อีกเครื่องหนึ่งที่ได้รับคำชื่นชมจากสื่อต่างประเทศมามากในหลายๆ มุม ไม่ว่าจะเป็นจอที่ได้ความละเอียดเหมาะสมให้การใช้งานควบคู่กับ Windows 8 ที่ทำออกมาได้ดีและยังให้สีสันสวยงามเหมาะสมกับการแตะสัมผัสที่เสถียรมั่นคงนั้น ก็ห้ามลืมพูดถึง HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?อีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งทางสื่อต่างประเทศเองก็ให้คำชื่นชมในการออกแบบที่ดูหรูหราและความสามารถที่อัดแน่นอยู่ในตัวเครื่องที่ทุกท่านจะได้เห็นต่อไปนี้
ต้องขอชื่นชมการออกแบบเครื่องของทาง HP ที่ทำให้ Ultrabook เครื่องนี้ออกมาได้ทั้งความหรูหราสวยงามผสานกับระบบที่รองรับการทำงาน Windows 8 อย่างเต็มที่ด้วยระบบหน้าจอทัชสกรีน โดยพื้นฐานของ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?เครื่องนี้ เรียกว่าใช้พื้นฐานคล้ายกับ HP ENVY Spectre XT ที่ทุกท่านเคยได้อ่านมาก่อนหน้านี้ โดยปรับปรุงภายนอกและภายในเพิ่มเติมและติดตั้งระบบจอสัมผัสเข้าไปให้เครื่องนี้มีความแตกต่างจาก HP ENVY Spectre XT ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้แล้ว
Specification
สำหรับ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?เครื่องนี้ติดตั้งซีพียูมาให้เป็น Intel Core i5-3317U สถาปัตยกรรม Ivy Bridge โดยสัญญาณนาฬิกานั้นทำงานอยู่ที่ 1.70 GHz พร้อมกับ L3 Cache อยู่ที่ 3 MB พร้อมกับติดตั้งกราฟิกการ์ดมาเป็น Intel HD Graphic 4000 มาให้ ติดตั้งแรมมาให้ 4 GB แบบ DDR3 บัสอยู่ที่ 1600 MHz ส่วนฮาร์ดดิสก์ติดตั้งมาให้ 500 GB หมุนที่ 5400 RPM พร้อมกับ SSD อีก 32 GB ติดตั้งมาให้แบบ mSATA ?สำหรับการเชื่อมต่อนั้น มี USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง, USB 2.0 จำนวน 1 ช่อง, HDMI, Wifi, LAN, Bluetooth
ในส่วนของหน้าจอเป็น LED ที่มีความบางเฉียบ และยังรองรับการทัชสกรีนได้เต็มรูปแบบ โดยให้ความละเอียดอยู่ที่ 1366 x 768 พิกเซล เพื่อตอบสนองการใช้งานบน Windows 8 ตัวลิขสิทธิ์ที่ติดตั้งมาให้ พร้อมติดตั้งกล้อง Webcam มาให้หนึ่งตัวที่ด้านบนของตัวเครื่อง ส่วนของลำโพงติดตั้งระบบเสียงจาก beats audio มาให้พร้อมกับ Subwoofer มาให้ด้วยกันสองตัวที่ด้านใต้ของตัวเครื่อง เรียกได้ว่าเป็น Ultrabook อีกหนึ่งตัวที่ครบเครื่องทีเดียว
กดดูสเปกเต็มๆ ได้ที่นี่?<<<
Hardware / Design
สำหรับ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?เครื่องนี้นั้น ดูแล้วจะคล้ายกับตัว HP ENVY Spectre XT ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว?ซึ่งมีขนาดจออยู่ที่ 14 นิ้วที่รองรับการทัชสกรีน?(แต่?HP ENVY Spectre XT มีขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ที่ทัชสกรีนไม่ได้)?พร้อมกับการออกแบบให้ออกมาเป็นสีทูโทนที่ดูแล้วหรูหราสวยงาม ?การดีไซน์ตัวเครื่องเน้นความโค้งมนที่ขอบเพื่อความสวยงามและยังส่งผลต่อการออกแบบคีย์บอร์ดด้วย โดยขอบของคีย์บอร์ดก็จะโค้งตามเพื่อความสวยงาม ส่วนของทัชแพดออกแบบให้แยกออกจากตัวเครื่องเป็นอีกชิ้นหนึ่งอยู่ที่ส่วนล่างของตัวเครื่องและมีขนาดใหญ่พอสมควรเพื่อรองรับการใช้มัลติทัชในการใช้งาน Windows 8 อีกด้วย
โดยใช้วัสดุอะลูมิเนียมในการสร้างเป็นโครงสร้างหลักพร้อมกับใช้วัสดุซอฟท์ทัชที่ด้านใต้ของตัวเครื่องให้ความนุ่มและทำให้จับถนัดมือด้วย โดยสีด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นสีขาวดำ และด้านหลังของตัวจอก็ใช้อะลูมิเนียมสีดำพร้อมกับติดโลโก้ HP สีเงินเอาไว้ที่มุมด้านล่างซ้ายมือหากมองตรงเข้าไปจากด้านหน้าของเครื่อง รวมไปถึงเมื่อพับจอลงไปเราก็จะเห็นถึงชื่อเต็มของ HP นั่นก็คือ Hewlett Packard อยู่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านหลัง?สำหรับฐานจอจะทำออกมาให้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษเพื่อรองรับน้ำหนักของจอที่จะกดทับลงมาเพื่อความแข็งแรงและไม่เสียหายง่ายๆ ในส่วนของแผงสีเงินที่วางแถบเอาไว้เหนือคีย์บอร์ดจะเป็นส่วนดีไซน์ที่ฝังปุ่มเปิดปิดตัวเครื่องเอาไว้พร้อมกับสัญลักษณ์ beats audio สีแดงเอาไว้ที่ด้านขวามือ?
