
ข่าวลือเกี่ยวกับดีไซน์ของ iPhone 18 Pro ยังคงมาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดมีความเคลื่อนไหวสำคัญที่บ่งชี้ว่า Apple อาจเดินหน้าอัปเกรดดีไซน์ครั้งใหญ่จริง โดยมีรายงานใหม่จากแหล่งข่าวในจีนที่เชื่อถือได้ ระบุว่า Apple กำลังทดสอบต้นแบบที่ซ่อนเซ็นเซอร์บางส่วนของ Face ID ไว้ ใต้แผง AMOLED ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของซีรีส์ iPhone
ดีไซน์ใหม่ของ iPhone 18 Pro อาจเล็กลงกว่าเดิมด้วยการย้ายเซ็นเซอร์ Face ID ลงใต้จอ
ย้อนกลับไปในปี 2023 นักวิเคราะห์ด้านหน้าจอเคยระบุว่า iPhone รุ่นปี 2026 จะมีรู punch-hole ที่เล็กลง เพราะ Apple วางแผนฝังเซ็นเซอร์ Face ID ไว้ใต้จอ แต่ต่อมามีรายงานจากหลายสำนักว่ากำหนดการดังกล่าวเลื่อนออกไป และรุ่น iPhone 18 Pro อาจปรับรูให้เล็กลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ล่าสุด แหล่งข่าวใน Weibo ที่ใช้ชื่อว่า Smart Pikachu ซึ่งเคยเผยข้อมูลของ Apple ได้แม่นยำหลายครั้ง ได้ออกมาอ้างว่าต้นแบบของ 18 Pro ตอนนี้สามารถ “ซ่อน” ส่วนประกอบสำคัญบางส่วนของ Face ID ได้จริง โดยใช้กระจกชนิดใหม่ที่ช่วยทำให้เซ็นเซอร์ กลายเป็นส่วนที่มองไม่เห็นจากภายนอก
สิ่งที่ย้ายไปใต้จอคือ “เซ็นเซอร์อินฟราเรด (IR)” ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักที่ใช้สำหรับสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงจากภาพถ่ายธรรมดา การย้ายเซ็นเซอร์นี้ลงใต้จอจึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเทคโนโลยี Face ID
ยังไม่ใช่ UDC เต็มรูปแบบ กล้องหน้าและเซ็นเซอร์บางตัวจะยังอยู่ใน punch-hole เดิม
แม้ว่าบางส่วนของ Face ID จะถูกย้ายไปไว้ใต้จอ แต่ตามรายงาน Apple ยัง ไม่สามารถย้ายกล้องหน้า และเซ็นเซอร์ Face ID ทั้งหมดลงใต้แผงได้ในปีนี้ ส่งผลให้ดีไซน์แบบรูยาวแบบ “pill-shape” ที่คุ้นเคยของรุ่น Pro จะยังคงอยู่ แต่มีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
กล่าวคือ 18 Pro จะยังไม่ใช่มือถือแบบ หน้าจอเต็มไร้รู เหมือนบางแบรนด์ เช่น Nubia RedMagic 11 Pro ที่ใช้เทคโนโลยี UDC (Under Display Camera) เต็มรูปแบบ แต่กำลังมุ่งไปในทิศทางนั้นในอนาคต
Apple และซัพพลายเออร์เร่งเดินหน้าการผลิต แต่ยังไม่ชัวร์ว่าจะมาทันภายในปี 2026 หรือไม่
รายงานยังระบุว่า ซัพพลายเออร์ของ Apple หลายรายกำลังเร่งพัฒนาและเพิ่มกำลังผลิตชิ้นส่วนตรวจจับอินฟราเรดรุ่นใหม่เพื่อให้ทันรอบการผลิตปลายปี 2025 แต่ยังมีความเป็นไปได้ว่า Apple อาจ เลื่อนการใช้เทคโนโลยีนี้ หากผลการทดสอบประสิทธิภาพหรืออัตราการผลิต (yield rate) ยังไม่เสถียรพอ
ดังนั้นแม้ดีไซน์ต้นแบบจะมีความก้าวหน้า แต่การที่หน้าจอใหม่จะถูกนำมาใช้ใน 18 Pro ยังต้องลุ้นอยู่ไม่น้อย เพราะ Apple มักเลือกใช้เทคโนโลยีเฉพาะเมื่อมั่นใจว่าผลิตจริงได้ในปริมาณสูงและคุณภาพถึงมาตรฐาน
การย้ายเซ็นเซอร์ใต้จอช่วยให้ดีไซน์ใกล้ “ไร้รอยบาก” มากขึ้น
หากดีไซน์ใหม่นี้เปิดตัวจริง ผู้ใช้จะได้ประโยชน์หลายด้าน ได้แก่:
- พื้นที่แสดงผลมากขึ้น เพราะรูบนหน้าจอเล็กลง
- ภาพลักษณ์ตัวเครื่องดูทันสมัยขึ้น เข้าใกล้หน้าจอไร้รอยบากแบบสมบูรณ์
- เทคโนโลยี Face ID ที่ปลอดภัยเหมือนเดิม แต่เก็บอุปกรณ์ไว้ใต้จออย่างแนบเนียน
แม้จะยังไม่ใช่สเตจ UDC เต็มรูปแบบ แต่ก็เป็นการปรับโฉมครั้งสำคัญต่อจาก Dynamic Island ของรุ่นก่อนหน้า
เทรนด์อุตสาหกรรมกำลังเดินหน้าไปสู่การซ่อนอุปกรณ์ทั้งหมดใต้จอ
ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนหลายราย เช่น ZTE, HONOR หรือแบรนด์ฝั่งจีน ต่างพยายามผลักดันเทคโนโลยีซ่อนกล้องใต้จอมาแล้ว แต่ยังมีข้อจำกัดด้านคุณภาพภาพถ่าย Apple จึงเลือกใช้แนวทางที่ค่อยเป็นค่อยไป โดยเลือกซ่อนเฉพาะเซ็นเซอร์ที่ไม่กระทบคุณภาพรูปถ่ายก่อน
จุดยืนของ Apple คือคุณภาพและความเสถียรต้องมาก่อน ทำให้การซ่อนเซ็นเซอร์ Face ID ใต้จอในรุ่น iPhone 18 Pro ถือเป็นสัญญาณสำคัญว่าในอนาคต Apple อาจมุ่งไปสู่ดีไซน์หน้าจอไร้รอยต่อ 100% เช่นกัน แต่จะเกิดขึ้นเมื่อเทคโนโลยีพร้อมจริงเท่านั้น
สรุป: iPhone 18 Pro อาจเป็นก้าวสำคัญของดีไซน์ iPhone ยุคใหม่
แม้ดีไซน์สุดท้ายของ 18 Pro จะยังไม่ Final แต่ข้อมูลล่าสุดชี้ว่ารุ่นนี้อาจเป็น iPhone รุ่นแรกที่นำเทคโนโลยี Face ID ใต้จอบางส่วนมาใช้งานจริง ส่งผลให้รู punch-hole เล็กลงกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
ปี 2026 อาจเป็นอีกปีที่ดีไซน์ iPhone เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากใช้รูปแบบเดิมมาตั้งแต่ปี 2017
ที่มา: notebookcheck





