
Intel Nova Lake สถาปัตยกรรมเดสก์ท็อปรุ่นถัดไปที่เริ่มเห็นเค้าลางความแรง
แม้ Intel Nova Lake จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และมีกำหนดการคร่าว ๆ อยู่ในช่วงปลายปี 2026 แต่ข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสเปกและราคาก็เริ่มออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง “แคช” ที่ดูเหมือน Intel จะเดินเกมแบบทุ่มสุดตัวในเจเนอเรชันนี้
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Nova Lake จะเป็นซีพียูเดสก์ท็อปรุ่นแรกของ Intel ที่มาพร้อม bLLC (big Last-Level Cache) ขนาดใหญ่ถึง 144MB ในบางรุ่นเท่านั้น แต่ข้อมูลล่าสุดจาก RedGamingTech และ Haze2K1 บน X กลับชี้ว่า Intel อาจไปไกลกว่านั้น ด้วยการใช้ dual-bLLC ในรุ่นท็อป ทำให้แคชรวมอาจพุ่งสูงถึง 288MB
bLLC คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับ Nova Lake
bLLC หรือ big Last-Level Cache คือแคชระดับ L3 ขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลด latency ในการเข้าถึงข้อมูล โดยเฉพาะในงานที่ต้องพึ่งพาแคชสูง เช่น เกม, งาน simulation, AI inference และงานประมวลผลแบบ latency-sensitive
หากเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ AMD Ryzen 7 9800X3D ซึ่งถือเป็นซีพียูสายเกมในปัจจุบัน ยังมี L3 cache แบบ 3D V-Cache อยู่ที่ 64MB เท่านั้น ขณะที่ Nova Lake แม้จะเป็นรุ่นระดับกลางอย่าง Core Ultra 5 ก็มีข่าวลือว่าจะได้ bLLC ถึง 144MB ซึ่งมากกว่าถึงประมาณ 225%
รายชื่อ Intel Nova Lake รุ่นที่คาดว่าจะมาพร้อม bLLC
จากข้อมูลหลุดล่าสุด ระบุว่า Nova Lake จะมีหลาย SKU ที่ได้ใช้ bLLC ไม่ได้จำกัดเฉพาะรุ่นเรือธงเหมือนข่าวก่อนหน้า โดยโครงสร้างคอร์ยังคงใช้แนวคิด Hybrid Architecture แบ่งเป็น P-core, E-core และ LP E-core
รุ่นที่มีรายงานออกมาประกอบด้วย
- รุ่นเรือธง 52 คอร์
16 P-core + 32 E-core + 4 LP E-core - รุ่นระดับสูง 42 คอร์
14 P-core + 24 E-core + 4 LP E-core - รุ่นระดับ Mainstream 28 คอร์
8 P-core + 16 E-core + 4 LP E-core - รุ่นเริ่มต้น 24 คอร์
8 P-core + 12 E-core + 4 LP E-core
ในกลุ่มบนสุดอย่างรุ่น 52 คอร์ และ 42 คอร์ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะใช้ dual-bLLC ส่งผลให้แคชรวมแตะระดับ 288MB ซึ่งถือว่าสูงผิดปกติสำหรับซีพียูเดสก์ท็อป
ประสิทธิภาพ Nova Lake IPC เพิ่ม 15% สำหรับ P-core
ในด้านประสิทธิภาพ RedGamingTech ระบุว่า Coyote Cove P-core ของ Nova Lake จะมี IPC เพิ่มขึ้นประมาณ 15% เมื่อเทียบกับ Lion Cove P-core ใน Arrow Lake
ส่วนฝั่ง Arctic Wolf E-core แม้ยังไม่มีตัวเลข IPC ที่ชัดเจน แต่ผู้ปล่อยข่าวยืนยันว่าประสิทธิภาพโดยรวม “ทำได้ดีมาก” และน่าจะช่วยให้ Nova Lake เหมาะกับงานมัลติคอร์หนัก ๆ มากยิ่งขึ้น
หากตัวเลขนี้เป็นจริง Nova Lake จะไม่ใช่แค่ซีพียูที่เน้นจำนวนคอร์หรือแคชเท่านั้น แต่ยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพต่อคอร์อย่างจริงจังอีกด้วย
ราคาที่อาจทำให้หลายคนต้องคิดหนัก
จุดที่น่าตกใจที่สุดของข่าวชุดนี้คือ ราคา โดย RedGamingTech อ้างว่า Nova Lake-S รุ่นท็อปที่ใช้ dual-bLLC และเป็นแบบ dual-chiplet อาจมีราคาสูงถึง 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า
หากแปลงเป็นเงินไทย จะอยู่ที่ประมาณ 43,000–45,000 บาท (อิงอัตราแลกเปลี่ยนคร่าว ๆ ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2025)
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น
- Core Ultra 9 285K (Arrow Lake) เปิดตัวปี 2024 ที่ราคา 589 ดอลลาร์ หรือประมาณ 21,000 บาท
- Nova Lake รุ่นเรือธงอาจมีราคาสูงกว่าเดิมมากกว่า เท่าตัว
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากจำนวนคอร์ที่เพิ่มจาก 24 คอร์ เป็น 52 คอร์ และปริมาณแคชที่สูงถึง 288MB ก็ถือว่าเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน
Nova Lake เหมาะกับใคร และควรคาดหวังอะไร
จากข้อมูลทั้งหมด Nova Lake ดูจะไม่ได้วางตัวเป็นซีพียู “ตลาดแมส” อย่างชัดเจน โดยเฉพาะรุ่นเรือธงที่ราคาอาจแตะระดับ workstation หรือ HEDT มากกว่า
กลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์จริง ๆ ได้แก่
- ผู้ใช้สายเกมที่ต้องการแคชขนาดใหญ่มาก
- งาน AI, simulation และงานที่ latency สำคัญ
- ผู้ใช้ระดับมืออาชีพที่ต้องการคอร์จำนวนมากในแพลตฟอร์มเดสก์ท็อป
สรุป Nova Lake ยังเป็นเพียงข่าวลือ แต่ทิศทางเริ่มชัด
แม้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ Nova Lake จะยังเป็นเพียงข่าวหลุดและการคาดการณ์ แต่ทิศทางของ Intel ในเจเนอเรชันนี้ค่อนข้างชัดเจน นั่นคือ “ดันสเปกให้สุด” ทั้งด้านจำนวนคอร์ ปริมาณแคช และ IPC
เรื่องราคายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ดังที่ผู้ปล่อยข่าวเองก็ย้ำว่าควรรับฟังอย่างระมัดระวัง แต่ไม่ว่าจะออกมาที่ระดับใด Nova Lake ก็ดูจะเป็นซีพียูที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดได้ไม่น้อยอย่างแน่นอน
หากมีข้อมูลยืนยันเพิ่มเติมเมื่อเข้าใกล้วันเปิดตัว เราน่าจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า bLLC ขนาดมหาศาลนี้สร้างความแตกต่างได้จริงมากแค่ไหนในโลกการใช้งานจริง
ที่มา: notebookcheck