Keyboard / Touchpad
สำหรับคีย์บอร์ดของเครื่องนี้ ทาง HP ออกแบบมาให้เป็นแบบ?Full-size island-style โดยสังเกตจะเห็นว่าเป็นปุ่มแป้นจะแยกออกจากกันในรูปแบบ Chiclet Keyboard?โดยแป้นคีย์บอร์ดจะเป็นแบบธรรมดา ไม่ติดตั้งระบบ Backlit มาให้ และดีไซน์จะออกให้ขอบที่โค้งมนเพื่อรับกับการออกแบบตัวเครื่องที่โค้งมนมาก่อนหน้านี้แล้ว และทำให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยปุ่มต่างๆ จะมีขนาดปกติของมัน แต่จะว่าไปก็มีบางปุ่มนั้นจะถูกทำให้มีความพิเศษมากขึ้น อย่างเช่น Directional Key ปุ่มขึ้นและลงที่ถูกตัดแบ่งพื้นที่กันคนละครึ่งหนึ่งให้อยู่ร่วมกัน และปุ่มซ้ายและขวาที่มีขนาดใหญ่ปกติ เพื่อให้เข้ากับตัวคีย์บอร์ดที่ทำออกมาโดยมีพื้นที่จำกัดอยู่ และปุ่ม F11 ที่ติดตั้งปุ่ม Mute เพื่อตัดเสียงออกไป ส่วนปุ่ม F12 จะเป็นปุ่มเปิดปิดระบบ Airplane Mode ซึ่งทั้งสองปุ่มนี้จะติดตั้งไฟแสดงสถานะเอาไว้ปุ่มละหนึ่งดวง ถ้าหากว่ากดแล้ว ไฟจากสีฟ้าอ่อนจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แสดงการทำงานของปุ่มนี้ ซึ่งไฟสีฟ้านี้ก็จะมีอยู่ที่ Caps Lock อีกหนึ่งจุดด้วย ทำให้รู้ว่าฟังก์ชั่นใดกำลังถูกสั่งให้ใช้งานอยู่หรือตัดการทำงานอยู่
สำหรับทัชแพดมีขนาดใหญ่พอสมควร และออกแบบให้แยกออกมาเป็นส่วนหนึ่งเอกเทศที่ด้านล่างของตัวเครื่องโดยรองรับการทำ Gesture Control และตอบสนองต่อนิ้วได้ค่อนข้างไว และขีดเส้นเอาไว้หนึ่งเส้นเพื่อแบ่งส่วนให้เห็นชัดว่าปุ่ม L/R Click จะอยู่ตรงด้านล่างนี้ และล้อมกรอบด้วยอะลูมิเนียมสีเงินให้ความหรูหรามากขึ้นอีก และสำหรับการปิดทัชแพดก็เหมือนกับ HP ENVY Spectre XT ที่เคยกล่าวไปก่อนหน้า คือแตะสองครั้งที่มุมบนซ้ายมือที่ปุ่มสี่เหลี่ยมเพื่อให้หยุดการทำงาน โดยไฟสีส้มจะติดขึ้นมาข้างๆ แสดงว่าแป้นทัชแพดหยุดการทำงานไปเรียบร้อยแล้ว
Screen / Speaker
ส่วนของจอแสดงผลเป็นเป็นจอแบบ LED แบบมีกระจกกันเอาไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อให้หน้าจอนั้นมีลักษณะไร้ขอบ เหมาะสมกับการทัชสกรีน โดยให้ความละเอียดอยู่ที่ 1366 x 768 พิกเซล ให้ความละเอียดระดับ HD เพื่ออรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ได้ดี ในส่วนด้านบนของจอจะติดตั้งกล้อง HD Webcam มาให้พร้อมกับ Ambient Light Sensor เอาไว้ ส่วนประสบการณ์ใช้งานด้านการสัมผัสของจอนั้น ทำออกมาได้ดี และทัชติดมือทำงานไว ทำงานเข้ากับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้ดีทีเดียว ในขณะที่การเกิดรอยที่หน้าจอของเครื่องนั้นอยู่ในระดับทั่วไป ซึ่งหากว่าใช้งานแล้วต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นระยะๆ แต่อัตราการเกิดจะค่อนข้างน้อย ไม่สกปรกง่ายนัก แต่ถ้าหากไม่หมั่นทำความสะอาด จะส่งผลต่อการแตะสัมผัสได้ สำหรับการแสดงคุณภาพของสีสันที่ HP ENVY TouchSmart เครื่องนี้ทำออกมาได้นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะสีสันออกมาตรงครบ แม้จะไม่ถึงกับพาเนลชั้นสูงอย่าง IPS ที่ให้สีสันคมชัดเหมือนจริงมากกว่าก็ตามที
สำหรับเรื่องระบบเสียงโดยรวมนั้นได้เป็นลำโพงสองตัวขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยติดตั้งเอาไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง และมี Subwoofer ติดตั้งมาให้ด้วย เพื่อคุณภาพเสียงที่ดี และมีระบบปรับระดับเสียง (Equalizer) ของ beats ติดตั้งมาให้เป็นโปรแกรมในตัวเครื่องด้วย ทำให้การแสดงเสียงนั้นทำออกมาได้ดีระดับที่น่าพอใจ น้ำเสียงออกมาเพราะและมีน้ำหนักดีทีเดียว ซึ่งทางเว็บไซต์ต่างประเทศก็ถึงกับกล่าวชมว่า “Multimedia Machine” ซึ่งการันตีได้ระดับหนึ่งว่าคุณภาพเสียงที่ได้นั้นดีในระดับที่น่าพอใจทีเดียว ซึ่งเมื่อทดลองฟังจริงแล้วก็สมกับที่รีวิวเอาไว้ เพราะน้ำเสียงออกมาได้ดีน่าพอใจอีกเครื่องหนึ่งเช่นกัน
Connector / Thin And Weight
ขนาดของตัวเครื่องนับว่าไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับนิตยสารสักเล่มหนึ่งแล้ว ขนาดไล่เลี่ยกัน แต่ด้านกว้างจะมากกว่าเล็กน้อย ส่วนด้านยาวก็จะมากกว่าเล็กน้อย ซึ่งมิติของตัวเครื่องจะอยู่ที่?342 x 237 x 23 มิลลิเมตรซึ่งมิตินั้นจะอยู่ไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊คที่เป็นแบบบางเบาเครื่องอื่นๆ ซึ่งเทียบกับกล่อง DVD หนึ่งกล่องนั้นจะหนากว่าเพียงแค่ส่วนของจอที่กินมาบ้างเล็กน้อย ทำให้เครื่องดูหนา แต่ทำให้การถ่วงสมดุลย์ออกมาได้ดีน่าพอใจ สำหรับสายอะแดปเตอร์นั้นจะยาวในส่วนสายของแท่นเข้าสู่ตัวเครื่องเอง แต่ในส่วนที่ออกจากแท่นไปเชื่อมต่อกับไฟบ้านนั้นจะสั้นหน่อย ซึ่งถ้าเชื่อมต่ออาจจะต้องเพิ่มปลั๊กต่อสายอีกชิ้นหนึ่งเพื่อให้สายปลั๊กไม่ต้องลากยาวจนดึงรั้งมาก เพื่อถนอมอายุการใช้งานเอาไว้
ส่วนของน้ำหนักของตัวเครื่องนั้น ด้วยวัสดุที่เป็นอะลูมิเนียมกับซอฟท์ทัชเป็นโครงสร้างหลักประกอบตัวเครื่อง ทำให้น้ำหนักอาจจะมากหน่อย โดยน้ำหนักของตัวเครื่องที่ไม่รวมสายอะแดปเตอร์จะอยู่ที่ 2 กิโลกรัม และถ้ารวมสายแล้วจะอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม ทว่าน้ำหนักระดับนี้ได้วัสดุที่ให้ความทนทานสูงมาประกอบสร้างเครื่องอย่างนี้ ต้องนับว่าเป็นความหนักที่คุ้มค่าทีเดียว ไหนจะได้ความหรูหราก็ยังได้ความแข็งแรงพ่วงมาเป็นข้อได้เปรียบเพิ่มอีกส่วนด้วย จึงนับว่าคุ้มค่าที่จะแบกไปมา อีกทั้งที่สำคัญยังอยู่ในเกณฑ์ที่เป็น Ultrabook ขนาดหน้าจอ 14 ?นิ้วได้อยู่
สำหรับรอบๆ ตัวเครื่องของ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?ก็จะประกอบไปด้วย?LAN, HDMI, USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง, Multi-Card Reader, ไฟแสดงสถานะการทำงานและสถานะการเปิดเครื่องในส่วนของทางด้านซ้าย ส่วนของทางด้านขวามือจะติดตั้ง Kensington Lock, ช่องเชื่อมต่อไมค์และช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร สุดท้ายก็คือช่องเสียบอะแดปเตอร์เอาไว้?
