กระแสของแท็บเล็ตเริ่มก่อตัวตั้งแต่การเปิดตัว iPad รุ่นแรกสุดโดย สตีฟ จ็อบส์ เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ และน้ำหนักที่เบารวมทั้งประโยชน์รอบด้านที่ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ PC และโน๊ตบุ๊ค ด้วยความสะดวกที่จะพกพาออกไปข้างนอก ทำให้แท็บเล็ตขนาด 10 นิ้ว แพร่หลายในตลาดอย่างกว้างขวางจนผู้ผลิตรายอื่นที่ต้องการส่วนแบ่งนี้เหมือนกัน จึงพากันออกแท็บเล็ตในยี่ห้อของตัวเองออกมาอย่างสนุกสนาน โดยมีระบบปฏิบัติการของ Android เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก จากนั้นกระแสย่อขนาดหน้าจอที่เริ่มมาแรงเรื่อยๆ จาก 10 นิ้ว จึงลดลงเหลือ 7 นิ้ว และก็ขายดีไม่แพ้กับ 10 นิ้วเองเช่นกันจากที่มีขนาดเล็กพกพาสะดวกกว่าแท็บเล็ต 10 นิ้ว แต่ก็ยังตอบสนองการใช้งานได้อยู่
ซึ่งความหอมหวานของผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตที่ทำยอดขายมหาศาลอย่างนี้ มีหรือที่พี่จีนจะปล่อยให้รอดไปง่ายๆ ดังนั้นแท็บเล็ตจากจีนจึงเริ่มวางตลาด ชูข้อเด่นด้วยสเปกที่ไม่แพ้ผู้ผลิตแดนมะกันหรือชาวโสมมากนัก ทว่า “ราคา” ที่คุ้มค่าจนน่าใจหายของแท็บเล็ตจีนที่เพิ่มความเป็นไปได้ให้ประชาชนคนทั่วไปได้โอกาสมีแท็บเล็ตมาไว้ในมือเหมือนคนอื่นบ้างเช่นกัน อย่าง?Scopad Hercules แท็บเล็ต Android น้องใหม่จากประเทศจีน ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยผ่านทาง Advice ผู้เป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ที่สำคัญของไทย ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยที่ได้ส่งมาให้ทาวทีมงานได้รีวิวครับ
Specification
Scopad Hercules?จัดได้ว่าเป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ที่พกพาได้สะดวกกว่าตัว 10 นิ้ว มีความละเอียดมาตรฐานอยู่ 1024 x 600 พิกเซล 16 ล้านสี โดยใช้พาเนลคุณภาพอย่าง IPS มาพร้อมกับชิปประมวลผล Rockchip 3066 (Dual Core) และกราฟิกภายในเป็น Mali-400MP ซึ่งส่วนมากนิยมใช้ในสมาร์ทโฟนระดับสูง ในส่วนของแรมติดตั้งมาให้ขนาด 1GB ซึ่งก็ถือว่ามากพอตัว และหน่วยความจำสำรองมีความจุอยู่ที่ ?8GB แต่เราเองก็สามารถเพิ่มได้ด้วยการเชื่อมต่อ micro-SD Card รันระบบปฏิบัติการเป็น Android 4.0 อีกทั้งแน่นนอว่ารองรับการเชื่อมต่อ WiFi เพียงอย่างเดียวเท่านั้น สำหรับแท็บเล็ตราคาสุดคุ้มอย่างนี้ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มี Bluetooth ติดตั้งมาให้แต่อย่างใด
Hardware / Design
การดีไซน์ตัวเครื่องของ Scopad Hercules?นั้น จัดว่ามีลักษณะคล้ายๆ แท็บเล็ตในตลาดทั่วๆ ไปในตอนนี้ (ใกล้เคียงที่สุดให้ความรู้สึกว่าเป็น iPad แบบย่อส่วน) ด้านหน้าเป็นพลาสติกเรียบๆ เพียงแผ่นเดียว โดยมีขอบจอเป็นสีดำ ส่วนด้านหลังเป็นอะลูมิเนียมขอบโค้งแบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อครอบเอาไว้ ถ้าดูจากด้านหน้าและทุกซอกทุกมุมของตัวเครื่องแล้ว พลาสติกสีดำด้านหน้าตัวเครื่องทำออกมาเป็นมาตรฐานทั่วๆ ไป ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นแบบกระจกกันรอยเหมือนกับเครื่องแท็บเล็ตอื่นๆ แน่นอนว่าหากว่าใช้งานจริงก็ขอแนะนำให้นำฟิล์มกันรอยมาติดป้องกันการเกิดปัญหารอยขนแมวหรือรอยนิ้วมือไว้ด้วยก็ดีครับ ในส่วนของการจับถือเมื่อทดสอบดูแล้วก็มีความแข็งแรงและถนัดเมื่อใช้งานดี??
