สวัสดีครับปีใหม่ครับทุกท่าน เป็นอย่างไรบ้างครับหยุดปีใหม่ พักผ่อนกันสนุกหรือเปล่า ตอนนี้ก็กลับมาสู่ชีวิตการทำงาน การเรียนอีกครั้งแล้วนะครับ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปีนี้เค้าว่ากันว่าสงครามวงการกราฟิกจะรุนแรงดุเดือดขึ้นมามากกว่าปีเก่าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นของทาง NVIDIA, AMD หรือแม้แต่ทาง Intel ที่เริ่มมาเอาจริงกับตลาดนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ซึ่งทำให้หลายๆท่านอาจจะเคยได้ยินหรือเคยเห็นชื่อเทคโนโลยีต่างๆมาก็มาก แต่อาจจะเกิดความสงสัยว่ามันจะมาช่วยเราได้อย่างไร มันดียังไงทำไมถึงควรมี
ดังนั้นในวันนี้ผมจึงขอยกเทคโนโลยีของทาง NVIDIA มาพูดถึง 3 ตัวนะครับ ซึ่ง 3 เทคโนโลยีนี้เป็นหนึ่งในตัวชูโรงของ NVIDIA GeForce 500M GPU ครับ เรามาเริ่มที่ตัวแรกที่ผมจะกล่าวถึงกันเลยดีกว่าครับ
NVIDIA Verde
หลายๆท่านที่ใช้ VGA ของทาง NVIDIA ในรุ่นของ notebook มานานอาจจะประสบปัญหาต่างๆดังนี้
- driver ไม่แรงเล้ย !
- ไม่เห็นมีให้ปรับอะไรเท่าไรเลยอะ T-T
- ชิปก็แรง ตกม้าตายเพราะ driver ฮ่วย?
ก็ว่ากันไปนะครับ อิอิ
ซึ่งในช่วงหลังๆมานี้ ทาง NVIDIA ก็ได้หันมาเอาใจใส่ driver ของกราฟิกชิปสำหรับ notebook มากขึ้น โดยได้ทำการปรับปรุง driver ให้มีความเทียบเท่ากับ driver GeForce ของทางฝั่ง desktop ครับ ซึ่งทาง NVIDIA ได้ทำการตั้งชื่อ driver สำหรับ notebook ให้ใหม่ด้วยว่า NVIDIA Verde นั่นเอง ซึ่งมีจุดเด่นที่เพิ่มขึ้นมา ดังนี้ครับ
- มีการเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มซอฟต์แวร์ลงไปให้กับกราฟิกชิปของ NVIDIA เพื่อให้สามารถเรียกใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกว่าเดิม
- เพิ่มความสามารถในการแสดงผลแบบ 3D รวมไปถึงการสนับสนุนการประมวลผลแบบขนานเพื่อทำให้การใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การรับชมภาพยนตร์และการใช้งาน application เพื่อความบันเทิงต่างๆเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น
- เพิ่มความสามารถให้กับฟังก์ชันต่างๆ ได้แก่ NVIDIA CUDA, NVIDIA Optimus, NVIDIA 3D Vision, NVIDIA PhysX, NVIDIA SLI และ NVIDIA Pure Video HD ครับ
- ปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรให้กับการใช้งาน driver ร่วมกันของหลายๆรุ่น รวมไปถึงการใช้งานบนกราฟิกการ์ดรุ่นเก่าให้ดีขึ้น (NVIDIA Unified Driver Architecture)
- ปรับปรุงให้สามารถใช้งานบน Windows 7 ได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น
เป็นไงบ้างครับแนวทางการรวม driver ทั้งหมดให้เป็นตัวเดียวกัน ชอบกันมั้ยครับ ^^
NVIDIA CUDA
ต่อมาก็เป็น CUDA ซึ่งหลายๆคนน่าจะเคยได้ยินมาแล้วนะครับ ซึ่ง CUDA เนี่ยพูดง่ายๆก็คือการใช้งาน GPU ในการคำนวณรูปแบบเดียวกับ CPU ครับ โดยหลักการก็คือ ใช้ชุดคำสั่ง CUDA ในการสั่งงาน GPU ให้ทำการคำนวณตามที่ต้องการครับ ซึ่งสามารถใช้งาน GPU ในการร่วมประมวลผลแบบขนาน (Parallel Processing) เพื่อประมวลผลข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากๆได้ หรือแม้กระทั่งช่วยในการประมวลผลในการเข้ารหัสวิดีโอ การจำลอง simulation แบบต่างๆ ที่สามารถทำได้เหนือ CPU ในปัจจุบัน
ภาพตัวอย่างการแสดงถึงการใช้งาน Stream Processor ครับ
