล็ตถือมือเดียว ที่ค่อนข้างจะใช้งานลำบากพอสมควร ด้วยขนาดของตัวเครื่องที่กว้างใหญ่ถึงแม้จะมีน้ำหนักไม่มาก แต่ก็อาจทำให้เจ้าเครื่องนี้พลิกหลุดมือได้ ซึ่งผู้เขียนแนะนำให้วางบนตัก หรือวางราบไปกับพื้นจะดีที่สุดใน Tablet Mode นะครับ และก็ไม่ต้องกลัวว่าตัวเครื่องจะเป็นรอยเพราะ Lenovo ก็ติดตั้งขายางรองมาให้ด้วยถึง 4 มุมครับผม
Performance / Software
มาดูกันส่วนของบททดสอบกันบ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าสเปคเครื่องของเจ้า Lenovo Flex 20 นั้นอยู่ในระดับกลางๆ เลือกใช้หน่วยประมวลผลกลาง Intel Core i3 4010U 1.7 GHz แรม DDR3 4GB และการ์ดจอออนบอร์ด Intel HD Graphic 4400 ที่ก็ทำคะแนนทดสอบออกมาได้พอประมาณ ไม่หวือหวามาก แต่ก็สามารถใช้งานกับการเล่นเกมต่างๆ และตอบสนองในด้านความบันเทิงได้ดีพอสมควร โดยมีผลคะแนนทดสอบของโปรแกรม Benckmark ออกมาดังนี้
สำหรับโปรแกรมทดสอบเรนเดอร์งานยอดนิยมอย่าง CINEBENCH 11.5 ก็ได้คะแนนในส่วนของ OpenGL ที่ 9.82 FPS และได้คะแนน CPU อยู่ที่ 1.77 คะแนน ซึ่งก็อยู่ในระดับของหน่วยประมวลผลกลางทั่วๆ ไป
ต่อกันด้วยโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของระบบทั้งด้านหน่วยประมวลผล และการ์ดจอทั้ง PCMARK07 , 3DMARK11 และ 3DMARK ซึ่งก็ได้ผลคะแนนออกมาอยู่ในระดับกลางๆ??เช่นกัน
เกมอย่าง Sniper Elite ?(1366?768 /0 x AA /All Low)? ก็มีเฟรมเรทต่ำสุดที่ 7.4FPS เฟรมเรทเฉลี่ยที่ 17.1FPS และเฟรมเรทสูงสุดที่ 47.4FPS ซึ่งก็จัดว่าอยู่ในระดับที่พอเล่นได้ครับ?
Street Fighter IV (1366?768 /0 x AA /All High) ก็ได้คะแนนที่ 7,128 คะแนน มีเฟรมเรทเฉลี่ยที่ 37.8FPS ครับ ซึ่งก็เล่นได้ลื่นไหลพอสมควรเลยละครับ แต่ถ้าจะให้ดีไปปรับความสวยของภาพเป็น Medium ก็จะเล่นได้แบบลื่นหัวแตกแน่นอน
และสุดท้ายในส่วนของแบตเตอรี่ของเครื่อง Lenovo Flex 20?ที่ทาง NBS ได้ทดสอบผ่านโปรแกรม BatteryMon ขณะเล่นเว็บต่างๆ และใช้งานทั่วๆไป ก็ได้ผลออกมาอยู่ที่ 2 ชั่วโมง ตามที่ Lenovo เคลมมา ซึ่งในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นสำหรับตัวผู้เขียนเองถือว่าใส่มาให้ค่อนข้างน้อยไปหน่อย แต่อย่างไรก็ดียังสามารถเสียบอะแดปเตอร์เล่นได้นะครับ
?