งานประกอบทำออกมาได้ดีครับ เรียบร้อยไม่มีจุดสะดุดตาอะไร ทว่าหากทำให้ขอบจอสีดำพอดีกับขอบอะลูมิเนียมเรียบสนิทไประดับเดียวกันเลย ก็จะดีกว่ามากครับ ถ้าไม่อย่างนั้น คนใช้ที่อาจจะลืมตัว คว่ำจอลงกับพื้นโต๊ะแรงสักหน่อย อาจจะส่งผลกระทบกระเทือนกับจอได้เหมือนกันครับ นอกจากนี้ปุ่มกดควบคุมต่างๆ ก็มีให้อย่างครบครัน แต่มีข้อสังเกตว่าปุ่มอาจจะเล็กไปหน่อย ต้องตั้งใจกดนิดนึง
สำหรับภายในกล่องก็จะมีตัวแท็บเล็ต, สาย USB และสายชาร์จให้เท่านั้นครับ
Connector / Thin And Weight
ด้านขวามือรวมบรรดาปุ่มไว้ครบหมดครับ ไล่ตั้งแต่ด้านบนลงมาเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง, ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง (Volume Rokr), ปุ่มย้อนกลับ (Back), ช่องเชื่อมต่อสายไฟและ USB port และไมค์ 1 ช่อง ไว้รองรับการใช้ Voice Search และใช้พูดขณะทำ Video Call สิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือ ปุ่มกดที่ต้องใช้แรงกดมากกว่าปกติเล็กน้อย ถ้ากดธรรมดาอาจจะไม่ทำงาน และน่าสังเกตที่มีปุ่ม Back วางตัวติดกับปุ่มลดเสียง ถ้ากดผิดจะทำให้ออกจากโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่ได้ ระวังขณะใช้งานกันด้วยครับ
ด้านบนมีช่องเชื่อมต่อสองช่องด้วยกันครับ ทางซ้ายเป็นช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5″ และช่อง Micro SD อีก 1 ช่อง โดย Scopad Hercules รองรับสูงถึง 32 GB ช่อง Micro SD Card ไม่มีแผ่นยางหรือกรอบพลาสติกเอาไว้ปิดเพื่อกันฝุ่น หรือว่าเวลาใส่การ์ดแล้วป้องกันการโดนกดนำการ์ดออกในทันทีได้ แต่คุณภาพเสียงที่ออกจากหูฟังผ่านช่องแจ็ค 3.5″ ทำออกมาได้ดีสมตัว ส่วนด้านข้างทางซ้ายไม่มีปุ่มหรือพอร์ตอะไรเหมือนกับด้านล่าง
ด้านหลังดีไซน์มีโลโก้ต่างๆ เอาไว้อธิบายว่าช่องแต่ละช่องเป็นพอร์ตหรือปุ่มอะไรไว้เรียบร้อย ตรงกลางเป็นโลโก้ยี่ห้อและถัดลงมาเป็นชื่อรุ่นอธิบายไว้พร้อมกับข้อมูลคร่าวๆ ของตัวเครื่อง?น้ำหนักของตัวเครื่องถือว่าไม่มากนัก อยู่ที่ 323 กรัม (โดยประมาณ) ถือว่าเบาใช้ได้ทีเดียวสำหรับแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว และความบางก็อยู่ที่ 11.9 มิลลิเมตรเท่านั้น สามารถทำให้จับถือได้อย่างสบายๆ ไม่เมื่อยมือ
Camera
“ภาพนี้ทดลองใช้ Video Call ผ่านทางโปรแกรม Skype ครับ ภาพนี้ Capture จากหน้าจอของ Macbook Air ครับ”
“รูปที่ถ่ายโดยใช้กล้องด้านหน้าของเครื่อง ความชัดอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซลครับ”
ตัวเครื่อง Scopad Hercules มีแต่กล้องหน้าอย่างเดียว และสำหรับคุณภาพของการถ่ายรูปออกมาได้ไม่ดีนัก เพราะจุดประสงค์จริงๆ ของกล้องหน้าตัวนี้ออกมาเพื่อใช้ Video Call เป็นหลัก ไม่ได้สร้างมาให้ใช้ถ่ายรูป โดยสามารถทำได้ผ่านทางโปรแกรมออนไลน์ต่างๆ เช่น Skype ดังนั้นคุณภาพของรูปถ่ายจะออกมาไม่ดีเท่าที่หวังกันเท่าไหร่ แต่สำหรับ Video Call ก็สามารถทำได้ไม่มีปัญหาครับ
Screen / Speaker
Scopad Hercules?มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว โดยมีความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล ซึ่งดูแล้วความละเอียดไม่สูงมากนักแต่ก็เพียงต่อการใช้งาน ที่สำคัญยังเป็นพอเนล IPS ที่ปกติแล้วนั้นเราจะเห็นอยู่ในพวกสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตระดับสูงเท่านั้น จากการทดสอบใช้งานจะเห็นได้ว่าหน้าจอนั้นให้สีสันได้ค่อนข้างสดใส รวมไปถึงมุมมององศาการรับชมก็กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไปพอสมควร เรียกว่าแท็บเล็ตตัวนี้จัดสเปกหน้าจอมาได้ดีทีเดียว?
