Tron Evolution ชื่อนี้เป็นชื่อที่ใช้สำหรับเวอร์ชั่นเกมนั่นเอง แต่ถ้าเป็นภาพยนต์หลายๆคนคงรู้จักกันใน Tron Legacy ซึ่งทั้ง 2 ชื่อนั้นคือเรื่องๆเดียวคือ Tron เพียงแต่ว่า Tron Evolution ในเวอร์ชั่นเกมนี้ได้นำมาจากภาพยนต์โดยการกำกับของทีมผู้พัฒนาอย่าง Disney Interactive Studios, Propoganda Game, Game Star และยังได้ใช้ระบบ Unreal Engine ในการพัฒนาตัวเกมด้วย
เครื่องขั้นต่ำที่ต้องการ:
CPU | Intel Pentium 4 at 3.0 GHz / AMD Athlon 3800+ |
RAM | 1 GB RAM |
VGA Card | NVIDIA GeForce 7600 GT/ ATI Radeon X1800 |
HDD | 6.5 GB of free Hard Drive space |
OS | Windows XP SP3 / Windows Vista / Windows 7 |
เครื่องที่แนะนำ:
CPU | Intel Core 2 Duo E6400 2.13GHz or Athlon 64 X2 Dual Core 5000+ |
RAM | 2 GB RAM |
VGA Card | GeForce GT 240 or Radeon HD 3850 |
HDD | 10 GB of free Hard Drive space |
OS | Windows 7 |
ใน Tron: Evolution คุณจะได้รับบทเป็น System Monitor หรือโปรแกรมเฝ้าระวังที่ถูกส่งเข้าไปในโลกของ Tron เพื่อขัดขวางการยึดครองระบบจากเหล่าสมุนของ Clu (ตัวร้ายภายในเกม) และสืบหาที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น รูปแบบการเล่นของเกมภาคนี้ถูกปรับเปลี่ยนมุมมองให้เป็นแบบ ?บุคคลที่สาม? เพื่อเน้นการเล่นแบบแอ็กชั่นมากขึ้น การเคลื่อนที่และลีลาการเคลื่อนไหวของตัวเอกในเกมนี้เรียกได้ว่า ถอดแบบมาจาก Prince of Persia กันเลยทีเดียว คุณสามารถวิ่งไต่กำแพง กระโดดชิ่งหมุนตัวไปมาเพื่อ เหวี่ยงตัวเองข้ามยอดหลังคาตึก หรือปีนป่ายกระโดดสลับไปสลับมาระหว่างซอกตึกเพื่อเคลื่อนที่ขึ้นสู่ด้านบน ซึ่งทำให้ Tron: Evolution ไร้ซึ่งเอกลักษณ์ของตัวเองตั้งแต่แวบแรกที่ได้สัมผัส
ตลอดการเดินเรื่องนั้น เกมจะโยนคุณเข้าสู่ฉากการต่อสู้ ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดที่มีลักษณะคล้ายกับ ?กล่อง? ครั้งแล้วครั้งเล่า ทางเดียวที่คุณจะออกจากพื้นที่ต่อสู้นี้ไปได้ก็คือ กำจัดศัตรูที่ปรากฏตัวออกมาให้หมด หรือบางครั้งก็ต้องแก้ปริศนาประเภท ?วิ่งไปเหยียบไอ้นั่น แล้วรีบมาสับคันโยกตรงนี้? ร่วมด้วย คุณสามารถทำคอมโบด้วยอาวุธคู่ใจสุดคลาสสิกอย่าง Disc และลีลาการต่อสู้รูปแบบต่างๆ เช่นเดียวกับเกมแอ็กชั่นทั่วๆ ไป ฟังดูก็น่าสนุกดีทีเดียว แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆ เกมการเล่นในส่วนนี้ก็ยังมีปัญหาที่น่าหงุดหงิดใจอยู่ เช่น บั๊กที่ไม่น่าให้อภัยอย่างเหล่าบอสประจำฉากที่โจมตีได้สุดโหด กลับเดินติดกำแพงล่องหนจนกลายเป็นหมูให้คุณเคี้ยวเล่นง่ายๆ
Tron: Evolution ได้สอดแทรกกลิ่นอายของความเป็น RPG เข้ามาเป็นตัวช่วยเพิ่มสีสันในการเล่นด้วย ลักษณะที่ว่านี้จะอยู่ในส่วนการพัฒนาตัวละครภายในเกม เนื่องจากตัวคุณเป็นโปรแกรมเฝ้าระวัง เมื่อคุณเอาชนะศัตรูได้จำนวนหนึ่ง คุณจะได้รับแต้มสำหรับนำไปใช้อัพเกรดตัวเอง การเลื่อนระดับความสามารถของตัวเอกในเกมนี้จึงออกมาในรูปแบบของการอัพเกรดหน่วยความจำหรือเวอร์ชั่นให้สูงขึ้น ซึ่งก็มีตั้งแต่การอัพเกรดพลังชีวิต พลังพิเศษ การเพิ่มพลังให้กับ Disc รูปแบบต่างๆ หรือแม้กระทั่งให้ทนทานต่อไวรัสที่บุกรุกเข้ามาในโลกของ Tron อีก
