กระเป๋าโน๊ตบุ๊คนั้นถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริมชิ้นแรกๆ สำหรับคนที่ใช้งานโน๊ตบุ๊คที่จำเป็นต้องหาซื้อมาใช้กัน แน่นอนว่าถ้าหากใครสนใจในเรื่องของกระเป๋าโน๊ตบุ๊คอยู่บ้างจะพอทราบว่าจริงๆ แล้วกระเป๋าโน๊ตบุ๊คที่ทางร้านหรือตัวแทนจำหน่ายแถมมาให้กับเราตอนซื้อนั้น มักจะเป็นกระเป๋าโน๊ตบุ๊คที่มีการบุกันกระแทกไม่แข็งแรงมากนักหรือมีช่องใส่อุปกรณ์อาจจะไม่เพียงพอกับการใช้งานของเรา ดังนั้นการเลือกซื้อกระเป๋าโน๊ตบุ๊คใบที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรานั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เพราะนอกเหนือที่จะตอบโจทย์การใช้งานได้แล้วนั้น ตัวกระเป๋าเองยังจะทำหน้าที่ปกป้องโน๊ตบุ๊คหรืออุปกรณ์อื่นๆ ภายในกระเป๋า จากแรงกระแทกต่างๆ หรือแม้แต่สภาพอากาศที่ชื้นหรือฝนตกได้อีกด้วย ซึ่งส่งผลให้โน๊ตบุ๊คหรือสิ่งของภายในนั้นไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
โดยในตอนนี้ทางทีมงานได้มีโอกาสรีวิวกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค (หรือจะเรียกว่าเป็นกระเป๋ากล้อง DSLR ก็ได้) แบรนด์ Incase ในรุ่น DSLR Pro Sling Pack ที่มีความสามารถนอกเหนือจากที่ใส่โน๊ตบุ๊ค 15 นิ้วได้แล้ว (13, 14 นิ้วก็ใส่ได้เช่นกัน) ยังสามารถใส่อุปกรณ์อื่นๆ ได้มากมาย รวมไปถึงชุดกล้อง DSLR ที่เรียกได้ว่าเป็นกล้องที่นิยมใช้งานกันมากในปัจจุบัน ที่มีข้อจำกัดในเรื่องขนาดที่ใหญ่ แน่นอนว่าทำให้กระเป๋าที่ใส่นั้น ก็ต้องมีขนาดที่ใหญ่ตามขึ้นมาด้วย (แบรนด์ Incase หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักกันมากนัก เพราะส่วนมากเค้าจะทำสินค้าที่เกี่ยว Apple เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเคสของ iPad, iPhone, MacBook Pro หรือกระเป๋าใส่ MacBook หลากหลายรุ่น หลากหลายขนาด)
สำหรับกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค Incase DSLR Pro Sling Pack จัดได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระเป๋าใน Collection Camera ของ Incase ที่ประกอบด้วยหลายๆ รุ่นด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทีมงาน ได้เคย รีวิว Incase DSLR Pro Pack ที่ในส่วนของวัสดุและพื้นผิวนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับกระเป๋าใบนี้เช่นกันแต่มีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามเพื่อทำความรู้กันให้ดียิ่งขึ้นตอนนี้ขอเชิญทุกท่านดูวีดีโอกระเป๋า Incase DSLR Pro Sling Pack กันก่อนเลยครับ
จะเห็นได้เลยว่า Incase DSLR Pro Sling Pack เป็นกระเป๋าโน๊ตบุ๊คที่สามารถบรรจุของได้มากมาย ที่สำคัญก็คือใส่กล้อง DSLR พร้อมเลนส์ได้อย่างจุใจ โดยตัวกระเป๋าเองมีลักษณะเป็นกระเป๋าแบบสะพายไหล่เดียวคาดเฉียง ที่มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกระเป๋ารุ่นอื่นๆ ตามท้องตลาดเลย โดยคุณสมบัติหลักๆ ก็จะมีดังต่อไปนี้