ถึงแม้ว่าพาเนล IPS ที่ใช้นั้น อาจจะไม่ใช้เกรดที่สูงแต่ก็ถือได้ว่าให้มามากกว่าแท็บในช่วงราคาเดียวกัน?เพราะมุมองศาอื่นที่ไม่ใช่มุมมองปกติจากเบื้องหน้าจะมองไม่ชัดอยู่บ้าง ทว่าเวลาใช้งานจริงสำหรับหนึ่งคนนั้น ไม่มีปัญหาในการใช้งานใดๆ รวมไปถึงหน้าจอยังค่อนข้างจะสะท้อนแสงพอสมควรและเป็นรอยขนแมวได้ง่าย อย่างไรก็ตามขอแนะนำว่าเมื่อซื้อมาใช้งานแล้วก็ควรจะติดฟิล์มกันรอยป้องกันเอาไว้ด้วยครับ
ลำโพงที่ติดตั้งมาให้จะเป็นลำโพงแบบโมโนเท่านั้นซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณมุมซ้ายของตัวเครื่องด้านหลัง โดยรวมแล้วเสียงจัดได้ว่าค่อนข้างเบาไปหน่อย จากการทดลองดูหนังฟังเพลง แบบว่าถ้ามีเสียงรบกวนอื่นๆ แทรกเข้ามาอาจจะไม่ได้เสียงชัดเจนนักแม้จะเปิดดังสุดก็ตามที?เป็นไปได้ก็ขอแนะนำว่าให้เชื่อมต่อหูฟัง หรือต่อลำโพงภายนอกแทนนะครับ น่าจะเพิ่มอรรถรสในการใช้งานได้พอประมาณทีเดียว หรือถ้าหากไม่ต้องการจ่ายเงินเพิ่มอย่างไร ก็สามารถหาโปรแกรม Speaker Boost ใน Play Store มาเพิ่มความดังของลำโพงได้เช่นกันครับ โดยขอแนะนำให้เพิ่มความดังไม่เกิน 30% ครับ
Performance / Software
หน้าจอของ Scopad เองก็ดูเรียบง่ายพอกับแท็บเล็ตเครื่องอื่นๆ ตั้งแต่หน้า Lock Screen ที่สามารถเลือกเข้า Google Now หรือกล้องได้ในทันที หรือจะเลือกปลดล็อคเพื่อเข้าโปรแกรมอื่นก่อนก็ได้เช่นกัน
Scopad เครื่องนี้ติดตั้ง Android 4.1.1 ออกจากโรงงานมาเลย ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะเจอปัญหาอะไรแบบใน Ice cream Sandwich ที่ผ่านๆ มา เพราะตรงนี้เป็น Jelly Bean เรียบร้อยแล้ว
เมื่อปลดล็อคแล้วจะมีเพียง 5 หน้าจอให้ใช้งาน เพิ่มลดไม่ได้ มี Sensitive Touch 3 ปุ่มทางด้านซ้ายล่าง ได้แก่ Back, Home และ Recent App อยู่ด้วยกัน โดยเรากดที่ปุ่ม Home ค้างก็สามารถใช้ Google Now ได้เช่นกันกับที่เลือกตั้งแต่หน้าปลดล็อคจอ
ด้านอินเตอร์เฟส ถ้าไม่เคยใช้แท็บเล็ตมาก่อนอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่า Application ของ Android Tablet จะเก็บไว้ที่ด้านบนทางขวามือ และในตัวใหม่นี้ไม่มีคำว่า App ติดมาด้วย ทำให้ครั้งแรกที่ได้เห็นต้องควานสายตามองกันสักพักกว่าจะได้เห็น
พอกดเข้ามาดูด้านในแล้ว ก็ดูเรียบๆ แต่การวางช่องว่างระหว่างแอพพลิเคชั่น ทำออกมาได้ดี กว้างและโล่งสะอาดตา ไม่ติดกันมาเกินไป คนนิ้วใหญ่ไม่มีปัญหาเวลากดเลือกใช้ ความไหลลื่นตอนใช้งานปกติทำออกมาได้ดี แสดงผลได้ทันใจสมตัว
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Tablet น้องใหม่ไร้ชื่อแบบนี้จะลื่นเท่ารุ่นพี่รุ่นใหญ่ๆ หลายคนหรือเปล่า อันนี้เราพิสูจน์กันด้วยโปรแกรมและเปิดเว็บไซต์ดู
ทางด้านโปรแกรม ได้เทสโดยโปรแกรม GLBenchmark เปิดเทสให้ดูทุกตัวเลยครับ
เสริมด้วยโปรแกรม Quadrant Standard เพิ่มอีกหนึ่งโปรแกรม
จะเห็นว่าความแรงของเครื่องนี้ที่ใช้ CPU Dual Core ก็แรงไล่ๆ กับ Asus Transformer Prime ทีเดียวครับ ถือว่าใช้ได้เลยครับสำหรับ CPU 2 Core แบบนี้ ไม่ขี้เหร่นัก
คราวนี้มาลองเปิดเว็บไซต์ที่มี Flash เยอะๆ แล้ว ได้ผลว่าเครื่องยังเล่นได้ลื่นไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นครับ ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ เพราะถ้าไม่แรง เว็บไซต์ที่มี Flash เยอะๆ อาจจะทำให้เครื่องหน่วงจนค้างไปแล้วก็ได้ ต้องยกความดีความชอบให้กับ CPU Dual Core 1.5 Ghz ที่ทำให้การเปิดเว็บที่มีแฟลชมากๆ ทำได้ลื่นดี ไม่มีปัญหาอะไรกวนใจครับ
