[Review] Brink

ผมอยากจะออกเสียงเกมนี้เป็นภาษาอังกฤษว่า ?บรึ๋ย!!? ซะจริงๆ

ขั้นต่ำที่ต้องการ:

ที่แนะนำ:

Brink เป็นเกมเดินหน้ายิงในสไตล์ Team-Based Multiplayer จากทีมงาน Splash Damage ซึ่งเคยฝากผลงานกับเกมอย่าง Enemy Territory: QUAKE Wars และ Wolfenstein: Enemy Territory มาแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไร ที่ Brink จะนำเสนอการเล่นในรูปแบบที่คล้ายกับผลงานชิ้นก่อนๆ เรื่องราวการสู้รบทั้งหมดใน Brink เกิดขึ้นบนเมืองลอยน้ำที่ชื่อ The Ark ซึ่งเป็นที่อยู่แห่งสุดท้ายของประชากรโลกหลังจากประสบกับภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยเกมจะแบ่งเนื้อเรื่องออกเป็น 2 ส่วนคือ เนื้อเรื่องของฝ่าย Resistance ที่มีเป้าหมายในการทำลาย The Ark และหลบหนีออกไปจากเมืองลอยน้ำแห่งนี้ กับเนื้อเรื่องของฝ่าย Security ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายของ Resistance และไม่ว่าคุณจะเลือกเล่นเป็นฝ่ายไหน อาชีพที่คุณเลือกเล่นได้ก็จะมีทั้งหมด 4 คลาสเหมือนๆ กัน ได้แก่ Soldier กำลังหลักในสนามรบที่มาพร้อมยุทธภัณฑ์, Engineer ช่างกลผู้ชำนาญการสนับสนุนด้วยการสร้างป้อมปืนและเสริมเกราะป้องกัน, Medic หมอสนามที่คอยรักษาพยาบาลรวมถึงชุบชีวิต สุดท้าย Operative สายลับนักเจาะระบบที่ชำนาญการปลอมตัวและขโมยข้อมูล

แม้ความสามารถของแต่ละคลาสที่เกมนำเสนอจะชวนให้คุณนึกถึงเกมอย่าง Team Fortress 2 แต่ทั้งสองเกมนี้มีเกมการเล่นที่แตกต่างกันสิ้นเชิง เพราะ Brink นำเสนอการเล่นในรูปแบบการทำภารกิจซึ่งจะต้องทำเป็นขั้นตอนเรียงลำดับจึงจะสามารถจบฉากได้ (ไม่ว่าจะโหมดไหนก็ตาม) เช่น ในฉากที่ผู้เล่นต้องบุกเข้าไปขโมยข้อมูลอาวุธชีวภาพ ผู้เล่นคลาส Soldier จะต้องเป็นผู้ที่วางระเบิดทำลายประตูห้องเมนเฟรมเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมเข้าไปทำการเจาะระบบ ซึ่งตรงนี้ผู้เล่นคลาส Operative ก็จะมารับหน้าที่เป็นผู้แฮคข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อหาตำแหน่งของตู้เซฟที่บรรจุกระเป๋าซึ่งมีข้อมูลอาวุธอยู่ เมื่อทราบตำแหน่งแล้วเป้าหมายต่อไปก็คือ การเจาะเซฟเพื่อขโมยข้อมูลซึ่งหน้าที่นี้จะเป็นของคลาส Engineer เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ตัวละครแต่ละคลาสจึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะชัยชนะของทีมไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเป่าศัตรูเก็บแต้ม แต่ขึ้นอยู่กับการทำภารกิจให้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนดซึ่งต้องพึ่งพาความสามารถเฉพาะของแต่ละอาชีพ และนั่นทำให้เกมนี้ต้องใช้ความเป็นทีมเวิร์คและกลยุทธ์ในการเล่นพอสมควรเลยทีเดียว

