สวัสดี ครับมาพบกับผมอีกครั้งใน คอลัมน์ Review นะครับ ^^ เดือนนี้คงจะได้เจอกันจนเบื่อไปข้างนึงเลย แหะๆ สำหรับ Notebook ที่จะนำมาเสนอกันในวันนี้ ได้แก่ MSI Wind ที่หลายๆท่านตั้งหน้าตั้งตาคอยกันนั่นเอง
และแล้ววันนี้ก็ได้บินตรงมาสู่มือของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ได้ เลื่อนการวางจำหน่ายออกไป เมื่อเปิดกล่องขึ้นมาก็จะพบกับกล่องอีกใบ – – และกระเป๋าใส่ Notebook ที่แถมมาให้ใช้งานเรียบร้อย ตัวกระเป๋าถือว่าทำได้น่าประทับใจทีเดียวในเรื่องของวัสดุ เมื่อเปิดกล่องใบถัดไปเราก็จะได้พบกับพระเอกในวันนี้ครับ MSI Wind U100x ตัวเครื่องที่ผมได้รับมานั้นเป็นสีขาว (สีโปรดของงผมเลย หุหุ) ให้ความรู้สึกสะอาดตาและดูหรูหรา เมื่อเปิด ลงไปด้านล่างของถาดที่วางตัวเครื่องมานั้น ท่านก็จะได้พบกับชุด Adapter และ แบตเตอรี่ ซึ่งตัว Adapter นั้นก็มีขนาดเล็กกว่า Adapter Notebook ทั่วๆไปด้วยครับ เรียกได้ว่างานนี้จับย่อส่วนกันทั้งชุด นอกจากนี้ก็มาพร้อมกับคู่มืออีก 1 ชุด เอาล่ะครับเมื่ออุปกรณ์พร้อมแล้ว เราก็มาเริ่มเปิดเครื่องกันเลยดีกว่า อ้อ แต่ก่อนอื่น เราไปดู Spec ของเจ้า Wind กันก่อนดีกว่าครับ
Operating System | Linux |
Display | 10″W LED |
Intel CPU & Chipset | Intel Atom N270 1.6GHz & 945GMS+ ICH7-M |
Memory | DDR II 1 GB |
Display Card | UMA Shared |
Harddisk Drive | 80GB 5400 rpm |
Audio | HD High Definition Stereo speakers |
WLAN | MS-6894 802.11 b/g |
Camera | 1.3 Mp webcam |
Storage Cards | 4 in 1 Card Reader |
Input / Output | 3xUSB / VGA-out (D-Sub, 15pin) / earphone jack / mic / RJ45 Gigabit /Bluetooth |
Battery | 2200 mAH |
Dimensions | 260 X 180 X 19-31.5 mm |
Weight | 1.00 kg |
ราคา | 15,999 บาท |
สำหรับ Spec ถือว่าเข้าตาผมมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่กว่า Asus EEE PC ซึ่งผมว่าน่าจะสบายตากว่ากัน แต่จะเป็นยังไงเดี๋ยวเรามาดูกัน นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของ Ram และ Harddisk ที่มีมาให้ใช้งานได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าเล็กพริกขี้หนูจริงๆ Hilight อีกอย่างของเครื่องนี้ก็คือเรื่องของ CPU Atom จาก Intel ที่มีกิตติศัพท์เรื่องประหยัดพลังงาน แต่ข้อสังเกตของเจ้าเครื่องนี้ก็คือขนาดความจุของแบตเตอรี่นั้น ที่ถือว่าค่อนข้างน้อย จะใช้ได้นานแค่ไหนเดี๋ยวต้องตามชมกัน
หลังจากชม Spec กันไปแล้วทุกท่านคงจะอยากชมภาพกันแล้ว ในเมื่อพร้อมแล้วก็ไปชมภาพกันเลยดีกว่าครับ
ฝาพับด้านบนมีลักษณะมันวาวเป็นสีขาว ดูสวยงามลงตัวกับ Logo MSI ที่เป็นสีเทาเด่นอยู่ตรงกลาง ตัววัสดุถึงแม้จะมันวาว แต่เมื่อสัมผัสลงไปกลับไม่พบรอยนิ้วมือติดง่ายเหมือนที่คิด อีกทั้งยังเป็นรอยยากอีกด้วย รอยขนแมวอย่าหวังจะได้มาแอ้ม ^^