ส่วนตัวอักษรเองก็คมชัดครับ แม้จะซูมเข้าไปมากๆ ไม่มีปัญหาว่าอักษรแตก ผู้ใหญ่สูงวัยมองเห็นชัดเจนไม่ต้องหันไปพึ่งแว่นตาบ่อยๆ แน่นอนครับ แต่ว่าจะอ่านเนื้อหาได้ช้าลงสักหน่อยก็อย่าว่ากันนะครับ
คีย์บอร์ดของตัวเครื่องเป็นแบบ 4 แถว เปลี่ยนภาษาที่มุมบนทางซ้าย ให้ความรู้สึกเหมือนกับใช้คีย์บอร์ดของ PC อยู่อย่างนั้น แต่การนำมาไว้ตรงนี้ คนที่ใช้งานมาหลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นก็ได้ ทำให้เสียเวลาหาอยู่สักพักเหมือนกัน ส่วนความแม่นยำเวลากด สำหรับคนนิ้วใหญ่เองก็ลำบากตอนกดพอสมควร และตอนกด ปุ่มก็มีโอกาสคลาดเคลื่อนอยู่พอสมควร ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดนอกมาเสริมเพื่อป้องกันการผิดพลาดเวลาพิมพ์ด้วยครับ
ส่วนการเล่นวิดีโอได้ทดลองเปิด Youtube และเล่นแบบ HD แล้ว ถือว่าทำได้ดีทีเดียวสำหรับ CPU 2 Core แบบนี้ ไม่มีอาการกระตุกออกมาให้เห็นเลยในการใช้งานปกติ แต่ถ้าหากเลือกช่วงของคลิปไปมาอาจจะออกอาการกระตุกเล็กน้อย แต่ไม่ได้นานมากจนทำให้เสียอารมณ์ตอนดูมาก
ถ้ากลัวว่า CPU แรงแต่ไม่มี RAM ขนาดใหญ่พอจะรองรับแล้วล่ะก็ ขอให้ลืมไปได้เลยครับ เพราะ Scopad ให้ RAM มาจุใจ 1 GB เยอะจนขนาดว่าเปิดเกมค้างไว้หลายเกม เปิดโปรแกรมค้างไว้อีกพอสมควรยังไม่เกิดการรีเซ็ตตัวเองเลย ทำให้เวลาเล่นเกมสองมิติทั่วไปนั้นทำได้ดีและลื่นไม่ติดขัด ไม่หน่วงครับ ส่วนเกมสามมิติ กราฟิกสวยๆ ก็ทำได้ดี ไม่มีปัญหา ถ้าหากว่ากระตุก ขอให้เข้าใจว่าเป็นความตั้งใจของคนทำเกมที่จะทำให้ฉากนั้นกระตุกชั่วคราวเพื่อความตื่นเต้นนะครับ
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่เป็นลิเทียม ไอออน 3,500 มิลลิแอมป์ที่ฝังมาในตัวเครื่องถือว่าเยอะใช้ได้ หลังจากทดลองใช้แล้วก็ถือว่าใช้งานต่อเนื่องได้ดี ไม่หมดง่ายๆ นัก ถ้าใช้แบบเปิดดูเมล์บ้างแล้วล็อคหน้าจอไว้ ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ทั้งวัน แต่ก็ควรชาร์จหลังจากกลับถึงบ้านด้วยครับ
ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อปิดเครื่องแล้วเสียบสายชาร์จก็ค่อนข้างไวใช้ได้ครับ 30 นาทีเพิ่มมา 8% ได้ แต่ขณะที่เล่นไปด้วย แล้วชาร์จไฟเข้าเครื่อง แบตเตอรี่จะเพิ่มช้ามาก ประมาณ 1% ต่อ 3 นาทีได้
ด้านความร้อนไม่มีปัญหาครับ หลังจากได้เล่นมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ด้านหลังของตัวแท็บเล็ตเพียงแค่อุ่นๆ เท่านั้น แสดงว่าการจัดการความร้อนทำออกมาได้ดีพอสมควรทีเดียว ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนมือจนถือไม่ได้นะครับ
ส่วนเรื่องของการการวัดปริมาณ Battery ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์นัก อาจจะต้องรออัปเดต Firmware ต่อไป
Conclusion / Award
Scopad Hercules?แท็บเล็ต 7 นิ้ว ที่มีราคาเพียง 2,990 บาท หน้าจอ IPS LCD เล่นเว็บลื่น รับส่งเมล์และเล่นเกมได้อย่างดีไม่มีปัญหาอะไร ต้องถือว่าเป็น แท็บเล็ตน้องใหม่ที่ยังคุ้มค่าตัวอยู่ ถ้าไม่นับเรื่องกล้อง ส่วนวัสดุต่างๆ ก็ยังอยู่ในขอบเขตราคาไม่เกิน 3,000 บาท ลำโพงที่เสียงดีใช้ได้แต่เสียงเบา ต้องพึ่งพาหูฟังให้ได้ยินเสียงกระซิบจากลำโพงไปด้วย แต่สำหรับผม ถ้าคิดว่า สามพันบาทเพื่อเช็คเมล์ เอาไว้ดูคลิป เล่นเกมนิดๆ หน่อยๆ ไม่อยากพกโน๊ตบุ๊คให้ปวดไหล่ ถ้าจะทำแค่นั้น ก็จำเป็นมีสมาร์ตโฟนไว้แชร์สัญญาณให้ใช้ Scopad Hercules ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ใช้ได้พอตัว ถ้าไม่คิดถึงข้อด้อยเล็กๆ น้อยๆ ตรงนี้ สำหรับผมแล้ว สามพันยังคุ้มค่าให้ร้อง “โห!” ออกมาเหมือนกันครับ สำหรับคนที่สนใจก็สามารถจับจองกันได้ตามร้าน Advice ทั่วประเทศนะครับ?
