ใช้งาน Facebook อยู่ประจำ โดนแฮกเฟส เฉยๆ ทั้งที่ไม่เคยไปล็อกอินใช้ที่อื่น สำหรับคนที่มีธุรกรรมที่ต้องใช้งานเฟสบุ๊กอยู่เป็นประจำ อาจจะเดือดร้อนมากกว่า User ทั่วไป เพราะต้องพยายามกู้คืนให้เร็วที่สุด อย่างน้อยก็ลดความเสียหายได้ เพราะบางรายกว่าจะมีคนติดตามหรือลูกค้าที่เป็นขาประจำ ก็ต้องทำมาหลายปี เจ้าของ Facebook ที่โดนแฮคส่วนใหญ่ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร? บางครั้งไม่ทราบขั้นตอน ก็อาจถอดใจปล่อยทิ้งไป แล้วสร้างใหม่ แต่วันนี้ทีมงานมีขั้นตอนเพื่อเป็นอีกช่องทางในการกู้คืน Facebook ของเรากลับคืนมาฝากครับ
โดนแฮกเฟส แก้ไขได้
- โดนแฮก Facebook ได้อย่างไร?
- แก้ไขเบื้องต้น
- แก้ไข Facebook โดนแฮก
- ขอความช่วยเหลือจาก Facebook
- วิธีป้องกันโดนแฮกเฟส
โดนแฮก Facebook ได้อย่างไร?
- ไม่ควรล็อคอินแอคเคาต์ส่วนตัวค้างไว้ ยิ่งคนที่ไม่ค่อยระวัง ประเภทเปิดหน้าจอค้างไว้ แล้วไปทำธุระที่อื่น อย่างน้อยๆ ควรจะ Lock หน้าจอ ใส่รหัสเอาไว้บ้าง เพื่อความปลอดภัย ไม่ถูกลักลอบใช้หรือแอบแก้ไขข้อมูลได้ง่ายๆ
- ไม่จำเป็นอย่าไปล็อคอินคอมเครื่องอื่นที่ไม่น่าวางใจ เพราะเวลาที่คุณไปใช้ แล้วอาจเผลอลืม Log-out ออก คนที่มาใช้ต่อจากคุณ ก็อาจจะนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดหรือเปลี่ยนข้อมูลบางอย่างได้ ถ้าไม่โดนขโมยแอคเคาต์ ก็อาจจะสร้างความเดือดร้อนได้ในภายหลัง
- อย่าหลงเชื่อเมล์ลวง Phishing มีหลายครั้งที่เรามักจะเจอกับอีเมล์ หรือการทักแชตมาให้เราคลิ๊กลิงก์หรือใส่ข้อมูลส่วนตัวเราเข้าไปในนั้น เพื่อที่ปลายทางจะใช้ในการขโมยหรือหลอกขอข้อมูล โดยการอ้างจาก Facebook ซึ่งให้เราเช็คข้อมูลให้ดีก่อน จะหลงเชื่อกรอกข้อมูลของเราไปในนั้น
- อย่าให้ผู้อื่นใช้แอคเคาต์เราถ้าไม่จำเป็น อย่าลืมว่าเฟสบุ๊คของใครก็ของมัน ไม่มีเหตุที่จะต้องไปยืมแอคเคาต์คนอื่นๆ หรือมายืมของเราโดยไม่จำเป็น ดังนั้นควรชั่งใจสักนิดหรือถ้าอยากจะให้มั่นใจ เวลาที่ถูกยืมใช้ ก็ขอดูว่าเค้าทำอะไรกับแอคเคาต์ของเราบ้างนั่นเอง
- เก็บ User และ Password ให้ปลอดภัย บางคนก็แปะไว้ข้างโต๊ะข้างตู้ หรือบางคนก็ใส่ไว้ในหน้า Desktop กันแบบดื้อๆ อย่างนั้น ใครผ่านมาเห็นถ้ากันเองก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้ามีคนหมั่นไส้ ก็อาจจะจดจำไปใช้ในทางแย่ๆ ได้เช่นกัน เก็บซ่อนให้มิดชิดหน่อยก็ดีนะ
- เปลี่ยนคอม ย้ายเครื่อง ควร Log-out ให้เรียบร้อย หากคุณคิดจะเปลี่ยนคอมหรือมือถือเครื่องใหม่ การรีเซ็ตคอมให้อยู่ในสภาพเริ่มต้นหรือฟอร์แมตให้เรียบร้อย เป็นวิธีที่ปลอดภัย ป้องกันการโดนแฮกเฟสได้ผลดี ง่ายๆ เลยก็คือ เลือก Reset PC บนคอมหรือ Format Factory บนมือถือนั่นเอง
- เพิ่มมาตรการป้องกันให้แน่นหนากว่าเดิม เช่นการตั้งพาสเวิร์ดให้ปลอดภัย ประเภท 12345 อะไรแบบนี้ อย่าไปใช้เด็ดขาด หรือหากเพิ่มความซับซ้อน ก็อาจจะล็อคหน้าจอไว้เป็นด่านแรก แล้วถึงเข้าไปใช้ Facebook หรือจะเป็นการล็อคอิน 2 ชั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
