สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ในทุกวันนี้ก็ต่างมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และมีฟีเจอร์เด่นๆ ออกมามากมายหลากหลายรุ่น Samsung เองก็เช่นกันที่เรียกได้ว่าซอยรุ่นกันออกมาถี่ยิปจนนับไม่ไหวเลยทีเดียวเชียว และไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ Samsumg ก็ได้เปิดตัว และวางขายเจ้า Galaxy Round สุดยอดสมาร์ทโฟนจอโค้งตัวแรกของโลก และเจ้า Galaxy Gear อุปกรณ์เสริมสุดเจ๋งที่โหมโฆษณากันแทบจะในทุกช่องทาง ?ซึ่งดูเหมือนว่าทั้งสองตัวนี้ก็จะได้รับการแสตอบรับได้ไม่ดีเท่าที่ควร และมียอดขายที่ล้มเหลวไม่เป็นเท่าทีคสวร
?
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Flexible เครื่องแรกของโลก???
ในส่วนของ Galaxy Round ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการออกมาวางขายโดยที่ Samsung เองก็ยังไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่แบบโค้ง ที่ยังไม่สามารถผลิตจำนวนมากๆ ได้ หรือการที่ใช้กระจกนิรภัยที่ยังไม่ค่อยสมบูรณ์แบบนัก มาใช้เป็นหน้าจอแสดงผล ส่งผลให้ตัวเครื่องทั้งหนา หนัก และมีราคาสูง รวมไปถึงการที่เอาคำว่า Flexible มาใช้อย่างสิ้นเปลือง ทำได้แค่เพียงความโค้งที่ช่วยให้ผู้ใช้จับตัวเครื่องได้ถนัดมือแค่นั้น แต่ไม่ได้นำประโยชน์จากหน้าจอแบบ Flexible หรือหน้าจอแบบยืดหยุ่นได้มาใช้เป็นจุดขายหลักเลยๆ
รวมถึง การผลิตตัวเครื่องเอง ที่ Samsung ผลิต Galaxy Round ออกมาวางขายแค่ 50,000 เครื่องเท่านั้น และไม่คิดที่จะผลิตเพิ่ม เพื่อส่งขายภายในเกาหลีใต้เพียงประเทศเดียว ซึ่งก็ส่งผลให้ Samsung ช้ำชอกใจยิ่งขึ้นไปอีกด้วยยอดขายภายในประเทศเพียงแค่ไม่ถึง 100 เครื่อง ต่อวัน และมียอดขายรวมที่ 10,000 เครื่อง ต่อเดือนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่า Samsung จะไม่แคร์กับยอดขายนัก เนื่องจากตั้งใจออก Galaxy Round เพื่อต้องการให้ตนเองได้รับการยอมรับว่าเป็น “ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Flexible เครื่องแรกของโลก” เพียงเท่านั้น
?
Galaxy Gear ยอดขายต่ำกว่าเป้า
เช่นกับในเคสของ Galaxy Gear สุดยอดอุปกรณ์เสริมที่คราวนี้ได้ส่งขายออกไปรอบโลก โดย Galaxy Gear นั้นจะเป็นนาฬิกาที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของ Samsung เพื่อใช้ในการแจ้งเตือนข้อมูล ควบคุมเพลง ถ่ายรูป และอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้ ?ที่ในช่วงแรกเจ้านี่จะทำตลาดคู่กับ Galaxy Note 3 เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ากระแสตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร Samsung จึงแก้เกมด้วยการอัพเดทซอฟแวร์ และเพิ่มสมาร์ทโฟนที่รองรับอย่าง Galaxy Round, Galaxy S4, Galaxy S4 LTE-A, Galaxy S3, และ Galaxy S3 LTE ให้ใช้คู่กันได้ แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนความพยายามไม่เป็นผล ไม่สามารถกระตุ้นยอดขายได้ ส่งผลให้มียอดขายสะสมทั่วโลกนับตั้งแต่วันเปิดตัวที่ผ่านมาเพียงแค่ 50,000 เครื่องเท่านั้น ซึ่งมียอดขายต่อวันอยู่ที่ 800-900 เครื่อง ที่แน่นอนว่ามันมียอดขายน้อยกว่าเป้าที่ทางบริษัทตั้งไว้มาก
อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าตอนนี้ Samsung ก็เริ่มที่จะเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนแล้ว แต่เหมือนกับว่ายังไม่ชินกับตำแหน่งผู้นำนี้ ถ้าทาง Samsung สามารถวางแผนที่จะสร้างอุปกรณ์ใหม่ๆ เจ๋งๆ ที่เป็นการปฏิวัติวงการได้มากกว่าการที่จะทดลองตลาด ผมเชื่อว่า Samsung จะเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างเต็มภาคภูมิมากกว่านี้แน่นอน
ที่มา : Businesskorea