จุดเด่น
- สเปกแรง Dual Core 1.5 Ghz + Ram 1 GB เหลือๆ
- ราคาคุ้ม สบายกระเป๋า 2,990 บาท
- วัสดุด้านหลังของตัวเครื่องทำจากโลหะ ให้ความรู้สึกดีเมื่อใช้งาน
- น้ำหนักเบา เท่าพ็อคเก็ตบุคสักเล่ม ไม่เป็นภาระเวลาจะพกติดตัวไปไหน
ข้อสังเกต
- ไม่มี Bluetooth การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตพึ่งพา Wifi อย่างเดียว
- เสียงลำโพงเปิดสุดแล้ว ยังเบาถ้าอยู่ในที่ที่มีเสียงรบกวน
- กล้องหน้าไม่ละเอียดนัก มี Noise อยู่พอสมควร
- ตัวเครื่องต้องทำการปรับแต่งด้วยโปรแกรมต่างๆจึงจะทำงานได้สมบูรณ์
Specification
Scopad Hercules?จัดได้ว่าเป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ที่พกพาได้สะดวกกว่าตัว 10 นิ้ว มีความละเอียดมาตรฐานอยู่ 1024 x 600 พิกเซล 16 ล้านสี โดยใช้พาเนลคุณภาพอย่าง IPS มาพร้อมกับชิปประมวลผล Rockchip 3066 (Dual Core) และกราฟิกภายในเป็น Mali-400MP ซึ่งส่วนมากนิยมใช้ในสมาร์ทโฟนระดับสูง ในส่วนของแรมติดตั้งมาให้ขนาด 1GB ซึ่งก็ถือว่ามากพอตัว และหน่วยความจำสำรองมีความจุอยู่ที่ ?8GB แต่เราเองก็สามารถเพิ่มได้ด้วยการเชื่อมต่อ micro-SD Card รันระบบปฏิบัติการเป็น Android 4.0 อีกทั้งแน่นนอว่ารองรับการเชื่อมต่อ WiFi เพียงอย่างเดียวเท่านั้น สำหรับแท็บเล็ตราคาสุดคุ้มอย่างนี้ แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มี Bluetooth ติดตั้งมาให้แต่อย่างใด
Hardware / Design
การดีไซน์ตัวเครื่องของ Scopad Hercules?นั้น จัดว่ามีลักษณะคล้ายๆ แท็บเล็ตในตลาดทั่วๆ ไปในตอนนี้ (ใกล้เคียงที่สุดให้ความรู้สึกว่าเป็น iPad แบบย่อส่วน) ด้านหน้าเป็นพลาสติกเรียบๆ เพียงแผ่นเดียว โดยมีขอบจอเป็นสีดำ ส่วนด้านหลังเป็นอะลูมิเนียมขอบโค้งแบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อครอบเอาไว้ ถ้าดูจากด้านหน้าและทุกซอกทุกมุมของตัวเครื่องแล้ว พลาสติกสีดำด้านหน้าตัวเครื่องทำออกมาเป็นมาตรฐานทั่วๆ ไป ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นแบบกระจกกันรอยเหมือนกับเครื่องแท็บเล็ตอื่นๆ แน่นอนว่าหากว่าใช้งานจริงก็ขอแนะนำให้นำฟิล์มกันรอยมาติดป้องกันการเกิดปัญหารอยขนแมวหรือรอยนิ้วมือไว้ด้วยก็ดีครับ ในส่วนของการจับถือเมื่อทดสอบดูแล้วก็มีความแข็งแรงและถนัดเมื่อใช้งานดี??
งานประกอบทำออกมาได้ดีครับ เรียบร้อยไม่มีจุดสะดุดตาอะไร ทว่าหากทำให้ขอบจอสีดำพอดีกับขอบอะลูมิเนียมเรียบสนิทไประดับเดียวกันเลย ก็จะดีกว่ามากครับ ถ้าไม่อย่างนั้น คนใช้ที่อาจจะลืมตัว คว่ำจอลงกับพื้นโต๊ะแรงสักหน่อย อาจจะส่งผลกระทบกระเทือนกับจอได้เหมือนกันครับ นอกจากนี้ปุ่มกดควบคุมต่างๆ ก็มีให้อย่างครบครัน แต่มีข้อสังเกตว่าปุ่มอาจจะเล็กไปหน่อย ต้องตั้งใจกดนิดนึง
สำหรับภายในกล่องก็จะมีตัวแท็บเล็ต, สาย USB และสายชาร์จให้เท่านั้นครับ
Connector / Thin And Weight
ด้านขวามือรวมบรรดาปุ่มไว้ครบหมดครับ ไล่ตั้งแต่ด้านบนลงมาเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง, ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง (Volume Rokr), ปุ่มย้อนกลับ (Back), ช่องเชื่อมต่อสายไฟและ USB port และไมค์ 1 ช่อง ไว้รองรับการใช้ Voice Search และใช้พูดขณะทำ Video Call สิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือ ปุ่มกดที่ต้องใช้แรงกดมากกว่าปกติเล็กน้อย ถ้ากดธรรมดาอาจจะไม่ทำงาน และน่าสังเกตที่มีปุ่ม Back วางตัวติดกับปุ่มลดเสียง ถ้ากดผิดจะทำให้ออกจากโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่ได้ ระวังขณะใช้งานกันด้วยครับ