- Auto log-in ก็ดี แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน อย่างที่ได้กล่าวไปในขั้นต้น แต่ก็คงยากในทางปฏิบัติ เพราะส่วนใหญ่ก็ไม่อยากวุ่นวายต้องมา Log-in บ่อยๆ แต่ก็มีทางออกที่น่าสนใจคือ เปลี่ยนพาสเวิร์ดให้บ่อยกว่าเดิมนั่นเอง
แก้ไขเบื้องต้น
สิ่งที่อยากจะแนะนำในเบื้องต้นคือ หากคุณยังสามารถ log-in เข้าไปได้ หรือยังไม่ถูกเปลี่ยน Password ให้คุณกู้ไฟล์ภาพและข้อมูลสำคัญของคุณกลับมาเสียก่อน เผื่อไว้สำหรับหากเกิดปัญหากับแอคเคาต์เฟสบุ๊กของคุณ และไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้จริงๆ อย่างน้อยก็จะยังมีข้อมูลสำคัญเอาไว้เริ่มต้นกับ Account ใหม่นั่นเอง ซึ่งคุณสามารถสำรองข้อมูลจาก Facebook ด้วยวิธีง่ายๆ ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
เริ่มต้นให้ไปที่หน้า Facebook ที่เป็นหน้า Home ปกติที่คุณใช้ในการดูฟีตข่าวหรือข้อมูลของเพื่อนๆ ในแต่ละวัน จากนั้นให้คลิ๊กไปที่สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมที่อยู่มุมบนขวาของหน้าต่าง ตามที่ลูกศรชี้เอาไว้
เมื่อคลิ๊กแล้วระบบจะพาคุณเข้ามาสู่เมนูต่างๆ ให้เลือกที่ Settings & Privacy
แล้วเลือกที่เมนู Settings ที่อยู่ด้านบนสุดของเมนู
เมื่อคลิ๊กแล้วก็จะปรากฏเมนูในการใช้งานต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับการตั้งค่าความปลอดภัยให้กับระบบ โดยให้คุณเข้าไปที่ Your Facebook Information ซึ่งก็จะพาคุณไปยังขั้นตอนต่อไป
เมื่อเข้ามาในหน้า Information ของคุณ ให้เลือกตามที่ลูกศรชี้ จะเป็นเมนูที่เรียกว่า Download Your Information ซึ่งสามารถคลิ๊กที่รายละเอียดที่ปรากฏ Download a copy of your information to keep, or to transfer to another service
เสร็จแล้วระบบจะพาเข้ามาที่ Data ทั้งหมด ซึ่งจะแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ มากมาย เช่น รูปภาพ วีดีโอ การโพส รวมไปถึงบรรดาเพื่อนที่เป็น Friend กับคุณ รวมถึงกิจกรรมที่คุณมี Activity อื่นๆ อีกด้วย หากคุณต้องการจะ Back up ส่วนไหน ก็ให้ใส่เครื่องหมาย ด้านหลังสิ่งเหล่านั้น แล้วจึงขึ้นไปที่ตัวเลือก Create file ในการนำข้อมูลไปใช้
โดยจะมีตัวเลือกช่วงวันและปีมาให้คุณได้กำหนด ถ้าในกรณีเริ่มต้น ระบบจะเริ่มให้ตั้งแต่คุณเข้าใช้ Facebook วันแรก มาจนถึงวันเวลาล่าสุด ซึ่งหากต้องการทั้งหมด ก็ให้เลือกที่ All of my data แล้วคลิ๊ก Ok ได้เลยครับ หรือถ้าต้องการเฉพาะบางช่วง ก็เลือกวันตามที่ต้องการ
ถัดมาจะเป็นหัวข้อฟอร์แมตที่ต้องการนำไปใช้ มีให้เลือกทั้ง HTML ซึ่งจะเป็นรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันอยู่ทั่วไปและ JSON ที่เป็นรูปแบบของ Java script เลือกเก็บตามแบบที่จะนำไปใช้ ซึ่ง HTML น่าจะทำให้หลายคนสะดวกบนแพลตฟอร์มที่ใช้งานในปัจจุบัน
สุดท้ายคือการกำหนด คุณภาพของมีเดียที่จะดาวน์โหลดมา Backup ไว้ ซึ่งในส่วนของ High อาจต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ในการรองรับ โดยเฉพาะข้อมูลประเภทรูปภาพและวีดีโอ ที่จัดเก็บมานานหลายปี อาจจะใช้เวลาพอสมควร
