Logitech G9x Laser Gaming Mouse ถือได้ว่าเป็น Mouse สำหรับ Gamer ที่มีประสิทธิภาพสูงมากอีกตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Spec รวมไปถึง Feature การใช้งานต่างๆ ซึ่งเจ้า G9x ตัวนี้ก็ออกมาได้พักใหญ่ๆแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้เห็นหรือลิ้มลองแล้วละก็วันนี้ทางทีมงาน Notebook4Game เองก็ได้จัดมาให้ชมกันถึงที่ ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าใครที่กำลังมองหา Mouse สำหรับเล่นเกมแล้วละก็ ห้ามพลาดทีเดียว
Package ของ Logitech G9x Laser Gaming Mouse ที่มาในกล่องกระดาษแข็ง ด้านหน้าเป็นพลาสติกใสทำให้มองเห็นตัวเมาส์ได้อย่างชัดเจน
ตัวกล่อง Package เองสามารถเปิดได้อีก 1 ชั้นด้านในจะมีคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นบอกเอาไว้ อาทิเช่น Grip ที่สามารถถอดสลับสับเปลี่ยนได้, Sensor แบบ Laser, Feet ขนาดใหญ่เป็นต้น โดยด้านในนั้นจะเผยให้เห็นถึง Grip อีกหนึ่งชิ้นที่เอาไว้สลับสับเปลี่ยนนั่นเองครับ
ส่วนด้านหลัง Package ก็คล้ายๆกันด้านในคือบอกคุณสมบัติที่เป็นตัวชูโรง ส่วน Specification ต่างๆจะอยู่บริเวณสันของกล่อง
Tracking
- Resolution: 200 – 5700 dpi
- Image processing:12 megapixels/second
- Max. acceleration: 30G
- Max. speed: Up to 165 inches (4.19 m)/second*
Responsiveness
- USB data format: 16 bits/axis
- USB report rate: Up to 1000 reports/second
- Sleep mode: Disabled
Glide
- Dynamic coefficient of friction – Mu (k): .09**
- Static coefficient of friction – Mu (s): .14**
- Tuning weight: Up to 28 grams
Durability
- Buttons (Left/Right): 8 million clicks
- Feet: 250 kilometers
ภายใน Package นั้นประกอบไปด้วย Logitech G9x Laser Gaming Mouse, กล่องกระดาษ Pure Gaming, กล่องเหล็กที่บรรจุตุ้มสำหรับถ่วงน้ำหนัก, Grip สำหรับสลับสับเปลี่ยน
ภายในกล่อง Pure Gaming ก็จะบรรจุพวกแผ่น Driver และ Software, คู่มือการใช้งานต่างๆ ไว้อย่างครบครัน
วัสดุส่วนใหญ่ของ Logitech G9x จะทำจากพลาสติกเป็นหลัก มีน้ำหนักค่อนข้างมาก โดยตัว Mouse นั้นถูกออกแบบมาให้กับมือขวาเท่านั้น
บริเวณ Mouse ด้านซ้ายจะมีปุ่มพิเศษที่สามารถ Macro หรือกำหนดรูปแบบการใช้งานพิเศษเพิ่มเข้ามาอีก 2 ปุ่ม ตัว Grip ด้านนี้จะมีลักษณะโค้งว้าวเพื่อรองรับกับนิ้วหัวแม่มือ เท่าที่ลองจับดูก็พบว่ากระชับมือดีทีเดียวครับ