ด้านบนมีช่องเชื่อมต่อสองช่องด้วยกันครับ ทางซ้ายเป็นช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5″ และช่อง Micro SD อีก 1 ช่อง โดย Scopad Hercules รองรับสูงถึง 32 GB ช่อง Micro SD Card ไม่มีแผ่นยางหรือกรอบพลาสติกเอาไว้ปิดเพื่อกันฝุ่น หรือว่าเวลาใส่การ์ดแล้วป้องกันการโดนกดนำการ์ดออกในทันทีได้ แต่คุณภาพเสียงที่ออกจากหูฟังผ่านช่องแจ็ค 3.5″ ทำออกมาได้ดีสมตัว ส่วนด้านข้างทางซ้ายไม่มีปุ่มหรือพอร์ตอะไรเหมือนกับด้านล่าง
ด้านหลังดีไซน์มีโลโก้ต่างๆ เอาไว้อธิบายว่าช่องแต่ละช่องเป็นพอร์ตหรือปุ่มอะไรไว้เรียบร้อย ตรงกลางเป็นโลโก้ยี่ห้อและถัดลงมาเป็นชื่อรุ่นอธิบายไว้พร้อมกับข้อมูลคร่าวๆ ของตัวเครื่อง?น้ำหนักของตัวเครื่องถือว่าไม่มากนัก อยู่ที่ 323 กรัม (โดยประมาณ) ถือว่าเบาใช้ได้ทีเดียวสำหรับแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว และความบางก็อยู่ที่ 11.9 มิลลิเมตรเท่านั้น สามารถทำให้จับถือได้อย่างสบายๆ ไม่เมื่อยมือ
Camera
“ภาพนี้ทดลองใช้ Video Call ผ่านทางโปรแกรม Skype ครับ ภาพนี้ Capture จากหน้าจอของ Macbook Air ครับ”
“รูปที่ถ่ายโดยใช้กล้องด้านหน้าของเครื่อง ความชัดอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซลครับ”
ตัวเครื่อง Scopad Hercules มีแต่กล้องหน้าอย่างเดียว และสำหรับคุณภาพของการถ่ายรูปออกมาได้ไม่ดีนัก เพราะจุดประสงค์จริงๆ ของกล้องหน้าตัวนี้ออกมาเพื่อใช้ Video Call เป็นหลัก ไม่ได้สร้างมาให้ใช้ถ่ายรูป โดยสามารถทำได้ผ่านทางโปรแกรมออนไลน์ต่างๆ เช่น Skype ดังนั้นคุณภาพของรูปถ่ายจะออกมาไม่ดีเท่าที่หวังกันเท่าไหร่ แต่สำหรับ Video Call ก็สามารถทำได้ไม่มีปัญหาครับ
Screen / Speaker
Scopad Hercules?มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว โดยมีความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล ซึ่งดูแล้วความละเอียดไม่สูงมากนักแต่ก็เพียงต่อการใช้งาน ที่สำคัญยังเป็นพอเนล IPS ที่ปกติแล้วนั้นเราจะเห็นอยู่ในพวกสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตระดับสูงเท่านั้น จากการทดสอบใช้งานจะเห็นได้ว่าหน้าจอนั้นให้สีสันได้ค่อนข้างสดใส รวมไปถึงมุมมององศาการรับชมก็กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไปพอสมควร เรียกว่าแท็บเล็ตตัวนี้จัดสเปกหน้าจอมาได้ดีทีเดียว?
ถึงแม้ว่าพาเนล IPS ที่ใช้นั้น อาจจะไม่ใช้เกรดที่สูงแต่ก็ถือได้ว่าให้มามากกว่าแท็บในช่วงราคาเดียวกัน?เพราะมุมองศาอื่นที่ไม่ใช่มุมมองปกติจากเบื้องหน้าจะมองไม่ชัดอยู่บ้าง ทว่าเวลาใช้งานจริงสำหรับหนึ่งคนนั้น ไม่มีปัญหาในการใช้งานใดๆ รวมไปถึงหน้าจอยังค่อนข้างจะสะท้อนแสงพอสมควรและเป็นรอยขนแมวได้ง่าย อย่างไรก็ตามขอแนะนำว่าเมื่อซื้อมาใช้งานแล้วก็ควรจะติดฟิล์มกันรอยป้องกันเอาไว้ด้วยครับ
ลำโพงที่ติดตั้งมาให้จะเป็นลำโพงแบบโมโนเท่านั้นซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณมุมซ้ายของตัวเครื่องด้านหลัง โดยรวมแล้วเสียงจัดได้ว่าค่อนข้างเบาไปหน่อย จากการทดลองดูหนังฟังเพลง แบบว่าถ้ามีเสียงรบกวนอื่นๆ แทรกเข้ามาอาจจะไม่ได้เสียงชัดเจนนักแม้จะเปิดดังสุดก็ตามที?เป็นไปได้ก็ขอแนะนำว่าให้เชื่อมต่อหูฟัง หรือต่อลำโพงภายนอกแทนนะครับ น่าจะเพิ่มอรรถรสในการใช้งานได้พอประมาณทีเดียว หรือถ้าหากไม่ต้องการจ่ายเงินเพิ่มอย่างไร ก็สามารถหาโปรแกรม Speaker Boost ใน Play Store มาเพิ่มความดังของลำโพงได้เช่นกันครับ โดยขอแนะนำให้เพิ่มความดังไม่เกิน 30% ครับ
