ระบบอย่างนึงบน Facebook ที่ดูจะมีความซับซ้อนมากที่สุด นั่นก็คือเรื่องของ News Feed หรือหน้าสำหรับการป้อนเนื้อหาเรื่องต่างๆ ขึ้นมาให้เราอ่านในหน้าแรก ทุกครั้งเวลาที่เราทำการเปิด Facebook ขึ้นมานั่นเอง
ล่าสุด Facebook ได้มีการออกมาโพสท์ข้อมูลใหม่ ว่าได้กำลังทำการพัฒนาระบบ News Feed นี้เพิ่มเติม โดยจะเป็นการพัฒนาระบบอัลกอริทึ่ม หรือสมองกลไกอัจฉริยะ สำหรับใช้ในการคิดตัดสินใจด้วยตัวระบบเอง ว่าเนื้อหาแบบไหน จะทำการแสดงปรากฏขึ้นมาให้เราได้เห็นก่อน ซึ่งระบบตัวใหม่ ก็จะมีการเพิ่มในส่วนของการไฮไลท์เอาส่วนใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้ผู้ใช้งาน ได้ทราบว่า ตรงไหนนั้นมาใหม่ และมันเอาไว้ใช้ทำงานอะไรยังไงบ้าง รวมไปถึงเงื่อนไขในการที่จะเลือกเรื่องไหนมาขึ้นให้เราได้อ่านก่อน
ส่วนเป้าหมายในการอัพเดท News Feed ในครั้งนี้นั้น ก็คือการแสดงผลเนื้อหาต่างๆ ให้ถูกเรื่องถูกคน และถูกเวลานั่นเอง เพื่อที่จะให้มั่นใจได้ว่า ผู้ใช้งานแค่ละคนนั้น จะไม่พลาดเนื้อหาที่สำคัญเกี่ยวกับตัวเอง ซึ่งแนวคิดที่ใช้ในการพัฒนานั้น ก็คือการที่จะแสดงเนื้อหาทุกอย่างที่ผู้ใช้ต้องการจะดู ในแบบหรือวิธีการที่จะทำให้อยากอ่านด้วย
ทุกครั้งที่มีการเข้าใช้งานมาในหน้า News Feed นั้น ก็จะมีเรื่องราวจากเหล่าเพื่อนใน Facebook ของเราให้ต้องแสดงขึ้นมาเฉลี่ยกว่า 1,500 เรื่องเลยทีเดียว และยังมีเนื้อหาที่จะมาจากเหล่าผู้ใช้งานที่เราได้ไปทำการ follow หรือติดตาม และหน้า Pages ที่เราไปกดไลค์ไว้ด้วย และแน่นอนว่า ส่วนใหญ่แล้ว ก็ไม่มีใครมีเวลามานั่งอ่านกันจนจบหรอก
ดังนั้น จึงต้องมีระบบอัลกอริทึ่มที่ว่านี้ขึ้นมา เพื่อแยกแยะและจำแนกเนื้อหาแต่ละประเภท แต่ละแบบออก แล้วทำการลำดับความสำคัญ เพื่อที่จะได้แสดงเนื้อที่สำคัญที่สุดเป็นอันแรก โดยตัวแปรต่างๆที่จะมีผลต่อการจัดลำดับนั้น ก็จะมีดังนี้
- ความถี่ในการตอบโต้มีปฏิสัมพันธ์กันกับเพื่อนแต่ละคน, หน้าเพจแต่ละหน้า หรือเหล่าดาราคนดังต่างๆ ที่ได้มีการโพสท์เนื้อหา
- จำนวนของการกดไลค์, แชร์ และคอมเมนท์ ที่โพสท์นั้นๆได้รับจากผู้คนอื่นๆทั่วโลก หรือจากเหล่าเพื่อนของเรา
- ความถี่ของประเภทเนื้อหาที่เรามีปฏิสัมพันธ์ร่วมมาที่สุด โดยเก็บข้อมูลจากอดีตที่ผ่านมา
- สถิติของการการซ่อนหรือรายงานโพสท์ดังกล่าวจากผู้ใช้งาน Facebook ทั้งหมด
และรับบการอัพเดทใหม่ที่ Facebook ได้ทำการเพิ่มเข้ามา ก็คือการช่วยให้เนื้อหาที่ผู้ใช้ ไม่ได้เลื่อนลงไปดูได้ล่างมากพอ ให้สามารถแสดงขึ้นมาอีกครั้ง บริเวณด้านบนของ News Feed ถ้าหากว่าเนื้อหานั้น ยังคงได้รับไลค์หรือคอมเมนท์ที่มีจำนวนมากอยู่
ที่มา: Facebook for Business