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมนี้สามารถใช้ชื่อว่า Tron ได้ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของงานศิลป์และสภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในเกมที่ไม่เหมือนใคร ฉากต่างๆ รวมถึงตัวละครยังคงเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของลายเส้นแสงที่ดูล้ำสมัยและมีสีสันฉูดฉาด? ใครคือคนดีคนร้าย Light Cycle คืออีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ แต่การแข่งขันในภาคนี้กลับทำออกมาได้น่าผิดหวัง เพราะมันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการขับรถแข่งกับเวลา หรือหลบหนีจากเหล่าผ่านอุปสรรคที่แสนจะธรรมดา
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของเกมแนวนี้ที่พบใน Tron: Evolution คือ มุมกล้องที่ยังคงทำออกมาได้ไม่ดีนัก การปรับเปลี่ยนยังทำได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร ซึ่งค่อนข้างหน้าหงุดหงิดมากโดยเฉพาะในขณะคุณที่กำลังวิ่งไต่กำแพงข้ามยอดตึกแล้วกล้องไม่ยอมหมุนตาม หรือช่วงเวลาคับขันที่คุณกำลังถูกรุมกินโต๊ะจากเหล่าไวรัสร้ายนับสิบและพบว่า คุณกำลังถูกโจมตีจากมุมอับทางด้านหลัง (หลบมุมขอบจอจนหมุนกล้องเข้าไปดูไม่ได้เลยก็ยังมี) สำหรับการควบคุมนั้น หลังจากที่ได้ลองใช้ทั้งคีย์บอร์ดและคอนโทรลเลอร์ ผมพบว่าการเล่นด้วยคอนโทรลเลอร์ (360) นั้นลื่นไหลกว่ามาก ทั้งการกดคอมโบรูปแบบต่างๆ การหมุนมุมมองนุ่มนวลและลื่นไหวกว่าการใช้เมาท์ ซึ่งตรงจุดนี้ ก็แล้วแต่ผู้เล่นจะถนัดด้วย แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า การใช้คอนโทรลเลอร์เล่นย่อมมีภาษีที่ดีกว่าอยู่แล้วโดยเฉพาะเกมแอ็กชั่นที่ต้องกดปุ่มทำคอมโบประเภทนี้
เรื่องของเสียงประกอบนั้น Tron: Evolution ใช้ทีมพากย์เสียงชุดเดิมซึ่งแฟนๆ ภาพยนตร์หรือเกม Tron ภาคก่อนๆ น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี อาทิ Bruce Boxleitner ซึ่งเคยรับบทเป็น Tron ในภาพยนตร์ปี 1982 ก็มาให้เสียงเป็น Tron ในเกมนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมี Fred Tatasciore เจ้าของเสียง Saren จาก Mass Effect มารับบทบาทเป็น Kevin Flynn, Clu และ Bosh ด้วยเช่นกัน ทำให้การเล่าเรื่องภายในเกมดูน่าสนใจมาก แต่ถ้าคุณไม่มีภูมิหลังเกี่ยวกับโลกของ Tron มาก่อน บทสนทนาในเกมนี้อาจจะทำให้คุณมึนงงจนพาลกดข้ามไปอย่างไม่ไยดี เพราะเนื้อหาหลายส่วนอ้างอิงจาก Tron เวอร์ชั่นภาพยนตร์ ผมแนะนำให้คุณไปดูภาพยนตร์ก่อนที่จะมาเล่นเกมครับ เพราะมันจะช่วยสร้างอรรถรสได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
โดยรวมแล้ว Tron: Evolution ก็ไม่ได้แย่ขนาดเข้าตำรา ?เกมจากหนังยังไงก็ห่วยวันยังค่ำ? เหมือนที่หลายๆ เกมเคยเจอมา เพียงแต่การนำเสนอในเกมนี้ขาดซึ่งเอกลักษณ์ที่น่าจดจำในหลายๆ จุด จนคุณอาจจะเรียกว่า Tron ได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่นัก ถ้าคุณชอบเกมแอ็กชั่นที่เล่นได้เพลินๆ หรือดูภาพยนตร์ภาค Legacy มาแล้วยังอารมณ์ค้างอยู่ Tron: Evolution ก็อาจจะตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ Tron มาตั้งแต่ครั้งอดีต ผมแนะนำว่าไปขุดหนังภาพแรกมานั่งดูหรือไม่ก็กลับไปเล่น Tron 2.0 ที่วางจำหน่ายไปเมื่อปี 2003 ท่าจะดีกว่าครับ
คะแนน 69%
ข้อดี: ตัวเกมสนุกและเล่นได้แบบเพลินๆ มี Light Cycle ให้ขับ เสียงประกอบทำได้น่าสนใจ สภาพแวดล้อมสไตล์เส้นแสงในโลกของ Tron ยังอยู่ครบถ้วน
ข้อเสีย: บั๊กประปราย มุมกล้องมีปัญหา ไร้ซึ่งเอกลักษณ์อันน่าจดจำ องค์ประกอบบางส่วนภายในเกมทำให้การเล่นน่าเบื่อและน่าหงุดหงิด
โดยรวม: อย่างที่ผมบอก ถ้าติดใจ Tron Legacy หรือไม่มีอะไรทำ จะหาเกมนี้มาเล่นก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าอยากสัมผัสความเป็น Tron อย่างแท้จริง กลับไปดูภาพยนตร์จากปี 82 หรือเล่น Tron 2.0 จะดีกว่า
ขอขอบคุณ :: นิตยสาร FuterGamer