และใครที่โดนแฮกเฟสหรือคิดว่าถูกแอบใช้งาน Facebook ส่วนตัวอยู่ แนะนำว่าให้ลองเข้ามาเช็คใน Where You’re Logging In ในส่วนของ Security & Login ดูครับ เพราะในหัวข้อนี้จะรายงานให้เราทราบถึงการเข้าใช้เฟสบุ๊คของเรา หรือใครที่เข้ามาได้อย่างละเอียด ว่าเข้าจากอุปกรณ์อะไร และใช้ในวันเวลาใด รวมถึงอยู่ในบริเวณใดได้อีกด้วย เผื่อว่าจะคุ้นๆ คนใกล้ตัวหรือใครที่พอคาดเดาได้ จะได้ช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการติดตาม หรือเป็นหลักฐาน หากเกิดเป็นคดีความและเกิดความเสียหาย เพราะหลายครั้งเราจะเห็นว่า ผู้ที่ไม่หวังดี มักจะนำเอาแอคเคาต์ผู้อื่น ไปก่อเหตุต่อเนื่อง ที่เจอกันบ่อยๆ ก็ดูจะเป็น การไปยืมเงินของคนที่เป็น Friend กันใน Facebook หรือแย่ๆ หน่อย ก็อาจจะใช้ในการหลอกขายของให้ผู้อื่น ซึ่งงานนี้เจ้าของเพจ ก็อาจจะถูกเหมาไปด้วยก็ได้ หากไม่มีหลักฐานมายืนยันนั่นเอง
แก้ไข Facebook โดนแฮก
1.ขั้นตอนการแก้ไข เพื่อเรียกคืน Facebook ของเรากลับมา เริ่มต้นเราต้องเข้าเฟสบุ๊คด้วยแอคเคาต์อื่น หรือยืมของเพื่อนเข้าไปดูที่หน้า Timeline ของเราแล้วกดที่ปุ่ม 3 จุด ทางขวามือ Report หรือ Block เพื่อแจ้งทาง Facebook ว่าตอนนี้ Account ของเราโดนแฮกไปใช้งานโดยไม่ชอบ
2.ในกรณีที่แจ้งเป็นการ Block คือจะปิดกั้นการเห็นโพสหรือไม่เกี่ยวข้องกับการ Tag ถึงตัวคุณ ป้องกันความปวดใจ หากคุณไม่อยากจะสนใจหรือตัดใจ เลิกใช้งานแอคเคาต์นั้นแล้ว แต่ไม่แนะนำ เพราะคุณสามารถใช้วิธีอื่นๆ และสอดส่องดูเพื่อติดตามตัวคนที่แอบใช้แอคเคาต์ของคุณได้ แต่ก็เลือก Confirm เพื่อยืนยันไปก็ได้ถ้าไม่สนใจแล้ว
แต่สิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือ ขั้นตอนการเรียกคืน Facebook ของคุณ ด้วยการกดที่เครื่องหมาย 3 จุดด้านขวามือ แล้วเลือก Find support or report profile
3.ระบบจะถามเราว่าสาเหตุการแจ้งรายงานแอคเคาต์นี้เนื่องจากสิ่งใด? ให้เราเลือกที่หัวข้อล่างสุดอย่าง Something Else
4.แน่นอนว่าเราต้องการจะใช้แอคเคาต์นี้อยู่ เลือกที่ Recovery this account แล้วคลิก Done เพื่อยืนยัน
5.จากนั้น Facebook จะส่งข้อมูลการ Reset ไปยังอีเมล์ที่ผูกเอาไว้กับแอคเคาต์ ให้เปิดอีเมล์เพื่อเข้าไปรับ Password
6.ล็อคอินเพื่อเข้าบัญชีอีเมล์ ในการเข้าไปรับ Password มาแก้ไขมาโดยไว อีเมล์นี้สำคัญมาก อย่างน้อยต้อง Log-in เข้าได้หรือจำพาสเวิร์ดได้ มิเช่นนั้นจะยากขึ้นอีก
จากนั้นนำตัวเลข รหัสกู้คืน Password ที่ทาง Facebook ส่งมาในอีเมล์ มาใส่ไว้ในช่อง Security Code แล้วกด Continue
7.และเมื่อเข้าสู่แอคเคาต์ Facebook ของคุณได้แล้ว ระบบจะให้ตั้งพาสเวิร์ดใหม่ ให้คุณตั้งรหัสผ่านใหม่ ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก นอกจากไม่ควรจะซ้ำเดิมแล้ว ควรมีทั้ง ตัวอักษร เล็ก-ใหญ่ ตัวเลข และสัญลักษณ์ในรหัสนี้ สังเกตง่ายๆ คือ หลัง Password Strength นั้น ควรต้อง Strong เป็นสีเขียวขึ้นไป ถ้ายังสีแดงอยู่ ก็ควรจะลองเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง จากนั้นคลิ๊ก Continue