Conclusion / Award
Lenovo Flex 20 ก็ถือได้ว่าเป็น Multimode All-in-One เครื่องหนึ่งที่ทำออกมาได้อย่างประทับใจในหลายๆ ด้านทั้งในเรื่องของการออกแบบ ที่พิถีพิถันดีมาก และบรรจงเก็บรายละเอียดในทุกซอกทุกมุมได้เป็นอย่างดี ทั้งตัวบอดี้หรือฝาหลังของเครื่องแบบ Aluminium Unibody ที่ก็ให้อารมณ์ในการใช้งานแบบมืออาชีพ หรือแม้แต่ของที่บันเดิลมาให้ด้วยอย่างเมาส์และคีย์บอร์ดแบบ ?AccuType?ที่ก็สามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม , อุปกรณ์อย่าง Joystick & Striker และ E-dice ที่สามารถใช้งานควบคู่กับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ทาง Lenovo ออกแบบมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงในการใช้งานแบบ Dual-Mode PC ทั้ง Stand Mode และ Tablet Mode ที่ก็สามารถใช้งานได้ไม่ติดขัด
นอกจากนี้ในเรื่องของหน้าจอสัมผัสแบบ 10 จุด ขนาด 19.5 นิ้วแบบ IPS ที่ก็เป็นหน้าจอที่มีคุณภาพสูงให้สีสันของภาพที่คมชัดเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็สามารถตอบสนองการใช้งานทั้งในด้านของการใช้งานทั่วๆ ไป และมัลติมีเดียต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และที่จะลืมพูดถึงไปไม่ได้เลยก็คือ Lenovo auro interface และ Exclusive game อย่าง เช่น Lenovo Air Hockey หรือ Lenovo Tycoon ที่ก็สามารถสร้างและเพิ่มพูนความสัมพันธ์อันดีให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหาย หรือแม้แต่คนในครอบครัวได้ดีมากยิ่งขึ้น ถึงแม้เจ้า Lenovo Flex 20 อาจจะมีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของจำนวนแบตเตอรี่ที่มีอยู่ได้แค่ 2 ชั่วโมง กับสเปคของตัวเครื่องที่ใช้เพียงแค่ i3 4010U ที่แลดูจะมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับปานกลาง แต่ด้วย Windows8 แท้ และฟีเจอร์ที่มากมายขนาดนี้ พร้อมกับราคาขายที่อยู่เพียงแค่ 32,900 บาทเท่านั้น ก็นับว่า Lenovo Flex 20 เป็นเครื่อง Multimode All-in-One เครื่องหนึ่งที่มีคงามคุ้มค่ามาก ถ้าท่านใดกำลังมองหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทีโดดเด่นในเรื่องของมัลติมีเดียขนานแท้แล้วละก็เจ้านี่ละครับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในงบ ไม่เกิน 33,000 บาท
ข้อดี
- ดีไซน์สวยงาม
- เก็บงานได้ละเอียด
- วัสดุอลูมิเนียมแข็งแรงทนทาน
- ทัชสกรีนลื่นไหล
- อุปกรณ์ที่บันเดิลมาให้มีคุณภาพสูง และใช้งานได้ดี
- สามารถเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ต(ขนาดยักษ์)ได้ด้วย
- เกมที่ติดตั้งมาให้ เล่นได้จริง และสนุกสนาน