- เป็นกระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อใส่โน๊ตบุ๊คและอุปกรณ์กล้อง DSLR พร้อมเลนส์โดยเฉพาะ
- มีขนาดใหญ่ โครงสร้างแข็งแรงพร้อมใส่สิ่งของอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากมาย
- ช่องหลักที่ใช้ใส่อุปกรณ์กล้องและเลนส์ เปิดจากทางด้านบนด้วยซิป ที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน
- รองรับการใส่โน๊ตบุ๊คได้สูงสุดคือ โน๊ตบุ๊คขนาด 15 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง
- มีช่องใส่ของตามตำแหน่งต่างๆ ที่สามารถเปิดใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
- มีช่องไว้ใส่สมาร์ทโฟนหรือกล้องดิจิตอลคอมแพ็ค
- มีช่องด้านหลังไว้ใส่โน๊ตบุ๊คและมีการบุผ้าอย่างดีเอาไว้
- สายกระเป๋าเป็นแบบเส้นเดียวและแผ่นรองด้านหลังได้รับการออกแบบเป็นอย่างดี
- สามารถติดตั้งขาตั้งกล้องด้านข้างกระเป๋าได้
- ที่สำคัญหาสามารถหยิบกล้องออกจากกระเป๋าได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องวางกระเป๋าก่อน
- มีผ้ากันละอองติดตั้งมาในตัว พร้อมถอดออกมาทำความสะอาดได้
คราวนี้เราจะพามาชม Incase DSLR Pro Sling Pack โดยรวมของตัวกระเป๋ากันก่อน ซึ่งดูแล้วมีขนาดที่ใหญ่พอสมควร สำหรับสีสันจะมีเพียงสีเดียวนะครับ คือสีเทาที่มีลวดลายแบบนี้ ในส่วนของการตัดเย็บก็เรียบร้อยดี และเนื้อผ้าก็เป็นแบบคุณภาพสูงจับแล้วให้ความรู้สึกที่ดี สามารถกันฝนหรือละอองน้ำได้นิดหน่อย โดยส่วนตัวแล้วสีสันลวดลายแบบนี้ถือว่าถูกใจมากๆ เลย ซึ่งจริงๆ แล้ว Collection Camera ของ Incase ก็จะมาเป็นผ้าและลายแบบนี้ทุกๆ ใบครับ
ความหนาของตัวกระเป๋าทุกมิติมีความหนาที่พอสมควรทีเดียว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเราสามารถบรรจุอุปกรณ์ต่างๆ ลงกระเป๋าในนี้ได้อย่างมากมาย รวมไปถึงได้มีการติดตั้งโครงภายในไว้อย่างแข็งแรงและบุผ้ารองภายในอีกชั้นเพื่อป้องกันจากแรงกระแทกที่อาจจะเกิดขึ้นแบบไม่ตั้งใจได้ จากภาพนี้ด้านข้างของกระเป๋าก็จะมีสายรัด ไว้ใช้สำหรับรัดขาตั้งกล้อง เผื่อว่างานไหนที่เราจำเป็นต้องใช้ขอตั้งกล้องก็สามารถที่จะนำติดกระเป๋าไปด้วยกันได้เลย (ถ้าแบกไหวนะ)
โดยการดีไซน์นั้นจะเป็นแบบสะพายไหล่เดียวคาดเฉียง เพื่อการใช้งานที่คล่องตัวเวลาหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพ ที่ไม่จำเป็นต้องวางกระเป๋าก่อนเลย ที่นอกจากนี้แล้ว ด้านบนและด้านข้างของตัวกระเป๋ายังมีหูหิ้วทำให้เราสามารถหยิบจับได้อย่างสะดวก ซึ่งทดลองถือด้วยหูหิ้วแล้วก็ดูแข็งแรงดี แต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้ถือกระเป๋าเป็นหลัก เพราะตัวหูหิ้วไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานหิ้วแบบนั้นเป็นหลัก