Performance / Software
หน้าจอของ Scopad เองก็ดูเรียบง่ายพอกับแท็บเล็ตเครื่องอื่นๆ ตั้งแต่หน้า Lock Screen ที่สามารถเลือกเข้า Google Now หรือกล้องได้ในทันที หรือจะเลือกปลดล็อคเพื่อเข้าโปรแกรมอื่นก่อนก็ได้เช่นกัน
Scopad เครื่องนี้ติดตั้ง Android 4.1.1 ออกจากโรงงานมาเลย ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะเจอปัญหาอะไรแบบใน Ice cream Sandwich ที่ผ่านๆ มา เพราะตรงนี้เป็น Jelly Bean เรียบร้อยแล้ว
เมื่อปลดล็อคแล้วจะมีเพียง 5 หน้าจอให้ใช้งาน เพิ่มลดไม่ได้ มี Sensitive Touch 3 ปุ่มทางด้านซ้ายล่าง ได้แก่ Back, Home และ Recent App อยู่ด้วยกัน โดยเรากดที่ปุ่ม Home ค้างก็สามารถใช้ Google Now ได้เช่นกันกับที่เลือกตั้งแต่หน้าปลดล็อคจอ
ด้านอินเตอร์เฟส ถ้าไม่เคยใช้แท็บเล็ตมาก่อนอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่า Application ของ Android Tablet จะเก็บไว้ที่ด้านบนทางขวามือ และในตัวใหม่นี้ไม่มีคำว่า App ติดมาด้วย ทำให้ครั้งแรกที่ได้เห็นต้องควานสายตามองกันสักพักกว่าจะได้เห็น
พอกดเข้ามาดูด้านในแล้ว ก็ดูเรียบๆ แต่การวางช่องว่างระหว่างแอพพลิเคชั่น ทำออกมาได้ดี กว้างและโล่งสะอาดตา ไม่ติดกันมาเกินไป คนนิ้วใหญ่ไม่มีปัญหาเวลากดเลือกใช้ ความไหลลื่นตอนใช้งานปกติทำออกมาได้ดี แสดงผลได้ทันใจสมตัว
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Tablet น้องใหม่ไร้ชื่อแบบนี้จะลื่นเท่ารุ่นพี่รุ่นใหญ่ๆ หลายคนหรือเปล่า อันนี้เราพิสูจน์กันด้วยโปรแกรมและเปิดเว็บไซต์ดู
ทางด้านโปรแกรม ได้เทสโดยโปรแกรม GLBenchmark เปิดเทสให้ดูทุกตัวเลยครับ
เสริมด้วยโปรแกรม Quadrant Standard เพิ่มอีกหนึ่งโปรแกรม
จะเห็นว่าความแรงของเครื่องนี้ที่ใช้ CPU Dual Core ก็แรงไล่ๆ กับ Asus Transformer Prime ทีเดียวครับ ถือว่าใช้ได้เลยครับสำหรับ CPU 2 Core แบบนี้ ไม่ขี้เหร่นัก
คราวนี้มาลองเปิดเว็บไซต์ที่มี Flash เยอะๆ แล้ว ได้ผลว่าเครื่องยังเล่นได้ลื่นไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นครับ ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ เพราะถ้าไม่แรง เว็บไซต์ที่มี Flash เยอะๆ อาจจะทำให้เครื่องหน่วงจนค้างไปแล้วก็ได้ ต้องยกความดีความชอบให้กับ CPU Dual Core 1.5 Ghz ที่ทำให้การเปิดเว็บที่มีแฟลชมากๆ ทำได้ลื่นดี ไม่มีปัญหาอะไรกวนใจครับ
ส่วนตัวอักษรเองก็คมชัดครับ แม้จะซูมเข้าไปมากๆ ไม่มีปัญหาว่าอักษรแตก ผู้ใหญ่สูงวัยมองเห็นชัดเจนไม่ต้องหันไปพึ่งแว่นตาบ่อยๆ แน่นอนครับ แต่ว่าจะอ่านเนื้อหาได้ช้าลงสักหน่อยก็อย่าว่ากันนะครับ
คีย์บอร์ดของตัวเครื่องเป็นแบบ 4 แถว เปลี่ยนภาษาที่มุมบนทางซ้าย ให้ความรู้สึกเหมือนกับใช้คีย์บอร์ดของ PC อยู่อย่างนั้น แต่การนำมาไว้ตรงนี้ คนที่ใช้งานมาหลายๆ คนอาจจะไม่คุ้นก็ได้ ทำให้เสียเวลาหาอยู่สักพักเหมือนกัน ส่วนความแม่นยำเวลากด สำหรับคนนิ้วใหญ่เองก็ลำบากตอนกดพอสมควร และตอนกด ปุ่มก็มีโอกาสคลาดเคลื่อนอยู่พอสมควร ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดนอกมาเสริมเพื่อป้องกันการผิดพลาดเวลาพิมพ์ด้วยครับ