- ใช้เป็นสื่อกลางในการสร้างความสัมพันธ์ของเพื่อน และครอบครัวได้
ข้อสังเกต
- สเปคเครื่องอยู่ในระดับกลางๆ
- แบตเตอรี่น้อยไปหน่อย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของ All-in-One ขนาดหน้าจอไม่เกิน 20 นิ้ว ซึ่ง?Sony Lenovo Flex 20?ก็ได้รางวัลดังนี้
Best Multimedia
ด้วยความที่?Lenovo Flex 20 มีบันเดิลในการเล่นเกมอย่าง?Joystick & Striker และ E-dice รวมไปถึงเกม และแอพลิเคชั่นต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องที่สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น หรือเด็กเล็กก็สามารถให้เขาสนุนสนานได้อย่างไม่มีพิษมีภัย รวมถึงสำหรับผู้ใหญ่เองก็สามารถชวนๆ เพื่อนมาสังสรรค์ และใช้เจ้า?Lenovo Flex 20?และ E-dice เล่นแอพฯต่างๆ อย่าง Roullet เพื่อเสริมสร้างความสัมพัธ์ของเพื่อนฝูง และเสี่ยงโชคได้ นอกจากนี้ด้วยความที่?Lenovo Flex 20 เลือกใช้จอแสดงผล IPS และลำโพง?Stereo ในระบบ Dolby Home Theater ก็สามารถตอบสนองความบันเทิงในการดูหนัง ฟังเพลงได้เป็นอย่างดี?Notebookspec จึงขอมองรางวัล Best Multimedia ไปให้เลยครับ
Specification
ส่วนแรกเรามาดูสเปคเครื่องของ Lenovo Flex 20 กัน สำหรับเจ้า Lenovo Flex 20 ตัวที่เรานำมาทดสอบนั้น จะเป็นตัวที่มีขายจริงๆ ในประเทศไทย ซึ่งใช้หน่วยประมวลผลกลางของ Intel ในเจนเนอเรชั่นที่ 4 “Haswell” รุ่น i3-4010U ที่เป็นหน่วยประมวลผล 2 คอร์ 4 เธรด มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ 1.7 GHz แคช 3 MB , ใช้หน่วยความจำหรือแรมอยู่ที่ 4 GB ในรูปแบบ DDR3 ความเร็ว 1600 MHz พร้อมรองรับตัวเก็บข้อมูล หรือฮาร์ดดิสก์ขนาด 500GB ซึ่งเพียงพอแน่นอนกับการใช้งานในทุกๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือทำงานเอกสาร
ในส่วนของการแสดงผลก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ Lenovo Flex 20 เลยละครับ ด้วยจอแสดงผลแบบสัมผัส 10 จุด ขนาด 19.5 นิ้ว ที่มาพร้อมพาเนลจอแบบ IPS ความละเอียด 1600×900 พิกเซล ให้สีสันของภาพสดใสสมจริง และสวยงามเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ก็ยังให้คุณเพลิดเพลินยิ่งขึ้นไปอีกกับพลังเสียงอันทรงพลังด้วยลำโพง Stereo ในระบบ Dolby Home Theater ที่ขับเสียงออกมาได้อย่างแหลมใส มีชีวิตชีวาเต็มอารมณ์ รวมถึงก็ยังรองรับการ Video Call อันแสนเพลิดเพลินได้ด้วยกล้อง HD Webcam ภายในตัว
