เชื่อได้ว่าหลายๆ ท่านที่อ่านหัวข้อข่าวไปแล้วคงจะเกิดข้อสงสัยกันว่าจริงหรือเปล่า ,หัวข้อข่าวไม่ผิดใช่มั้ย ซึ่งผมขอยืนยันครับว่า Google นั้นสนับสนุนให้พนักงานในบริษัทตัวเองใช้ระบบปฏิบัติการ Macintosh มากกว่าระบบปฏิบัติการอื่นจริงๆ ที่ก็รวมไปถึงระบบปฏิบัติการอย่าง Chrome OS ที่ตัวเองพัฒนาเสียด้วย โดยข่าวนี้ก็มีที่มาจาก Clay Caviness และ Edward Eigerman วิศวกรของ Google ที่ได้ไปเป็นวิทยากรในการสัมมนา LISA ’13 (Large Installation System Administration) ในหัวข้อ Managing Macs at Google Scale ซึ่งจะสามารถสรุปเนื้อความออกมาได้ดังนี้
เครื่อง Mac ได้รับความนิยมมากจากพนักงาน Google
- ตามหลักแล้ว Google สนับสนุนให้พนักงานทุกคนใช้ระบบปฏิบัติการหลากหลาย เช่น Windows , Chorem OS , Linux และ Macintosh
- แต่ในทางปฏิบัติแล้ว Macintosh หรือ Mac เป็นแพลตฟอร์ม และระบบปฏิบัติการอันดับหนึ่ง ถ้าอยากใช้ระบบปฏิบัติการอื่น จำเป็นต้องทำเรื่องเสนอหัวหน้าก่อน
- เจ้า Macintosh หรือเครื่อง Mac นั้นมีความปลอยภัยสูงกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆ มาก
- ในองค์กรของ Google นั้นมีพนักงานประจำกว่ากว่า 42,162 คน และจะมีพนักงานที่ใช้เครื่อง Mac ล็อคอินเข้าสู่ระบบราวๆ 40,000 เครื่อง
- แต่อย่างไรก็ดีไม่ใช่จะชื่นชม และใช้ผลิตภัณฑ์ของ Apple เพียงอย่างเดียว แต่ Google ก็ออกมาบ่นเช่นกันว่า เมื่อไรที่เราใช้ Mac OS X server และ Apple Remote Desktop ที่มีการจัดสรรเครื่องเข้าสู่ระบบราวๆ 50 , 100 และ 200 เครื่อง ระบบจะล่มทันที
- และ Google แก้ไขโดยการสร้างเครื่องมือดูแลระบบ และ Remote Desktop ขึ้นมาใช้เองเสียเลย และแน่นอนว่าทำได้ดีกว่า Mac เสียอีก
ซึ่งจากข่าวนี้ก็แสดงให้เห็นทัศนคดิที่ดีของ Google ว่า ถึงแม้เทคโนโลยีของบริษัทจะก้าวล้ำเพียงใด แต่ถ้ามีเทคโนโลยีอะไรบางอย่างที่บริษัทคู่แข่งเหนื่อกว่า ล้ำหน้ากว่า และถ้าเปิดใจให้กว้างแล้วนำเทคโนโลยีนั้นๆ มาใช้พัฒนาองค์กรของตัวเอง โดยที่ไม่ปิดกั้น และอคติ ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนที่ Google เป็นอยู่ในปัจจุบัน
?
ที่มา : Blognone ,?theregister ,?9to5mac