Intel ผู้ผลิตชิปประมวลผลรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้มีการรายงานผลประกอบการในรอบไตรมาสที่ 3 ของบริษัท ซึ่งมีจำนวนยอดขายที่ 1.42 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เรียกได้ว่าสูงขึ้นกว่าไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วคิดเป็น 28% รวมไปถึงเพิ่มจากไตรมาสที่แล้วที่ 9.2% โดยคิดเป็นกำไรสุทธิจำนวน 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 17% เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นยอดผลประกอบการที่ดูแล้วน่าประทับใจเป็นอย่างมาก
นอกเหนือจากนั้น CEO ของทาง Intel ยังได้กล่าวถึงตลาดของเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ยังคงเป็นที่ต้องการอยู่ ซึ่งตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโตดีมากๆ จะเป็นตลาดที่อยู่ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น จีนและบราซิล ในส่วนของอเมริกาเองคงต้องยอมรับแล้วว่าตลาดคอมพิวเตอร์ PC มียอดลดลง นั่นก็หมายความว่าเริ่มจะเป็นขาลงแล้ว
อีกทั้งในมุมมองของนักวิเคราะห์กับการผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Intel ออกมาได้แบบโตไม่หยุด ซึ่งถ้ายังจำกันได้ก่อนหน้านี้บริษัทวิเคราะห์อย่างการ์ตเนอร์ ได้เคยออกมาประเมินว่าตลาดคอมพิวเตอร์ PC จะไม่มีการเติบโตสูงมากนัก แน่นอนว่าสวนทางกับความจริงในตอนนี้ที่ว่า Intel ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีอยู่?
ถ้าคิดแยกตามประเภทชิปประมวลผลของ Intel ที่มีอัตราเติบโตขึ้น สำหรับ PC มียอดสูงขึ้นคิดเป็นเปอร์เซนต์ได้ 22% เซิร์ฟเวอร์ 15% แต่ในส่วนของ Atom กลับมียอดลดลงถึง 30% ซึ่งในต่อไปนี้ Intel จะมีการเน้นมากขึ้นสำหรับ Atom เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตลาด Mobile ที่ Intel คงจะลงมาเล่นในตลาดนี้อย่างแน่นอน จากการที่ Intel ไม่มีชิปประมวลผลที่เป็น ARM เลย รวมไปถึงตลาดของชิปประมวลผล Ultrabook ที่คงจะมีการผลักดันกันอย่างสุดแรงเลยทีเดียวครับ
ที่มา :?nytimes