พร้อมกันนั้น Lenovo Flex 20?ก็ได้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 8 แบบลิขสิทธิ์มาให้ด้วย และยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ต่อพ่วงได้หลายรูปแบบ ผ่านทาง USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ,ช่องต่อหูฟัง-ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่ออะแดปเตอร์ชาร์จไฟ รวมถึงยังรองรับระบบการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง WiFi 802.11 b/g/n และ Bluetooth 4.0 อีกด้วยเรียกว่ารองรับการเชื่อมต่อได้ครบครันทีเดียว
โดยเจ้า Lenovo Flex 20 นั้นก็มีมิติของตัวเครื่องที่ค่อนข้างกระทัดรัดหน้าพอใจทีเดียว มีขนาดอยู่ที่ 52 เซนติเมตร x 2 เซนติเมตร x 30.9 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 3.5 กิโลกรัมเท่านั้นเอง ซึ่งก็นับได้ว่าเป็น All-in-One ตัวหนึ่งที่เมื่อดูจาก Data Sheet จะเป็นเครื่อง All-in-One ที่เอวบางร่างน้อยน่าใช้ทีเดียว แต่อย่างไรก็ดีอย่างเพิ่งด่วนตัดสินใจ แต่เราไปดูของจริงกันเลย
Video
Hardware / Design
สำหรับ Lenovo Flex 20 นั้น มีการออกแบบได้ค่อนข้างแปลกใหม่ และโดดเด่นกว่า All-in-One ทั่วๆ ไปที่วางขายในตลาดมาก ด้วยการ”จงใจ”ออกแบบให้ตัวเครื่องมีความคล้ายคลึงกับแท็บเล็ตราคาแพงๆ ที่ใช้การออกแบบตัวเครื่องเป็น Aluminium Unibody ซึ่งใช้อลูมิเนียมเป็นฝาหลังแบบชิ้นเดียวนำมาขึ้นรูป เจาะ และตัดแต่งให้เป็นรูปทรงของตัวเครื่อง ซึ่งก็ให้การสัมผัส และอารมณ์ในการใช้งานที่ค่อนข้างมืออาชีพ และหรูหราเทียบเคียงอารมณ์ในการใช้งานได้ในระดับแท็บเล็ต หรือ Ultrabook แบบ Hi-End กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ตัวเครื่องก็ยังมีความบางอยู่ในระดับที่ค่อนข้างน่าประทับใจมากเลยละครับ
ในส่วนของหน้าจอ Lenovo Flex 20 ก็เลือกใช้หน้าจอแสดงผลขนาด 19.5 นิ้ว ที่เป็นจอกระจกหรือ Glossy ให้ภาพคมชัดทีเดียว แต่ก็แลกมาด้วยระดับแสงสะท้อนที่มากพอดู เมื่อนำไปใช้งานในที่มีแสงมาก หรือกลางแจ้งก็ต้องอาศัยการปรับหน้าจอให้มีความสว่างเยอะขึ้นเป็นอันใช้ได้ โดยในการออกแบบบริเวณหน้าจอนั้นจะมีระยะห่างระหว่างตัวจอแสดงผลกับขอบจอทั้ง บน ล่าง ซ้าย ขวา ที่ไม่หนามากเกินไป พร้อมมีกล้อง HD Web Cam ติดตั้งมาให้แบบฝังบริเวณขอบจอด้านบนอีกด้วย รวมไปถึงก็มีปุ่มโฮมติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกันบริเวณขอบจอด้านล่าง ที่ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างละเอียด และเก็บงานในส่วนของการผลิตได้ค่อนข้างดีมาก
สำหรับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ของ Lenovo Flex 20 ก็จะอยู่บริเวณขอบด้านบนบริเวณมุมขวาของตัวเครื่อง ที่ไม่ใช่มีเพียงแค่ปุ่มเปิด-ปิดอย่างเดียว แต่ในบริเวณนี้ยังมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มล็อคการหมุนหน้าจอติดตั้งมาให้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี และยังให้อารมณ์การใช้งานเหมือนแท็บเล็ตอีกด้วย?นอกจากนี้ตัวเครื่องก็ทำการฝังแบตเตอรี่มาให้ในตัวด้วย ซึ่ง Lenovo การันตีว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องแบบไม่ชาร์จไฟสูงสุด 2 ชม.(ซึ่งจะมีผลทดสอบในหัวข้อ Performance) และในบริเวณขอบด้านบนมุมซ้ายก็จะมีช่องระบายความร้อนอยู่ด้วยนะครับ
พอร์ตเชื่อมต่างๆ เองก็จะอยู่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่อง ทั้งพอร์ต USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ?,ช่องต่อหูฟัง-ไมโครโฟน และช่องเสียบอะแดปเตอร์ชาร์จไฟที่ ซึ่งเรียนตามตรงว่าพอร์ต USB นั้นมีจำนวนแค่ 2 พอร์ต ที่น้อยเกินไป ยิ่งเมื่อเสียบใช้งานตัวคีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สายด้วยแล้ว ก็จะเหลือ USB เพียงแค่พอร์ตเดียวซึ่งน้อยเกินไป แต่ถ้าท่านใดไม่ซีเรียสก็สามารถหา USB-Hub มาต่อพ่วงเพิ่มเติมได้ครับ
ขาตั้งนั้นบอกกันตามตรงเลยว่าในตอนแรกเห็น ตัวผู้เขียนเองมองในแง่ลบเลยละครับ ว่าขาตั้งอันแค่เนี้ยมันจะแข็งแรงเหรอ แต่เมื่อได้จับของจริงแล้ว ความคิดกลับกันเลยละครับเพราะเจ้าขาตั้งนั้นมีความแข็งแรง และมีความฝืดที่ค่อนข้างมาก ซึ่งก็นับได้ว่าเป็นข้อดีข้อหนึ่งเพราะขณะใช้งานปกตินั้นตัวเครื่องก็มีความมั่นคง และเวลาใช้งานแบบสัมผัส ตัวเครื่องก็จะไม่พับไปตามแรงกดครับ โดยตัวขาตั้งนั้นสามารถพับเก็บได้ และมีตัวล็อคของขาตั้งมาให้ด้วย ซึ่งในการพับเก็บก็ต้องออกแรงกันพอสมควรเลยละครับ
Premium Bundle
ในส่วนของบันเดิลที่ติดมากับตัวเครื่องนั้น เรียกได้ว่าผู้เขียนประทับใจมาก ด้วยการที่เจ้า Lenovo Flex 20 เลือกที่จะบันเดิล คีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สาย ในแบบ AccuType ที่เป็นชุดอุปกรณ์ที่ดูดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวคีย์บอร์ดไร้สายที่เป็นบอดี้แบบอลูมิเนียมทั้งชิ้น และเลือกใช้ปุ่มกดแบบ AccuType ที่ใช้งานได้สะดวกมาก?ให้อารมณ์แบบมืออาชีพในการใช้งานจริงๆ เรียกได้ว่าพิมพ์ได้อย่างลื่นไหล ปุ่มไม่ยวบยาบ และไม่แข็งกระด้างจนเดินไป ซึ่งในส่วนของตัวเมาส์เองก็ดีไม่แพ้กันที่มีความเร็ว และความแม่นยำในขนาดที่กำลังดี
นอกจากนี้ Lenovo Flex 20?ก็ยังบันเดิลอุปกรณ์สำหรับเล่นเกมแบบสัมผัสต่างๆ มาให้ด้วยอย่าง Joystick & Striker และ E-dice ที่จะเป็นอุปกรณ์เล่นเกมสำหรับ Lenovo Flex 20 โดยเฉพาะที่ทาง Lenovo ก็ออกแอพพลิเคชั่นมารองรับมากมายอย่างเช่น Lenovo Air Hockey , Lenovo Tycoon เป็นต้น ที่ก็สามารถใช้เจ้า Joystick & Striker และ E-dice ประกอบการเล่นได้อีกด้วย (ถ้านักพัฒนาแอพฯ พัฒนาแอพฯไฮโลมาด้วยจะดีมากเลย)