Performance / Software
?สำหรับสเปกของเครื่องนี้ ติดตั้งซีพียูมาให้เป็น Intel Core i5-3317U ทำงานที่ความเร็ว 1.70 GHz L3 Cache อยู่ที่ 3 MB เป็นซีพียูแบบ 2 Cores 4 Threads และรหัสที่ติดตามมาเป็นรหัส U หรือ Ultra Low Voltage ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งใช้พลังงงานเพียง 17W เท่านั้น?โดยซีพียูรุ่นประหยัดพลังงานพิเศษมีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
- อัตราการใช้พลังงานต่ำสุดอยู่ที่เพียง 17W เท่านั้น ประหยัดพลังงานกว่าซีพียูทั่วไปเท่าตัว
- สามารถใช้งานพื้นฐานได้ยาวนานราวๆ 6-7 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ด้วย)
- ประสิทธิภาพโดยรวมใช้งานได้ไม่ต่างการซีพียูโน๊ตบุ๊คมาตรฐานทั่วไป
- นิยมนำไปใช้บน Ultrabook หรือแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ
- อีกทั้งประสิทธิภาพที่ได้ยังเหนือกว่าซีพียูแบบ ARM?
หากใครสนใจเพิ่มเติมก็?สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีพียู Intel รุ่นประหยัดพลังงานได้ที่นี่ครับ
นอกจากนี้กราฟิกการ์ดที่ติดตัวมาด้วยก็จะเป็น Intel HD Graphic 4000 โดยรองรับการใช้ทำงานแบบทั่วไปในชีวิตประจำวันและเล่นเกม 3 มิติ ได้เล็กๆ น้อยๆ
สำหรับฮาร์ดดิสก์ที่ติดตั้งมาให้จะมี SSD 32GB ที่ไว้ทำหน้าที่คอยส่งผ่านข้อมูลระบบงานที่เราใช้บ่อยๆ และฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้ว ความจุ 500GB อีกหนึ่งลูก ซึ่งไว้คอยทำหน้าที่ในการสำรองข้อมูลต่างๆ เป็นหลัก แน่นอนว่าโดยรวมแล้วให้ความรวดเร็วในการทำงานค่อนข้างดี สำหรับความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 237 MB/sec ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 79.8 MB/sec ซึ่งอยู่ในระดับความเร็วระดับทั่วไป แต่เมื่อใช้งานจริงจะพบว่า HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?การทำงานโดยรวมจะค่อนข้างมีความลื่นไหลเทียบเท่าได้กับโน๊ตบุ๊คที่ใช้ SSD เพียวๆ ทีเดียว
?คะแนนของการทำ CINEBENCH ในส่วนของ OpenGL อยู่ที่ 12.74 Fps และได้คะแนน CPU อยู่ที่ 2.38 Fps ซึ่งเป็นคะแนนระดับทั่วไปสำหรับ Ultrabook เครื่องนี้
?คะแนนของ Furmark อยู่ที่ 260 คะแนน
?สำหรับการทำงานกับโปรแกรม Hyper PI นั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งทำความเร็วคำนวน 19 ลูปจบภายใน 30 วินาทีเท่านั้น อยู่ในระดับที่เร็วน่าพอใจทีเดียว
?และคะแนนของการทำ Street Fighter IV Benchmark อยู่ที่ 41 Fps ถือว่าอยู่ในระดับแค่พอเล่นได้เท่านั้น ถ้าหากว่าต้องการเล่นเป็นบางครั้งบางคราว อาจจะต้องปรับค่าความละเอียดลงบ้างเล็กน้อย เพื่อให้การประมวลผลทำได้ดีกว่านี้
และหลังจากการรัน Resident Evil 5 Benchmark ออกมาแล้ว ได้ที่ระดับ 28.4 Fps เท่านั้น ถือว่าสรุปได้อย่างง่ายดายว่าเครื่องนี้ไม่เหมาะจะเอามาเล่นเกมหนักๆ แต่ถ้าเป็น Casual Game ทั่วไป (เกมใน Facebook หรือเกมที่ไม่พึ่งพากราฟิกการ์ดหนักๆ) ก็เล่นได้ แต่สำหรับเกมแนวพึ่งพากราฟิกการ์ดจะไม่แนะนำนัก
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของตัวเครื่องนี้จะเป็นแบบฝังเอาไว้ในตัวเครื่อง ไม่สามารถถอดออกมาได้โดยเป็นแบบฝังเอาไว้ข้างใน โดยเป็นแบตเตอรี่แบบ Li-ion แบบ 4-cell ติดตั้งเอาไว้ ให้อายุการทำงานที่ค่อนข้างยาวนานทีเดียว เมื่อทดสอบใช้งานจริงดูแล้ว การเปิดเครื่องสแตนด์บายเอาไว้จะอยู่ต่อเนื่องได้ราว 5 ชั่วโมง 15 นาที ในระดับทั่วไป สำหรับการทำงานเอกสารแบบต่อเนื่องจะอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 30 นาที และถ้าหากดู Youtube จะอยู่ราว 3 ชั่วโมง และสำหรับการทำงานควบคู่สลับกับการดู Youtube จะอยู่ได้ราวๆ 2 ชั่วโมง 45 นาที ในการทำงานต่อเนื่อง โดยเปิดความสว่างหน้าจอเอาไว้ครึ่งเดียว เพราะแค่นี้ก็เพียงพอที่จะมองเห็นแล้ว
สำหรับความร้อนของตัวเครื่องโดยปกติอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส ถือว่าความร้อนในระดับนี้ไม่เป็นปัญหาเมื่อใช้งานต่อเนื่องทั้งวัน และทางผู้เขียนก็ไม่ลืมรีดประสิทธิภาพของเครื่องออกมาให้สูงที่สุดด้วยเช่นกัน และผลลัพธ์นั้นก็ออกมาได้น่าพอใจ เพราะระบบระบายอากาศและการออกแบบการจัดเรียงอากาศในตัวเครื่องทำออกมาได้ค่อนข้างดี เพราะเมื่อทดลองใช้เครื่องตรวจจับอุณหภูมิเช็คที่ส่วนแป้นรองข้อมือพิมพ์แล้ว จาก 35 องศาเซลเซียสเพิ่มจาก 35 เป็น 39 องศา ซึ่งไม่ถือว่าร้อนนัก และไล่ขึ้นมาที่ส่วนคีย์บอร์ดด้านล่างจะอยู่ที่ 47 องศาเซลเซียส ส่วนบนจะอยู่ที่ 56 องศาเซลเซียส สาเหตุที่ความร้อนอยู่ในระดับนี้ เพราะอยู่ใกล้กับส่วนระบายอากาศที่ติดตั้งเอาไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ดังนั้นความร้อนจะค่อนข้างสูงเป็นปกติอยู่แล้ว
