สวัสดีครับ บทความนี้จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องแรมการ์ดจอล้วนๆ ว่าหลายคนรู้เรื่องแรมการ์ดจอกันดีหรือยัง หลายคนยังอาจคงคิดนะครับว่ายิ่งแรมการ์ดจอเยอะก็ยิ่งเล่นเกมได้ดีขึ้น ความคิดนี้เป็นได้ทั้งถูกแล้วผิดครับ จะเป็นยังไงต่อมาดูกันต่อเลยนะครับ
?
วันนี้เราจะมาดูการทดสอบการ์ดจอของแต่ละการ์ดจอในการเล่นเกมกันนะครับ ซึ่งการ์ดจอที่ทำการทดสอบนั่นจะเป็น ATI Radeon HD4870 รุ่นเดียวกันหมดครับ 3 รุ่น แต่ทั้ง 3 รุ่นนั่นมีแรมในตัวนั่นต่างกันทั้งหมด มีทั้ง 512MB, 1GB, แล้วก็ 2GB ครับ การทดสอบนั่นจะทดสอบด้วยกันทั้งหมด 5 เกมด้วยครับนั่นก็คือ Crysis, Far Cry 2, World in Conflict, Left 4 Dead, แล้วก็ Grand Theft Auto IV เพื่อดูข้อแตกกันระหว่าง FPS (กี่เฟรมต่อวินาที) ในการเล่นเกมครับ
ในการทดสอบนี้นั่นจะมีการปรับออฟชั่น Graphic อย่างมากมายอาทิเช่น Resolution (ขนาดภาพ), Quality (คุณภาพของภาพ), Anti-Aliasing (การลบลอยหยักของภาพ), แล้วก็ Anisotropic Filtering (การกรองพื้นผิด 3D) ครับ
สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า Anti-aliasing กับ Anisotropic Filtering เป็นยังไงนั่นวันนี้ผมก็มีตัวอย่างมาให้ดูครับ
Anti-aliasing แปลง่ายก็คือการลบลอยหยักของภาพในเกมครับ หลายคนอาจสังเกตเห็นนะครับ ว่าตอนเล่นเกมบางเกมภาพในเกม (หรือพิกเซล) นั่นมันจะแตกๆ
ปัญหานี้แก้ได้โดยการใช้ Anti-aliasing ครับ การเปิด Anti-aliasing ระหว่างการเล่นเกมนั่นจะทำให้การ์ดจอเรานั่นจะสร้างภาพซ้อนกันไว้หลายๆ ภาพปิดปิดการแตกของภาพพื้นผิดในเกมทำให้ภาพในเกนั่นดูละเอียดขึ้นครับ สังเกตดูดีๆ ว่ามันจะมีหลายออฟชั่นให้เปิดนั่นก็มีตั้งแต่ x2 (2 เท่า) ไปจนถึง x16 (16 เท่า) เลยครับ ยิ่งเปิดเยอะมันก็ยิ่งสร้างภาพซ้อนให้เยอะครับ
ภาพตัวอย่าง ความแตกระหว่างการเปิด Anti-aliasing
คำเตือนครับ การเปิด Anti-aliasing มากก็ไม่ดีนะครับ ถ้าเปิดมากไปการ์ดจอเราก็จะยิ่งทำงานหนักมาขึ้น นั่นก็คือถ้าเปิด 2 เท่า การ์ดจอเราก็จะทำงานหนักขึ้นประมาณ 2 เท่า ถ้าเปิด 16 เท่าการ์ดจอเราก็ทำงานหนักขึ้นถึงประมาณ 16 เท่าเลยละครับ
ส่วน Anisotropic Filtering แปลง่ายๆ ก็คือการกรองพื้นผิด 3D หรือ 3มิติครับ มันจะทำให้การกรองพื้นผิดของเกมนั่นดูละเอียดขึ้นแล้วก็ดีขึ้นครับ ซึ่งจะทำให้ภาพมองในแนวไกลดีขึ้นครับ
หลายคนอาจเคยเห็นพวก Filtering (การกรองภาพ) 3 มิติ แบบอื่นเช่น Bilinear หรือ Trilinear กันแล้วนะครับ Anisotropic Filtering ก็เป็นหนึ่งในนั่นครับแต่ดีกว่าครับ มาลองดูภาพตัวอย่างการกรองภาพของแต่ละอันกันดีกว่าครับ
ภาพตัวอย่าง ความแตกต่างระหว่างการ Filtering ต่างๆ
จะสังเกตได้ว่าถ้ามองใกล้ภาพมันคล้ายๆ กันหมดครับ แต่ถ้ามองไกลๆ จะเห็นได้ว่านอกจาก Anisotropic Filtering แล้ว ภาพของทั้ง Bilinear กับ Trilinear จะเบอร์ๆ หรือมัวๆ อย่างเห็นได้ชัดครับ
เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เรามาทำการดูการทดสอบเลยดีกว่าครับ
เครื่องที่ใช้ในการทำการทดสอบ
ส่วนการ์ดจอที่ใช้ในการทดสอบก็เป็นรุ่น ATI Radeon HD4870 ครับ ต่างกันที่ว่าแต่ละตัวมีแรมในตัวไม่เท่ากัน
เกมที่ 1 ?Crysis
Setting ที่ใช้ในการทดสอบ
Setting 1 High Setting, No AA (Anti-aliasing), No AF (Anisotropic Filtering)
Setting 2 Very High Setting, No AA (Anti- aliasing), No AF (Anisotropic Filtering)
ผลทดสอบ Setting 1- High Setting, No AA (Anti-aliasing), No AF (Anisotropic Filtering)
จากผลทดสอบครั้งแรกจะสังเกตได้ว่าที่ Resolution 1680×1050 กับ 1920×1200 นั่นทั้ง 3 การ์ดจอทำงานได้พอๆ กันหมดเลยนะครับ จนมาถึงที่ Resolution 2560×1600 ที่จะเห็นได้ว่าการ์ดจอที่มีแรมขนาด 512MB นั่นประสิทธิภาพจะด้อยกว่าอันอื่น เหตุผลนี้เกิดขึ้นจากที่ว่าการทำงานของการ์ดจอนั่นกินแรมสูงกว่าที่มีครับ FPS จึงตกสำหรับการ์ดจอที่มีขนาด 512MB แต่ถ้าสังเกตดูดีๆ การ์ดจอที่มีขนาดแรม 1GB กับ 2GB จะทำงานได้เท่ากันเหมือนเดิม นั่นเพราะการทำงานของการ์ดจอในการเล่น Setting นี้ไม่ได้กินแรมเกิน 1GB ครับ
ผลทดสอบ Setting 2 – Very High Setting, No AA (Anti- aliasing), No AF (Anisotropic Filtering)
ผลทดสอบ Setting แบบ 2 นี้ก็ออกมาคล้ายๆ กับแบบแรกเลยครับ โดยที่การ์ดจอทั้ง 3 ทำงานได้เหมือนกันหมดจนมาถึงขนาด Resolution 2560×1600 ที่การ์ดจอขนาด 512MB ทำงานด้อยกว่าอันอื่นครับ
ถ้าสังเกตดูดีๆ นะครับจะเห็นว่าการ์ดจอที่มีแรมเยอะกว่าอันอื่นนั่นจะไม่ทำให้เกมเร็วขึ้น เลยอย่างที่คนคิดกันครับ แค่จะทำให้เมื่อปรับ Setting สูงๆ จะมี FPS ที่คงที่มากขึ้นแทนครับ
เกมที่ 2?Far Cry 2
Setting ที่ใช้ในการทดสอบ
Setting 1 Ultra High Setting, No AA
Setting 2 Ultra High Setting, 4x AA
ผลทดสอบ Setting 1- Ultra High Setting, No AA
ผลทดสอบก็ออกมาคล้ายๆ กับเกม Crysis เลยครับที่ว่าการ์ดจอที่มีขนาด 512MB จะทำงานได้ด้อยกว่าการ์ดจออีกสองตัวที่มีแรมเยอะกว่า
ผลทดสอบ Setting 2- Ultra High Setting, 4x AA
การเปิด Anti-aliasing จะเป็นข้อดีต่อการสรุปของผลทดสอบนี้เป็นอย่างมากครับ เพราะมันทำให้เราเห็นได้ชัดเลยว่าการ์ดจอที่มีแรมขนาด 512MB นั่นเกิดผลมากกับ FPS เมื่อเปิด Anti-aliasing อย่างเห็นได้ชัด ส่วนการทำงานของการ์ดจอที่มีแรมขนาด 1GB กับ 2GB นั่นยังเท่ากันอยู่ นั่นก็คงหมายความว่าการเปิด Anti-aliasing x4 นั่นไม่กินแรมเกิน 1GB ครับ การทำงานการ์ดจอทั้ง 2 ตัวนี้เลยไม่ได้ตกลง
เกมที่ 3 World in Conflict
Setting ที่ใช้ในการทดสอบ
Setting 1 Very High Setting, No AA, No AF
Setting 2 Very High Setting, 4x AA, 16x AF
ผลการทดสอบ Setting 1 Very High Setting, No AA, No AF