8.หลังจากนั้น เมื่อเปลี่ยนรหัสผ่านเรียบร้อย คุณควรจะนำรหัสนี้ไป Log-in ใหม่บนแอคเคาต์ของคุณที่ใช้ นอกเหนือจากโน๊ตบุ๊คหรือพีซีของคุณ ไม่ว่าจะเป็นมือถือหรือแท็ปเล็ตเครื่องอื่นๆ ก็ตาม
9.เท่านี้ก็จะเป็นการแก้ไข Facebook โดนแฮก เป็นที่เรียบร้อย เพื่อความมั่นใจ ลองโพสดูได้ว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ เช่น โพสแล้วโดนลบ หรือโพสแล้วถูกแก้ไข ให้รีเช็คความผิดปกติ ด้วยการเปลี่ยนรหัสผ่านหรือแก้ไขข้อมูลในแอคเคาต์อีกครั้ง
10.เพียงเท่านี้ก็สามารถนำแอคเคาต์ Facebook ของเรากลับมา โดยที่ไม่ต้อง Block หรือเสียมันไปตลอดกาล อย่างไรก็ดีแนะนำว่าควรเปลี่ยน Password อย่างน้อย 1-3 เดือนต่อครั้ง ก็ช่วยให้ปลอดภัยในการใช้งาน Facebook มากยิ่งขึ้น และควรใช้พาสเวิร์ดที่ยากต่อการคาดเดา ใครที่กลัวจะยุ่งยาก แนะนำให้ใช้แอพฯ LastPass มาช่วยให้คุณตั้งรหัสยากๆ แต่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ไม่ต้องคอยจำให้ปวดหัวอีกด้วย
ขอความช่วยเหลือจาก Facebook
โดยสามารถเข้าไปเริ่มขอความช่วยเหลือได้ที่ https://www.facebook.com/help/ จากหน้า Account หลักของคุณ หากยังเข้าได้ หรือยังไม่ถูกเปลี่ยน แต่ถ้าถูกเปลี่ยนข้อมูลหรือการ Log-in เข้าระบบไป ให้เข้าจากแอคเคาต์ของคนอื่นได้เช่นกัน
โดยในหน้านี้ จะบอกข้อมูลคร่าวๆ ของปัญหาที่คุณพบ เพราะในเบื้องต้น ส่วนใหญ่เมื่อโดนแฮกเฟสหรือแอบเข้ามาใช้ จะยังต้องเจอด่านป้องกัน ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยน User หรือ Password ได้ในทันที ซึ่งหากคุณสังเกตความผิดปกติเช่น อีเมล์หรือพาสเวิร์ดถูกเปลี่ยน หรือถูกเปลี่ยนชื่อและวันเกิด ถูกเพิ่มเพื่อนที่คุณไม่รู้จัก หรือมีการส่งข้อความโดยที่คุณไม่ได้เขียน และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้บอกถึงความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้น ให้คุณคลิ๊กที่ Visit this page
จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกเงื่อนไขของปัญหาที่คุณเจอ เพื่อเริ่มต้นการแก้ไข ให้เลือกที่ Someone else got into my account without my permission หรือมีบางคนกำลังเข้าถึงแอคเคาต์ของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ Facebook แนะนำต่อไป
วิธีป้องกันโดนแฮกเฟส
สิ่งที่ควรจะต้องทำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนที่อยากจะลดความเสี่ยงต่อการถูกแฮกเฟสหรือแอบเข้าใช้งานเฟสบุ๊คส่วนตัวหรือขโมยแอคเคาต์ นั่นคือ การตั้งค่าความปลอดภัยให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น และต้องสอดคล้องกับการใช้งานของคุณเอง ซึ่งมีวิธีง่ายๆ ไม่กี่ข้อเท่านั้น หากคุณมีการปรับปรุงได้ในทุกข้อ ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ในบางข้ออาจจะดูวุ่นวายกับการใช้งานมากเกินไปหรือว่าไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ก็เลือกทำในเฉพาะข้อที่พอทำได้ก็ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างปลอดภัยแล้ว โดยสามารถเริ่มต้นตั้งค่าความปล อดภัยได้ที่ Settings และเลือก Security & Login