และเมื่อเช็คที่ส่วนที่เป็นพัดลมระบายอากาศด้านหลังของเครื่องจะอยู่ที่ 70 องศา ซึ่งส่วนนี้ถือว่าปกติ เพราะว่าเป็นส่วนที่ระบายความร้อนออกจากเครื่อง ดังนั้นความร้อนจะสูงในระดับนี้จึงไม่เป็นเรื่องแปลกนัก แต่สำหรับระบบระบายความร้อนหลังจากปิดการรีดสมรรถนะออกมาแล้ว ต้องถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว เพราะความร้อนถูกไล่ออกไปได้อย่างรวดเร็วน่าพอใจ และเสียงเมื่อใช้งานจริงนั้น ถ้าหากว่าเป็นการใช้งานปกติจะเงียบ ไม่มีเสียงรบกวนดังให้รำคาญ แต่ถ้าหากรีดประสิทธิภาพแล้ว เสียงของพัดลมระบายอากาศจะชัดเจนทีเดียว แต่สำหรับการรีดประสิทธิภาพนี้ก็คงจะไม่ได้ใช้เป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้นถือว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องที่ทำงานได้เงียบพอตัวทีเดียว
Conclusion / Award
สรุปแล้วสำหรับ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?กับ Ultrabook ที่มีความละเอียดจอในระดับ 1366 x 768 พิกเซล พร้อมติดตั้งระบบจอทัชสกรีนและระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่โดดเด่นเรื่องระบบจอสัมผัสมาให้ใช้งานร่วมกัน ?ทำให้ดูน่าใช้ขึ้นมาหลายเท่าทีเดียวหากเทียบกับ Ultrabook ทั่วๆ ไป ข้อดีของจอความละเอียดระดับ HD พร้อมระบบจอสัมผัสนั้น ที่สังเกตเห็นก็คือความสะดวกสบายเมื่อเลือกแตะสัมผัสกับโปรแกรมสักโปรแกรมหนึ่งหรือคำสั่งสักคำสั่งเช่นบล็อกเลือก Yes หรือ No นั้น เป็นตัวอย่างที่มองเห็นได้ชัดทีเดียว เพราะปกติแล้วที่เคยใช้ระดับ Full HD และขนาดจอ 13 นิ้วนั้น ทำให้ลำบากเวลาเลือกแตะสัมผัสอยู่พอสมควร ดังนั้นการเลือกความละเอียดหน้าจอระดับนี้มาให้ใช้งานทำให้การเลือกแตะสัมผัสแม่นยำขึ้นอีกมากทีเดียว
อีกทั้งระบบเสียง beats audio เองก็ไม่น้อยหน้าเครื่องอื่นๆ เช่นกัน ดังนั้นถ้าเกิดความถามว่า “ฉันจะเหมาะกับมันไหม?” ผู้เขียนขอจำกัดกลุ่มคนที่เหมาะที่สุดเอาไว้ง่ายๆ ว่า “คนที่ต้องการเครื่องที่ดีไซน์เรียบร้อยหรูหรา แข็งแรงทนทานและใช้ทำงานเป็นหลัก ไม่เล่นเกม” ถ้าบอกว่ามันกว้างเกินไปแล้ว ก็อยู่ในกลุ่มของพนักงานบริษัทที่มีอำนาจใช้สอยระดับหนึ่ง เพราะราคาของเครื่องนี้ที่ทั้งได้บอดี้อะลูมิเนียม จอสัมผัส ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ของแท้มาให้นั้น อยู่ในระดับ “คุ้มค่า” เพื่อรองรับการทำงานทั่วไป และนำเครื่องออกไปนำเสนองานนอกสถานที่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเช่นกัน หรือแม้แต่กลุ่มของผู้รับจ้างงานอิสระ (ฟรีแลนซ์) ก็เหมาะสมที่จะได้ใช้เครื่องนี้เช่นกัน เพราะระยะเวลากทำงานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานของเครื่องนี้ ทำให้เวลานำออกไปทำงานนอกสถานที่และหาที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่ไม่ได้เป็นระยะเวลานานๆ ก็ไม่ก่อปัญหาให้น่าปวดหัวเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่ทุกท่านต้องตอบตัวเองให้ได้ คือ “ชอบดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายหรือเปล่า?” ถ้าใช่ ก็ถึงเวลารับสมาชิกใหม่เข้าบ้านแล้วล่ะครับ
ข้อดี
- วัสดุหลักที่ใช้ประกอบเครื่องเป็นอะลูมิเนียมและซอฟท์ทัช ตัวเครื่องจึงแข็งแรงมาก
- จอสัมผัสที่ความละเอียดระดับ 1366 x 768 พิกเซล ทำให้เวลาทัชสกรีนทำได้อย่างแม่นยำ
- ระบบเสียงของเครื่องได้ beats audio และมี Sub Woofer ติดตั้งมาในตัว ให้เสียงที่น่าพอใจ
- ดีไซน์สวยเรียบง่าย ตามสไตล์ HP ที่ถือได้ว่ามีความเป็นเอกลักษณ์
- ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าทำได้ดี ?อีกทั้งยังมี SSD เป็นตัวช่วยทำงาน
- เป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งตัวที่รองรับการใช้งาน Windows 8 ได้เต็มรูปแบบ
ข้อสังเกต
- น้ำหนักค่อนข้างมาก เพราะเป็น Ultrabook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว
- ปุ่ม Airplane Mode, Mute เอาไว้ให้สามารถกดได้ทันทีโดยไม่ต้องกดร่วมกับปุ่ม Fn ทำให้บางครั้งเกิดการกดผิดอยู่บ้าง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ประจำปี 2012 ซึ่ง HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
HP เครื่องนี้เป็นอีกเครื่องที่เหมาะสมกับการได้รับ Best Ultrabook ไปในสายตาของผู้เขียน ด้วยการออกแบบให้เหมาะสมในการพกพาไปใช้ทำงานด้านนอก มีวัสดุในการประกอบตัวเครื่องที่ทนทานเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ที่ใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ทว่ายังมีความหรูหราอยู่กับการออกแบบที่ดูเรียบหรูควบคู่กันไปในตัว การผสานได้ลงตัวเช่นนี้จึงเหมาะสมที่จะได้รับรางวัลนี้ไปด้วย