Multimedia / Auro interface
และอีกหนึ่งจุดขายสำคัญซึ่งนั่นก็คือการใช้เจ้า Lenovo Flex 20?เล่นเกมกับเพื่อนๆ หรือลูก ซึ่งก็บอกได้เลยว่า Lenovo Flex 20 ทำออกมาได้น่าประทับใจทีเดียว โดยสามารถใช้งาน?Joystick & Striker กับแอพพลิเคชั่นต่างของ Lenovo ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ดีในบางแอพฯ จะเหมาะกับการเล่นในแบบ 2 คนนะครับ เพราะตัวเครื่องมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 20 นิ้ว ถ้าเล่นกัน 3-4 คน อาจจะทำให้มีพื้นที่การแสดงผลไม่พอได้
รวมถึงในส่วนของ Auro interface ที่ Lenovo บรรจงพัฒนา และติดตั้งมาให้ใน Lenovo Flex 20 และ Horizom ซึ่งก็จะเป็น UI ที่อำนวยความสะดวกผู้ใช้ที่มีจำนวนมากกว่าสองคน ในการเข้าถึงรูปภาพ และแอพต่างๆ ได้พร้อมๆ กัน ซึ่งก็ทำออกมาได้ค่อนข้างโอเค โดยรูปแบบการใช้งานนั้นสามารถชมได้จากวิดีโอด้านล่างเลยครับ (ซึ่งจะเป็นของเจ้า Horizon แต่จะมีรูปแบบการใช้งานที่เหมือนกัน)
Dual-Mode PC
มาดูในส่วนของการใช้งานในโหมดต่างๆ กันบ้าง แน่นอนว่า Lenovo Flex 20 นั้นเป็นเครื่อง All-in-One แบบ Multimode ซึ่งก็สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานของตัวเครื่องได้หลักๆ สองโหมดด้วยกัน อย่าง Stand Mode และ Tablet Mode
ซึ่ง Stand Mode เรียกได้ว่าเป็นโหมดพื้นฐานที่จะให้คุณใช้งานเจ้า Lenovo Flex 20 ในรูปแบบของ All-in-one ทั่วๆ ไป เช่นใช้ ดูหนัง ฟังเพลง เล่น เกม พิมพ์งาน แต่งรูป หรือใช้งานด้านอื่นๆ ในรูปแบบของเครื่องเดสท็อป แต่สำหรับ Lenovo Flex 20 นั้นจะให้ความพิเศษที่มากกว่า ด้วยการที่สามารถปรับองศาของหน้าจอได้ โดยจะให้คุณได้ใช้งานในมุมมองที่แตกต่างออกไปจากปกติ เช่น การพับขาตั้งแค่ครึ่งเดียวให้ตัวเครื่องอยู่ในระดับ 45 องศา ซึ่งก็จะให้คุณใช้งานคีย์บอร์ดได้สะดวก และก็ใช้งานสัมผัสไปพร้อมๆ กันได้ด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณเจ้าขาตั้งของ Lenovo Flex 20 ที่ทำออกมาได้มั่นคงและแข็งแรงมากๆ รวมถึงต้องขอบคุณยางรองกันลื่นสองมุมที่ติดตั้งมาบริเวณขอบจอด้านล่าง รวมไปถึงใน Stand Mode ก็สามารถที่จะตอบสนองความบันเทิงได้เป็นเยี่ยมอีกด้วย เพราะตัวลำโพงของเครื่องนั้นจะอยู่บริเวณขอบขอด้านล่าง เมื่อเปิดเพลงฟังเสียงที่ตัวลำโพงยิงออกมาก็จะกระทบกับพื้นผิว และสะท้อนออกมาให้ผู้ใช้ได้ยินอย่างชัดเจนครับ
