BenQ Joybook X31 จาก การทดสอบใช้งานทางด้านกราฟิกซึ่งทดสอบโดยการเล่นเกมส์ PES 2008 พบว่าสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลไม่มีจังหวะกระตุกมากวนใจ ไม่ว่าจะในขณะเล่น ขณะ replay ภาพ หรือฉากการฉลองการยิงประตู ก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ นอกจากนั้นอีกเกมส์ที่ได้มีโอกาสทดสอบนั่นก็คือ Hitman Bloodmoney ก็พบว่าสามารถทำได้เนียนไม่แพ้กัน ด้านความอึดของแบตเตอรี่ความจริงแล้วผมได้ทำการทดสอบมาด้วยโดยใช้โปรแกรม Batterymon แต่ภาพที่ได้ทำการ save มานั้น ได้ถูกเจ้า thumb drive ตัวดีเอาไปด้วย T_T เรื่องของเรื่องคือเจ้า thumb drive ที่ใช้เซฟภาพของการทดสอบแบตเตอรี่นั้นเกิดงอแงเลยจากไปก่อนวัยอัน ควร ซึ่งผลการทดสอบนั้น ผมทดสอบโดยการใช้งานปกติ เปิดเสียง เล่นเน็ทผ่านทางด้าน Wireless LAN ปรับความสว่างของหน้าจออยุ่ในระดับสว่างสุด การใช้งานก็จะเป็นในส่วนของเล่นอินเตอร์เน็ท พิมพ์งาน ฟังเพลงไปด้วย โดยโหมดที่เลือกใช้งานตอนรันบนแบตเตอรี่นั้น เลือกไปที่ always on และปรับให้การทำงานเป็นแบบ High performance พบว่าได้สามารถใช้งานได้อยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่หากนำมาเล่นเกมส์ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งสำหรับตัวผมถือว่าโอเคแล้วในการใช้งานแบบนี้ น้ำหนักและขนาดของเครื่องทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย ไม่เกะกะหรือหนัก และด้วยความบางของเครื่องอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้การพกพาเมื่อใส่ลงในกระเป๋าเป็นไปได้อย่างลงตัว อีกทั้งด้วยการออกแบบที่หรูหราบวกกับสีที่ดูน่าหลงใหลทำให้สามารถสะกดทุกสาย ตาได้ไม่ยากเมื่อนำออกมาใช้งาน
จุดเด่น
1. จอภาพแบบ LED ช่วยให้สามารถประหยัดไฟได้มากกว่าจอปกติ
2. บางและเบา
3. การควบคุมตัวเครื่องด้วยระบบสัมผัส
4. ดีไซน์ที่โดเด่น
5. การ์ดจอ NVidia 8600M GT แบบ DDR3
6. Finger-print reader
ข้อสังเกต
1. ความดังของเสียงขณะโหลดแผ่นหรือนำแผ่นออก
2. ลำโพงค่อนข้างเสียงเบา
เริ่มกันด้วยตัวเครื่องบริเวณด้านหลังจอภาพนะครับ ดูกันเผินๆอาจจะคิดว่าสีดำ แต่ BenQ รุ่นนี้มาพร้อมกับสีน้ำตาลเข้มดูหรูหราครับ พื้นผิวเป็นลักษณะเรียบด้านจึงเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก บริเวณขอบมีการเล่นดีไซน์แบ่งเป็นขอบนิดนึง เพิ่มความมีสไตล์แบบเรียบๆ บริเวณกึ่งกลางมีโลโก้ BenQ แบบโลหะสีเงินฝังอยู่ ทำให้โลโก้ดูโดดเด่นที่สุดในบริเวณที่นี้
ด้านหลังตัวเครื่องจะมีเพียงปุ่มปลดล็อกแบตเตอรี่เท่านั้นที่ดูแล้วคนทั่วไป พอจะใช้งานกันบ้าง นอกนั้นก็จะเป็นช่องสำหรับดูดอากาศเพื่อใช้ระบายความร้อนซึ่งรวมอยู่กับช่อง ใส่แรม และช่องสำหรับใส่ฮาร์ดดิสก์ที่มีน็อตขวางอยู่ สำหรับสติ๊กเกอร์รับประกันนั้นไม่มีการแปะขวางช่องใดๆ ทำให้สามารถอัพเกรดฮาร์ดดิสก์และแรมกันได้ตามใจชอบ