อีกองค์ประกอบหนึ่งที่น่าจะไม่เหมือนใคร (และไม่น่าจะมีใครอยากเหมือน) ก็คือ การปรับแต่งตัวละครภายในเกม ซึ่งนอกจากคุณจะสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์ของตัวละครให้ดูเด่นสะดุดตาไม่เหมือนใครได้แล้ว การปรับแต่งรูปร่างก็จะส่งผลต่อความหลากหลายของอาวุธที่สามารถถือได้ด้วย เช่น หากตัวละครของคุณมีหุ่นที่เพรียวบาง พวกเขาก็จะเคลื่อนที่ได้เร็ว ปีนป่ายสิ่งกีดขวางได้ แต่ก็จะถือได้แต่อาวุธเบาและมีพลังชีวิตน้อย กลับกันหากตัวละครของคุณเป็นพี่บึ้กกล้ามโต เขาจะมีพลังชีวิตมากเป็นพิเศษ อาวุธที่เลือกถือได้ก็จะโหดขึ้น เช่น Mini-Gun หรือเครื่องยิงจรวดอัตโนมัติ แต่ทั้งหมดก็ต้องแลกมาด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่สุดยืดยาดและยังปีนป่ายสิ่งกีดขวางไม่ได้ด้วย และเช่นเดียวกับเดินหน้ายิงเกมอื่นๆ ในปัจจุบัน Brink มีการพัฒนาตัวละครโดยการเก็บเลเวลเพื่อปลดล็อกสิ่งของต่างๆ ด้วย เมื่อคุณสังหารศัตรูหรือทำภารกิจต่างๆ ได้สำเร็จ คุณจะได้ค่าประสบการณ์ซึ่งเมื่อสะสมจนถึงระดับที่เกมกำหนดแล้ว

ตัวละครของคุณจะได้รับแต้มสำหรับเอาไปซื้อทักษะใหม่ๆ เช่น กระสุนเจาะเกราะ ป้อมปืนแบบพิเศษ เสื้อเกราะเพิ่มพลังป้องกัน รวมถึงยังได้รับเครื่องแต่งกายชนิดใหม่ๆ แบบแปลกๆ มาใช้ปรับแต่งตัวละครด้วย น่าเสียดายที่เกมมีของให้ปลดล็อกน้อยเกินไปแถมมันก็ไม่ได้รู้สึกหลากหลายอย่างที่ผู้พัฒนาเคยโฆษณาว่า ?การผสมผสานอุปกรณ์ปรับแต่งต่างๆ เข้าด้วยกันจะทำให้คุณมีอาวุธหรือเครื่องแต่งกายที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครกว่าร้อยแบบ? โดยเฉพาะอุปกรณ์แต่งปืนที่เปลี่ยนไปแค่รูปลักษณ์แต่ยังให้ความสามารถที่ซ้ำซากกันเป็นโหลๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลให้แรงจูงใจในการตะลุยเก็บเลเวลในเกมนี้หมดลงอย่างรวดเร็ว คุณสามารถปลดล็อกอุปกรณ์หรือเสื้อผ้าได้เกือบจะทุกชิ้นตั้งแต่เลเวลยังไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ สำหรับส่วนของอาวุธนั้น อาวุธชนิดใหม่บางส่วนสามารถปลดล็อกได้จากการสะสมค่าประสบการณ์ อีกส่วนหนึ่งจะได้จากการทำภารกิจในโหมด Challenge ซึ่งมี 4 ภารกิจ และสามารถเลือกเล่นคนเดียวหรือหาเพื่อนมาช่วยเล่นอีก 3 คนก็ได้ แต่ของรางวัลในโหมดนี้จะปลดล็อกเฉพาะเมื่อเล่นคนเดียวหรือแบบ Solo เท่านั้น (แล้วมันจะมีตัวเลือกให้เล่นร่วมกับคนอื่นทำไมว้า!!)

Pages: 1 2