และในอีกหนึ่งโหมดอย่าง Tablet Mode ก็เป็นอีกโหมดที่ทำออกได้ค่อนข้างน่าพอใจทีเดียว โดยในโหมดนี้ก็จะให้คุณใช้งานหน้าจอแบบทัชสกรีน หรือการสัมผัสได้อย่างเต็มรูปแบบซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับการสัมผัสแบบ Capacitive Touck 10 จุด ที่ก็ทำได้ลื่นไหล และแม่นยำมาก รวมถึงปุ่มโฮมที่ก็ติดตั้งมาบริเวณขอบจอด้านล่างก็ช่วยให้เข้าถึงแอพฯ ได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่า Lenovo Flex 20 นั้นจะมีข้อจำกัดอยู่เล็กน้อยในการยกมาใช้งานแบบแท็บเล็ตถือมือเดียว ที่ค่อนข้างจะใช้งานลำบากพอสมควร ด้วยขนาดของตัวเครื่องที่กว้างใหญ่ถึงแม้จะมีน้ำหนักไม่มาก แต่ก็อาจทำให้เจ้าเครื่องนี้พลิกหลุดมือได้ ซึ่งผู้เขียนแนะนำให้วางบนตัก หรือวางราบไปกับพื้นจะดีที่สุดใน Tablet Mode นะครับ และก็ไม่ต้องกลัวว่าตัวเครื่องจะเป็นรอยเพราะ Lenovo ก็ติดตั้งขายางรองมาให้ด้วยถึง 4 มุมครับผม
Performance / Software
มาดูกันส่วนของบททดสอบกันบ้าง อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าสเปคเครื่องของเจ้า Lenovo Flex 20 นั้นอยู่ในระดับกลางๆ เลือกใช้หน่วยประมวลผลกลาง Intel Core i3 4010U 1.7 GHz แรม DDR3 4GB และการ์ดจอออนบอร์ด Intel HD Graphic 4400 ที่ก็ทำคะแนนทดสอบออกมาได้พอประมาณ ไม่หวือหวามาก แต่ก็สามารถใช้งานกับการเล่นเกมต่างๆ และตอบสนองในด้านความบันเทิงได้ดีพอสมควร โดยมีผลคะแนนทดสอบของโปรแกรม Benckmark ออกมาดังนี้
สำหรับโปรแกรมทดสอบเรนเดอร์งานยอดนิยมอย่าง CINEBENCH 11.5 ก็ได้คะแนนในส่วนของ OpenGL ที่ 9.82 FPS และได้คะแนน CPU อยู่ที่ 1.77 คะแนน ซึ่งก็อยู่ในระดับของหน่วยประมวลผลกลางทั่วๆ ไป
ต่อกันด้วยโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของระบบทั้งด้านหน่วยประมวลผล และการ์ดจอทั้ง PCMARK07 , 3DMARK11 และ 3DMARK ซึ่งก็ได้ผลคะแนนออกมาอยู่ในระดับกลางๆ??เช่นกัน
เกมอย่าง Sniper Elite ?(1366?768 /0 x AA /All Low)? ก็มีเฟรมเรทต่ำสุดที่ 7.4FPS เฟรมเรทเฉลี่ยที่ 17.1FPS และเฟรมเรทสูงสุดที่ 47.4FPS ซึ่งก็จัดว่าอยู่ในระดับที่พอเล่นได้ครับ?
Street Fighter IV (1366?768 /0 x AA /All High) ก็ได้คะแนนที่ 7,128 คะแนน มีเฟรมเรทเฉลี่ยที่ 37.8FPS ครับ ซึ่งก็เล่นได้ลื่นไหลพอสมควรเลยละครับ แต่ถ้าจะให้ดีไปปรับความสวยของภาพเป็น Medium ก็จะเล่นได้แบบลื่นหัวแตกแน่นอน
และสุดท้ายในส่วนของแบตเตอรี่ของเครื่อง Lenovo Flex 20?ที่ทาง NBS ได้ทดสอบผ่านโปรแกรม BatteryMon ขณะเล่นเว็บต่างๆ และใช้งานทั่วๆไป ก็ได้ผลออกมาอยู่ที่ 2 ชั่วโมง ตามที่ Lenovo เคลมมา ซึ่งในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นสำหรับตัวผู้เขียนเองถือว่าใส่มาให้ค่อนข้างน้อยไปหน่อย แต่อย่างไรก็ดียังสามารถเสียบอะแดปเตอร์เล่นได้นะครับ
?
