
ในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา เคยมีรายงานเป็นระยะเกี่ยวกับการ์ดจอ AMD Radeon RX 6000 Series บางรุ่นที่ใช้ชิป RDNA 2 ตระกูล Navi 21 เกิดอาการเสียหายแบบไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จนทำให้เกิดข้อสงสัยในวงการว่า ปัญหานี้เกิดจากอะไร และเป็นวงกว้างแค่ไหน
แม้ในเวลานั้นประเด็นดังกล่าวจะถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์เฉพาะกลุ่ม และค่อย ๆ เงียบหายไป แต่ล่าสุดเรื่องนี้ถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้ง หลังจาก Zephyr ผู้ผลิตการ์ดจอจากประเทศจีน ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่า บริษัทได้เคลมและเปลี่ยนการ์ดจอ RDNA 2 ระดับไฮเอนด์ให้กับลูกค้าหลายรายจริง เนื่องจากพบว่าชิป GPU เกิดความเสียหายในระดับฮาร์ดแวร์
Zephyr เผยสภาพชิป Navi 21 ที่เสียหายจริง
Zephyr ได้เผยแพร่ภาพถาดชิป GPU ที่ถูกส่งกลับมาเคลม (RMA) ซึ่งทั้งหมดเป็นการ์ดจอจากตระกูล Radeon RX 6000 Series โดยชิปเหล่านี้ล้วนเป็น Navi 21 ที่อยู่ในกลุ่มการ์ดระดับสูง เช่น RX 6800, RX 6900 และ RX 6950
จากข้อมูลของบริษัท ระบุว่าชิปที่เสียหายมีอาการหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
- ชิปแตกหรือร้าว (cracked die)
- ชิปเกิดอาการบวมผิดปกติ
- ชิปเกิดการลัดวงจร (short circuit)
Zephyr ยังได้เผยวิดีโอที่แสดงให้เห็นสภาพของชิปเหล่านี้แบบใกล้ ๆ โดยบางชิ้นมีการบวมจนเห็นได้ชัด ซึ่งในแพลตฟอร์ม Bilibili มีการตั้งชื่อวิดีโอแบบติดตลกว่าเป็น “ชิปกล้ามโต”
บริษัทระบุโอกาสเกิดปัญหาประมาณ 1% ต่อปี
สิ่งที่น่าสนใจคือ Zephyr ระบุว่า ความเสียหายลักษณะนี้มีโอกาสเกิดขึ้นราว 1% ต่อปี เมื่ออ้างอิงจากจำนวนการ์ดที่บริษัทพบปัญหาจริง โดยเป็นการพูดในเชิงสถิติ ไม่ได้หมายความว่าการ์ดจอจะ “ระเบิด” จริงตามคำพูดแบบไม่เป็นทางการที่ใช้ในโพสต์
อย่างไรก็ตาม Zephyr ยืนยันว่า แม้ในหลายกรณีผู้ผลิตรายอื่นอาจปฏิเสธการรับประกัน แต่บริษัทเลือกที่จะ เคลมให้ลูกค้าทุกเคส ที่พบว่าเป็นความเสียหายของตัวชิป GPU จริง และจะยังคงดำเนินแนวทางนี้ต่อไป
ปัญหานี้เคยถูกโยงกับคริปโตและสภาพแวดล้อมจัดเก็บ
ย้อนกลับไปในช่วงที่ปัญหา RX 6000 เริ่มถูกพูดถึง มีร้านค้าปลีกจากเยอรมนีรายหนึ่งให้ความเห็นว่า สาเหตุอาจมาจากการใช้งานหนักในช่วงกระแสขุดคริปโต รวมกับการจัดเก็บการ์ดในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้น ไม่มีผู้ผลิตการ์ดจอรายใดออกมายืนยันอย่างเป็นทางการ ว่าพบปัญหานี้จริง ทำให้เรื่องราวถูกมองว่าเป็นกรณีเฉพาะ และไม่ถึงขั้นเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของ RDNA 2
การออกมายืนยันจากฝั่ง Zephyr ในครั้งนี้ จึงถือเป็นครั้งแรกที่มีข้อมูลจากผู้ผลิตการ์ดจอโดยตรง ว่าเคยพบชิป Navi 21 ที่เสียหายจริงจำนวนหนึ่งในช่วงเวลานั้น
เป็นการสร้างภาพลักษณ์ หรือหลักฐานว่าปัญหาเคยเกิดขึ้นจริง?
แม้หลายฝ่ายมองว่าโพสต์ของ Zephyr อาจมีเป้าหมายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ด้านบริการหลังการขาย และแสดงให้เห็นว่าบริษัทเป็นรายเดียวที่ยอมรับเคลมกรณีชิปเสีย แต่ข้อมูลดังกล่าวก็สะท้อนว่า ในอดีตอาจมีการ์ดจอ Navi 21 เสียหายมากกว่าที่สาธารณชนรับรู้
นั่นหมายความว่า AIB หรือผู้ผลิตการ์ดจอรายอื่น ๆ อาจเคยพบปัญหาในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากจำนวนเคสไม่มากพอที่จะกลายเป็นประเด็นใหญ่ระดับอุตสาหกรรม
RDNA 2 ยังเป็นการ์ดจอที่คุ้มค่า ไม่จำเป็นต้องกังวลเกินเหตุ
แม้จะมีข้อมูลนี้ออกมา แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ผู้ใช้ต้องหลีกเลี่ยงการ์ดจอ RDNA 2 แต่อย่างใด เพราะจากสถิติแล้ว ปัญหานี้เกิดขึ้นในสัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำมาก และไม่ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง
ในปัจจุบัน การ์ดจอ Radeon RX 6000 Series ยังคงเป็นตัวเลือกที่ให้ประสิทธิภาพต่อราคาดี โดยเฉพาะในตลาดมือสองหรือสินค้าค้างสต๊อก ที่ราคามักอยู่ในระดับหลักหมื่นบาทต้น ๆ ถึงกลาง ๆ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับการเล่นเกมความละเอียดสูง
สรุปภาพรวม
การยืนยันจาก Zephyr ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเหตุการณ์ RX 6000 ในอดีต ว่าปัญหาชิป Navi 21 เสียหายเคยเกิดขึ้นจริง แม้จะไม่ได้เป็นปัญหาในระดับโครงสร้างหรือส่งผลต่อผู้ใช้ส่วนใหญ่
สำหรับผู้ที่ใช้งาน RDNA 2 อยู่ในปัจจุบัน สามารถใช้งานต่อได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลเกินเหตุ ขณะที่กรณีของ Zephyr ก็ถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในด้านการรับผิดชอบต่อผู้บริโภค และการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาในอุตสาหกรรมการ์ดจอ
ที่มา: tomshardware