ด้วยความที่เป็น Ultrabook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว แต่น้ำหนักของตัวเครื่องก็ยังทำออกมาได้ดีและพกพาง่าย ขนาดของเครื่องก็ไม่ใหญ่จนเทอะทะลำบากตอนนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และติดตั้งวัสดุซอฟท์ทัชเอาไว้ที่ใต้ของตัวเครื่องเพื่อเพิ่มความมั่นคงเวลายกพกพาเครื่องไปไหนต่อไหน เพราะจุดที่ปลายนิ้วสัมผัสตอนยกนำเครื่องออกไปไหนต่อไหนนั้น คือด้านใต้ของตัวเครื่อง ดังนั้นการเลือกติดตั้งวัสดุซอฟท์ทัชเอาไว้ที่ส่วนนี้ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะทำให้การจับถือมั่นคงมากขึ้น
Ultrabook ราคาเพื่อกลุ่ม Budget ด้วยราคาที่ตอนนี้ประกาศออกมาแล้วว่าอยู่ที่ 29,900 บาท รวมทั้งติดตั้งจอสัมผัสมาให้ ฮาร์ดดิสก์แบบ Hybrid ที่มีทั้ง SSD กับ HDD ธรรมดาติดตั้งมาด้วยกัน วัสดุประกอบเครื่องก็คุ้มค่า ทั้งอะลูมิเนียมและซอฟท์ทัช ทั้งที่ราคาสามารถตั้งจำหน่ายที่สามหมื่นบาทปลายๆ เกือบสี่หมื่นบาทได้ด้วยซ้ำ จึงกล่าวได้เต็มปากว่า “เป็น Ultrabook ที่ราคาถูกคุ้มค่าสูงสุดในตลาด” ได้เลย
Specification
สำหรับ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?เครื่องนี้ติดตั้งซีพียูมาให้เป็น Intel Core i5-3317U สถาปัตยกรรม Ivy Bridge โดยสัญญาณนาฬิกานั้นทำงานอยู่ที่ 1.70 GHz พร้อมกับ L3 Cache อยู่ที่ 3 MB พร้อมกับติดตั้งกราฟิกการ์ดมาเป็น Intel HD Graphic 4000 มาให้ ติดตั้งแรมมาให้ 4 GB แบบ DDR3 บัสอยู่ที่ 1600 MHz ส่วนฮาร์ดดิสก์ติดตั้งมาให้ 500 GB หมุนที่ 5400 RPM พร้อมกับ SSD อีก 32 GB ติดตั้งมาให้แบบ mSATA ?สำหรับการเชื่อมต่อนั้น มี USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง, USB 2.0 จำนวน 1 ช่อง, HDMI, Wifi, LAN, Bluetooth
ในส่วนของหน้าจอเป็น LED ที่มีความบางเฉียบ และยังรองรับการทัชสกรีนได้เต็มรูปแบบ โดยให้ความละเอียดอยู่ที่ 1366 x 768 พิกเซล เพื่อตอบสนองการใช้งานบน Windows 8 ตัวลิขสิทธิ์ที่ติดตั้งมาให้ พร้อมติดตั้งกล้อง Webcam มาให้หนึ่งตัวที่ด้านบนของตัวเครื่อง ส่วนของลำโพงติดตั้งระบบเสียงจาก beats audio มาให้พร้อมกับ Subwoofer มาให้ด้วยกันสองตัวที่ด้านใต้ของตัวเครื่อง เรียกได้ว่าเป็น Ultrabook อีกหนึ่งตัวที่ครบเครื่องทีเดียว
กดดูสเปกเต็มๆ ได้ที่นี่?<<<
Hardware / Design
สำหรับ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?เครื่องนี้นั้น ดูแล้วจะคล้ายกับตัว HP ENVY Spectre XT ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว?ซึ่งมีขนาดจออยู่ที่ 14 นิ้วที่รองรับการทัชสกรีน?(แต่?HP ENVY Spectre XT มีขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ที่ทัชสกรีนไม่ได้)?พร้อมกับการออกแบบให้ออกมาเป็นสีทูโทนที่ดูแล้วหรูหราสวยงาม ?การดีไซน์ตัวเครื่องเน้นความโค้งมนที่ขอบเพื่อความสวยงามและยังส่งผลต่อการออกแบบคีย์บอร์ดด้วย โดยขอบของคีย์บอร์ดก็จะโค้งตามเพื่อความสวยงาม ส่วนของทัชแพดออกแบบให้แยกออกจากตัวเครื่องเป็นอีกชิ้นหนึ่งอยู่ที่ส่วนล่างของตัวเครื่องและมีขนาดใหญ่พอสมควรเพื่อรองรับการใช้มัลติทัชในการใช้งาน Windows 8 อีกด้วย
โดยใช้วัสดุอะลูมิเนียมในการสร้างเป็นโครงสร้างหลักพร้อมกับใช้วัสดุซอฟท์ทัชที่ด้านใต้ของตัวเครื่องให้ความนุ่มและทำให้จับถนัดมือด้วย โดยสีด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นสีขาวดำ และด้านหลังของตัวจอก็ใช้อะลูมิเนียมสีดำพร้อมกับติดโลโก้ HP สีเงินเอาไว้ที่มุมด้านล่างซ้ายมือหากมองตรงเข้าไปจากด้านหน้าของเครื่อง รวมไปถึงเมื่อพับจอลงไปเราก็จะเห็นถึงชื่อเต็มของ HP นั่นก็คือ Hewlett Packard อยู่บริเวณขอบตัวเครื่องด้านหลัง?สำหรับฐานจอจะทำออกมาให้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษเพื่อรองรับน้ำหนักของจอที่จะกดทับลงมาเพื่อความแข็งแรงและไม่เสียหายง่ายๆ ในส่วนของแผงสีเงินที่วางแถบเอาไว้เหนือคีย์บอร์ดจะเป็นส่วนดีไซน์ที่ฝังปุ่มเปิดปิดตัวเครื่องเอาไว้พร้อมกับสัญลักษณ์ beats audio สีแดงเอาไว้ที่ด้านขวามือ?
Keyboard / Touchpad
สำหรับคีย์บอร์ดของเครื่องนี้ ทาง HP ออกแบบมาให้เป็นแบบ?Full-size island-style โดยสังเกตจะเห็นว่าเป็นปุ่มแป้นจะแยกออกจากกันในรูปแบบ Chiclet Keyboard?โดยแป้นคีย์บอร์ดจะเป็นแบบธรรมดา ไม่ติดตั้งระบบ Backlit มาให้ และดีไซน์จะออกให้ขอบที่โค้งมนเพื่อรับกับการออกแบบตัวเครื่องที่โค้งมนมาก่อนหน้านี้แล้ว และทำให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยปุ่มต่างๆ จะมีขนาดปกติของมัน แต่จะว่าไปก็มีบางปุ่มนั้นจะถูกทำให้มีความพิเศษมากขึ้น อย่างเช่น Directional Key ปุ่มขึ้นและลงที่ถูกตัดแบ่งพื้นที่กันคนละครึ่งหนึ่งให้อยู่ร่วมกัน และปุ่มซ้ายและขวาที่มีขนาดใหญ่ปกติ เพื่อให้เข้ากับตัวคีย์บอร์ดที่ทำออกมาโดยมีพื้นที่จำกัดอยู่ และปุ่ม F11 ที่ติดตั้งปุ่ม Mute เพื่อตัดเสียงออกไป ส่วนปุ่ม F12 จะเป็นปุ่มเปิดปิดระบบ Airplane Mode ซึ่งทั้งสองปุ่มนี้จะติดตั้งไฟแสดงสถานะเอาไว้ปุ่มละหนึ่งดวง ถ้าหากว่ากดแล้ว ไฟจากสีฟ้าอ่อนจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แสดงการทำงานของปุ่มนี้ ซึ่งไฟสีฟ้านี้ก็จะมีอยู่ที่ Caps Lock อีกหนึ่งจุดด้วย ทำให้รู้ว่าฟังก์ชั่นใดกำลังถูกสั่งให้ใช้งานอยู่หรือตัดการทำงานอยู่
