iPad นับได้ว่าเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกๆ ที่ทุกคนจะซื้อหามาใช้งานกัน นั้นก็เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ Apple ที่ออกแบบมาอย่างลงตัวสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถตอบสนองการใช้งานของเราได้อย่างครบครันทั้งในเรื่องงานและความบันเทิง รวมไปถึงยังมีแอพพลิเคชั่นมากมายให้เราเลือกใช้งานอีกด้วย ทำให้เราพบเห็นผู้ใช้งาน iPad ได้อย่างทั่วไปตามห้างร้าน รถไฟฟ้า หรือตามที่สาธารณะต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าในการใช้งานนอกสถานที่เหล่านั้นอาจจะทำให้ iPad ได้รับการกระทบกะเทือน ส่งผลให้เป็นรอยขึดข่วนหรือแตกบุบได้
ในบทความนี้เราก็เลยจะมาพูดถึงสองสิ่งที่เป็นอุปกรณ์เสริม iPad ที่เชื่อว่าทุกคนต้องคิดเป็นเรื่องแรกๆ หลังจากที่ซื้อ iPad มาแล้ว กับในส่วนของ เคส และ ฟิล์มกันรอย ซึ่งเชื่อได้ว่าบางคนอาจจะตัดสินใจในการเลือกซื้อไม่ถูก ว่าจะซื้อแบบไหน รุ่นใด ราคาเท่าไหร่ดี จึงจะเหมาะสมในการใช้งาน
เคส iPad
หลักๆ แล้วเคส iPad จะมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน แต่ควรรู้เอาไว้อีกอย่างก็คือมีทั้ง ของแท้ และ ของเทียบ แน่นอนว่าในส่วนของหน้าตาต่างๆ อาจจะเหมือนหรือคล้ายกัน แต่ก็จะแตกต่างกันในเรื่องของวัสดุและงานประกอบ ซึ่งแน่นอนว่าของแท้นั้นต้องมีราคาที่แพงกว่าอยู่แล้ว แต่ในส่วนของคุณภาพก็ถือว่าสูงกว่าแบบของเทียบเช่นกัน รวมไปถึงการป้องกันต่างๆ ของตัว iPad ของแท้ย่อมดีกว่าและปลอดภัยกว่าครับ โดยอย่างน้อยๆ ในการสวมเคสของแท้แล้ว จะไม่ทำให้ตัว iPad เป็นรอยอย่างที่เคส iPad ของปลอมเป็น
ซึ่งเคส iPad ของแท้นั้น ส่วนมากราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทขึ้นไปจนไปถึงหลายพันบาท ในการซื้อหาสามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายสินค้าหรืออุปกรณ์เสริม Apple อย่างเป็นทางการ อย่างร้าน iStudio หรือ?Be Trend เป็นต้น ส่วนเคส iPad ของปลอมนั้น ราคาจะอยู่ที่ไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น และสามารถหาซื้อได้ตามไปตลาดนัด หรือร้านตู้ที่จำหน่ายมือถือต่างๆ รวมไปถึงซื้อทางร้านออนไลน์เว็บไซต์ ที่โดยส่วนมากทางพ่อค้าแม่ค้าจะบอกอยู่แล้วว่าเป็น สินค้าเกรด A หรือ AA หรือ AAA อันนี้ก็แล้วแต่ครับ
โดยเคส iPad แยกออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
- เคสซิลิโคน iPad : ราคาถูก ถอดใส่เคสได้ง่าย มีลวดลายให้เลือกมากมาย
- เคสพลาสติก iPad : ราคาไม่สูงมาก มีทั้งสีสันต่างๆ และแบบใส
- เคสผ้า iPad : ราคาสูงขึ้นมาหน่อย ให้สัมผัสการใช้งานที่ดี
- เคสหนัง iPad : ราคาสูงขึ้นมาอีกนิด ให้ความรู้สึกในการใช้งานที่ดีกว่า
- เคสกันกระแทก iPad : ราคาสูงที่สุด มาพร้อมความสามารถกันน้ำ กันฝุ่น และกันประแทก
ที่ในบางรุ่นยังมาพร้อมคุณสมบัติการจับวางเป็นฐานตั้งได้อีกด้วย ซึ่งใครชอบแบบไหมยังไงก็คงต้องลองไปจับตัวจริงและทดลองใช้งานกันอีกทีนะครับ
ฟิล์มกันรอย iPad
เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ขาดไม่ได้เช่นกันสำหรับ iPad ที่เราต้องใช้งานทัชสกรีน (แม้ว่าหน้าจอ iPad จะกันรอยระดับหนึ่งแล้วก็ตาม) เพราะฟิล์มกันรอย iPad จะมาทำหน้าที่ป้องกันรอยขีดข่วนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ได้ตั้งใจ (รวมไปถึงติดแล้วยังสบายใจกว่าไม่ติดอะไร)? ซึ่งในตอนนี้ฟิล์มกันรอย iPad ก็มีอยู่หลากหลายแบบ หลากหลายลาย ความบางความหนาแตกแต่างกันไป ตามยี่ห้อ ราคา และคุณภาพ โดยสนนราคาแล้วถ้าหากเป็นฟิล์มกันรอยแบบทั่วไปจะอยู่ที่ ไม่ถึงร้อยบาทไปจนถึงสองสามร้อยบาท หาซื้อได้ตามร้านมือถือหรือร้านที่รับติดฟิล์มทั่วไป แต่ถ้าเป็นแบบเกดรดีขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นแบบมียี่ห้อแน่นอนว่าในส่วนของราคาก็จะแพงกว่า ซึ่งอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันบาทจนไปถึงเกือบๆ สองพันบาทครับ
อย่างไรก็ตามหลักๆ ฟิล์มกันรอย iPad ยังถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกันก็คือ ฟิล์มกันรอย iPad แบบใส, ฟิล์มกันรอย iPad แบบด้าน,?ฟิล์มกันรอย iPad แบบกระจก ที่ในตอนนี้เราจะไปบอกถึงรายละเอียดของฟิล์มกันรอยแต่ละแบบกัน
จัดได้ว่าเป็นฟิล์มกันรอย iPad ที่ผู้คนนิยมใช้งานกันมากที่สุด เพราะฟิล์มแบบนี้จะยังทำให้ารแสดงผลของหน้าจอ iPad มีความสดใสและสวยงามอยู่ อีกทั้งยังมีราคาถูกที่สุดด้วย แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของเป็นรอยนิ้วมือหรือคราบมันได้ง่ายมาก จะเรียกว่าเป็นรอยนิ้วได้ง่ายกว่าไม่ติดฟิล์มก็ว่าได้ อีกทั้งคราบมันต่างๆ ก็ยังเช็ดทำความสะอาดยากกว่าอีกด้วยครับ (บางรุ่นที่มีราคาแพงหน่อยอาจจะแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้) ซึ่งในส่วนของการป้องกันรอยขีดข่วนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของฟิล์มเองครับ ว่าราคาอยู่ที่เท่าไหร่ เกรดสูงแค่ไหน?
ฟิล์มกันรอยแบบด้าน (หรือขุ่น)
เรียกได้ว่าถ้าใครชอบให้ iPad นั้นไร้คราบมันอยู่ตลอดเวลาแล้วล่ะก็?ฟิล์มกันรอยแบบด้าน น่าจะเป็นคำตอบที่ดีในการเลือกใช้ฟิล์มกันรอย iPad ด้วยคุณสมบัติที่คราบมันไม่ค่อยที่จะแกะติดนัก หรือถ้ามีคราบมันก็สามารถเช็คความสะอาดได้ค่อยข้างง่าย รวมไปถึงยังมีความลื่นไหลกว่าการไม่ติดฟิล์มอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามก็มีข้อสังเกต ในเรื่องของการแสดงผลของหน้าจอ จะทำให้ความสว่างลดลงและความคมชัดที่เราจะมองเห็นลดลงไป อีกทั้งบางทีถ้าเป็นฟิล์มเกรดล่างๆ จะเห็นเป็นเม็ดๆ ขุ่นๆ อยู่ทั่วทั้งจอเลยทีเดียว เรียกได้ว่ารบกวนสายตาพอสมควร เมื่อเทียบกับฟิล์มแบบใส
ฟิล์มกันรอยแบบกระจก
อีกหนึ่งแบบฟิล์มกันรอยที่นิยมใช้งานกัน ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติในการเป็นกระจกได้ในตัว ด้วยความที่ฟิล์มนั้นมีความสามารถในการสะท้อนวัตถุที่ค่อนข้างมาก ที่สำคัญยังจะทำให้ iPad ของเราในนั้นสะดุดตาคนรอบข้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ทีเดียว แต่ก็นั่นแหละกับข้อจำกัดที่เลี่ยงไม่ได้เช่นกันในส่วนของการแสดงผลหน้าจอที่ทำให้เรามองได้ลำบากมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าไปในที่ที่สว่างมากๆ ก็จะทำให้เรามองไม่เห็นหน้าจอตัวเองเลย เพราะจะเห็นแต่หน้าตัวเองแทน รวมไปถึงยังเปิดคราบมันรอยเปื้อนได้ง่ายอีกด้วยครับ
* จริงๆ แล้ว ยังมีฟิล์มกันรอยอีกหลายแบบนะครับ แต่ขอยกหลักๆ มานำเสนอแค่นี้