กลับมาพบกับ Review Accessory กันอีกเช่นเคย วันนี้ทาง Notebook4Game มีอีก 1 แบรนด์ที่จะมาแนะนำให้ Gamer ได้รู้จัก นั่นคือ Ozone Gaming Gear ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมต่างๆไม่ว่าจะเป็น หูฟัง , เมาส์ , แผ่นรองเมาส์ ที่เน้นเจาะกลุ่มตลาดสำหรับเราชาว Gamer เป็นหลัก สำหรับ Ozone นั้นเป็นผู้ผลิตจากไต้หวัน ( ตอนนี้ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย อดใจรอกำลังมาเร็วๆนี้แน่นอนครับ )
แต่ถึงกระนั้นก็นับว่าตลาด Accessory สำหรับ Gamer ในบ้านเราคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆ ดังที่เห็นได้ว่ามีแบรนด์ Gamer ต่างที่หันมาทำตลาดกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก๋าอย่าง Razer น้องใหม่อย่าง Roccat , CM Storm , SteelSeries ถ้าให้นับหมดคงไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ในตลาดบ้านเรา หากท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บของพวกเขาได้ที่ >> Ozone Gaming Gear <<
และสำหรับ Review ครั้งนี้ทางทีมงานได้รับสินค้ามาทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกัน อันได้แก่ Ozone Smog , Ozone Exposure , Ozone Attack ไปดูกันทีละตัวเลยดีกว่าครับว่าจะน่าสนใจขนาดไหนกันสำหรับแบรนด์ Ozone
Ozone Smog นั้นเป็นเมาส์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ ขอบอกเลยว่าขนาดนั้นใหญ่เต็มไม้เต็มมือ แถมมาในโทนสีดำ-แดงดุดัน และขอบอกเลยว่า Feet ของเจ้านี่สุดยอดมาก มัวช้าอยู่ใยไปชมกันเลยดีกว่าครับ
Package เป็นกระดาษแข็งคล้ายๆกับกล่อง Notebook ด้านหน้าเป็นรูปของ Ozone Smog ที่ใช้โทนสีดำ-แดง
Package ด้านหน้าเมื่อเปิดออกจะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากตัวเมาส์ Ozone Smog แล้วยังประกอบไปด้วย ตุ้มถ่วงน้ำหนักและ Grip ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้
ด้านหลัง Package เองก็บอกคุณสมบัติต่างๆไว้ค่อนข้างครบถ้วนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น วัสดุต่างๆ , คุณสมบัติที่เป็นจุดเด่น
- High Precision Laser sensor Avago 9500 (12000 fps)
- 7+2 Programmable buttons
- 16 bit ultra data-path for ultimate performance
- Polling rate 1000Hz
- 450/900/1800/3600 dpi profiles switchable
- Customizable DPI profiles through software( Max. to 5040 dpi)
- Tracking speed: 150 inch/sec
- Rubber left side grip
- Soften plastic finger groove on the rightside (swappable)
- 4 way scrolling
- Ceramic footpads
- Adjust lift button suites your mouse to the mousepad
- 5 Macro modes allows setting severalgaming profiles
- Included Software for personal configuration*
- Adjustable weight (includes set with 6x ? 5g weights).
จาก Specification จะพบว่า Ozone Smog นั้นสามารถปรับ DPI ได้ 4 Step อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ถือว่าค่อนข้างครบถ้วนทีเดียวสำหรับเมาส์ที่เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะ
มายลโฉมภายในกันบ้าง ซึ่งภายใน Package ประกอบไปด้วยเมาส์ Ozone Smog , แผ่น Driver และ Software , คู่มือการใช้งานเบื้องต้น , Grip สำหรับเปลี่ยนบริเวณด้านขวา , กล่องตุ้มถ่วงน้ำหนัก
Ozone Smog เป็นเมาส์ที่ทำจากวัสดุประเภทพลาสติกเป็นหลัก บริเวณด้านบนใช้พลาสติกแบบมันวาวเป็นหลัก น้ำหนักเมื่อสัมผัสครั้งแรกบอกได้เลยว่าตัวเมาส์เองนั้นมีน้ำหนักที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเมาส์ทั่วๆไป บริเวณปุ่มเสริมต่างๆที่เพิ่มเติมเข้ามานั้นทาง Ozone เลือกใช้สีแดงเพื่อให้ดูโดดเด่น การออกแบบนั้นไม่ธรรมดาทีเดียวเรียกว่า สวย โดนใจมิใช่น้อย
Ozone Smog ถูกออกแบบมาให้ใช้กับมือขวา ,? Scroll Wheel นั้นสามารถคลิกไปทางซ้ายและขวาได้ นอกจากนั้นแล้วยังมีปุ่มพิเศษบริเวณด้านบนอีก 2 ปุ่ม โดยปุ่มแรก Lift นั้นใช้สำหรับการตรวจหรือ Detect พื้นผิวเพื่อช่วยในเรื่องของการตอบสนองที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น และอีกปุ่มจะเป็นปุ่มสำหรับการปรับ Mode Profiles สามารถสลับสับเปลี่ยนได้สูงสุดถึง 7 Profiles โดยจะมีไฟ LED บ่งบอกสถานะทั้ง 7 Profiles ( อย่างกับช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ )
ด้านซ้ายประกอบไปด้วยไฟสำหรับแสดงโหมด Profile ต่างๆและ DPI ที่กำลังใช้งานอยู่ โดยผู้ใช้สามารถปรับได้จากปุ่ม DPI ที่อยู่บริเวณด้านล่างดังรูป เมื่อดันขึ้นหน้าจะเป็นการปรับเพิ่ม DPI และเมื่อดันลงหลังจะเป็นการลด DPI ลง สามารถปรับได้สูงสุด 4 Step? บริเวณที่รองรับนิ้วหัวแม่มือนั้นใช้วัสดุประเภทยางทำให้จับกระชัดและแน่นมากกว่าวัสดุที่ทำจากพลาสติก ส่วนปุ่ม Macro อีก 2 ปุ่มด้านบนนั้น บอกไว้เลยครับว่าใช้แรกไม่ถนัดแน่นอน เพราะต้องขยับตำแหน่งนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาซักนิดจึงจะสามารถกดได้ หากใครเคยชินกับปุ่มที่อยู่บริเวณตรงนิ้วพอดี อาจต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันเล็กน้อย
กระดองของ Ozone Smog นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยบริเวณช่วงที่แบ่งจะเป็นพลาสติกจะมีลักษณะนูนขึ้นมาเพื่อให้รองรับกับนิ้วชี้,นิ้วโป้งที่อยู่ฝั่งหนึ่งและนิ้วที่เหลืออีกฝั่งหนึ่ง มาพร้อมโลโก้ Ozone สีแดงบริเวณล่างขวา
ส่วนทางด้านขวานั้นจะเป็น Grip ที่ทำจากพลาสติกหุ้มยางภายนอกเป็นหลัก ช่วยให้จับกระชับถนัดมือยิ่งขึ้น มีลักษณะบุ๋มและเว้าเข้าไปเพื่อให้รองรับกับนิ้วนางและก้อย แต่ดูเหมือนจะไม่เต็มไม้เต็มมือเท่าไหร่เพราะหากเอา 2 นิ้ววางแบบเต็มแล้วละก็เบียดกันซะจนจับไม่ถนัดเลยทีเดียว