สำหรับทัชแพดมีขนาดใหญ่พอสมควร และออกแบบให้แยกออกมาเป็นส่วนหนึ่งเอกเทศที่ด้านล่างของตัวเครื่องโดยรองรับการทำ Gesture Control และตอบสนองต่อนิ้วได้ค่อนข้างไว และขีดเส้นเอาไว้หนึ่งเส้นเพื่อแบ่งส่วนให้เห็นชัดว่าปุ่ม L/R Click จะอยู่ตรงด้านล่างนี้ และล้อมกรอบด้วยอะลูมิเนียมสีเงินให้ความหรูหรามากขึ้นอีก และสำหรับการปิดทัชแพดก็เหมือนกับ HP ENVY Spectre XT ที่เคยกล่าวไปก่อนหน้า คือแตะสองครั้งที่มุมบนซ้ายมือที่ปุ่มสี่เหลี่ยมเพื่อให้หยุดการทำงาน โดยไฟสีส้มจะติดขึ้นมาข้างๆ แสดงว่าแป้นทัชแพดหยุดการทำงานไปเรียบร้อยแล้ว
Screen / Speaker
ส่วนของจอแสดงผลเป็นเป็นจอแบบ LED แบบมีกระจกกันเอาไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อให้หน้าจอนั้นมีลักษณะไร้ขอบ เหมาะสมกับการทัชสกรีน โดยให้ความละเอียดอยู่ที่ 1366 x 768 พิกเซล ให้ความละเอียดระดับ HD เพื่ออรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ได้ดี ในส่วนด้านบนของจอจะติดตั้งกล้อง HD Webcam มาให้พร้อมกับ Ambient Light Sensor เอาไว้ ส่วนประสบการณ์ใช้งานด้านการสัมผัสของจอนั้น ทำออกมาได้ดี และทัชติดมือทำงานไว ทำงานเข้ากับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้ดีทีเดียว ในขณะที่การเกิดรอยที่หน้าจอของเครื่องนั้นอยู่ในระดับทั่วไป ซึ่งหากว่าใช้งานแล้วต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นระยะๆ แต่อัตราการเกิดจะค่อนข้างน้อย ไม่สกปรกง่ายนัก แต่ถ้าหากไม่หมั่นทำความสะอาด จะส่งผลต่อการแตะสัมผัสได้ สำหรับการแสดงคุณภาพของสีสันที่ HP ENVY TouchSmart เครื่องนี้ทำออกมาได้นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะสีสันออกมาตรงครบ แม้จะไม่ถึงกับพาเนลชั้นสูงอย่าง IPS ที่ให้สีสันคมชัดเหมือนจริงมากกว่าก็ตามที
สำหรับเรื่องระบบเสียงโดยรวมนั้นได้เป็นลำโพงสองตัวขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยติดตั้งเอาไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง และมี Subwoofer ติดตั้งมาให้ด้วย เพื่อคุณภาพเสียงที่ดี และมีระบบปรับระดับเสียง (Equalizer) ของ beats ติดตั้งมาให้เป็นโปรแกรมในตัวเครื่องด้วย ทำให้การแสดงเสียงนั้นทำออกมาได้ดีระดับที่น่าพอใจ น้ำเสียงออกมาเพราะและมีน้ำหนักดีทีเดียว ซึ่งทางเว็บไซต์ต่างประเทศก็ถึงกับกล่าวชมว่า “Multimedia Machine” ซึ่งการันตีได้ระดับหนึ่งว่าคุณภาพเสียงที่ได้นั้นดีในระดับที่น่าพอใจทีเดียว ซึ่งเมื่อทดลองฟังจริงแล้วก็สมกับที่รีวิวเอาไว้ เพราะน้ำเสียงออกมาได้ดีน่าพอใจอีกเครื่องหนึ่งเช่นกัน
Connector / Thin And Weight
ขนาดของตัวเครื่องนับว่าไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับนิตยสารสักเล่มหนึ่งแล้ว ขนาดไล่เลี่ยกัน แต่ด้านกว้างจะมากกว่าเล็กน้อย ส่วนด้านยาวก็จะมากกว่าเล็กน้อย ซึ่งมิติของตัวเครื่องจะอยู่ที่?342 x 237 x 23 มิลลิเมตรซึ่งมิตินั้นจะอยู่ไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊คที่เป็นแบบบางเบาเครื่องอื่นๆ ซึ่งเทียบกับกล่อง DVD หนึ่งกล่องนั้นจะหนากว่าเพียงแค่ส่วนของจอที่กินมาบ้างเล็กน้อย ทำให้เครื่องดูหนา แต่ทำให้การถ่วงสมดุลย์ออกมาได้ดีน่าพอใจ สำหรับสายอะแดปเตอร์นั้นจะยาวในส่วนสายของแท่นเข้าสู่ตัวเครื่องเอง แต่ในส่วนที่ออกจากแท่นไปเชื่อมต่อกับไฟบ้านนั้นจะสั้นหน่อย ซึ่งถ้าเชื่อมต่ออาจจะต้องเพิ่มปลั๊กต่อสายอีกชิ้นหนึ่งเพื่อให้สายปลั๊กไม่ต้องลากยาวจนดึงรั้งมาก เพื่อถนอมอายุการใช้งานเอาไว้
ส่วนของน้ำหนักของตัวเครื่องนั้น ด้วยวัสดุที่เป็นอะลูมิเนียมกับซอฟท์ทัชเป็นโครงสร้างหลักประกอบตัวเครื่อง ทำให้น้ำหนักอาจจะมากหน่อย โดยน้ำหนักของตัวเครื่องที่ไม่รวมสายอะแดปเตอร์จะอยู่ที่ 2 กิโลกรัม และถ้ารวมสายแล้วจะอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม ทว่าน้ำหนักระดับนี้ได้วัสดุที่ให้ความทนทานสูงมาประกอบสร้างเครื่องอย่างนี้ ต้องนับว่าเป็นความหนักที่คุ้มค่าทีเดียว ไหนจะได้ความหรูหราก็ยังได้ความแข็งแรงพ่วงมาเป็นข้อได้เปรียบเพิ่มอีกส่วนด้วย จึงนับว่าคุ้มค่าที่จะแบกไปมา อีกทั้งที่สำคัญยังอยู่ในเกณฑ์ที่เป็น Ultrabook ขนาดหน้าจอ 14 ?นิ้วได้อยู่
สำหรับรอบๆ ตัวเครื่องของ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?ก็จะประกอบไปด้วย?LAN, HDMI, USB 3.0 จำนวน 2 ช่อง, Multi-Card Reader, ไฟแสดงสถานะการทำงานและสถานะการเปิดเครื่องในส่วนของทางด้านซ้าย ส่วนของทางด้านขวามือจะติดตั้ง Kensington Lock, ช่องเชื่อมต่อไมค์และช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร สุดท้ายก็คือช่องเสียบอะแดปเตอร์เอาไว้?