ดูคร่าวๆ ก็คือการ์ดจอทั้ง 3 ตัวทำงานได้เหมือนกันหมดเลยครับ นั่นก็หมายความว่าการปรับ Setting นี้ไม่ได้กินแรมเกิน 512MB ครับ
ผลการทดสอบ Setting 2 – Very High Setting, 4x AA, 16x AF
ผลออกมาเหมือนเดิมกับที่ผ่านมาครับ การ์ดจอที่มีแรม 512MB ทำงานได้ด้อยกว่าอีก 2 ตัวเมื่อปรับขนาด Resolution 2560×1600
เกมที่ 4 Left 4 Dead
Setting ที่ใช้ในการทดสอบ
Setting 1 Very High Setting, No AA, No AF
Setting 2 Very High Setting, 4x AA, 16x AF
ผลการทดสอบ Setting 1 High Setting, No AA, No AF
จากผลการทดสอบจะเห็นได้ว่าทั้ง 3 อันทำงานได้ใกล้เคียงกันหมดเลยนะครับ ถึงจะปรับขนาด Resolution 2560×1600 แล้วการทำของการ์ดจอที่มีแรมขนาด 512MB ก็ไม่ตกครับ คราวนี้ก็สรุปได้ว่าแรมน้อยก็ทำงานได้ดีเท่ากับแรมขนาดใหญ่เหมือนกัน (ถ้าไม่ใช้เกินกำหนด)
ผลการทดสอบ Setting 2 High Setting, 4x AA, 16x AF
เหมือนการทดสอบเมื่อกี้เลยครับ ทุกอันทำงานได้ไล่ๆ กันหมดเลยเกมนี้กินพลังงานแรมน้อยจริงๆ ครับ
เกมที่ 5 Grand Theft Auto IV
Setting ที่ใช้ในการทดสอบ
Setting 1 Texture Memory Usage Under 500MB
Setting 2 Texture Memory Usage Under 1100MB, 1150MB, 1650MB
ก่อนเริ่มสรุปขอบอกก่อนนะครับว่าการปรับ Setting ใน Grand Theft Auto IV นี้จะต่างกับเกมที่ผ่านๆ นิดหนึ่งครับ เพราะเกมนี้นั่นจะเราเลือก Setting ได้ตามใจชอบแล้วตัวเกมนั่น จะทำการคำนวณให้เสร็จสรรพว่าการตั้งค่าของเราจะใช้แรมการ์ดจอเท่าไหร่ทั้งหมด
ผลการทดสอบ Setting 1 Texture Memory Usage Under 500MB
ไม่ค่อยมีข้อแตกต่างเลยครับ ก็เพราะตัวเลือกที่ทำการเลือกนั่นกินแรมไม่เกิน 500MB อย่างที่เราเลือก การทำงานก็เลยไม่แตกต่างกันครับตามทฤษฎีครับ
ผลการทดสอบ Setting 2 Texture Memory Usage Under 1100MB, 1150MB, 1650MB
ผลที่ออกมาก็เป็นไปตามทฤษฎีครับ ที่ว่าเมื่อปรับสูงไปกว่า 512MB การ์ดจอที่มีแรม 512MB ก็จะเล่นเกมไม่ได้ส่วนถ้ายิ่งปรับสูงขึ้นๆ อย่างเช่น 1650MB การ์ดจอที่มีขนาดแรม 1GB ก็จะประสิทธิภาพตกครับ
สรุป
ผลการทดสอบนี้ทำให้เราได้รู้ว่าขนาดแรมของการ์ดจอนั่นไม่ได้ทำให้เกมวิ่งเร็วขึ้นแต่อย่างใดครับ แต่จะทำให้เกมนั่นคงที่ขึ้นแทนเมื่อปรับ Setting สูงขึ้นครับ จากการทดสอบจะเห็นได้ว่าถ้าไม่ปรับ Resolution สูงเว่อร์อย่าง 2560×1600 หรือเปิด Anti-aliasing กับ Anisotropic Filtering นั่น การ์ดจอที่มีแรมแค่ 512MB ก็พอเพียงแล้วทำงานได้พอๆ กับการ์ดจอที่มีแรม 2GB เลยครับ
อย่าลืมนะครับว่าแรมการ์ดจอนั่นไม่มีผลทำให้เกมวิ่งได้เร็วขึ้น ยกตัวอย่างเช่นว่ายังไงๆ การ์ดจอรุ่น ATI Radeon HD4870ที่มีแรมแค่ 512MB ก็จะทำงานได้ดีกว่าการ์ดจอรุ่น ATI Radeon HD4670 ที่มีแรมขนาด 2GB ครับ
ท้ายสุดขอขอบคุณสำหรับคนที่อ่านบทความนี้มาจนจบครับ ขอบคุณครับ
ที่มา Tom’s Hardware, Extreme Tech