จะเห็นได้ว่าในส่วนของงานประกอบซิปประเป๋าหรือรอยต่อต่างๆ นั้นทาง Incase เก็บงานได้เป็นอย่างดีเรียบร้อย ในส่วนของซิปก็มีความแข็งแรงและขนาดใหญ่ ทำให้ใช้งานได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวลว่าซิปจะเสียง่ายๆ รวมไปถึงยังมีในส่วนของตัวกันเพื่อไม่ให้ซิปไปโดนอุปกรณ์ต่างๆ ขนาดปิดกระเป๋าอีกด้วย เพื่อป้องกันรอยขีดขวนหากอุปกรณ์ไปโดนซิป อีกทั้งยังช่วยกันละอองน้ำไม่ให้สามารถซึมผ่านเข้ามาทางซิปได้ง่ายๆ
ถัดมาด้านข้าง (หรือด้านบนเมื่อจับวางกระเป๋าเป็นแนวตั้ง) ก็จะเป็นช่องใส่ของขนาดที่ไม่ใหญ่โตอะไรมา เหมาะสำหรับใส่ของเล็กๆ น้อยๆ อย่าง แฟลชไดร์ฟ หรือ การ์ดรีดเดอร์เท่านั้นครับ
ต่อมาเรามาดูช่องที่ออกแบบมาไว้ใส่โน๊ตบุ๊คโดยเฉพาะกันบ้าง โดยเนื้อของผ้าด้านในช่องนี้ก็จะมีลักษณะเป็นผ้าเนื้อนุ่มๆ ที่ซับแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง พร้อมทั้งมีพื้นผิวที่ลื่นเล็กน้อย ซึ่งนั่นทำให้เราสามารถดึงโน๊ตบุ๊ค มาใข้งานได้อย่างสะดวกไม่ติดขัด โดยตามภาพนั้นเราได้ทดลองใส่ MacBook Pro Retina 15 ก็เห็นได้ว่ารองรับการใช้งานได้อย่างดี ไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไปนัก ส่งผลให้ไม่มีปัญหาใดๆ ในการใช้งานครับ (หรือถ้าใครจะใส่โน๊ตบุ๊คที่มีขนาดเล็กกว่านี้ รวมไปถึงแท็บเล็ตอย่าง iPad ก็สามารถทำได้เช่นกัน)
ช่องด้านล่างขนาดใหญ่ของตัวกระเป๋า Incase DSLR Pro Sling Pack ยังสามารถใส่ของได้มากมายโดยแบ่งช่องเป็นสัดส่วน ที่แล้วได้มีการออกแบบมาเพื่อใส่เลนส์ หรืออุุปกรณ์อื่นๆ อย่างแฟลชโดยเฉพาะ (ตามภาพจะเป็นเลนส์ Canon EF 17-40 F4 L USM และแฟลช Canon Speedlite 580EX II) แต่เราเองนั้นก็สามารถใส่ของอะไรเข้าไปตามลักษณะการใช้งานเราได้อย่างไม่ติดขัดอะไร โดยตามภาพตัวอย่างทางผู้เขียนได้มีการใส่ ฮาร์ดดดิสก์ภายนอก และอแดปเตอร์ชาร์จไฟเข้าไป นอกจากนี้บริเวณฝาด้านในยังมีช่องเล็กๆ จำนวน 2 ช่อง ไว้ใส่อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ อาทิ การ์ดหน่วยความจำ หรือสายลั่นชัตเตอร์ได้
สำหรับช่องหลักที่ไว้ใช้เก็บตัวกล้องที่อยู่ด้านบนของตัวกระเป๋าเมื่อเปิดออกมาแล้ว ก็จะพบกับช่องใส่กล้องและเลนส์ ซึ่งช่องต่างๆ นั้น ที่เราสามารถจัดเองได้ตามความเหมาะสมลักษณะของอุปกรณ์กล้องและเลนส์ที่เรามีอยู่ แต่สำหรับการใช้งานส่วนตัวนั้นเลือกที่จะจัดเป็นช่องขนาดใหญ่ไว้ใส่กล้องที่ติดเลนส์ขนาดใหญ่ไว้ได้เลย แน่นอนว่าในส่วนของฝากระเป๋าส่วนนี้นั้น งานประกอบซิปหรือตัวกันซิปและกันน้ำซึมเข้ามาในช่องกระเป๋าก็ออกแบบมาเป็นอย่างดี ไม่แพ้ช่องใส่อุปกรณ์ด้านหน้าเลย รวมไปถึงมีสายยึดฝากับตัวกระเป๋าไม่ให้พับลงไป นอกจากนี้ตัวฝาเองก็มีช่องขนาดเล็กไว้ใส่อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ อย่างฝาปิดเลนส์หรือฝาปิดบอดี้/ฝาท้ายเลนส์ จำนวน 2 ช่องด้วยกัน