Performance / Software
?สำหรับสเปกของเครื่องนี้ ติดตั้งซีพียูมาให้เป็น Intel Core i5-3317U ทำงานที่ความเร็ว 1.70 GHz L3 Cache อยู่ที่ 3 MB เป็นซีพียูแบบ 2 Cores 4 Threads และรหัสที่ติดตามมาเป็นรหัส U หรือ Ultra Low Voltage ใช้พลังงานต่ำ ซึ่งใช้พลังงงานเพียง 17W เท่านั้น?โดยซีพียูรุ่นประหยัดพลังงานพิเศษมีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
- อัตราการใช้พลังงานต่ำสุดอยู่ที่เพียง 17W เท่านั้น ประหยัดพลังงานกว่าซีพียูทั่วไปเท่าตัว
- สามารถใช้งานพื้นฐานได้ยาวนานราวๆ 6-7 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ด้วย)
- ประสิทธิภาพโดยรวมใช้งานได้ไม่ต่างการซีพียูโน๊ตบุ๊คมาตรฐานทั่วไป
- นิยมนำไปใช้บน Ultrabook หรือแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ
- อีกทั้งประสิทธิภาพที่ได้ยังเหนือกว่าซีพียูแบบ ARM?
หากใครสนใจเพิ่มเติมก็?สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีพียู Intel รุ่นประหยัดพลังงานได้ที่นี่ครับ
นอกจากนี้กราฟิกการ์ดที่ติดตัวมาด้วยก็จะเป็น Intel HD Graphic 4000 โดยรองรับการใช้ทำงานแบบทั่วไปในชีวิตประจำวันและเล่นเกม 3 มิติ ได้เล็กๆ น้อยๆ
สำหรับฮาร์ดดิสก์ที่ติดตั้งมาให้จะมี SSD 32GB ที่ไว้ทำหน้าที่คอยส่งผ่านข้อมูลระบบงานที่เราใช้บ่อยๆ และฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้ว ความจุ 500GB อีกหนึ่งลูก ซึ่งไว้คอยทำหน้าที่ในการสำรองข้อมูลต่างๆ เป็นหลัก แน่นอนว่าโดยรวมแล้วให้ความรวดเร็วในการทำงานค่อนข้างดี สำหรับความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 237 MB/sec ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 79.8 MB/sec ซึ่งอยู่ในระดับความเร็วระดับทั่วไป แต่เมื่อใช้งานจริงจะพบว่า HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?การทำงานโดยรวมจะค่อนข้างมีความลื่นไหลเทียบเท่าได้กับโน๊ตบุ๊คที่ใช้ SSD เพียวๆ ทีเดียว
?คะแนนของการทำ CINEBENCH ในส่วนของ OpenGL อยู่ที่ 12.74 Fps และได้คะแนน CPU อยู่ที่ 2.38 Fps ซึ่งเป็นคะแนนระดับทั่วไปสำหรับ Ultrabook เครื่องนี้
?คะแนนของ Furmark อยู่ที่ 260 คะแนน
?สำหรับการทำงานกับโปรแกรม Hyper PI นั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งทำความเร็วคำนวน 19 ลูปจบภายใน 30 วินาทีเท่านั้น อยู่ในระดับที่เร็วน่าพอใจทีเดียว
?และคะแนนของการทำ Street Fighter IV Benchmark อยู่ที่ 41 Fps ถือว่าอยู่ในระดับแค่พอเล่นได้เท่านั้น ถ้าหากว่าต้องการเล่นเป็นบางครั้งบางคราว อาจจะต้องปรับค่าความละเอียดลงบ้างเล็กน้อย เพื่อให้การประมวลผลทำได้ดีกว่านี้
และหลังจากการรัน Resident Evil 5 Benchmark ออกมาแล้ว ได้ที่ระดับ 28.4 Fps เท่านั้น ถือว่าสรุปได้อย่างง่ายดายว่าเครื่องนี้ไม่เหมาะจะเอามาเล่นเกมหนักๆ แต่ถ้าเป็น Casual Game ทั่วไป (เกมใน Facebook หรือเกมที่ไม่พึ่งพากราฟิกการ์ดหนักๆ) ก็เล่นได้ แต่สำหรับเกมแนวพึ่งพากราฟิกการ์ดจะไม่แนะนำนัก
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของตัวเครื่องนี้จะเป็นแบบฝังเอาไว้ในตัวเครื่อง ไม่สามารถถอดออกมาได้โดยเป็นแบบฝังเอาไว้ข้างใน โดยเป็นแบตเตอรี่แบบ Li-ion แบบ 4-cell ติดตั้งเอาไว้ ให้อายุการทำงานที่ค่อนข้างยาวนานทีเดียว เมื่อทดสอบใช้งานจริงดูแล้ว การเปิดเครื่องสแตนด์บายเอาไว้จะอยู่ต่อเนื่องได้ราว 5 ชั่วโมง 15 นาที ในระดับทั่วไป สำหรับการทำงานเอกสารแบบต่อเนื่องจะอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 30 นาที และถ้าหากดู Youtube จะอยู่ราว 3 ชั่วโมง และสำหรับการทำงานควบคู่สลับกับการดู Youtube จะอยู่ได้ราวๆ 2 ชั่วโมง 45 นาที ในการทำงานต่อเนื่อง โดยเปิดความสว่างหน้าจอเอาไว้ครึ่งเดียว เพราะแค่นี้ก็เพียงพอที่จะมองเห็นแล้ว
สำหรับความร้อนของตัวเครื่องโดยปกติอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส ถือว่าความร้อนในระดับนี้ไม่เป็นปัญหาเมื่อใช้งานต่อเนื่องทั้งวัน และทางผู้เขียนก็ไม่ลืมรีดประสิทธิภาพของเครื่องออกมาให้สูงที่สุดด้วยเช่นกัน และผลลัพธ์นั้นก็ออกมาได้น่าพอใจ เพราะระบบระบายอากาศและการออกแบบการจัดเรียงอากาศในตัวเครื่องทำออกมาได้ค่อนข้างดี เพราะเมื่อทดลองใช้เครื่องตรวจจับอุณหภูมิเช็คที่ส่วนแป้นรองข้อมือพิมพ์แล้ว จาก 35 องศาเซลเซียสเพิ่มจาก 35 เป็น 39 องศา ซึ่งไม่ถือว่าร้อนนัก และไล่ขึ้นมาที่ส่วนคีย์บอร์ดด้านล่างจะอยู่ที่ 47 องศาเซลเซียส ส่วนบนจะอยู่ที่ 56 องศาเซลเซียส สาเหตุที่ความร้อนอยู่ในระดับนี้ เพราะอยู่ใกล้กับส่วนระบายอากาศที่ติดตั้งเอาไว้ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ดังนั้นความร้อนจะค่อนข้างสูงเป็นปกติอยู่แล้ว
และเมื่อเช็คที่ส่วนที่เป็นพัดลมระบายอากาศด้านหลังของเครื่องจะอยู่ที่ 70 องศา ซึ่งส่วนนี้ถือว่าปกติ เพราะว่าเป็นส่วนที่ระบายความร้อนออกจากเครื่อง ดังนั้นความร้อนจะสูงในระดับนี้จึงไม่เป็นเรื่องแปลกนัก แต่สำหรับระบบระบายความร้อนหลังจากปิดการรีดสมรรถนะออกมาแล้ว ต้องถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว เพราะความร้อนถูกไล่ออกไปได้อย่างรวดเร็วน่าพอใจ และเสียงเมื่อใช้งานจริงนั้น ถ้าหากว่าเป็นการใช้งานปกติจะเงียบ ไม่มีเสียงรบกวนดังให้รำคาญ แต่ถ้าหากรีดประสิทธิภาพแล้ว เสียงของพัดลมระบายอากาศจะชัดเจนทีเดียว แต่สำหรับการรีดประสิทธิภาพนี้ก็คงจะไม่ได้ใช้เป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้นถือว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องที่ทำงานได้เงียบพอตัวทีเดียว
