โปรแกรมของ HP เองก็มีฟังก์ชันในการปรับการทำงานของพัดลมมาด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้แรงสุด เบาสุด หรือปรับตามการทำงานของเครื่อง
ในภาพรวม โปรแกรมที่ติดตั้งมาให้ของ HP นั้นจะออกไปในแนวเป็นระบบให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการใช้งานซะเป็นส่วนใหญ่ นับว่าทำมาได้ค่อนข้างดี แต่ก็นะ บางทีมันก็ทำให้เครื่องหน่วงไปเหมือนกัน ก็แล้วแต่ผู้ใช้ละครับ ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ
Windows ที่ติดตั้งมาก็เป็น Windows 7 Home Premium 64-bit ตามที่บอกไว้ในสเปก แรมที่ติดตั้งมา 4 GB ก็มองเห็นครบถ้วนดี
คะแนนที่ได้จาก Windows Experience Index ในส่วนของ CPU นั้นถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว โดยเก็บไปได้ 7.0 คะแนน ทั้งนี้ก็ด้วยพลังของ Intel Core i5-2430M
CPU ที่ติดตั้งก็คือ Intel Core i5-2430M ที่มีความเร็วในการทำงานที่ 2.40 GHz และยังมีเทคโนโลยี Turbo Boost, Speed Step ที่จะปรับลด/เพิ่มความเร็วตามสภาพการใช้งานจริง โดยสามารถเร่งได้สูงสุดที่ 3.0 GHz ส่วนจำนวน L3 Cache ก็ให้มี 3 MB ตามสไตล์ CPU ตระกูล i5
แรมที่ติดตั้งมาก็เป็นแบบ DDR3 จำนวน 4 GB 1 แถว สามารถทำงานได้เกือบเต็ม 1333 MHz
การ์ดจอตัวแรกที่ต้องเจอก็คือ Intel HD Graphics ที่อยู่ใน CPU นั่นเอง รายละเอียดก็เหมือนเครื่องอื่นครับ
ส่วนการ์ดจอแยกอีกตัวนั้นก็เป็นการ์ดจอในรุ่น Entry หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่ารุ่นล่าง อย่าง AMD Radeon HD 6490M ที่ประสิทธิภาพในการเรนเดอร์ 3D ไม่สูงมากนัก ทำให้มันอาจจะไม่เหมาะกับการเล่นเกมหนัก ๆ ปรับความละเอียดเยอะ ๆ แต่น่าจะเหมาะกับเกมที่ความละเอียดในการแสดงผลไม่มาก หรือใช้รับชมภาพยนตร์ HD น่าจะเหมาะสมกว่า
DVD Writer ที่ติดตั้งมาก็เป็นแบบที่สามารถเขียนอ่าน DVD ได้แทบทุกชนิดเหมือนกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปในปัจจุบัน
ความละเอียดสูงสุดที่จอของ HP DV6-6156TX สามารถแสดงได้อยู่ที่ 1366 x 768 เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นจอขนาด 15.6 นิ้วก็ตาม
โปรแกรม Super PI คือ การคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง (กลม)/เส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งจะได้เป็นค่า 3.14? โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ (เลขหลังทศนิยมไม่มี Loop ซ้ำ) ดังนั้น เมื่อ Loop เป็นค่าอนันต์ เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ ถ้าไม่สั่งให้มันหยุด ในโปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่าให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน (เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง) โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
ผลที่ได้จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ของ i5 แต่เมื่อดูผลเทียบกับเครื่องอื่น ๆ กลับกลายเป็นว่าแพ้ให้กับ i5-2410M ไปเกือบ 1 วินาที
มีหลักการทำงานคล้าย ๆ กับ Super PI แต่จะรองรับการทำงานของซีพียูหลายหัวหรือหลาย Thread พร้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกับตัว Turbo Boost เพราะซีพียูทำงานพร้อมกันหลายหัว ทำให้ความเร็วของซีพียูไม่สูงมาก เพราะจำเป็นต้องแชร์ทรัพยากรเพื่อทำงานในเวลาเดียวกัน
ใน Hyper PI ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม นั่นคือไล่เลี่ยกับ i5-2410M แถมยังแพ้ในบางเครื่องอีกด้วย ไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลของระบบต่าง ๆ ภายใน หรือเป็นเพราะ CPU ที่แทบไม่ต่างจากตัวเก่าจริง ๆ