Conclusion / Award
Lenovo Flex 20 ก็ถือได้ว่าเป็น Multimode All-in-One เครื่องหนึ่งที่ทำออกมาได้อย่างประทับใจในหลายๆ ด้านทั้งในเรื่องของการออกแบบ ที่พิถีพิถันดีมาก และบรรจงเก็บรายละเอียดในทุกซอกทุกมุมได้เป็นอย่างดี ทั้งตัวบอดี้หรือฝาหลังของเครื่องแบบ Aluminium Unibody ที่ก็ให้อารมณ์ในการใช้งานแบบมืออาชีพ หรือแม้แต่ของที่บันเดิลมาให้ด้วยอย่างเมาส์และคีย์บอร์ดแบบ ?AccuType?ที่ก็สามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม , อุปกรณ์อย่าง Joystick & Striker และ E-dice ที่สามารถใช้งานควบคู่กับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ทาง Lenovo ออกแบบมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงในการใช้งานแบบ Dual-Mode PC ทั้ง Stand Mode และ Tablet Mode ที่ก็สามารถใช้งานได้ไม่ติดขัด
นอกจากนี้ในเรื่องของหน้าจอสัมผัสแบบ 10 จุด ขนาด 19.5 นิ้วแบบ IPS ที่ก็เป็นหน้าจอที่มีคุณภาพสูงให้สีสันของภาพที่คมชัดเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็สามารถตอบสนองการใช้งานทั้งในด้านของการใช้งานทั่วๆ ไป และมัลติมีเดียต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และที่จะลืมพูดถึงไปไม่ได้เลยก็คือ Lenovo auro interface และ Exclusive game อย่าง เช่น Lenovo Air Hockey หรือ Lenovo Tycoon ที่ก็สามารถสร้างและเพิ่มพูนความสัมพันธ์อันดีให้กับเพื่อนสนิท มิตรสหาย หรือแม้แต่คนในครอบครัวได้ดีมากยิ่งขึ้น ถึงแม้เจ้า Lenovo Flex 20 อาจจะมีข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของจำนวนแบตเตอรี่ที่มีอยู่ได้แค่ 2 ชั่วโมง กับสเปคของตัวเครื่องที่ใช้เพียงแค่ i3 4010U ที่แลดูจะมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับปานกลาง แต่ด้วย Windows8 แท้ และฟีเจอร์ที่มากมายขนาดนี้ พร้อมกับราคาขายที่อยู่เพียงแค่ 32,900 บาทเท่านั้น ก็นับว่า Lenovo Flex 20 เป็นเครื่อง Multimode All-in-One เครื่องหนึ่งที่มีคงามคุ้มค่ามาก ถ้าท่านใดกำลังมองหาเครื่องคอมพิวเตอร์ทีโดดเด่นในเรื่องของมัลติมีเดียขนานแท้แล้วละก็เจ้านี่ละครับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในงบ ไม่เกิน 33,000 บาท
ข้อดี
- ดีไซน์สวยงาม
- เก็บงานได้ละเอียด
- วัสดุอลูมิเนียมแข็งแรงทนทาน
- ทัชสกรีนลื่นไหล
- อุปกรณ์ที่บันเดิลมาให้มีคุณภาพสูง และใช้งานได้ดี
- สามารถเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ต(ขนาดยักษ์)ได้ด้วย
- เกมที่ติดตั้งมาให้ เล่นได้จริง และสนุกสนาน
- ใช้เป็นสื่อกลางในการสร้างความสัมพันธ์ของเพื่อน และครอบครัวได้
ข้อสังเกต
- สเปคเครื่องอยู่ในระดับกลางๆ
- แบตเตอรี่น้อยไปหน่อย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของ All-in-One ขนาดหน้าจอไม่เกิน 20 นิ้ว ซึ่ง?Sony Lenovo Flex 20?ก็ได้รางวัลดังนี้
Best Multimedia
ด้วยความที่?Lenovo Flex 20 มีบันเดิลในการเล่นเกมอย่าง?Joystick & Striker และ E-dice รวมไปถึงเกม และแอพลิเคชั่นต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องที่สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนานและเพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น หรือเด็กเล็กก็สามารถให้เขาสนุนสนานได้อย่างไม่มีพิษมีภัย รวมถึงสำหรับผู้ใหญ่เองก็สามารถชวนๆ เพื่อนมาสังสรรค์ และใช้เจ้า?Lenovo Flex 20?และ E-dice เล่นแอพฯต่างๆ อย่าง Roullet เพื่อเสริมสร้างความสัมพัธ์ของเพื่อนฝูง และเสี่ยงโชคได้ นอกจากนี้ด้วยความที่?Lenovo Flex 20 เลือกใช้จอแสดงผล IPS และลำโพง?Stereo ในระบบ Dolby Home Theater ก็สามารถตอบสนองความบันเทิงในการดูหนัง ฟังเพลงได้เป็นอย่างดี?Notebookspec จึงขอมองรางวัล Best Multimedia ไปให้เลยครับ