ส่วนการเล่นวิดีโอได้ทดลองเปิด Youtube และเล่นแบบ HD แล้ว ถือว่าทำได้ดีทีเดียวสำหรับ CPU 2 Core แบบนี้ ไม่มีอาการกระตุกออกมาให้เห็นเลยในการใช้งานปกติ แต่ถ้าหากเลือกช่วงของคลิปไปมาอาจจะออกอาการกระตุกเล็กน้อย แต่ไม่ได้นานมากจนทำให้เสียอารมณ์ตอนดูมาก
ถ้ากลัวว่า CPU แรงแต่ไม่มี RAM ขนาดใหญ่พอจะรองรับแล้วล่ะก็ ขอให้ลืมไปได้เลยครับ เพราะ Scopad ให้ RAM มาจุใจ 1 GB เยอะจนขนาดว่าเปิดเกมค้างไว้หลายเกม เปิดโปรแกรมค้างไว้อีกพอสมควรยังไม่เกิดการรีเซ็ตตัวเองเลย ทำให้เวลาเล่นเกมสองมิติทั่วไปนั้นทำได้ดีและลื่นไม่ติดขัด ไม่หน่วงครับ ส่วนเกมสามมิติ กราฟิกสวยๆ ก็ทำได้ดี ไม่มีปัญหา ถ้าหากว่ากระตุก ขอให้เข้าใจว่าเป็นความตั้งใจของคนทำเกมที่จะทำให้ฉากนั้นกระตุกชั่วคราวเพื่อความตื่นเต้นนะครับ
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่เป็นลิเทียม ไอออน 3,500 มิลลิแอมป์ที่ฝังมาในตัวเครื่องถือว่าเยอะใช้ได้ หลังจากทดลองใช้แล้วก็ถือว่าใช้งานต่อเนื่องได้ดี ไม่หมดง่ายๆ นัก ถ้าใช้แบบเปิดดูเมล์บ้างแล้วล็อคหน้าจอไว้ ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ทั้งวัน แต่ก็ควรชาร์จหลังจากกลับถึงบ้านด้วยครับ
ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อปิดเครื่องแล้วเสียบสายชาร์จก็ค่อนข้างไวใช้ได้ครับ 30 นาทีเพิ่มมา 8% ได้ แต่ขณะที่เล่นไปด้วย แล้วชาร์จไฟเข้าเครื่อง แบตเตอรี่จะเพิ่มช้ามาก ประมาณ 1% ต่อ 3 นาทีได้
ด้านความร้อนไม่มีปัญหาครับ หลังจากได้เล่นมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ด้านหลังของตัวแท็บเล็ตเพียงแค่อุ่นๆ เท่านั้น แสดงว่าการจัดการความร้อนทำออกมาได้ดีพอสมควรทีเดียว ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนมือจนถือไม่ได้นะครับ
ส่วนเรื่องของการการวัดปริมาณ Battery ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์นัก อาจจะต้องรออัปเดต Firmware ต่อไป
Conclusion / Award
Scopad Hercules?แท็บเล็ต 7 นิ้ว ที่มีราคาเพียง 2,990 บาท หน้าจอ IPS LCD เล่นเว็บลื่น รับส่งเมล์และเล่นเกมได้อย่างดีไม่มีปัญหาอะไร ต้องถือว่าเป็น แท็บเล็ตน้องใหม่ที่ยังคุ้มค่าตัวอยู่ ถ้าไม่นับเรื่องกล้อง ส่วนวัสดุต่างๆ ก็ยังอยู่ในขอบเขตราคาไม่เกิน 3,000 บาท ลำโพงที่เสียงดีใช้ได้แต่เสียงเบา ต้องพึ่งพาหูฟังให้ได้ยินเสียงกระซิบจากลำโพงไปด้วย แต่สำหรับผม ถ้าคิดว่า สามพันบาทเพื่อเช็คเมล์ เอาไว้ดูคลิป เล่นเกมนิดๆ หน่อยๆ ไม่อยากพกโน๊ตบุ๊คให้ปวดไหล่ ถ้าจะทำแค่นั้น ก็จำเป็นมีสมาร์ตโฟนไว้แชร์สัญญาณให้ใช้ Scopad Hercules ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ใช้ได้พอตัว ถ้าไม่คิดถึงข้อด้อยเล็กๆ น้อยๆ ตรงนี้ สำหรับผมแล้ว สามพันยังคุ้มค่าให้ร้อง “โห!” ออกมาเหมือนกันครับ สำหรับคนที่สนใจก็สามารถจับจองกันได้ตามร้าน Advice ทั่วประเทศนะครับ?
จุดเด่น
- สเปกแรง Dual Core 1.5 Ghz + Ram 1 GB เหลือๆ
- ราคาคุ้ม สบายกระเป๋า 2,990 บาท
- วัสดุด้านหลังของตัวเครื่องทำจากโลหะ ให้ความรู้สึกดีเมื่อใช้งาน
- น้ำหนักเบา เท่าพ็อคเก็ตบุคสักเล่ม ไม่เป็นภาระเวลาจะพกติดตัวไปไหน
ข้อสังเกต
- ไม่มี Bluetooth การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตพึ่งพา Wifi อย่างเดียว
- เสียงลำโพงเปิดสุดแล้ว ยังเบาถ้าอยู่ในที่ที่มีเสียงรบกวน
- กล้องหน้าไม่ละเอียดนัก มี Noise อยู่พอสมควร
- ตัวเครื่องต้องทำการปรับแต่งด้วยโปรแกรมต่างๆจึงจะทำงานได้สมบูรณ์