Conclusion / Award
สรุปแล้วสำหรับ HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?กับ Ultrabook ที่มีความละเอียดจอในระดับ 1366 x 768 พิกเซล พร้อมติดตั้งระบบจอทัชสกรีนและระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่โดดเด่นเรื่องระบบจอสัมผัสมาให้ใช้งานร่วมกัน ?ทำให้ดูน่าใช้ขึ้นมาหลายเท่าทีเดียวหากเทียบกับ Ultrabook ทั่วๆ ไป ข้อดีของจอความละเอียดระดับ HD พร้อมระบบจอสัมผัสนั้น ที่สังเกตเห็นก็คือความสะดวกสบายเมื่อเลือกแตะสัมผัสกับโปรแกรมสักโปรแกรมหนึ่งหรือคำสั่งสักคำสั่งเช่นบล็อกเลือก Yes หรือ No นั้น เป็นตัวอย่างที่มองเห็นได้ชัดทีเดียว เพราะปกติแล้วที่เคยใช้ระดับ Full HD และขนาดจอ 13 นิ้วนั้น ทำให้ลำบากเวลาเลือกแตะสัมผัสอยู่พอสมควร ดังนั้นการเลือกความละเอียดหน้าจอระดับนี้มาให้ใช้งานทำให้การเลือกแตะสัมผัสแม่นยำขึ้นอีกมากทีเดียว
อีกทั้งระบบเสียง beats audio เองก็ไม่น้อยหน้าเครื่องอื่นๆ เช่นกัน ดังนั้นถ้าเกิดความถามว่า “ฉันจะเหมาะกับมันไหม?” ผู้เขียนขอจำกัดกลุ่มคนที่เหมาะที่สุดเอาไว้ง่ายๆ ว่า “คนที่ต้องการเครื่องที่ดีไซน์เรียบร้อยหรูหรา แข็งแรงทนทานและใช้ทำงานเป็นหลัก ไม่เล่นเกม” ถ้าบอกว่ามันกว้างเกินไปแล้ว ก็อยู่ในกลุ่มของพนักงานบริษัทที่มีอำนาจใช้สอยระดับหนึ่ง เพราะราคาของเครื่องนี้ที่ทั้งได้บอดี้อะลูมิเนียม จอสัมผัส ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ของแท้มาให้นั้น อยู่ในระดับ “คุ้มค่า” เพื่อรองรับการทำงานทั่วไป และนำเครื่องออกไปนำเสนองานนอกสถานที่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากเช่นกัน หรือแม้แต่กลุ่มของผู้รับจ้างงานอิสระ (ฟรีแลนซ์) ก็เหมาะสมที่จะได้ใช้เครื่องนี้เช่นกัน เพราะระยะเวลากทำงานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานของเครื่องนี้ ทำให้เวลานำออกไปทำงานนอกสถานที่และหาที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่ไม่ได้เป็นระยะเวลานานๆ ก็ไม่ก่อปัญหาให้น่าปวดหัวเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่ทุกท่านต้องตอบตัวเองให้ได้ คือ “ชอบดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายหรือเปล่า?” ถ้าใช่ ก็ถึงเวลารับสมาชิกใหม่เข้าบ้านแล้วล่ะครับ
ข้อดี
- วัสดุหลักที่ใช้ประกอบเครื่องเป็นอะลูมิเนียมและซอฟท์ทัช ตัวเครื่องจึงแข็งแรงมาก
- จอสัมผัสที่ความละเอียดระดับ 1366 x 768 พิกเซล ทำให้เวลาทัชสกรีนทำได้อย่างแม่นยำ
- ระบบเสียงของเครื่องได้ beats audio และมี Sub Woofer ติดตั้งมาในตัว ให้เสียงที่น่าพอใจ
- ดีไซน์สวยเรียบง่าย ตามสไตล์ HP ที่ถือได้ว่ามีความเป็นเอกลักษณ์
- ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าทำได้ดี ?อีกทั้งยังมี SSD เป็นตัวช่วยทำงาน
- เป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งตัวที่รองรับการใช้งาน Windows 8 ได้เต็มรูปแบบ
ข้อสังเกต
- น้ำหนักค่อนข้างมาก เพราะเป็น Ultrabook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว
- ปุ่ม Airplane Mode, Mute เอาไว้ให้สามารถกดได้ทันทีโดยไม่ต้องกดร่วมกับปุ่ม Fn ทำให้บางครั้งเกิดการกดผิดอยู่บ้าง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ประจำปี 2012 ซึ่ง HP ENVY TouchSmart Ultrabook 4?ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
HP เครื่องนี้เป็นอีกเครื่องที่เหมาะสมกับการได้รับ Best Ultrabook ไปในสายตาของผู้เขียน ด้วยการออกแบบให้เหมาะสมในการพกพาไปใช้ทำงานด้านนอก มีวัสดุในการประกอบตัวเครื่องที่ทนทานเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ที่ใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ทว่ายังมีความหรูหราอยู่กับการออกแบบที่ดูเรียบหรูควบคู่กันไปในตัว การผสานได้ลงตัวเช่นนี้จึงเหมาะสมที่จะได้รับรางวัลนี้ไปด้วย
ด้วยความที่เป็น Ultrabook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว แต่น้ำหนักของตัวเครื่องก็ยังทำออกมาได้ดีและพกพาง่าย ขนาดของเครื่องก็ไม่ใหญ่จนเทอะทะลำบากตอนนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และติดตั้งวัสดุซอฟท์ทัชเอาไว้ที่ใต้ของตัวเครื่องเพื่อเพิ่มความมั่นคงเวลายกพกพาเครื่องไปไหนต่อไหน เพราะจุดที่ปลายนิ้วสัมผัสตอนยกนำเครื่องออกไปไหนต่อไหนนั้น คือด้านใต้ของตัวเครื่อง ดังนั้นการเลือกติดตั้งวัสดุซอฟท์ทัชเอาไว้ที่ส่วนนี้ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะทำให้การจับถือมั่นคงมากขึ้น
Ultrabook ราคาเพื่อกลุ่ม Budget ด้วยราคาที่ตอนนี้ประกาศออกมาแล้วว่าอยู่ที่ 29,900 บาท รวมทั้งติดตั้งจอสัมผัสมาให้ ฮาร์ดดิสก์แบบ Hybrid ที่มีทั้ง SSD กับ HDD ธรรมดาติดตั้งมาด้วยกัน วัสดุประกอบเครื่องก็คุ้มค่า ทั้งอะลูมิเนียมและซอฟท์ทัช ทั้งที่ราคาสามารถตั้งจำหน่ายที่สามหมื่นบาทปลายๆ เกือบสี่หมื่นบาทได้ด้วยซ้ำ จึงกล่าวได้เต็มปากว่า “เป็น Ultrabook ที่ราคาถูกคุ้มค่าสูงสุดในตลาด” ได้เลย