ตัวอย่างในการใส่อุปกรณ์กล้อง ตามภาพคือนำกล้อง Canon EOS 5D Mark II ที่ติดเลนส์ Canon EF 24-70 f/2.8 L USM พร้อมใส่ฮูดไว้ด้านบนสุด เพื่อที่จะได้หยิบใช้สะดวกอย่างที่สุด เรียกได้เปิดกระเป๋าปุ๊บก็นำกล้องออกมาถ่ายได้ทันที จากนั้นนำเลนส์ Canon EF 85 f/1.8 USM พร้อมใส่ฮูดที่คาดว่าจะมีโอกาสเปลี่ยนมาใช้มากที่สุดไว้ในช่องด้านในที่ว่างอยู่
จุดเด่นของกระเป๋า Incase DSLR Pro Sling Pack ทำให้เราเองนั้นสามารถจัดช่องใส่อุกรณ์เองได้ตามความเหมาะสมของอุปกรณ์ของเราง่ายๆ โดยตัวกั้นช่องนั้นมีลักษณะยืึดด้วยติดตุ๊กแก ที่มีความหนืบอยู่พอสมควร ที่จะว่าไปแล้วนั้นในส่วนของช่องนี้ดูสามารถจัดให้ใส่กล้อง DSLR ขนาดใหญ่ที่ติดกริปได้อย่างลงตัวแบบไม่ติดขัด อย่างที่หาในกระเป๋ารุ่นอื่นๆ ได้ยาก และภายในช่องกระเป๋านั้น ได้ออกแบบมาให้มีลักษณะอ่อนนุ่ม เพื่อรับแรงกดหรือแรงกระแทกที่อาจจะกระทบกับอุปกรณ์ของเราได้ ชนิดที่ว่าไม่ต้องกังวลกันเลย
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า Incase DSLR Pro Sling Pack มีสายสะพายหลังขนาดใหญ่แบบเส้นเดียว ที่ดีไซน์มารองรับน้ำหนักที่มากได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านการตัดเย็บหรือวัสดุที่ใช้ในการประกอบ ซึ่งดูแล้วแน่นหนา แต่ในการใช้งานจริงแนะนำว่าไม่ให้ใส่สิ่งของอุปกรณ์มากเกินไป เพราะในการที่เราสะพายด้วยไหล่ข้างเดียวนั้นอาจจะทำให้ปวดไหล่ได้ เป็นไปได้ควรใส่ของแต่พอดีจะดีกว่านะครับ เนื่องมาจากน้ำหนักที่หนักกว่าที่ไหล่ข้างเดียวจะรับได้ ที่สำคัญเพื่อสุขภาพของร่างกายในระยะยาวด้วยครับ
โดยที่ตัวสายเราสามารถปรับความยาวได้ตามความต้องการเพียงแค่ดึงหรือคลายสายเท่านั้นเอง เรียกได้ว่ามีความสะดวกมากๆ ส่วนสายที่ยาวเกินออกมา เราก็เพียงนำมาเกี่ยวกับช่องด้านบนของตัวสายเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ในกรณีที่เราต้องการความคล่องตัวจากการที่กระเป๋าอาจจะส่ายไปมาขณะที่เราเดิน Incase DSLR Pro Sling Pack ก็ยังได้ออกแบบในส่วนของสายคาดลำตัวมาให้ ที่แน่นอนว่าสามารถปรับความยาวสายได้ตามการใช้งานได้ ที่สำคัญเมื่อเราไม่ใช้งาน ก็ยังสามารถซ่อนสายเข้าไปในช่องกระเป๋าได้แบบเรียบเนียบอีกด้วย
สุดท้ายกับตัวกระเป่าใบนี้ยังได้มีการติดตั้งผ้าร่มกันฝนมาในตัว ซึ่งเราสามารถที่จะดึงออกมาใช้ได้จากด้านล่างของกระเป๋า โดยเมื่อทำการดึงผ้าร่มกันฝนออกมา และกางออกเพื่อคลุม จะเห็นได้ว่าสามารถคลุมกระเป๋าได้อย่างเต็มใบและมิดชิด เรียกได้ว่ากระเป๋าในนี้น่าหาซื้อมาใช้มากๆ กับเมืองไทย (ที่ฝนตกได้ทุกฤดู) สำหรับหลายคนนั้นอาจจะคิดว่าไม่จำเป็น แต่ความจริงบอกได้เลยว่าหากไม่เจอสถานการณ์ที่โน๊ตบุ๊คของเรากำลังจะเปียกฝน (รวมไปถึงกล้องและอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ) คงไม่รู้สึกของความอยากได้กระเป๋าโน๊ตบุ๊คที่มีผ้าคลุมกันฝนซักเท่าไหร่ ยังไงก็แนะนำว่าเป็นไปได้ควรซื้อกระเป๋าโน๊ตบุ๊คที่มีการป้องกันจากน้ำหรือของเหลวได้ก็จะเป็นเรื่องดีมากๆ เพราะถ้าโน๊ตบุ๊คเราเปียกน้ำไป มันไม่ใช่เสื้อผ้านะครับ ที่จะเอามาตากแดดแล้วใช้งานต่อได้ปกติ