สิ่งแรกที่ควรทำนั่นก็คือ ให้ลองเช็คระดับความปลอดภัยบนแอคเคาต์ที่ใช้อยู่ ด้วยการคลิ๊ก View ในหัวข้อ Check Your Important Security Settings ซึ่งในนั้นจะบอกถึงสิ่งที่คุณตั้งค่าเอาไว้ ว่ามีความปลอดภัยในระดับใด ซึ่งหากไม่ดีนัก ก็ควรจะต้องเข้าไปตั้งค่าต่างๆ ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ถัดมาสิ่งที่ต้องทำบ่อยๆ ก็คือ การเปลี่ยนรหัสหรือ Change Password ด้วยการคลิ๊ก Edit แล้วตั้งค่าด้วยการใช้รหัสที่มีความซับซ้อนและดูปลอดภัยอยู่เสมอ พาสเวิร์ดที่ดีต้องไม่เดาง่าย หรือใช้สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมากเกินไป ควรจะมีการผสมผสานของตัวอักษรเล็กใหญ่ อัขระผสมกับตัวเลขหรือสัญลักษณ์ ให้หลากหลาย ก็จะได้ระดับความปลอดภัยที่มากขึ้น
ในหัวข้อ Advance จะเป็นสิ่งที่ให้คุณเข้าไปปรับเปลี่ยนและเพิ่มความปลอดภัย ด้วยเข้ารหัสการแจ้งเตือนทางอีเมล์ ซึ่งให้คุณระบุอีเมล์ สำหรับการล็อคอิน รวมถึงการเช็คข้อมูลการใช้งาน Facebook ผ่านทางอีเมล์ เพื่อเป็นการเช็คอีกครั้งว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยให้การแก้ไขทำได้รวดเร็ว
สุดท้ายจะเป็นสิ่งที่เพิ่มความปลอดภัยขั้นสุดให้กับผู้ใช้ ซึ่งได้กาารยอมรับกันทั่วโลก กับการเข้ารหัส 2 ชั้น ที่นอกจากจะต้อง Log-in ด้วยการใส่รหัสเข้าไปแล้ว ก็ยังต้องมีการ Verify เพิ่มเติม ด้วยการยืนยันผ่าน SMS ทางโทรศัพท์ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้ แต่วิธีนี้ ก็จะเพิ่มความซับซ้อนขึ้นไปอีกระดับ แต่สำหรับคนที่เป็นเจ้าของเพจหรือมีแอคเคาต์ที่สำคัญมากๆ ก็อาจจะได้รับประโยชน์มากกว่า เพราะลดปัญหาการ Log-in โดยไม่ได้รับอนุญาตได้ดีทีเดียว เรียกว่าใครเข้าใช้ ก็ต้องผ่านด่าน ด้วยตัวเลขยืนยันบนมือถือของคุณก่อนนั่นเอง
นอกจากนี้คุณอาจเลือกวิธีเข้าไปใน https://www.facebook.com/hacked เพื่อขอข้อมูลและแก้ไขปัญหากรณีที่เฟสบุ๊คของคุณถูกแฮกหรือล็อคอินจากบุคคลอื่นได้อีกด้วย โดยทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในแต่ละขั้นตอน
ปัญหาการโดนแฮกเฟสนั้น เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ระมัดระวังตัวในการใช้งาน Facebook มีความปลอดภัยสูงก็จริง แต่ผู้ใช้เอง ก็ต้องเตรียมพร้อมและสร้างความปลอดภัยในการใช้งานของตนเองด้วยเช่นกัน อย่างที่ได้แนะนำไปนั้น จะมีทั้งการสังเกต แก้ไขปัญหา รวมถึงการป้องกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า คุณเองถนัดหรือพร้อมในการทำสิ่งใดมากที่สุด แต่ทีมงานมองว่า ถ้ามีการป้องกันที่ดี ก็จะไม่ต้องปวดหัวกับการแก้ไขในภายหลัง เพราะป้องกันง่ายกว่าเยอะ ส่วนใครที่มีปัญหาในการใช้งานอื่นๆ ลองคอมเมนต์เอาไว้ แล้วเราจะช่วยหาทางออกให้กับคุณอีกทางหนึ่งครับ