บริเวณด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องสำหรับต่อใช้งานประกอบไปด้วย ช่องสำหรับเสียบอุปกรณ์แบบ Express card, ช่องระบายความร้อน, USB 2 ช่อง และช่อง VGA Out
บริเวณด้านขวาของตัวเครื่องนั้นประกอบไปด้วย ไดร์ฟ DVD แบบ slot-load ทำให้ตัวเครื่องดูเรียบลงไป เพิ่มความสวยงามทำให้ดูสะอาดตา แต่จากการทดลองใช้งานพบว่ามีเสียงดังแปลกๆเวลาทั้งเวลาที่โหลดแผ่นเข้าไป และนำแผ่นออกมา ถัดมาจะเป็น Card reader, ช่องเสียบหูฟัง, ช่องเสียบไมโครโฟน, USB, ช่องเสียบสาย LAN และช่องเสียบสายโทรศัพท์เพื่อใช้งานโมเด็ม
บริเวณด้านหลังตัวเครื่องมีที่เสียบสาย Adapter, ที่เสียบสาย lock และ port HDMI ซึ่งที่เสียบ Adapterกับ สองช่องที่เหลือจะอยู่กันคนละฝั่งโดยตรงกลางนั้นจะเป็นที่สำหรับใส่ แบตเตอรี่ และเมื่อใส่แบตเตอรี่แล้ว ตัวแบตเตอรี่จะนูนออกมานิดหน่อย ทำให้ดูแปลกๆบริเวณนั้น
ส่วนหน้าจอถ้าดูกันเผินๆ ก็เหมือนๆกับ โน๊ตบุ๊คทั่วๆไป แต่ความจริงแล้วเป็นแบบ LED ซึ่งประหยัดไฟมากกว่าแบบทั่วไป และมีขนาดบางมากๆ
บริเวณด้านบนบริเวณขอบของจอภาพมีกล้อง Webcam ติดตั้งมาเรียบร้อย พร้อมกันนั้นข้างๆ ก็ได้มีการติดไมโครโฟนเพื่อใช้งาน Video call ได้อย่างสะดวกอีกด้วย โดยในขณะใช้งานก็จะมีไฟสีขาวบริเวณข้างกล้องกติดสว่าง เพื่อเป็นการแสดงสถานะการทำงาน
บริเวณด้านบนเหนือคีย์บอร์ดเป็นปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆซึ่งเป็นระบบสัมผัส เพียงแค่แตะเบาๆก็ตอบสนองได้อย่างทันใจ นอกจากนี้ยังมีไฟสีฟ้าส่องสว่างภายใต้ปุ่มนั้นๆอีกด้วย ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกในที่ที่มีแสงน้อย
คีย์บอร์ดเป็นแบบ Full-size สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก การวางมือเพื่อพิมพ์งานเป็นไปอย่างแม่นยำ และถนัด สำหรับผู้ที่ใช้งานแต่คีย์บอร์ดแบบ PC และกลัวว่าจะไม่สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว หากได้ลองสัมผัสคีย์บอร์ดของตัวนี้แล้วล่ะก็คงต้องเปลี่ยนความคิดกันไปเลย ล่ะครับ
บริเวณทัชแพด ดีไซน์เป็นสีเดียวกับตัวเครื่องด้านในคือเป็นสีขาวและมีแถบสีเทาเพื่อใช้ บ่งบอกบริเวณที่ใช้งานเป็น scroll bar การตอบสนองของทัชแพดเมื่อสัมผัสลงไปถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว บริเวณกึ่งกลางระหว่างปุ่มสำหรับคลิกเมาส์จะเป็น Finger-print reader ใช้สำหรับแสกนนิ้วมือเพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งถือว่าจัดวางได้อย่างลงตัว ส่วนด้านล่างของทัชแพดจะเป็นไฟแสดงสถานะของตัวเครื่องซึ่งประกอบไปด้วย ไฟแสดงสถานะว่ามีการเปิดใช้งานตัวเครื่อง ถัดมาจะเป็นไฟแสดง สถานการณ์ชาร์ทแบทโดยจะสว่างเมื่อเราทำการชาร์ทแบทและไฟดวงนี้ต่างจากดวง อื่นตรงที่ไฟจะเป็นสีแดง ถัดมาเป็นไฟแสดงสถานการณ์ใช้งาน Wireless LAN และดวงสุดท้ายเป็นไฟแสดงสถานะของฮาร์ดดิสก์
จุใจไปกับแบตเตอรี่ขนาด 5200 mAh
ขุมพลังจาก Intel และ NVIDIA
จุดเด่นต่างๆที่เครื่องนี้ภูมิใจนำเสนอ