ตามภาพประกอบด้านบนก็จะเห็นว่า Incase DSLR Pro Sling Pack สามารถใส่สิ่งของได้มากมาย โดยทางทีมงานทดลองใส่อุปกรณ์ต่างๆ ดู ไม่ว่าจะเป็น MacBook Pro Retina 15 จำนวน 1 เครื่อง, กล้อง Canon EOS 5D Mark II จำนวน 1 ตัว, เลนส์ Canon EF 17-40 f/4 L USM, เลนส์ Canon EF 24-70 f/2.8 L USM, เลนส์ Canon EF 85 f/1.8 USM และสุดท้ายคือ แฟลช Canon Speedlite 580EX II อีกหนึ่งตัว นอกจากนี้กระเป๋าในนี้ยังสามารถใส่สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกมากมาย เรียกได้ว่าใส่ได้เท่าที่เราคงแบกจะแบกไหวกันเลยทีเดียว อย่างอุปกรณ์ที่ใส่ไปทั้งหมดนั้น รวมน้ำหนักแล้วคราวว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6-7 กิโลกรัมได้ครับ
สรุปปิดท้ายกับประเป๋ากล้องใส่โน๊ตบุ๊คได้ หรือกระเป๋าโน๊ตบุ๊คใส่กล้องได้ จาก Incase รุ่น DSLR Pro Sling Pack นั้น ดูเหมือนว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้ที่จำเป็นต้องพกพาทั้งกล้องระดับมืออาชีพไว้ทำงาน รวมไปถึงต้องใช้งานโน๊ตบุ๊คและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ในด้านงานประกอบทาง Incase ก็ออกแบบและตัดเย็บมาเป็นอย่างดี มีความแข็งแรง รวมไปถึงคุณสมบัติการใช้งานนั้นก็ต้องบอกว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม ใส่ของได้มากมาย (เท่าที่คุณจะแบกไหว) อีกทั้งยังมีช่องด้านบนที่ทำให้เราสามารถหยิบใช้งานกล้องได้อย่างสะดวกที่สุดอีกด้วย แบบที่ไม่จำเป็นต้องว่ากระเป๋า เพียงหมุนจากด้านหลังมาด้านหน้าเท่านั้นเอง
ที่ถึงแม้ว่าอาจจะมีข้อสังเกตเล็กน้อยเรื่องของไม่สามารถใส่เลนส์ขนาดใหญ่อย่าง 70-200 f/2.8 ได้ (หรือถ้าจะใส่ต้องติดกับกล้องไว้แทนที่เลนส์ Canon EF 24-70 f/2.8 L USM) แต่ก็ถือว่าเป็นข้อที่พอยอมรับได้ เพราะใส่ไปแล้วก็อาจจะแบกไม่ไหวอยู่ดี สนนราคาของ Incase DSLR Pro Pack ใบนี้อยู่ที่ $169.95 (ตกอยู่ที่ 5,xxx บาท) แต่ราคาขายจริงตามร้านนั้นกลับอยู่ที่ 6,590 บาททีเดียว ซึ่งหลายๆ คนอาจจะติดว่าราคาสูงไปหน่อย (ซึ่งโดยส่วนตัวยังคิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้) แต่ต้องบอกเลยหากเทียบกับกระเป๋ากล้องยี่ห้ออื่นๆ ที่สามารถใส่โน๊ตบุ๊คได้ แถมดีไซน์และงานประกอบดีขนาดนี้แล้วนั้น ก็ถือได้ว่ากระเป๋าในนี้ไม่แพงจนเกินไปครับ
สุดท้ายนี้ใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้ตามตัวแทนจำหน่ายในไทยอย่าง BEtrend @ Siam Paragon (3rd Floor) หรือร้าน Barba Store ได้นะครับ