ถ้าถามว่า ทำไมถึงต้องใช้ GPU ในการประมวลผลด้วย ก็เป็นเพราะว่าในปัจจุบัน สถาปัตยกรรมภายในของ GPU นั้น ถูกสร้างให้มีการประมวลผลแบบขนานอยู่ในตัวอยู่แล้ว ดังจะเห็นได้จากพวก Stream Processors ที่มีอยู่เป็นจำนวนที่มากขึ้นๆในแต่ละรุ่น ที่ทำให้การทำงานภายในเป็นรูปแบบขนาน เสมือนว่ามี core ทำงานอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก ทำให้ประมวลผลได้เร็วกว่า CPU ครับ และอีกอย่าง GPU มันค่อนข้างจะว่างงานมากกว่า CPU ครับ จึงได้เกิด CUDA ขึ้นมา เพื่อให้ใช้งาน GPU ได้อย่างเต็มที่ด้วย
ตัวอย่างภาพโปรแกรมที่มัการใช้งาน CUDA อย่าง Folding@home ครับ
ช่วงหลังๆ มานี้ก็มีการนำ CUDA ไปใช้ประโยชน์ในวงกว้างมากขึ้น อย่างเช่นการนำไปใช้ร่วมในการประมวลผลการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะทางการแพทย์ ส่วนวิธีการนั้นก็คือ เราจะต้องไปสมัครเป็นสมาชิกของ community นั้นก่อนครับ แล้วจึงเลือกโครงการที่จะเข้าร่วม จากนั้นก็ download โปรแกรมมาติดตั้งในเครื่องเรา และคราวนี้ เวลาที่เราไม่ได้ใช้เครื่อง เช่นเวลานอน เราก็เปิดโปรแกรมนั้นทิ้งไว้ ตัว GPU ก็จะทำงานให้เองครับ แต่ไม่ใช่ว่าเราทำโครงการนั้นคนเดียวทั้งหมดนะ เราจะมีเพื่อนๆคนอื่นจากแทบจะทั่วทุกมุมโลกมาแบ่งส่วนไปคำนวณด้วย คนะละนิด คนละหน่อยเดี๋ยวก็ครบนั่นเองครับ
คราวนี้ก็คงเป็นเหตุผลนึงในการขอท่าน ผบ.ที่บ้านในการซื้อกราฟิกการ์ดแรงๆแล้วละครับ บอกไปเลย ซื้อไปทำบุญ อิอิ ^^
NVIDIA 3DTV Play
มาถึงตัวสุดท้ายที่ผมจะพูดถึงละนะครับ นั่นคือ NVIDIA 3DTV Play ก็ตามชื่อเลยนะครับว่ามันจะต้องเกี่ยวกับ 3 มิติแน่นอน เพราะในปัจจุบันอะไรๆก็เริ่มเป็น 3 มิติมากขึ้นไปทุกที ไม่ว่าจะเป็นทีวี 3 มิติ, แว่น 3 มิติ, ภาพยนตร์ 3 มิติ, ข่าว 3 มิติ เอ๊ย !! ไม่เกี่ยวครับผม ดังนั้นทาง NVIDIA ก็ไม่ยอมตกเทรนด์ 3 มิตินี้ด้วยเช่นกัน จึงได้ทำการส่ง 3DTV Play มาให้เราๆท่านๆได้ใช้กัน ซึ่งการที่จะใช้งานได้ โดยหลักๆเลยก็คือจอต้องมีสิ่งต่างๆดังนี้ครับ
- คอมพิวเตอร์ที่ใช้ GPU ของ NVIDIA (แน่นอนละครับ ^^) บน Windows Vista หรือ Windows 7
- จอที่รองรับ 3D Vision-Ready
- ตัวส่งสัญญาณ 3D ผ่านทางคลื่นอินฟราเรดแบบ USB หรือ Notebook ที่มีตัวส่งสัญญาณ 3D ในตัว
- แว่น 3 มิติของทางผู้ผลิตจอรุ่นนั้นๆ (ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้เฉพาะแว่นของทาง NVIDIA ครับ)
ซึ่งสามารถดูรายชื่อของอุปกรณ์ที่รองรับ NVIDIA 3DTV Play ได้จาก ตรงนี้ ครับ
สำหรับสิ่งที่ 3DTV Play สามารถใช้งานได้ในขณะนี้ก็มีดังนี้ครับ
- ทำงานร่วมกับ HDMI 1.4 บน 3D TV และแว่น 3D ของเครื่องนั้น
- รับชมภาพยนตร์ Blu-ray ในรูปแบบ 3D ในระดับความคมชัด 1080p
- เปลี่ยนจากเกมธรรมดาๆให้กลายเป็นเกม? 3D ได้ ตัวอย่างเกมที่รองรับก็เช่น ?Call of Duty Black Ops?, ?Mafia II? เป็นต้น
- รับชมสไลด์โชว์ภาพ ในรูปแบบ 3D จากทีวีของคุณเอง
เห็นมั้ยละครับ โลกแห่งสามมิติอยู่ใกล้คุณนิดเดียวเอง (ถ้าเงินถึงนะ)
สุดท้ายละครับ จะเห็นได้ว่าทาง NVIDIA ก็มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจมิใช่น้อย เรียกได้ว่าขนออกมาเอาใจผู้ใช้กันเต็มที่เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นด้านประสิทธิภาพ ความสะดวกสบายและความบันเทิงที่ทำได้สมชื่อ NVIDIA เช่นเดิม ทั้งนี้ก็ต้องแล้วแต่ทุกท่านละครับ ว่าจะเลือกสิ่งใด แต่ยังไงก็ตามช่วงนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี จะเลือกอะไรก็เลือกให้คุ้มกับเงินที่ต้องเสียไปนะครับ ผมขอลาไปก่อนละ จะไปศึกษาเทคโนโลยีอื่นๆต่อ สวัสดีครับ ^^
ข้อมูลจาก : NVIDIA