บริเวณ Grip เองจะมีโลโก้ Logitech และรุ่น G9x ระบุไว้อย่างชัดเจน หลายคนอาจจะสงสัยว่าเจ้ารุ่น G9x นี่แตกต่างจากรุ่นพี่ G9 ที่ตรงไหนบ้าง โดยสิ่งที่แตกต่างกันจะเป็นเรื่องของ DPI ที่ G9x สูงกว่า นอกจากนั้นอัตราการตอบสนองของ G9x ยังไวกว่า G9 อีกด้วย พูดง่ายๆก็คือตัว G9x นั้นถูกพัฒนาต่อยอดความสามารถมาจากรุ่น G9 ที่ออกมาในปี 2007 นั่นแหละครับ
ถัดมาทางบริเวณด้านขวา ด้านนี้จะไม่มีปุ่มพิเศษอะไรเพิ่มเข้ามาเหมือนกับด้านซ้าย ตัว Grip เองก็มีลักษณะโค้งว้าวเข้าไปเพื่อรองรับกับนิ้วมือเช่นกัน
สำหรับปุ่มด้านบนนั้น Logitech G9x จะมีปุ่มอยู่ทั้งหมด 7 ปุ่มคือ ปุ่มคลิกซ้ายขวา, Scroll Wheel แบบ Dual-Mode และยังสามารถคลิกออกไปทางด้านข้างทั้งสองด้านได้ด้วย, ปุ่มปรับเพิ่ม-ลด DPI ส่วนตัวสายนั้นถูกหุ้มไว้ด้วยเชือกไนล่อนทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลมากกว่า เพราะสายของ Mouse ที่ทำด้วยเชือกนั้นจะลื่นกว่าสายแบบปกติครับ
ลองมาดูในส่วนของใต้เมาส์กันบ้าง จุดเด่นที่เห็นได้ชัดจากด้านใต้นี่คือ Feet ของมันที่มีขนาดใหญ่มากๆ เกือบจะครอบคลุมทุกจุดเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่ว่า Feet ที่ให้มามีขนาดใหญ่ทำให้การใช้งานของมันค่อนข้างลื่นทีเดียวครับ ผมเองได้ทดลองกับ Gaming Pad หลายๆตัวก็พบว่าลื่นไหลใช้ได้เลย นอกจากนั้นแล้วด้านใต้เองยังมีปุ่มอีก 2 ปุ่ม โดยที่ปุ่มด้านบนใกล้ๆกับ Feet ขนาดใหญ่จะเป็นการปรับโหมดการใช้งานของ Scroll Wheel ให้เป็นแบบ Hyper-Fast Scrolling หรือสามารถเลื่อนใช้งานได้แบบทีเดียวไกลๆ กับอีกปุ่มจะเป็นปุ่มสำหรับการสลับ Profile ต่างๆ
บริเวณหลัง Mouse นั้นจะมีปุ่มสำหรับปลด Grip ออกมาเพื่อสับเปลี่ยน เท่าที่ลองสับเปลี่ยนดูก็พบว่าแน่นหนาดีทีเดียว
ซึ่งตัว Grip เองมี 2 พื้นผิวให้เลือกใช้งาน ตัวสีเทาจะเป็นลักษณะเรียบๆมีขนาดใหญ่กว่าสีดำ ส่วนตัวสีดำนั้นจะเป็นลักษณะคล้ายๆทราย คือมีความหยาบเพิ่มเข้ามา แต่มีขนาดเล็กลงกว่าสีเทาครับ
และเมื่อถอด Grip ออกด้านในจะพบกับถาดสำหรับใส่ตุ้มถ่วงน้ำหนักซึ่งสามารถบรรจุได้สูงสุด 4 ชิ้นด้วยกัน ลักษณะการใช้งานก็ง่ายๆครับเพียงแค่กดเบาๆเจ้าถาดตัวนี้ก็เด้งออกมาอย่างไม่ยากเย็น แต่จุดที่ยากเย็นเห็นจะเป็นตอนที่ต้องมานั่งถอด Grip ออกทุกครั้งที่จะทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำหนัก ถือว่าค่อนข้างยุ่งยากอยู่นิดหน่อย
โดยตุ้มน้ำหนักที่ให้มานั้นถูกบรรจุในกล่องเหล็กอย่างดี โดยด้านในจะแบ่งออกเป็น 2 แถวคือ แถวที่มีตุ้มหนัก 4 กรัมและอีกแถวหนึ่งที่หนัก 7 กรัมครับ ทำให้โดยรวมแล้วเจ้า Logitech G9x ตัวนี้จะสามารถเพิ่มน้ำหนักได้ไม่เกิน 49 กรัม