บริเวณใต้ตัวเครื่องไม่มีช่องใดๆที่สามารถเปิดออกมาได้เพื่อทำการอัพเกรด อุปกรณ์ต่างๆ เช่น แรม หรือ Harddrive บริเวณด้านหน้าจะเป็นที่อยู่ของลำโพง จากรูปก็คือช่องกลมๆสองช่องนั้นแหละครับ ขอบอกว่าเห็นเล็กๆแบบนี้ เสียงดังใช้ได้ทีเดียวครับ ด้านหลังก็จะเป็นช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่และมีที่ Lock ตัวแบตเตอรี่ 2 จุด
มาดูด้านซ้ายกันมั่งครับ บริเวณนี้จะประกอบไปด้วยที่Lock Kensington, รูสำหรับเสียบสายชาร์จจาก Adapter และ USB จำนวน 2 port ส่วนบริเวณตรงกลางที่ดูใหญ่ๆนั้นเป็นช่องระบายอากาศครับ
ทางด้านขวา เรียงลงมาก็จะเป็น ช่องสำหรับเสียบสายแลน, VGA OUT, ช่องต่อสัญญาณเสียงออก, ช่องต่อไมค์, Card Reader และ USB อีกหนึ่ง port
หน้าจอมีขนาด 10.2? ถือว่าใหญ่ที่สุดใน Notebook ประเภทนี้ เมื่อใช้ในงานพวกเอกสารหรือดูเว็บ ถือว่าสบายตากว่าที่คิดเอาไว้ และหน้าจอมีสีสันสดใส เมื่อรับชมภาพหรือภาพยนตร์ ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากจอของ Notebook ที่มีเทคโนโลยีเพิ่มความสดของสีเท่าใดนัก ถือว่าบริเวณนี้ทำได้ดีเกินคาดครับ ส่วนด้านกรอบของจอนั้น จะประกอบไปด้วยกล้องเว็บแคม และไฟแสดงสถานะ ส่วนบริเวณมุมขวาบนจะเป็นไมโครโฟน ที่ติดตั้งมาสำเร็จ สามารถใช้งานเว็บแคม หรือประชุมผ่านอินเทอร์เน็ทได้ในทันที
คีย์บอร์ดเป็นแบบ Full-Size คือเรียงมาเต็มเท่าที่พื้นที่ของตัวเครื่อง จะเอื้ออำนวย ตัวปุ่มนั้นถือว่าเป็นขนาดใหญ่ สำหรับ Notebook ประเภทนี้ อาจจะไม่ค่อยถนัดนักในตอนแรก แต่เมื่อใช้งานไปซักพักก็จะชินครับ (ตอนนี้ผมก็ใช้พิมพ์ Review ฉบับนี้อยู่ คล่องปรื๋อเลยทีเดียว) ตัวคีย์บอร์ดเป็นสีขาวทำให้ดูกลมกลืนไปกับตัวเครื่อง ส่วนพวกสัญลักษณ์ต่างๆบนปุ่มฟังก์ชั่น จะเลือกใช้สีน้ำเงิน และมีสีส้มบนปุ่มที่ใช้ควบคุมโหมดการใช้พลังงาน ทำให้ปุ่มพวกนี้เด่นชัดและแตกต่าง จนสามารถกดเพื่อใช้งานได้อย่างง่ายดาย
Touchpad เป็นสีขาวลึกลงไปจากตัว Body เล็กน้อย ใช้วัสดุเดียวกับตัวเครื่องด้านใน ตัวปุ่มคลิกจะเป็นแถบเดียวกันทั้งหมดไม่มีแยกปุ่มซ้ายขวา ทำให้ดูกลมกลืนไปกับตัว Body แต่ปุ่มสำหรับคลิกนั้นค่อนข้างจะใช้งานยากซักนิดหน่อยเพราะมีขนาดแคบ ส่วนการ Control ตรงในส่วนของ Touchpad ถือว่าทำได้สมบูรณ์ดีแล้ว ไหลลื่นไม่มีอาการสะดุดให้เห็น
ไฟแสดงสถานะต่างๆจะถูกแสดงด้วยสีเขียวยกเว้นไฟของการทำงาน Bluetooth จะเป็นสีฟ้า ซึ่งถูกจัดวางอย่างลงตัวบริเวณขอบด้านล่างขวา ส่วนปุ่ม Power นั้นจะอยู่บริเวณมุมขวาบนของคีย์บอร์ด มีไฟแสดงสถานการณ์ทำงานเป็นรูปดาวสีฟ้า
สติ๊กเกอร์แสดง CPU ที่ใช้งานรวมไปถึงระบบปฏิบัติการที่มาคู่กันนั่นก็คือ Linux OS นั่นเอง
แบตเตอรี่ความจุ 2200 mAh ถือว่าค่อนข้างน้อยทีเดียวแต่จะใช้งานได้ดีแค่ไหน เดี๋ยวมาชมกัน โดยตัวของแบตเตอรี่นั้นก็เป็นสีขาวเช่นกัน เมื่อติดตั้งเข้ากับตัวเครื่องแล้วจะดูเข้ากันเป็นอย่างดี
ไม่เพียงแต่ตัวเครื่องเท่านั้นที่มีขนาดเล็ก ตัว Adapter ก็ถูกลดขนาดลงเช่นกัน ทำให้การพกพาทั้งสองสิ่งนี้ไปด้วยกันกลายเป็นเรื่องที่สะดวกยิ่งขึ้น
ด้านกระเป๋าที่แถมมาให้ ตัววัสดุที่นำมาทำถือว่าดีเลยทีเดียว มั่นใจได้ในเรื่องของความคงทน